นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน อาทิตย์ 04 พ.ค. 2025 9:37 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: คิดปล่อยวาง
โพสต์โพสต์แล้ว: อาทิตย์ 27 มิ.ย. 2021 5:29 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4909
"ที่สุดของธรรม คือการพ้นทุกข์
ที่สุดของโลก มันไม่มี"

หลวงพ่อพระอาจารย์เปลี่ยน ปญฺญาปทีโป







“สิ่งที่ควรสะสม
คือ บุญกุศล
และคุณความดี”

ธรรมโอวาท
หลวงปู่เสถียร คุณวโร
วัดถ้ำพระภูวัว อ.เซกา จ.บึงกาฬ









มองข้ามความทุกข์ ปล่อยวางมันไป
นั่นแหละ...#ใจจะมีความสุข

พระคติธรรม
สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อมฺพรมหาเถร) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก








" การสอนจิตใจตัวเราเอง
ต้องฝืนกิเลส เหมือนวัวควาย
แค่บ่งเอาหนามออกจากตีน
เท่านั้นก็ยาก แทนที่ตัวเจ้า
ของเองจะได้รับความสบาย
มันไม่คิดหรอก มันไม่รู้จักเรื่อง

ต้องเอาเชือกผูกมัดใส่หลัก
มัดใส่อะไร มัดแข้งมัดขา
มัดจนมันอยู่นั้นหละ
จึงจะเอาหนามออกจากตีน
มันได้ มันจึงเดินได้สบาย

เรื่องของจิตใจของเรา
ก็ทำนองเดียวกัน ถ้าหาก
จะบอก จะแนะนำ ให้ไป
ในทางดี มันไม่ค่อยอยากดี
หรอก ถ้าหากไม่เอากันจน
ถึงที่ จนถึงที่สุด จนมันยอม
อยู่ในอำนาจ ด้วยการทวน
กระแส ถ้าหากไม่อาศัย
การฝืนกระแส การทวน
กระแส ไม่อาศัยความอดทน
ก็ไปไม่ได้ทั้งนั้น "

โอวาทธรรม
หลวงปู่ศรี มหาวีโร







เมื่อคืนนี้-ห่มผ้าผืนเดียวกันเลย-แต่พอไปเห็นโครงกระดูก-มันก็กลัวกันอีก

หลวงปู่ชา สุภัทโท










“เอาละ ตั้งใจฟังนะ จะเริ่มละ พระพุทธเจ้าผู้เป็นบรมศาสดาของเรามีพระนามแปลแล้วว่า เป็นผู้มีมหากรุณาแก่สัตว์โลกทั้งหลายไม่มีใครเสมอเหมือน นี่เป็นเพราะมาจากจิตใจจริงๆ ด้วยความสงสารแก่สัตว์โลก มิได้เป็นการเสกสรรปั้นยอให้เห็น เป็นไปด้วยความรัก ความเมตตาที่บริสุทธิ์ใจ เพราะใจนั้นบริสุทธิ์แล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างที่แสดงขึ้นจากใจย่อมบริสุทธิ์โดยทั่วกัน ในอาการที่แสดงออกต่อสัตว์ ไม่มีอะไรที่จะเป็นพิษเป็นภัยจากพระพุทธเจ้า ในตำนานท่านพูดไว้ว่า พระพุทธเจ้านั้น ถ้าหากจะเทียบทางโลกเหมือนคนสามัญธรรมดาเราแล้วจะไม่มีเวลาพักผ่อนเลย มีแต่เวลาทำหน้าที่โปรดเมตตาสงเคราะห์สัตว์โลกโดยตลอด สตฺถา เทวมนุสฺสานํ คือไม่เพียงสงเคราะห์มนุษย์เท่านั้น ยังสงเคราะห์เทวดาทั้งหลาย ตลอดพรหมโลก สัตว์โลกที่อยู่ในข่ายแห่งความสงเคราะห์ได้ พระองค์จะต้องสงเคราะห์โดยทั่วไป จะไม่มีเวล่ำเวลา

ตามตำราท่านบอกไว้ว่า พุทธกิจห้าประการคืออะไร-นั่น-คืองานของพระพุทธเจ้า มีห้าประการ เราจะไม่ยกเป็นบาลี จะแปลเป็นภาษาไทยเลย คือในเวลาสามสี่โมงเย็น ก็จะประทานพระโอวาทแก่ประชาชนทั้งหลายมากน้อย นับแต่พระมหากษัตริย์ลงมาตามลำดับถึงประชาชนทั่วๆ ไป พอสองทุ่มเริ่มประทานโอวาทแก่พระภิกษุสงฆ์ พระองค์จะแก้ไขข้อข้องใจให้ นอกจากประทานโอวาทโดยทั่วถึงกันแล้ว ยังทรงตอบคำถามความสงสัยของเทวดาทั้งหลายด้วย นี่ตอนหกทุ่ม-เที่ยงคืน ทีนี้พอค่อนๆ คืนปัจฉิมยามจะทรงเล็งญาณที่ใครจะมาข้องตาข่ายญาณของพระพุทธเจ้า คือเป็นผู้มีนิสัยที่จะบรรลุธรรมโดยรวดเร็ว แต่ชีวิตจะต้องตายเสียในไม่ช้า ก็ต้องเสด็จออกไปโปรดคนนั้นก่อนเพื่อน ในตอนเช้าก็เสด็จออกบิณฑบาต

ถ้าหากจะคิดตามนี้แล้วพุทธกิจของพระพุทธเจ้า ท่านไม่มีเวลาพักผ่อนเลย แต่ได้ทรงประกาศไว้ว่า นี่เป็นภารกิจของพระองค์ เป็นความจำเป็นของพระพุทธเจ้า ไม่มีใครทำแทนได้ภาระทั้งห้าข้อนี้ เรียกว่าเป็นพุทธวิสัย คือเป็นวิสัยของพระพุทธเจ้า ดังที่ท่านแสดงธรรมโปรดพระมารดาของท่าน ทรงทำบุพนิมิตขึ้นแสดงธรรม เวลาพระองค์แสดงธรรมองค์หนึ่งแล้ว อีกองค์หนึ่งเดินจงกรมอยู่เสียอย่างนี้ หรือเวลาพระองค์ทรงพักผ่อน บุพนิมิตก็ทรงแสดงธรรมแทนเป็นต้น นี่คือที่เรียกว่าทำแทนพระองค์ เป็นวิสัยของพระพุทธเจ้า และในพุทธกิจนี้ก็ไม่ใช่จะจำเป็นอยู่ตลอดไป เช่นเวลาพระองค์เสด็จไปอยู่ป่า ไม่เกี่ยวกับประชาชนท่านใดเลย อยู่ในพรรษา เวลานั้นก็มีช้างอุปถัมภ์พระองค์อยู่ตลอด ในหนังสือกล่าวไว้ไม่เกี่ยวกับประชาชนพระองค์ก็ทรงได้พักผ่อน แต่พระเมตตานั้นมีต่อประชาชนอยู่อย่างสม่ำเสมอภายในจิตใจ

จะเห็นได้ว่า พระเมตตาที่อยู่ในพระทัยของพระพุทธเจ้านั้นเป็นสิ่งบริสุทธิ์ล้วนๆ มีอยู่ตลอดเวลาไม่มีคำว่าบกพร่องเลย นี่คือองค์ศาสดาของพวกเรา เราควรจะเห็นใจพระพุทธเจ้าว่ามีเมตตาขนาดไหน ส่วนเรารึไม่ค่อยมีเมตตา ไม่สงสารเจ้าของ เดือดร้อนวุ่นวายก็เพราะเจ้าของทำลายเจ้าของเอง ก็กลับเข้าใจว่าเจ้าของเมตตาเจ้าของเอง เพราะไม่รู้-นั่นซิเป็นของสำคัญ ถ้าหากว่าเราจะทำความจริงจังต่อเราเป็นบางกาล บางเวลาก็ยังจะดี ถ้าพูดถึงเราไม่ค่อยจะเข้มงวดกวดขันในการประพฤติปฏิบัติตน ตามหลักศาสนาเพื่อความดีงามแก่ตนอะไรนัก ไม่เหมือนกับศาสนาอื่นๆ เขา ศาสนาอื่นเขาจริงจังมากนะ จะทำอะไรเขาจริงจังมากทีเดียว แต่ศาสนาของเรานี่รู้สึกว่าจะโลเล ไม่ค่อยจริงจัง แม้แต่พระก็เหมือนกัน ขึ้นชื่อว่าพุทธบริษัทสี่แล้ว ส่วนมากมักจะโลเล เป็นนักโลเลกันทั้งนั้น จากพระพุทธเจ้าและสาวกทั้งหลายมาแล้ว นับวันแต่จะโลเลไปเรื่อยๆ

ยิ่งมีสิ่งแวดล้อมยั่วยวนมากๆ อันนี้เรียกว่า “อธรรม” คือ “ข้าศึก” ของธรรม ก็คือข้าศึกของเรานั่นแหละ มันยิ่งมีมากขึ้นทุกๆ ทาง ไม่เคยคิดคาดฝันว่าจะมีมันก็มี อย่างที่เราเห็นกันนี่เป็นอย่างไร-เห็นส่วนตาก็เห็น หูได้ยิน ตั้งแต่เกิดมาต้องขออภัยเพราะหลวงตาบัวเป็นพระป่า พูดให้เต็มเม็ดเต็มหน่วยเสียบ้างเพื่อท่านทั้งหลายจะได้ฟัง คือเกิดมาตั้งแต่โคตรแต่แซ่หลวงตาบัวไม่เคยเห็นอย่างนั้น ไอ้เรื่องทำลายอยู่ทุกวันนี้มันมีแล้วเห็นไหม ปฏิเสธได้ไหม วิทยุ โทรทัศน์ เทวทัต-อ้อ ไม่ใช่ โทรทัศน์นั่น วิดีโอ เป็นอย่างไร สิ่งเหล่านี้ความได้มันมีเพียงน้อยนิด ส่วนความเสียหายมันเก้าสิบห้าเปอร์เซ็นต์ ทำความเสียหายแก่พวกเรามาก สำหรับคนที่ไม่เคยคิดอ่านไตร่ตรองอะไรกันเลยก็มีแต่ความเสียหาย ความได้ไม่ค่อยมี

อย่าว่าหลวงตาบัวอุตรินะ โคตรพ่อโคตรแม่หลวงตาบัวไม่เคยเห็น หรือหลวงตาบัวมาเห็น หรือว่าหลวงตาบัวดีกว่าพ่อแม่รึ? หรือหลวงตาบัวมันเลว ถ้ายึดเอาเหตุผล เอาหลักเกณฑ์อันดีจากสิ่งเหล่านี้มาเป็นคติสอนใจกันได้แล้ว สิ่งเหล่านี้จะกลับกลายเป็นสิ่งทำลายตัวเราเองได้เป็นอย่างดี ให้ระมัดระวังสิ่งเหล่านี้ คำว่าอันตรายๆ เราอย่าไปเข้าใจว่าคนนั้นคนนี้จะมาทำอันตรายต่อเรา ตัวเรานั่นแหละทำลายตัวเอง ตาเห็นก็ทำลาย หูได้ยินก็ทำลาย เพราะไม่ฉลาด-เพราะโง่ ทำตามความเพลิดเพลิน ความเพลิดเพลินนั้นเป็นสื่อของกิเลส เป็นสื่อของอธรรมที่จะนำเชื้อเป็นพิษเป็นภัยมาทำลายตัวเรา เราไม่คิดอ่าน จึงชวนกันมาคิดมาอ่าน

ให้มีความจริงจังต่อตนบ้าง เช่น-วันนี้จะรักษาศีล-ว่างั้นนะ, วันนี้จะภาวนา ก็ให้เป็นรักษาศีลจริงๆ เป็นการภาวนาจริงๆ เอากี่ชั่วโมงวันนี้ ในรอบยี่สิบสี่ชั่วโมงนี้ จะรักษาศีลห้า ศีลแปดอะไรก็แล้วแต่ให้มันขลังบ้างซี ตัวเองไม่ขลังแล้วจะให้ศีลธรรมขลังได้อย่างไร เครื่องมือน่ะจะเป็นนิวเคลียร์หรือนิวตรอนก็ตามเถอะ จะเลิศขนาดไหน เก็บไว้มันก็เก็บไว้ มันทำลายอะไรไม่ได้ถ้าเราไม่เอามาทำลายตัวเอง นั่น วันนี้ก็เหมือนกันความคิดความปรุงแต่ง ถ้าเราไม่คิดเอามาทำลายตัวเองมันก็คิดไม่ได้ แล้วความดีก็เหมือนกันถ้าเราไม่คิดทำความดีเพื่อตัวเอง มันก็เป็นความดีไม่ได้ มันจะอยู่ในสิ่งนั้นเท่านั้น แต่มันจะไม่มาสัมผัสสัมพันธ์เพื่อเป็นความดีสำหรับเราได้เลย เพราะเราไม่สนใจ

ศาสนานั้นศักดิ์สิทธิ์แต่เรามันไม่ศักดิ์สิทธิ์ มันโลเล ทำอะไรไม่มีความจริงจัง จะภาวนาสักห้านาที ก็เหมือนจะเอาไปฆ่าในตะแลงแกงแล้ว ดิ้นกวัดแกว่งวุ่นวายจะเป็นจะตาย พอทีหลังจะภาวนา-เข็ด! ไม่ได้ภาวนา ร้องว่า โอ๊ย-เมื่อคืนนั่งภาวนาตั้งห้านาทีเกือบตาย! ไม่เห็นได้เรื่องอะไร ฟังซิห้านาทีเกือบตาย เข็ดแล้ว...ทีเวลากิเลสต้มไม่เห็นมันเข็ด นี่ให้จำให้ดี นี่เป็นข้อหนึ่ง พวกเราสิเสียเปรียบตัวเองอยู่ตลอด เสียเปรียบฝ่ายต่ำที่มีอยู่กับตัวเองนั่นแหละ ถ้าเราอยากให้ศาสนาของเราขลังเป็นของศักดิ์สิทธิ์วิเศษ ลองนำศาสนามาปฏิบัติต่อตัวเองบ้างซิจะเป็นยังไง เมื่อนำศาสนามาปฏิบัติต่อตัวเองแล้ว เรานั่นแหละจะเป็นผู้ขลังขึ้นมาในตัวของเราเอง ไม่มีใครมาคอยเสกสรรปั้นยอให้ขลังละ เราจะขลังในตัวของเรา จะมีแต่ความยิ้มแย้มแจ่มใส มีความร่มเย็นเป็นสุขภายในจิตใจ ยิ่งได้มีจิตตภาวนาด้วยแล้วยิ่งมีความสงบเย็น ใจเย็นจิตเย็นอะไรก็สู้ไม่ได้ น้ำแข็งก็สู้ไม่ได้ น้ำแข็งเย็นมากก็เป็นทุกข์ ใจนี้ยิ่งเย็นมากเท่าไรก็ยิ่งมีความสุขความสบายมาก
ให้พากันตั้งใจประพฤติปฏิบัติบ้างซิ

พุทธศาสนาเป็นศาสนาที่เลิศประเสริฐไม่มีอะไรเสมอเหมือนแล้ว เราพยายามปฏิบัติตามหลักของพุทธศาสนา มีความเมตตามีความสงสารตนบ้างซิ อย่าให้กิเลสมันหลอกว่าสงสารตน สงสารตน กิเลสนั้นมันมีฟืนไฟเผาตนอยู่ตลอดเวลา ถ้าสงสารตนจริงๆ ทำได้แล้วคนเราจะสงบร่มเย็น มนุษย์นี่แหละฉลาดกว่าเพื่อน ไม่มีอะไรฉลาดเกินมนุษย์หรอก แต่บทเวลาโง่ มนุษย์นี่โง่กว่าสัตว์ ไม่มีอะไรโง่กว่ามนุษย์ สิ่งใดที่สัตว์ทำไม่ได้ในสิ่งที่เสียหาย มนุษย์เราทำได้ สิ่งใดที่เป็นความดีงามสัตว์ทำไม่ได้ มนุษย์เราทำได้ นั่น-ถึงว่ามนุษย์เรานี่ฉลาด จึงต้องปฏิบัติตนให้สมกับความฉลาด โดยอรรถโดยธรรมแล้วจะมีความสุขความสบายเจริญรุ่งเรืองขึ้นก็เพราะมนุษย์นี่แหละ ไม่มีใครเกินมนุษย์ได้เลย

ฉะนั้นจึงขอให้พี่น้องทั้งหลายได้นำไปประพฤติปฏิบัติ วันนี้เป็นวันปีใหม่ คำว่าปีใหม่คือให้แก้ตัว อะไรที่ไม่ดีเมื่อวานนี้ ย้อนหลังไปหาปีกลาย ให้ตัดความไม่ดีทั้งหลายทิ้งเสีย พยายามสร้างสมความดีขึ้น นี่เรียกว่าทำการแก้ตัวเอง เรานั้นแหละแก้เรา เพราะเราเป็นผู้ผูกผู้มัดด้วยความไม่ดีของเรา พยายามแก้ตัวเองด้วยความดีทั้งหลาย ต่อไปก็จะมีแต่ความสุขความเจริญ วันนี้เทศน์เพียงเท่านี้แหละ เอาละนะ พอ เหนื่อยแล้ว

หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน








"คิดปล่อยวางเฉยในสิ่งที่ควรปล่อย สิ่งใดที่ตนหมดความสามารถจะช่วยเหลือได้.. ก็ปล่อยวางเสีย ไม่ดีใจ ไม่เสียใจ"

#ท่านพ่อลี #ธมฺมธโร


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 39 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO