นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน เสาร์ 20 เม.ย. 2024 12:04 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: สู้กับกิเลส
โพสต์โพสต์แล้ว: อาทิตย์ 14 ก.พ. 2021 5:00 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4532
...ไม่ควรปล่อยให้เวลาผ่านไป
โดยไม่ได้ทำบุญทำทาน รักษาศีล
ฟังเทศน์ฟังธรรม ปฏิบัติธรรม

.เพราะจะเป็นการเสียโอกาส
“เสียเวลา ..เสียชาติเกิด
เกิดมาแล้วไม่ได้รับประโยชน์จาก
พระพุทธศาสนา”

.ไม่ได้ตัดภพตัดชาติให้น้อยลงไป
ไม่ได้ทำให้ความทุกข์เบาบางลงไป.

.จึงควรตั้งหน้าตั้งตาศึกษาปฏิบัติ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ภารกิจในพระอริยสัจ ๔ คือ..
๑. ทุกข์ต้องกำหนดรู้
๒. สมุทัยต้นเหตุของความทุกข์ต้องละ
๓. นิโรธความดับทุกข์ต้องทำให้แจ้ง
๔. มรรคคือทางสู่การหลุดพ้นจากความทุกข์ต้องเจริญให้สมบูรณ์

.ถ้าบำเพ็ญได้แล้ว
ก็จะสามารถประกาศให้โลกรู้ได้ว่า
ทุกข์ที่ต้องกำหนดรู้
เราได้กำหนดรู้แล้ว
สมุทัยที่ต้องละ ..เราได้ละแล้ว
นิโรธความดับทุกข์ที่ต้องทำให้แจ้ง
เราได้ทำให้แจ้งแล้ว
มรรคที่ต้องเจริญให้สมบูรณ์
เราได้เจริญอย่างสมบูรณ์แล้ว

.นี่คือวาจาของพระพุทธเจ้า
หลังจากที่ได้ทรงบรรลุ
เป็นพระพุทธเจ้าขึ้นมา
พระอรหันต์ทุกรูปก็เช่นเดียวกัน
จะเปล่งวาจานี้ขึ้นมาเหมือนกัน
“ประกาศศักดิ์ศรีความเป็นพระพุทธเจ้า เป็นพระอรหันต์”
จึงควรน้อมเอาพระธรรมคำสอน
ของพระพุทธเจ้า
“เข้ามาศึกษา..ปฏิบัติ”.
.........................................
กำลังใจ41 กัณฑ์ 365
ธรรมะบนเขา 26/8/2550
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี











“พระอรหันต์ก็มาจากบุคลผู้เป็นปุถุชนคนสามัญ ผู้ปฎิบัติดี พ้นไปจากสังโยชน์ทั้ง ๑๐ ประการ...จึงได้เรียกว่าพระอรหันต์ได้”

โอวาทธรรม
พระญาณวิสาลเถร (หลวงปู่หา สุภโร ; หลวงปู่ไดโนเสาร์)
วัดสักกะวัน ภูกุ้มข้าว อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์








#โอกาสที่จะได้เกิดเป็นมนุษย์พบพระพุทธศาสนานั้นแสนยาก

"พระพุทธเจ้าท่านทรงรู้แจ้งว่า โลกนี้จะพ้นโง่มันก็ยาก การที่จะได้เกิดเป็นคนนี่ยากที่สุด แล้วเป็นคนจะเอาคนชนิดไหน คนมีบุญ คนลำบาก คนพิการง่อยเปลี้ย จะหาคนสบายมีกี่คน ถ้าเทียบจำนวนทั้งหมด อย่างเดียรัจฉานนี่มันกินกันเอง กัดกันเอง คนบ้าฆ่ากันเอง

กระดูกของแต่ละคนนี้ ท่านว่า กองเท่าภูเขา น้ำตาและเลือดของแต่ละชีวิต ที่ผ่านมามีมากกว่าน้ำในมหาสมุทร! ดูซิ มันยาวนานแค่ไหน การจะเกิดเป็นคนนั้นมันยากมาก ยาก! อย่างที่ท่านเปรียบว่า

"เต่าตาบอด" มันจะว่ายน้ำเข้าฝั่ง แต่ทะเลมีตาข่ายกั้นอยู่ และมีรูเท่าตัวเต่าอยู่รูเดียว ถ้าหัวไปโดนตาข่าย มันจะจมลงไปอีก ๑๐๐ ปี จึงจะได้โผล่มาใหม่ คือ จะลอดได้ มันต้องฟลุ๊คที่สุด แต่อย่างนั้น โอกาสก็ยังง่ายกว่าโอกาสจะได้เกิดมาเป็นคน และเป็นคนอยู่ในพระพุทธศาสนามันยาก ไม่พ้นวัฏสงสารไปได้"

คติธรรม
หลวงปู่บุญฤทธิ์ บัณฑิโต











"..กาลเวลาเดือนปี เราอย่าให้ความสนใจมันมาก ให้สนใจการกระทำของตนเองให้มาก ก็เหมือนเราได้เงินเดือนคนละสองหมื่นสามหมื่น แต่มันเก็บเข้ากระปุกแค่ห้าสิบตังค์ ที่เหลือเราเอาไปใช้จ่ายไม่ได้เกิดประโยชน์ เอาไปจ่ายฟรี ไม่เป็นสาระ มันก็มีแต่หมดไปหมดไป เกิดมาเราได้ทำความดีไว้ประมาณเท่าไหร่ให้คำนวณ ถ้ามันยังได้น้อยอยู่ก็ให้เร่งมือเร่งตีนของเราให้เร็ว ๆ เข้า ก่อนจะหมดเวลา

คนเราไม่ใช่มันมีเวลามากนะ ๔๐ ปี ๕๐ ปี ๘๐ ปี ๑๐๐ ปีนี่ไม่ใช่มันมากนะ แต่ว่ามันจะมากจะน้อยมันก็ไม่สำคัญ มันสำคัญอยู่ที่การกระทำ ขวนขวายทำคุณงามความดีมันให้มาก เพื่อความเจริญ เพื่อความสุขของตนเอง ถ้ามีบุญมากอะไรมันก็ง่าย ก็เหมือนเราเก็บเงินเอาไว้มากหละ จะใช้จะซื้อหาอะไรมันก็ง่าย ถ้าไม่ทำบุญ ทำแต่บาปแต่กรรม อะไรมันก็ไม่ง่าย มันเกินเอื้อม มันสุดเอื้อม เอื้อมเท่าไหร่ก็ไม่ถึงแหละ ฉะนั้นคุณงามความดีจึงให้เร่งสั่งสมไว้.."

ธรรมะคำสอน
หลวงปู่โส อาจาโร
วัดป่าลันวัฒนาราม อ.ฝาง จ.เชียงใหม่










" คนเราเกิดมาแล้ว นั้นควรจะรีบเก่งตั้งแต่อายุยังน้อย ๆ เพราะมันจะช่วยเหลือคนได้มาก ไปเก่งเอาตอนแก่ ๆ มันจะไปช่วยอะไรใครได้ ฝึกให้มาก ๆ ภาวนาให้มากๆ คนเราไม่ต้องไปตามจับผิดใครหรอก ดูตัวเองให้มาก"
ทุก ๆ ครั้งที่มีใครเอาเรื่องไม่ดีของคนอื่นมาเล่าให้ท่านฟัง ท่านมักจะตอบเสมอว่า "ช่างมันเถอะ"
"คนเราดีไม่ดี เทวดาฟ้าดินท่านรับรู้อยู่ ตาเทวดานั้นมีมากมายอย่างกับตาข่าย สูงเลยหัวเราไปเทวดาฟ้าดินท่านเห็นทั้งนั้น ให้ตั้งใจทำดี"

คำสอน หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ








คนเราเกิดมาพบเจอกัน #ตายไปแล้วเกิดมาใหม่ก็จำกันไม่ได้

ชีวิตมันหมุนเวียนตามกาลตามเวลาแบบนี้แหละ เกิดๆตายๆ สูงๆตำ่ๆ ถ้ายังละกิเลสไม่ได้ ก็อยู่ใต้อำนาจกิเลสตัณหาเมื่ออยู่ใต้อำนาจมัน ต้องเวียนว่ายตายเกิดไม่รู้จบรู้สิ้น พระพุทธองค์ตรัสว่า การเกิดบ่อยๆเป็นทุกข์รำ่ไป


พระพุทธเจ้าท่านถึงให้เราสร้างบุญสร้างกุศล เพื่อจะนำพาตัวเองให้ออกจากทุกข์ให้ได้ ต้องอาศัยบุญกุศล ให้สะสมความดี ต่อสู้กับกิเลสตัณหาที่เหยียบย่ำหัวใจเราอยู่ตลอดเวลา เราต้องต่อสู้โดยการสะสมบุญทั้งมีการให้ทาน รักษาศีล ภาวนาฝึกมีสติและปัญญา รวมทั้งใช้สังขารเพื่อต่อสู้กับกิเลส


อาวุธที่จะไปสู้กับกิเลส คือสติและปัญญา ทำเอาสะสมเอา การนั่งภาวนาคือการสะสมอบรมบ่มจิตใจเราให้เก่งกล้า ให้มีพละมีกำลัง เมื่อมีอินทรีย์แก่กล้าก็ต่อสู้กับกิเลสได้


มีสติในการเดิน การนั่ง การยืน และฝืนใจให้ต่อสู้กับกิเลส เป็นสงครามกิเลสกับธรรมที่สู้อยู่บนหัวใจเรา ถ้าเราไม่อยากเป็นทาสกิเลส ให้เอาธรรมเป็นที่พึ่ง


กิเลสชอบสบาย ชอบนอน แต่ธรรมะจะไม่เห็นแก่อยู่แก่กิน ถ้าไม่อยากมาเกิดมาเจ็บมาตาย ต้องฝืนมันนะ อย่าเห็นแก่หลับแก่นอน อย่าเห็นแก่ความเหนี่อยเมื่อยล้า ให้เอาร่างกายเนี่ยต่อสู้ เอาร่างกายเป็นเดิมพัน


กิเลสรบธรรม รบที่ใจ เราจะไม่ยอมแพ้ ถ้าจิตใจเราเข้มแข็ง ใจเรามีอำนาจ เราก็สู้กับมันได้ แต่ความเพียรยังไม่พอสติยังไม่มั่นคงก็สู้กิเลสไม่ได้เลย


ธรรมชาติจิตของเรามันชอบคิด ท่านก็ให้หาอุบายธรรม เอาพุทโธให้มันคิด ให้ใจคิดแต่พุทโธ ให้จิตแนบกับพุทโธ จนจิตสงบลง จิตมันก็สว่างไสวอยากรู้อะไรเห็นอะไรก็เห็นไปตามนั้น


จิตคนเปรียบเหมือนลิง ลิงมันจะกระโดดหาอาหารไปเรื่อย มันจะหยุดพักเมื่อมันกินอิ่ม ถ้าไม่อิ่มมันก็กระโดดไปนุ่นไปนี่ เราเลยให้มันกินพุทโธ เมื่อมันอิ่ม มันจะนอนพัก มันจะหยุดคิด แล้วใจเราก็สบาย


ธรรมดาของกิเลสความคิด มันจะคิดไปเรื่อย คิดจบเรื่องนี้ก็ไปคิดต่อเรื่องโน้นมีแต่เรื่องที่จะเผาผลาญใจเรา เราเรียกว่าจิตที่ส่งไปคิดข้างนอกว่าจิตเป็นสมุทัย เอาจิตไปวาดวิมานจะเป็นอย่างโน้นจะดีอย่างนี้ กลับมาแล้วไม่ได้อย่างที่หวัง เป็นทุกข์เหมือนเดิม


ตัวสติปัญญาคือการดับทุกข์ คือนิโรธ คือการหยุดคิดหยุดปรุงแต่ง จิตตั้งมันไม่หวั่นไหว จิตสงบเป็นสมาธิ สงบเยือกเย็นลงสิ่งที่ไปรู้ไปเห็น สิ่งที่ไม่เคยเห็นก็เห็น

การรู้แจ้งคือพระนิพพาน พระนิพพานอยู่ที่ใจนะ ท่านเรียกว่าการรู้เห็นนี้ว่าอริยสัจสี่ ซึ่งคนปฎิบัติถึง มันจะเป็นของมันเอง

ธรรมะ หลวงพ่อฉลวย อาภาธโร วัดโคกปราสาท ต.หลุ่งตะเคียน อ.ห้วยแถลง จ.นครราชสีมา










นั่นแหละมันทุกข์เข้าใจไหม

ทุกข์ทั้งนั้นแหละ เป็นผัวเมียกัน บอกรักกัน รักกัน มันก็ดีแต่ตอนใหม่ๆ นั่นละ

แต่กินข้าวเปล่าใส่น้ำปลา มันยังว่าอร่อยเลย พอนานไปทีนี้ไม่อร่อยแล้ว ทำมาแค่ไหนก็ไม่อร่อยแล้ว

เข้าใจไหม มันเบื่อ มันนาน

(กล่าวจบ หลวงปู่ก็หัวเราะ)

คนอื่นด่ากันไม่ได้นะ ด่ากันไปด่ากันมาเดี๋ยวเป็นเรื่อง แต่ผัวเมียด่ากัน เดี๋ยวก็กลับมาดีกันหรอก ด่ากัน ด่ากัน แต่อย่าหนีให้นะ หนีมาบวชยังตามถึงวัดเลย (หัวเราะ)

เมียด่าให้อย่าไปโกรธนะ ให้ทำอย่างนี้ เขียนพุทโธใส่หัวเลย เขียนใส่หน้าผาก ผัวก็พุทโธ เมียก็พุทโธ พอเมียด่าก็ส้าาา...ธุ

(หลวงปู่ทำท่ายกมือไหว้)
ขอบคุณที่ให้พร

(หลวงปู่หัวเราะนานมาก)
#หลวงปู่จันทร์เรียน #คุณวโร


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Bing [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO