นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน ศุกร์ 29 มี.ค. 2024 3:17 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: ทำความดี
โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ 10 ก.พ. 2021 4:33 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4511
"ธรรมเป็นของเลิศ​ ของประเสริฐนะ
อย่าให้จืดจางจากธรรมทั้งหลาย
หนักแน่นในทางธรรม...
กินก็เพื่อธรรม​ อยู่ก็เพื่อธรรม
ตื่นขึ้นมาเพื่อธรรมทั้งนั้นถึงถูกต้อง.."

#หลวงตามหาบัว_ญาณสัมปันโน










ให้พิจารณาไฟสามกอง (โลภะ โทสะ โมหะ) มีอยู่ในตัวเราทุกคน แต่เรามองไม่เห็น อย่ามัวแต่ไปมองของคนอื่น ให้พิจารณาความโลภ โกรธ หลง ในตัวของเราเอง...

หลวงปู่บุญจันทร์ จันทสีโล (ศิษย์อุปัฏฐากองค์ท่านหลวงปู่แหวน สุจิณโณ)
วัดป่ากิ่วดู่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่










" อดทน "

ใครทำถูกใจ หรือ ไม่ถูกใจเราก็ช่าง
ให้อดทน อดทนนี้แหละดี
เมื่อเราถูกด่าถูกว่าก็ให้เราอดทน
แม้จะมีความทุกข์สักเท่าไหร่ ให้เก็บไว้ในใจคนเดียวก็พอ อย่าไปพูดให้คนอื่นเป็นทุกข์ และไม่สบายใจกับเราด้วย

คนเราไม่เหมือนกัน แต่เป็นมนุษย์เหมือนกัน จะให้ทุกคนทำให้ถูกใจเราหมด ก็เป็นไปไม่ได้

เขาถูกด่า ถูกว่า ถูกติ เขาไม่ชอบใจอย่างไร
เราก็ไม่ชอบใจอย่างนั้นเหมือนกัน
เขาไม่สบายใจอย่างไร
เราก็ไม่สบายใจอย่างนั้นเหมือนกัน

ถ้าเราทุกข์นัก ก็แอบไปร้องให้เสียคนเดียวดีกว่า
แทนที่จะไปทำให้คนอื่นทุกข์ด้วย

โอวาทธรรม หลวงปู่ไพบูลย์ สุมังคโล
วัดอนาลโยทิพยาราม อ.เมือง จ.พะเยา









... นักบวช..
จะเห็นความทุกข์ที่เกิดจากความอยาก

.วิถีชีวิตของนักบวชกับฆราวาส
จึงต่างกันเหมือนฟ้ากับดิน
“ฆราวาสเหมือนอยู่บนสวรรค์
กินอยู่อย่างสุขอย่างสบาย
ตามความต้องการของตน”

.นักบวชอยู่ตามมีตามเกิด
เหมือนอยู่ในนรก
“ใจของฆราวาสเหมือนอยู่ในนรก”
เพราะ รุ่มร้อนกับความอยาก
ความวุ่นวายต่างๆ ..ความเสียใจ
ความผิดหวัง ไม่ได้สิ่งที่ต้องการ

.”แต่ใจของนักบวชกลับอยู่บนสวรรค์ “
เพราะใจไม่วุ่นวาย
ไม่รุ่มร้อนกับสิ่งต่างๆ
ยินดีตามมีตามเกิด
ได้มากได้น้อยก็พอใจ
ได้อะไรมาก็พอใจ

.นี่คือเรื่องของใจ
ที่ฆราวาสจะไม่ค่อยเข้าใจกัน
เพราะขาดการศึกษาเล่าเรียน
ขาดการได้ยินได้ฟังจากผู้รู้

.ก็เลยหลงอยู่ใน..
“สังคมของคนตาบอด”ด้วยกัน
โดนสิ่งเดียวกัน..คอยยั่วยุ
ให้แข่งขันทำลายตน
สร้างความทุกข์ให้กับตน.
....................................
.
คัดลอกกำลังใจ 34 กัณฑ์ 371
ธรรมะบนเขา 27/8/2550
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี









".. คนฉลาดย่อมไม่กลืนกินอารมณ์ชั่ว
คนที่จิตยังไม่สูงเต็มที่
เมื่อใครเขาด่าว่าอะไรก็มักเก็บไปคิด
คนเราโดยมากสำคัญตนว่าเป็นคนฉลาด
แต่ชอบกลืนกินอารมณ์ที่ชั่ว

อารมณ์ชั่วเปรียบเหมือนกับ
เศษอาหารที่เขาคายออกแล้ว
ถ้าเป็นคนอดอยากยากจนจริงๆ
จำเป็นจะต้องขอเขากิน
ก็ควรกลืนกินแต่อารมณ์ที่ดี
เปรียบเหมือนอาหารที่ไม่เป็นเศษของใคร

แต่ถึงกระนั้นก็ยังอยู่ในลักษณะที่ยากจน
นี่เป็นลักษณะของคนโง่ ไม่ใช่คนฉลาด
เพราะความดีอยู่กับตัวเองแท้ๆ
แต่ไพล่ไปเก็บเอาความชั่วที่คนอื่นเขามา
เช่นนี้ก็ย่อมเป็นการผิดทาง

ที่ถูกนั้น...ใครจะว่าอะไรก็ช่างเขา
ต้องคิดว่านั่นเป็นสมบัติของเขา ไม่ใช่ของเรา
ส่วนความดีที่เราทำก็ย่อมอยู่ที่ตัวเรา... "

#โอวาทธรรม
#ท่านพ่อลี_ธมฺมธโร
วัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ









"...บุญนั้นผู้ถวายได้แล้วสำเร็จแล้วตั้งแต่ ตั้งใจหรือเจตนาในครั้งแรก ตลอดจนนำมาถวายสำเร็จ ไม่จำเป็นต้องกล่าวอะไรอีก เพียงแต่ตั้งเจตนาดีเป็นกุศลหวังผล​ คือ ความสุข การพ้นจากทุกข์ทั้งปวงเท่านี้​ ก็พอแล้ว นั่นมันเป็นพิธีการหรือกฏเกณฑ์
อย่างหนึ่งของเขา ไม่ต้องอะไรทุกขั้นทุก
ตอนดอก..."

โอวาทธรรมโดยพระครูวินัยธร (หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต) วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ. สกลนคร
(พ.ศ. ๒๔๑๓ - ๒๔๙๒)









" "สติ" นี้จำเป็นต้องใช้อยู่
ทุกที่ ทุกสถาน ตั้งแต่เกิด
จนตาย ตายหมดลมหายใจ
เมื่อใด จึงจะหยุดสติอันนี้

สตินี้ไม่ใช่สงบนะ
คำว่าสงบ จิตผู้รู้อยู่ สงบอยู่
ในดวงจิตที่รู้นั้น

ส่วนสตินี้ คือว่าระลึกได้
อยู่ทุกเวลา ทุกอิริยาบถ
ยืน เดิน นั่ง นอน "

โอวาทธรรม
หลวงปู่สิม พุทธาจาโร








“บางสิ่งบางอย่าง
รู้ว่ามันดี แต่เราทำไม่ได้
บางสิ่งบางอย่าง
รู้ว่ามันไม่ดี แต่ว่าอดทำไม่ได้

อันนี้เราเป็นอย่างไร เขาก็เป็นอย่างนั้น
เขาเป็นอย่างไร เราก็เป็นอย่างนั้น

จิตใจเรานี้ ยังไม่เข้มแข็ง
ต้องให้อภัยตัวเอง เมตตาตัวเอง
แล้วก็เมตตาคนอื่นด้วย”

พระอาจารย์ชยสาโร ภิกขุ











"คนเราเกิดมาในเมืองมนุษย์ ต้องพบมนุษย์อยู่ร่ำไป
พระพุทธเจ้าสอนให้อยู่ด้วยความสงบวิเวกด้วยใจ
อย่าไปยึดเอาเรื่องของคนอื่นมาไว้เป็นอารมณ์ของใจ
แล้วก็จะวิเวกอยู่คนเดียว ถ้าใจไม่สงบแล้ว
จะอยู่ในป่าคนเดียว มันก็ไม่สงบอยู่ดีๆ นั้นเอง"

หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี









#ปีชงบ่มีดอก

จิตใจระลึกถึงอยู่กับพระรัตนตรัย มีสติ มีสมาธิ อิหยังมันสิมาชงเฮาได่ อยู่กับปัจจุบันให้ดีกะพอ สิปีนี่ปีหน้ากะบ่มีชงดอกเนาะลูกหลานเอ้ย

-แปลความ-

ปีชงไม่มีหรอก จิตใจระลึกถึงอยู่กับพระรัตนตรัย มีสติ มีสมาธิ อะไรที่จะมาชงเราได้ อยู่กับปัจจุบันให้ดีก็พอ จะปีนี้ปีหน้าก็ไม่มีชงหรอกนะลูกหลานเอ๋ย

หลวงปู่จื่อ #พันธมุตโต










วันหนึ่ง. คิดถึง. พุทโธ
ได้ครั้งหนึ่ง. ก็ยังดี

: หลวงปู่จันทร์เรียน คุณวโร







#การทำความดีผิดกาลเวลา

เมื่อเราอยากแนะนำสั่งสอนเขาเหล่านั้น มีเมตตาต่อเขา อยากให้มีความสุขความเจริญ แต่เราก็ไม่รู้กาลเวลาที่ควรสอน หรือยังไม่ถึงเวลาที่ควรสอนเขา เพราะยังไม่พร้อม

ยังไม่ถึงเวลาที่เขาจะทำบุญเข้าวัดกราบไหว้บูชาได้ ยังไม่ถึงกาลเวลาจะรักษาศีลได้ ยังไม่ถึงเวลานั่งทำสมาธิภาวนาได้ บุคคลผู้ที่จิตใจของเขายังไม่เป็นสมาธิหนักแน่น เขาก็ยังไม่ถึงเวลาพิจารณาธรรมะให้เข้าใจได้

บุคคลทั้งหลายเหล่านั้นแต่ละคนมีภูมิฐานสติปัญญาต่างระดับกัน
..

พระก็ดี โยมก็ดี เมื่อเข้าไปพูดคุยกัน สนทนากันเรื่องต่างๆ หรือสนทนาธรรมะก็เหมือนกัน สนทนากันไปสนทนากันมา ไม่รู้กาลเวลาว่าควรสอนเขาหรือไม่ควรสอนเขา ก็ไปสอนคนอื่น บังคับคนอื่นให้เชื่อตามตนเอง คล้อยตามตนเอง

สนทนาไม่หยุดก็เกิดไม่พอใจ ถกเถียงกันขึ้น ทั้งพระทั้งญาติโยม จนแตกแยกจากกัน จากหมู่คณะไป พระเณรก็แตกจากกันไปอยู่คนละสำนัก หรือไปอยู่วัดอื่น เสียเวลาเปล่าประโยชน์ เพราะทำความดีผิดกาลผิดเวลา..

#หลวงปู่เปลี่ยน #ปญฺญาทีโป..










#ขณะใดที่เราวิ่งไปตามโลก #เราจะมองไม่เห็นโลกได้ถนัด

ฉะนั้น เราจำเป็นต้องหยุดวิ่งเสียก่อน แล้วเราจึงจะมองเห็นโลกได้ชัดเจน เมื่อโลกก็หมุนและเราก็หมุนด้วยอย่างนี้ จะมองเห็นกันอย่างไร

เปรียบเหมือนคนวิ่งกับคนวิ่ง ย่อมยากที่จะมองเห็นหน้ากันได้ เราหยุดไม่วิ่งแต่เขาวิ่ง ก็ยังพอมองเห็นกันบ้าง แต่ไม่ชัดเจน ถ้าสองคนต่างวิ่งแล้ว ก็ยิ่งไม่แลเห็นกันเลย

ตัวอย่างเช่น เรานั่งหรือยืนอยู่เฉยๆ มีคนๆหนึ่งแอบวิ่งมาตีหัวเราแล้วก็วิ่งหนีไป อย่างนี้เราก็จับตัวได้ยาก

ฉะนั้น ถ้าเราหมุนหรือแทรกแซงในความหมุนของโลก เราก็จะยิ่งไม่รู้ไม่เห็นอะไรเลย ในทางธรรมท่านจึงสอนให้เราเป็นผู้หยุดหมุน สังสารจักร เพื่อจะได้ทราบโลกแจ้งชัด

#ท่านพ่อลี #ธมฺมธโร










#ให้ดูตนเองให้มากๆ

คำว่าตนในที่นี้ ก็หมายถึงจิตใจของใครของเรา อย่าไปดูที่อื่นบุคคลอื่น

ให้ดูที่เราว่ามีบกพร่องตรงไหน ศีลมีมั๊ย ทานมีมั๊ย ภาวนามีมั๊ย จิตใจมันโลภมั๊ย มันโกรธ มันหลงมั๊ย มันยึดมันติด มันหลงมั๊ย หลงในรูป ในเสียง ในกลิ่น ในรส ในสัมผัสมั๊ย

ตรวจดู พิจารณาดู เพราะถ้าจิตใจของเราหลงว่าของกู ของๆกู หลงว่ามึงเป็นผู้ชาย กูเป็นผู้หญิง มึงเป็นผู้หญิง กูเป็นผู้ชาย หลงว่าเป็นสัตว์เป็นบุคคลตัวตนเราเขา หลงในก้อนสกลกายว่าสวยว่างาม แสดงว่าจิตใจมันยังมีกิเลสอยู่

ถ้าจิตใจยังมีความยึด แสดงว่ายังไม่พ้นทุกข์ พระพุทธเจ้ามาแสดงธรรม ปฏิบัติให้พ้นทุกข์ พ้นจากตรงไหน ก็พ้นจากก้อนสกลกาย

หาหนทางทิ้งกาย พิจารณาร่างกายว่ามันไม่เที่ยง มันเป็นทุกข์ ก้อนสกลกายนี้คือก้อนทุกข์ คือมันทุกข์ตรงไหน

มันทุกข์ตั้งแต่เราอยู่ในครรภ์ของมารดา นอนขดอยู่ในท้องตั้งแปดเก้าเดือน มันสุขหรือมันทุกข์ เกิดมาก็ร้องไห้ออกมา มันสุขหรือมันทุกข์

บางคนตายตั้งแต่ออกมาก็มี เมื่อเกิดมาก็มาเจ็บ เมื่อมันเจ็บมันก็ทุกข์อีก เมื่อเจ็บมากเข้ามากเข้ามันก็แตกตายทำลายขันธ์ มันสุขหรือมันทุกข์

ดินก็ไปสู่ดิน น้ำก็ไปสู่น้ำ ไฟก็ไปสู่ไฟ ลมก็ไปสู่ลม อันไหนล่ะเป็นของเราทีนี่ ไม่มี มันเป็นเพียงธาตุสี่ ดิน น้ำ ไฟ ลม มาประชุมกันเข้าจึงเรียกว่าก้อนสกลกาย เรียกว่าตัวว่าตน

แล้วทีนี้จิตมันมาอาศัยก้อนธาตุเหล่านี้แล้ว มันก็มาหลงยึดเอาทีนี้. มันก็เลยทุกข์

ก้อนสกลกายมันไม่ทุกข์เด้ ผู้ที่ทุกข์คือจิตใจต่างหาก ธาตุทั้งสี่เมื่อถึงเวลามันก็แตกสลายไปตามกาลตามเวลา แต่จิตใจมันไม่แตก เพราะมันไม่มีตัวตน มันเป็นนามธรรม มันยังจะกลับมาเจ็บ มาแก่ มาตายอีกถ้ามันไม่เบื่อไม่หน่าย..

โอวาทธรรม
#หลวงปู่บุญมา #คัมภีรธัมโม
วัดป่าสีห์พนม อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 3 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO