นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน เสาร์ 20 เม.ย. 2024 8:13 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: ถอนกิเลส
โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร 09 ก.พ. 2021 7:05 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4532
ถ้าเราตระหนักชัดในความไม่แน่นอนของชีวิตนี้ ไม่มีทางที่เราจะไปทะเลาะกับใคร หรือจะไปอิจฉาใคร หรือเบียดเบียนใคร เพราะอะไร...#เพราะเวลาไม่พอ ..

พระอาจารย์ชยสาโรภิกขุ








...ถ้ายังไม่ได้เจริญวิปัสสนาภาวนา
ถึงแม้ได้ไปถึงสวรรค์ชั้นพรหม
“ก็ยังต้องกลับมาเกิดใหม่อีก”

.เมื่อบุญที่ได้ทำไว้เสื่อมหมดไป
“จิตก็จะหยาบลง”.. ก็จะเคลื่อนลง
จากสวรรค์ชั้นพรหม สู่สวรรค์ชั้นเทพ
เมื่อบุญของสวรรค์ชั้นเทพหมดไป
“ก็จะเคลื่อนลง สู่มนุษย์โลก
มาเกิดเป็นมนุษย์ใหม่
มาแก่ มาเจ็บ มาตายใหม่”
ต้องบำเพ็ญกันใหม่

.“ถ้าได้เจริญวิปัสสนาภาวนาแล้ว”
จะไม่ต้องกลับมาเกิดอีก
ภพชาติน้อยลงไปเรื่อยๆ
ถ้าได้ขั้นที่ ๑ คือ..โสดาบัน

.ด้วยการพิจารณาให้เห็นว่า
ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกเป็นไตรลักษณ์
เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
เช่น..ร่างกายของเรา
ก็เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
มีการเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นธรรมดา

.เป็นทุกข์ ตื่นขึ้นมาก็ทุกข์แล้ว
ทุกข์ด้วยความหิวอาหาร
ต้องให้อาหาร ต้องอาบน้ำอาบท่า
ต้องแต่งเนื้อแต่งตัว
ต้องคอยดูแลรักษา
“นี่ก็เป็นความทุกข์”

.ตายไปก็กลายเป็น ดิน น้ำ ลม ไฟไป
“เป็นธาตุ ๔ ..ไม่ได้เป็นตัวเป็นตน”
ถ้าพิจารณาจนเห็นว่า เป็นอย่างนี้แล้ว
“ก็จะบรรลุธรรมขั้นแรก”
เป็น..พระโสดาบันขึ้นมา.
.............................................
กำลังใจ 39 กัณฑ์ที่ 357
ธรรมะบนเขา 4/8/2550
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี











ตู้พระธรรมอยู่ในอก
ตู้พระไตรปิฎกอยู่ในใจ
พระพุทธเจ้าเพิ่นบ่ได้เอาออกมาจากใส เพิ่นกะค้นออกมาจากใจมาโปรดพวกหมู่เฮานี้ละ
ที่พวกเฮาได้มาจานมาเขียนใส่ใบลาน ใส่หนังสือทุกวันนี้ ออกมาจากจิตดวงๆ นี้ละ ค้นลงไปนี้ละ พระธรรมอยู่นี้บ่ได้อยู่หม่องอื่น...

โอวาทธรรม
หลวงปู่ประเสริฐ สิริคุตฺโต
วัดป่าเวฬุวันอรัญวาสี อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี







#พระพุทธเจ้าไม่สอนให้ถอย

หากความทุกข์นี้เป็นสนามรบกับกิเลส พิจารณาให้ดี เราได้ก้าวเข้าแล้วสู่สงครามตั้งแต่วันเกิดมา แต่เราไม่ทราบว่าเป็นสงครามเพราะเราไม่เคยต่อสู้ ยอมให้เค้าทำลายตลอดมา แพ้เค้าเรื่อยๆ เพราะเราไม่สู้ เรายอม ที่นี้เราสู้ ก็ให้เห็นแพ้ชนะกัน จึงเรียกว่านักรบ ไม่ใช่นักหลบ อะไรเกิดขึ้นมา ก็หลบ หลบ หลบ หลบซ่อน เค้าก็ตามตีเอาซิ ถ้าไปหลบไปซ่อน สู้มันจน เอ้า หามมันลงเวที นี่เรียกว่านักมวยเอก นี่เราก็นักสู้ สู้มันไปไม่ถอย

พระพุทธเจ้าไม่สอนให้ถอย พระพุทธเจ้าเป็นหัวหน้าแนวรบอย่างเอกไม่มีใครเสมอ สาวกก็เป็น เดินตาม ตามเสด็จพระพุทธเจ้า พุทธัง สังฆัง สรณัง คัจฉามิ คือผู้กล้าหาญชาญชัยต่อความจริง และกล้าต่อสู้ความจริงด้วยสติปัญญา แต่ถ้าไม่กล้าอยู่เฉย ๆ ให้เค้าตีเอาตูม ๆ นั่น ต้องกล้าด้วยสติปัญญา มีเครื่องมืออันทันสมัย เรากล้าด้วยสติปัญญาศรัทธาความเพียรของเรา ก็ชื่อว่าเดินตามครู

ส่วนหนึ่งของพระธรรมเทศนาเทศน์อบรมฆราวาส
ณ วัดป่าบ้านตาด ของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
เมื่อวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๑๘
เรื่องอริยสัจภายในจิต










ผู้มีปัญญา ไม่ควรให้สิ่งที่ล่วงแล้วตามมา
ไม่ควรหวังในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง
ผู้มีปัญญา ได้เห็นในธรรมซึ่งเป็นปัจจุบัน
ควรเจริญความเห็นนั้นไว้เนืองๆ
ควรรีบทำเสีย
ผู้มีปัญญา ซึ่งมีธรรมเป็นเครื่องอยู่
มีความเพียรแยกกิเลสให้หมดไป
จะไม่เกียจคร้าน ขยันหมั่นเพียร
ทั้งกลางวันและกลางคืน

หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต.










#หลวงปู่ท่านอาจารย์ตื้อ_อจลธมฺโม
#วัดบ้านข่า_ศรีสงคราม_นครพนม

#ในยุคสมัยพระพุทธเจ้าอโนมาทัสสี เกิดเป็นโจร ๓,๕๐๐ คนทั้งหมด เป็นหัวหน้านายโจร
ใจกล้า ดาบคม เวียนว่ายตายเกิดมาจนชาติชีวิตนี้ ก็ฝึกหัดนิสสัยความกล้าหาญมาตลอด

#มาเกิดเป็นกษัตริยนักรบในยุคต้นรัตนโกสินทร์ ก็ใจกล้าหาญ ต่อสู้รบกับพม่า รักษาประเทศตลอดมา
มาเกิดใหม่เป็นคนบ้านข่า อายุ ๑๖ ปี จับดาบไล่ฟันพญานาคทำอยู่อย่างนี้ หลายปี นาคตัวใหญ่เท่ากับลำต้นพร้าวเล็กกว่านิดหน่อย
เวลามันย้ายที่อยู่จากหนองน้ำ ทิศตะวันตกไปทิศใต้ ลอยข้ามทุ่งนา ผู้เฒ่าผู้แก่เห็นว่าจักเป็นอันตรายแก่ผู้คนหมู่บ้าน จึงตกลงเอาไปบวชกับหลวงปู่คาร บ้านสามผง บวชแล้วก็ไปธุดงค์ เที่ยวไปทั่วหมด ไม่มีกลัวใครในโลกอันนี้ จนสุดท้ายอยู่แม่แตง จังหวัดเชียงใหม่

".. คนเรามาฝึกอะไรก็ได้อันนั้น เมตตา
ใจกล้าหาญ ปัญญา ฤทธิ์ อยู่ป่า ถือธุดงค์ ถือศึกษา ถืออุปัฏฐาก ถือวิชชาใดๆ ถือเป็นเอกเป็นเลิศในทางใด ฝึกได้วิชชาของใครของมัน... ”

ท่านอาจารย์ตื้อ เล่าว่าเมื่อครั้งพระพุทธเจ้า
อโนมทัสสี หลวงปู่ตื้อได้เป็นหัวหน้าโจร ๓,๐๐๐ เที่ยวปล้นบ้านปล้นเมืองเลี้ยงชีพ
มาสุดท้ายถูกทางการจับได้ทั้งหมด ต้องโทษประหารชีวิตทางการตัดคอ ฆ่าอยู่ ๕ วัน จึงหมดหมู่โจร

ถามว่า ท่านอาจารย์ ไม่เห็นไม่ได้พบปะ
พระพุทธเจ้าอโนมทัสสีหรือครับ.. ?
“ได้เห็นอยู่แต่ไม่กล้าเข้าไปหา”

ท่านอาจารย์ตื้อไปอยู่น้ำตกแม่กลางใหม่ ๆ
(เขต อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่) ผู้คนยังไม่รู้จัก ฝนก็ตกตลอดวันตลอดคืน ออกไปบิณฑบาต
ก็ไม่ได้ ต้องอดข้าวอยู่หลายวัน พอฝนหยุดตก น้ำที่ดื่มกินไปก็เหม็นคาวเลือดทั้งลำห้วย อันนี้พวกนาคเขาไม่อยากให้อยู่ แต่ท่านก็อดทนต่อสู้ อาศัยแต่ธรรมะเอาชนะพวกนาค สอนด่ามัน สุดท้ายมันก็ยอม อาศัยศรัทธาความเชื่อมั่นเป็นต้นทาง เอาเมตตาสู้มัน มันก็ยอม ผู้คนก็มาทำบุญให้ทาน

#พุทโธ_ของท่านอาจารย์ตื้อ
#เทศน์ธรรมของท่านอาจารย์ตื้อนี้น่าฟังมาก
ดูแต่เป็นอธิบายพุทโธ ให้ฟังว่า ใคร ๆ ก็พุทโธได้ แต่มีผู้เห็นพุทโธน้อยนัก เพราะพุทโธไม่สมบูรณ์ พุท แต่ปาก โธ แต่ปาก พุทโธ
แต่ลมหายใจตาย ๆ ได้แต่ว่า ใจไม่เอาพุทโธ ด้วย ใจไม่เป็นพุทโธ จะรู้ จะตื่น จะเบิกบาน มาแต่ไหน จะให้สมบูรณ์จริง ใจเป็นผู้รู้ ใจเป็น
พุทโธ ใจเป็นผู้ตื่น ใจเป็นพุทโธใจเบิกบานแล้ว ใจเป็นพุทโธพุทโธ จึงเป็นศีล พุทโธ จึงเป็นฌาน พุทโธ จึงเป็นนิพพาน

"ทั้งหมดโคตรเค้าอยู่ที่ใจของเฮานี้เองหมด
พระพุทธเจ้าเท่าใดพระองค์ก็ตาม พระอรหันต์สาวกจะมีเท่าใดก็ตาม ที่สุดจิตต้องเป็นพุทโธ พุทธะ เป็นศีลภาวนา เป็นฌานเป็นมรรค
เป็นนิพพาน จึงว่านี่เป็นหัวใจธรรม.. ”

วันที่ท่านอาจารย์ตื้อแปลพุทโธให้ผู้ข้าฯ ฟัง
เป็นช่วงที่ไปอยู่ด้วยกันห้วยน้ำรินแล้วเพิ่น
ถามว่า “จามเอ๊ย พุทโธ ท่านอย่าได้ทิ้ง
เห็นได้แล้วหรือยังล่ะ”

แล้วเพิ่นก็สอนแปลให้เสียยาวยืด สุดท้ายก็ว่า
“พุทโธ” คำเดียวตะโกนสุดเสียงแล้วก็ลุกจากไป กับท่านอาจารย์ตื้อนี้ชอบพอกันนักกับผู้ข้าฯ

#คัดลอกจากหนังสือ
#ธรรมประวัติหลวงปู่จาม_มหาปุญฺโญ
หน้า ๕๐๕-๕๐๖ , ๕๐๘-๕๐๙
(พิมพ์ครั้งแรก วันมาฆบูชา ๒๕๕๐)











"คนเราเกิดมาในเมืองมนุษย์ ต้องพบมนุษย์อยู่ร่ำไป
พระพุทธเจ้าสอนให้อยู่ด้วยความสงบวิเวกด้วยใจ
อย่าไปยึดเอาเรื่องของคนอื่นมาไว้เป็นอารมณ์ของใจ
แล้วก็จะวิเวกอยู่คนเดียว ถ้าใจไม่สงบแล้ว
จะอยู่ในป่าคนเดียว มันก็ไม่สงบอยู่ดีๆ นั้นเอง"

หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี








“คนอื่นเขาดีก็ดีเขา เขาชั่วก็ชั่วเขา
จิตใจของเราเป็นอย่างไร”

หลวงปู่ขาว อนาลโย







#ภูเขาภูเรา

ปัญญาพิจารณา เรื่องแยกธาตุแยกขันธ์ ติดเขาติดเราจะติดอะไร ภูเขาภูเราก็คือในตัวของเรา ภูเขาก็คือตัวของคนนั้นคนนี้ ภูเราคือตัวของเรา

ถือเขาถือเรา แยกอันนี้ออก เขาอยู่ที่ไหน เราอยู่ที่ไหน แยกออกเป็นสัดเป็นส่วน ตั้งแต่ขน ผม เล็บ ฟัน หนังเนื้อ เอ็น กระดูก เข้าไปไปตับไตไส้พุง แยกออกมาอันไหนเป็นเราเป็นของเรา

ดูเข้าไปมันก็เห็นประจักษ์ ๆ ด้วยปัญญาๆ มันก็ถอนตัวออกมาๆ ทีนี้กระจ่างแจ้งขึ้นเรื่อย ขยับเรื่อยๆ ทีนี้มันก็ตำหนิสมาธิ หายอาลัยกับสมาธิแล้วที่นี่ เห็นคุณค่าของปัญญาก็เพลินทางด้านปัญญา

สุดท้ายก็มาตำหนิสมาธิว่านอนตายเฉยๆ ไม่เห็นเกิดประโยชน์อะไร การแก้กิเลสนี้แก้ด้วยปัญญาต่างหาก ไม่ได้แก้ด้วยสมาธิ นั่นมันกลับตาลปัตรแล้ว มันก็พุ่งของมัน

...
ถ้าปัญญาออกแล้ว เห็นทางที่จะหลุดพ้นจากทุกข์ ถ้ามีแต่สมาธิไม่เห็นทาง เห็นแต่ความสงบเย็นอยู่เท่านั้น หลงสมาธิ ทั้งวันทั้งคืนอยู่นั้นสบาย ไม่เห็นมีจุดหมายปลายทางอะไร

แต่พอออกทางด้านปัญญาจุดหมายปลายทางจะมี ละเอียดลออกว่านี้ ละเอียดลออเข้าไป พิจารณาละเอียดลออเข้าไปมากเท่าไร ทีนี้อุปาทานความยึดมั่นถือมั่นในภูเขาภูเรามันจะค่อยถอนตัวเข้ามาๆ นี่ปัญญาทางบุกเบิก

-ปัญญาจึงเรียกว่าเป็นเครื่องแก้กิเลสนะ สมาธิมันเหมือนหินทับหญ้าเท่านั้นแหละ -

พอสงบเป็นกาลเวลาเท่านั้น ถ้าเรานอนใจก็ติด ติดจนกระทั่งวันตาย แต่ไม่ได้ถอดกิเลสถอนกิเลสออกแม้ตัวเดียว พอออกทางด้านปัญญามันจะเป็นของมันเองนะ ค่อยกระจ่างออกไปๆ พิจารณาตรงไหนนี้มันเหมือนไฟได้เชื้อ มันเผาไปเรื่อยๆ รู้ไปเรื่อยเห็นไปเรื่อย ปล่อยไปเรื่อย ปัญญาเป็นอย่างนั้นนะ นี่เรียกว่าปัญญา....

หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
๒๑ ตุลาคม ๒๕๔๔











#ไผ๋สิเว่าจั่งใด๋กะซ่าง.. #บ่เซือ.. #ลัทธิใด๋กะให้มันมา..

แตกตื่นกันอย่างนั่นอย่างนี่
แม่กวนออกกวนอิม..อย่างนั่นอย่างนี่..พระอรหันต์จี้กงจี้เก็ง..

โมคคัลลา สารีบุตรบ่แมนพระอรหันต์เบาะ สิมาจี้กงจี้เก็งตายอีหยัง.. พระพุทธเจ้าบ่แมนพระอรหันต์เบาะ.. ตื่น..ตื่นขี้เจ้าของ ขี้ตกป๊กออกแล้วฮ้องโก๊กๆ คือฟานนี่.. "( ฟาน=เก้ง )

#หลวงปู่หล้า #เขมปัตโต










#บทพาหุงมหากาฯ #เป็นบทสรรเสริญพระพุทธเจ้าที่สุดยอดที่สุดและศักดิ์สิทธิ์ที่สุด

หากสวดได้ครบ 100 จบรวดเดียว
ชีวิต...จะมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง
สิ่งร้ายๆ จะไม่สามารถทำอะไรได้

#หลวงปู่บุญส่ง_ฐิตสาโร
วัดสันติวนาราม อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี









#เรื่องการถวายจตุปัจจัย

หลวงพ่ออินทร์ถวาย เคยเข้าไปถวายปัจจัยองค์หลวงตามหาบัว บางทีก็บอก

" หลวงตาครับ ผมขอถวายปัจจัยที่หลวงตาบอกว่าช่วยเครื่องมือแพทย์ครับ หลวงตานิ่ง บอกว่า ไม่ควรจะพูดอย่างนั้น นี่ท่านสอนหลวงพ่อนะ พวกเราฟังเอาไว้

ท่านสอนหลวงพ่อว่าไม่ควรจะพูดอย่างนั้น เพราะเราใช้ในสาธารณะมากมาย อันไหนที่มันขัดข้องเราก็จะอุดจุดนั้น จุดไหนที่เพียงพออยู่แล้ว เราก็เอาไว้ก่อน ถ้าพูดมัดอย่างนี้ เราจะไปใช้อย่างอื่นมันก็ไม่ถูกต้อง ไม่ควรจะพูดอย่างนั้น

จากนั้นมาหลวงพ่อก็จะพูดว่า
ขอโอกาสพ่อแม่ครูอาจารย์ จตุปัจจัยที่ถวายพ่อแม่ครูอาจารย์ขอใช้ตามอัธยาศัย ถ้าจุดไหนที่เกิดประโยชน์ที่พ่อแม่ครูอาจารย์เห็นว่าเกิดประโยชน์ กระผมก็ขอถวายพ่อแม่ครูอาจารย์ใช้ในจุดนั้นเลยครับผม"

#พระอาจารย์อินทร์ถวาย #สันตุสสโก #วัดป่านาคำน้อย อุดรธานี










#พวกเราเป็นชาวพุทธ #อย่าไปคอยแต่อ้อนวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ

ในสากลโลก ให้มาช่วยตนให้มีความสุข ความเจริญต่างๆ นานาอย่างนี้ ไม่มีหรอกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลกนี้ ที่จะช่วยบุคคลผู้ประมาท จะช่วยแต่บุคคลผู้ไม่ประมาท

ผู้สั่งสมบุญกุศล ผู้มีศีลธรรมอันงาม
แม้ว่าไปเกิดอุปสรรคความขัดข้อง
อย่างใดอย่างหนึ่งขึ้นมา
แล้วผู้นั้นอธิษฐานจิต
ถึงบุญถึงคุณของตน

หากบุญคุณของตน
ที่บำเพ็ญมามันมากพอ
มันก็จะไปดลจิตดลใจ
ของเทวดาอินทร์พรหม
ให้ล่วงรู้ว่า..โอ้ คนมีบุญผู้นี้
กำลังประสบอุปสรรคขัดข้อง
อย่างใดอย่างหนึ่ง
เราจำเป็นต้องลงไปช่วย

ไม่ใช่เทวดาก็พญาอินทร์
ไม่ใช่ก็ท้าวมหาพรหมลงมาช่วย
มาช่วยแก้ไขอุปสรรคของผู้นั้น
ให้ลุล่วงไปด้วยดี ผู้นั้นก็ถึงซึ่ง
ความสุขความเจริญนี่

การที่เทวดาอินทร์พรหม
จะช่วยมนุษย์เราน่ะ
มนุษย์เราต้องช่วยตนเอง
ให้เต็มที่เสียก่อน
ต้องสั่งสมบุญให้มากซะก่อน

หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 9 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO