นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน พฤหัสฯ. 25 เม.ย. 2024 7:28 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: ทางสมมุติ
โพสต์โพสต์แล้ว: อาทิตย์ 31 ม.ค. 2021 5:45 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4539
กรอบคืออะไรและเป็นอย่างไร หลวงพ่อชาท่านเคยเปรียบเทียบอุปมาไว้ดังนี้ สมมุติว่าเราเดินไปตามถนน สวนทางกับคนคนหนึ่ง พอเขาเห็นหน้าเราเขาก็ด่าด้วยภาษาที่หยาบคายเหลือเกิน ด่าจนเรารู้สึกทุกข์ใจ สะเทือนใจ จากนั้นก็มีเพื่อนคนหนึ่งมาบอกว่า "อย่าไปถือสาเขาเลย เขาเป็นโรคจิต" พอเรารู้ว่าเขาเป็นโรคจิต ความรู้สึกทุกข์ใจหายไปหลายสิบเปอร์เซ็นต์ เกือบไม่มีเหลือเลย ทั้งๆ ที่เขาก็กำลังพูดอยู่ กำลังแสดงอาการอยู่เหมือนเดิม นอกตัวเราไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่กรอบความหมายที่สร้างไว้ให้กับสิ่งที่เกิดขึ้นนอกตัวและเข้าใจสิ่งนั้นเปลี่ยนไป สิ่งนั้นเลยหมดฤทธิ์ ทำให้จิตใจของเราเป็นปกติได้ นี่เป็นตัวอย่างง่ายๆ ชัดๆ

พระอาจารย์ชยสาโร








"ให้เรารู้จักฝืนตัวเอง ให้เสียสละความขี้เกียจ
แล้วมีความเพียรที่จะนั่งสมาธิภาวนาซิ
แล้วเราจะรู้ว่าธรรมะดีอย่างไร
เหมือนนักกีฬา เห็นไหม
เขาเสียสละเวลาและหยาดเหงื่อ
ยอมเหน็ดยอมเหนื่อย เขาจึงมีพละกำลัง
...
มีความสามารถแปลก ๆ ที่คนปกติเขาทำกันไม่ได้
ฉะนั้นให้เรารู้จักฝืนตนเองบ้าง
อย่ายอมปล่อยตัวปล่อยใจไปตามกิเลสอย่างเดียว"

หลวงพ่อสุธรรม สุธมฺโม








"คนเรานั้นโดยมาก​กายกับใจ
มันไม่ค่อยจะตรงกัน
บางคนทำทาน แต่ใจก็ยังโลภอยู่
เช่นคนที่ทำทาน เพราะปรารถนา
อยากร่ำรวยเป็นเศรษฐี
ทำบาทเดียว จะขอแลกเอาตั้งหมื่น
ตั้งแสนก็มี​ บางคนรักษาศีล แต่ใจ
ก็ยังโกรธเกลียดพยาบาท
อิจฉาริษยาคนนั้น คนนี้อยู่
บางคนนั่งสมาธิภาวนา เพราะ
อยากไปเกิดเป็นคนรูปสวย รูปงามก็มี
บางคนก็อยากไปเกิด..
เป็นเทวดานางฟ้าอยู่บนสวรรค์
บางคนก็อยากจะเป็นนั่น เป็นนี่
ล้วนแต่ต้องการสิ่งตอบแทนทั้งนั้น
บุญกุศลอย่างนี้ ก็ยังใช้ไม่ได้.. "

#ท่านพ่อลี_ธมฺมธโร











...การปฏิบัติธรรม
ก็เพื่อเปลี่ยนสัญญาเดิม ที่มักจะ
มองไปในทาง.."สมมุติ"

.มองว่าเป็นคนนั้นคนนี้
เป็นเพื่อนเป็นศัตรู
"ถ้ามองทางธรรมะ
ก็จะเห็นว่าเป็นดินน้ำลมไฟ"
เป็นอาการ ๓๒ เกิดแก่เจ็บตาย
มาแล้วเดี๋ยวก็ไป .
.........................................
จุลธรรมนำใจ 29 กัณฑ์ 441
ธรรมะบนเขา 30/6/2555
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี










“ ชีวิตของฆราวาสเต็มไปด้วยทุกข์โทษ
ต่างๆ นานา
แต่คนส่วนมากก็ยังมองไม่เห็นตามสภาวะ
ตามความเป็นจริง
ที่เป็นดังนั้นก็เพราะอำนาจของตัวโมหะ
เข้าไปปิดบังห่อหุ้มตัวปัญญาเอาไว้
ทำให้ลุ่มหลงเพลิดเพลินไปตามอารมณ์
ต่างๆ จนลืมตัวลืมตาย.. “

#หลวงปู่มั่น_ภูริทัตโต







ถ้าอยากทุกข์. ก็ยึดไว้. ไม่อยากทุกข์. ก็วางไว้.

หลวงปู่คูณ สิริจันโท








#ให้สร้างความดีงามเสียแต่วันนี้

เราอย่าไปหวังการอุทิศส่วนกุศลจากญาติ ยิ่งไปกว่าหวังความดีงามจากตัวเรา ที่ทำเพื่อเรา

ชาตินี้เป็นชาติที่เลิศแล้ว เกิดในแดนมนุษย์ให้รีบเพียรปฏิบัติ พระพุทธองค์สอนบุญคือบุญ บาปคือบาป ตกนรกได้จริงๆ ศาสนานี้เป็นศาสนาที่แม่นยำมาก ไม่มีผิดเพี้ยน

พระพุทธเจ้าตรัสไว้ชอบแล้ว ไม่มีเพิ่มเติม ให้พากันจดจำและพากันปฏิบัติ ยึดหลักพุทธศาสนาไว้ให้ดีก็แล้วกัน


-สิ่งที่ยึดถือได้คือ พุทโธ ธัมโม สังโฆ-

ผู้ใดถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์แล้ว ผู้นั้นเป็นผู้ที่จะหลุดพ้นจากทุกข์ได้โดยลำดับ

การจะพึ่งที่นั่นที่นี่ว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์วิเศษ ไม่ใช่สิ่งที่พึ่งพิงได้ เป็นสิ่งเหลวไหลทั้งนั้น ไม่ถูก

ขอให้ท่านทั้งหลายยึดพุทโธ คือพระพุทธเจ้า เป็นศาสดาองค์เอก ธัมโม คือธรรมชั้นเอก สังโฆ คือสงฆ์สาวกผู้บริสุทธิ์แล้วเป็นชั้นเอก ไว้เป็นหลักของใจ เป็นสิ่งมงคลของชีวิต

-การรักษาสิ่งอื่นใดไม่ยากเท่ากับรักษาใจ-

รักษาใจยากที่สุด มันดีด มันดิ้น เหมือนช้างที่ไม่ฟังเสียงเจ้าของ อีกซ้ำจะฆ่าเจ้าของด้วยซ้ำไป เวลามันตกมัน โหดร้ายที่สุด มันไม่ได้ถือว่าเราเป็นเจ้าของ แต่มันถือว่าเราเป็นข้าศึกของมัน

เราอย่าไปชะล่าใจกับความโลภ เห็นไหม คนที่โลภมาก ก็เจอกรรมปัจจุบัน ดูสิมีความสุขไหม เวลาตายแล้ว ไม่รู้ว่าจะไปอยู่เมืองผีไหน เมืองผีไหนเขาก็รังเกียจ เขาจะไม่ให้อยู่เมืองผีนั้นๆ สุดท้ายก็ตกนรก..

พระธรรมเทศนาโดย
#พระธรรมวิสุทธิมงคล(#หลวงตามหาบัว #ญาณสมฺปนฺโน)
วัดเกษรศีลคุณ (วัดป่าบ้านตาด) จ.อุดรธานี
(พ.ศ. ๒๔๕๖ - ๒๕๕๔)









#หลวงปู่น้อยท่านว่าท่านอยู่กับหลวงตาตั้งแต่เป็นเณรจนบวชเป็นพระเป็นเวลาทั้งสิ้น6ปี #แล้วท่านก็ไปอยู่กับหลวงปู่ขาว

หลวงปู่คำพองท่านเล่าถึงเรื่องความตายไว้อย่างน่าฟังว่า

"ไม่มีใครรู้ว่าความตายจะมาถึงตัวเมื่อไหร่ คนแก่เจ็บออดๆ แอดๆ กับคนหนุ่มคนสาว คนหนุ่มสาว อาจจะตายก่อนก็ได้ ไม่มีใครรู้"

ท่านยังเล่าเรื่องสมัยที่ท่านอยู่กับหลวงปู่ขาว อนาลโย ว่า "สมัยนั้นหลวงปู่ขาว
ท่านแก่มากแล้ว นอนอยู่แต่บนเตียงอาจารย์วัน อาจารย์จวน มาเยี่ยมท่านก็ขอให้ท่านอยู่เป็นมิ่งขวัญ ของลูกหลาน นานๆ หลวงปู่ขาวท่านก็บอกว่า "แล้วแต่ว่าเค้าจะให้อยู่ถึงเมื่อไหร่นะ" "

ท่านนิ่งซักพักมองหน้าลูกหลานในห้องแล้วว่า..

"แต่ปรากฎว่า ท่านอาจารย์วัน ท่านอาจารย์จวน ท่านเสียเพราะเครื่องบินตก ท่านเสียก่อนหลวงปู่ขาวเสียอีก นี่เห็นไหมความตายมันไม่แน่ไม่นอนเพราะฉะนั้นต้องพากันปฏิบัติให้มาก"

หลวงปู่ท่านสอนว่า " ไหว้พระสวดมนต์ นั่งสมาธิ ถือศีล เอาให้ครบ วันนี้ไม่ครบ
ถือศีลได้บางข้อ เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ตั้งใจใหม่เอาให้ครบ วันนี้ถือได้สามข้อ พรุ่งนี้ได้สี่ข้อ เมื่อรืนก็ได้แล้วครบห้าข้อเลย หรือตั้งใจถือเป็นเวลาก็ได้นะ เช่นตั้งใจว่าฉันจะรักษาศีลสามชั่วโมงต่อจากนี้ ฉันจะไม่ฆ่ายุง จากสามชั่วโมง เป็นห้าชั่วโมง เป็นสิบชั่วโมงเดี๋ยวก็เป็นวัน"

" ไม่มีใครรู้นะว่าจะตายเมื่อไหร่ ร่างกายก็ผุพัง ตายไปก็ออกจากร่างนี้ไปนะ จิตก็ย้ายไปอยู่ร่างใหม่ ก่อนจะออกก็ต้องสั่งสมบุญ เหมือนกับหาเงินไว้เยอะๆ จะได้บ้านใหม่สวยๆ"

#หลวงปู่คำพอง (น้อย) #ปัญญาวุโธ







#คนเราชอบยุ่ง #เรื่องที่ไม่ยุ่งทำไมไม่ทำ

ดูลมหายใจเข้าออก ได้ซื้อตรงไหน อยากให้ดุด่ากิเลสอยู่ในหัวใจบ้าง..

เวลาทานอาหาร ไม่เห็นบอกว่าปีหน้าชาติหน้าค่อยทาน แต่เวลาทำบุญ(ทำสมาธิ)ให้อาหารใจ ไปหาแต่นิพพานะปัจจะโยโหตุ อะนาคะเตกาเล

ทำอะไรนิดๆหน่อย นิพพานะปัจจะโยโหตุ อะนาคเตกาเล ปรารถนาเอาอนาคตโน้น.. อนาคตไม่แน่นอน.. พระพุทธเจ้าให้ดูปัจจุบัน ให้รีบทำปัจจุบัน ให้เห็นปัจจุบัน..

โอวาทธรรมคำสอน
#หลวงปู่ทองอินทร์ #กตปุญฺโญ









#การเจริญสมาธิภาวนาแต่ละครั้งจะได้บารมีหลายอย่าง

เราเจริญอานาปานสติแรกๆ จิตไม่สงบก็ไม่เป็นไร หลวงพ่อ(ชา) ปลอบใจลูกศิษย์ใหม่อยู่เสมอว่า นั่งสมาธิแล้วจิตสงบเหมือนทานอาหารที่อร่อย

นั่งสมาธิภาวนาจิตไม่สงบเหมือนกับทานข้าวเปล่า แต่ทานข้าวเปล่าก็ยังดีกว่าไม่ทานอะไรเลย อย่างน้อยเราก็ได้เจริญขันติบารมี เนกขัมมบารมีหรืออธิษฐานบารมี

บารมีนี้มีหลายข้อ ตั้งใจนั่งสมาธิ ก็เป็นการเจริญด้วยสัจจะอธิษฐานบารมี เช่น นั่งสมาธิตั้งใจว่าเราจะไม่เปลี่ยนอิริยาบถตลอด ๔๕ นาที หรือตั้งใจว่าเราจะนั่งทุกวันไม่ต่ำกว่า ๒๐ นาทีหรือ ๓๐ นาที

ถึงแม้ว่าในขณะที่เรานั่งนิ่ง เราไม่สงบเย็น เราก็ได้ขั้นของบารมี อดทนต่อความคิดปรุงแต่ง จิตเมื่อวอกแวกแส่ส่ายไปหาอารมณ์ภายนอกก็ให้ดึงกลับมา

อารมณ์ทั้งหลายที่เราชอบคิดชอบปรุงแต่งนั้นเป็นโลก ดึงกลับมาที่ลมหายใจเข้าลมหายใจออก คือการสร้างเนกขัมมบารมี เพราะคำว่าพุทโธ นั่นแหละคือธรรม

การดึงจิตออกจากโลกกลับมาสู่ธรรม เป็นเนกขัมมบารมี เป็นเหมือนการออกบวช ให้พวกเราหาโอกาสที่จะออกบวชทุกวัน คือ ออกจากความโลภ ความโกรธ ความหลง จิตเป็นกุศล ปล่อยวางสิ่งที่ไม่ดีไม่งามนั้น เป็นการออกบวช

คัดตัดตอนจากเรื่อง เส้นทาง โดย #พระอาจารย์ชยสาโร


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 2 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO