นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน พฤหัสฯ. 25 เม.ย. 2024 5:01 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: คุณงามความดี
โพสต์โพสต์แล้ว: ศุกร์ 29 ม.ค. 2021 5:38 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4539
ของในโลกไม่มีอะไรที่จะประเสริฐกว่าคำพูดว่า
"พุทโธ"
อะไรที่จะเสมอเหมือนหรือประเสริฐสุดยิ่งกว่าคุณธรรมของพระพุทธเจ้าไม่มี

หลวงปู่แบน ธนากโร









"..เชื้อที่จะพาให้จิต ไปเกิดไปตายในภพ
ชาติน้อยใหญ่นั้น ก็คือตัวรู้หรือผู้รู้ ที่อยู่กับ
จิต กลมกลืนเป็นอันเดียวกัน อยู่นั้นแล​ เมื่อ
ผู้รู้ถูกถอนพรวด ขึ้นมาจากจิตแล้วเหลือแต่ วิมุตติจิตการเกิดจึงยุติขาดสะบั้นกันลงไป

ผู้รู้นี้ก็เป็นสักแต่ว่าเรือนร่างของจิต แต่
ไม่ใช่จิต​ ร่างกาย นี้เป็น สักแต่ว่าเรือนร่าง
เป็นที่อาศัยของผู้รู้หรือความรู้ นี้เท่านั้น

เมื่อจิตขาดจากความสืบต่อกับสิ่งภายนอก หรือขันธ์แล้วจิตจึงเป็นอิสระ​ นอกเหนือไป
จากกฎ อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา อยู่ตามความ
จริงของตน ไม่ไปเกี่ยวข้องกับกฎของ สมมุติเพราะเป็นวิมุตติ แล้ว นั่นคือผู้พ้นภัย พ้นโลกพ้นตรงนี้

ท่านจึงว่า ธมฺโม ปทีโปความสว่างกระจ่าง
แจ้งในจิตที่ปราศจากแล้วจากกิเลส เป็น
ความสว่างกระจ่างแจ้ง ไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือนในโลกทั้ง ๓ นี้.."

#หลวงตามหาพระบัว_ญาณสัมปันโน











เหตุว่าผู้ที่ไม่มีศีลนั้น ยังห่างไกลจากพระนิพพานมาก
ผู้ที่มีศีลชื่อว่าใกล้ต่อพระนิพพานอยู่แล้ว ถึงจะไม่รู้อะไร
รู้แต่เพียงศีลเท่านั้น ก็ยังดีกว่าผู้ไม่มีศีลนั้นอยู่นั่นเอง
.
หลวงปู่ลี กุสลธโร วัดป่าภูผาแดง อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี
คัดจากหนังสือ “ธรรมลี เศรษฐีธรรม” หลวงปู่ลี กุสลธโร
พระอริยเจ้าผู้เป็นดั่งเศรษฐีธรรม โดยพระมหาธีรนาถ อคฺคธีโร









เกิดมานี้กี่ปีแล้ว ได้ทดสอบเจ้าของดูบ้างหรือเปล่า

"..ความดีความชั่วมีเท่าไร ความดีความชั่วมันติดอยู่ที่ใจนะ ตายแล้วสิ่งเหล่านี้ทิ้งไปเลย แต่ดีกับชั่วไม่ไปนะ ติดอยู่ในใจ ใครสร้างชั่วไว้แล้วพันกันลงไปเลย อย่าอวดเก่งกับพระพุทธเจ้านะ..

มันจะไม่มีจริง ๆ นะ ไม่ได้พูดเล่น ๆ เวลานี้ศาสนา เราถืออะไรเป็นศาสนาเวลานี้นะ ถือพระถือเณรเป็นศาสนา เอาวัดวาอาวาสเป็นศาสนาอย่างนั้นเหรอ ถ้าพระเณรเป็นธรรม เราก็เป็นพระได้! พระแปลว่าอะไร แปลว่า ประเสริฐ.."

โอวาทธรรม หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน











การอบรมจิตใจยิ่งเป็นสิ่งสำคัญมากในตัวเรา เวลานี้เรามีความแน่ใจหรือยังว่า เราได้หลักเป็นที่พึงพอใจ หรือเริ่มจะได้หลักเป็นที่พึงพอใจบ้างแล้ว ไม่เดือดร้อนวุ่นวายเมื่อคิดถึงเรื่องอนาคต ?
.
นับตั้งแต่ขณะต่อไปนี้จนกระทั่งอวสานแห่งชีวิต และตลอดไปถึงภพหน้า ชาติหน้า เราเป็นที่แน่ใจได้แล้วหรือยัง ?
.
พระพุทธเจ้าท่านไม่สอนให้คนโง่และนอนใจ อยู่ไปอย่างไม่คิด นักปฏิบัติธรรมต้องคิดต้องพิจารณาเสมอเรื่องความเป็นมาว่า อายุเราเป็นมาผ่านมาแล้วเท่าไร เมื่อลบแล้วมีอะไรบ้างที่เหลืออยู่ ต่อไปจะหาอะไรมาบวกมาเพิ่มขึ้นในสิ่งที่เราต้องการ หรือจะมีแต่เครื่องหมายลบ(-) ไปเรื่อย ๆ ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่า “ขาดทุน”!
.
เราทุกคนเกิดมาไม่ต้องการ “ความขาดทุน” การค้าขายขาดทุนย่อมไม่ดี โลกไม่ปรารถนากัน อะไร ๆ ก็ตามขึ้นชื่อว่า “ขาดทุน” ขาดแล้วขาดเล่า ขาดไม่หยุดไม่ถอยก็ล่มจมไปได้
.
เราถ้าขาดทุนภายในใจ ขาดทุนจากคุณธรรมที่พึงได้พึงถึง มีแต่สิ่งที่ไม่ดีคือกิเลส เหยียบย่ำทำลายอยู่ตลอดมา หาเวลาเอาชนะมันไม่ได้สักที ก็ย่อมล่มจมได้เช่นเดียวกับสมบัติภายนอก เพราะฉะนั้นจึงควรสังเกตสอดรู้เรื่องของตัวตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ด้วยการใคร่ครวญโดยทางสติปัญญา
.
เฉพาะอย่างยิ่งจิตตภาวนาเป็นเรื่องสำคัญมาก ที่จะนำมาทดสอบตนให้เห็นประจักษ์ ไม่มีความรู้ใดที่จะแหลมคมยิ่งกว่าความรู้ที่เกิดขึ้นจากด้านจิตตภาวนา จะสอดแทรกไปหมดบรรดาความจริงที่มีอยู่ทั่วสรรพางค์กายและจิตใจ ตลอดสิ่งเกี่ยวข้องทั่วไป ไม่ว่าดี ชั่ว หยาบ ละเอียด จะนอกเหนือปัญญาไปไม่ได้
.
หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
เทศน์โปรดคุณเพาพงา วรรธนะกุล ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๖ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๑๙
"ความตายเป็นธรรมดา"











ความสุขในสมาธิมันก็สุขจริงๆ จะเอาอะไรมาเปรียบไม่ได้ แต่ถ้าติดอยู่แค่นั้น มันก็ได้แค่นั้นแหละ ยังไม่เกิดปัญญาอริยมรรคที่จะตัดภพชาติ ตัณหา อุปาทานได้ ให้ละสุขนั้นเสียก่อน แล้วพิจารณาขันธ์ห้าให้แจ่มแจ้งต่อไป

หลวงปู่ดูลย์ อตุโล









การปฏิบัติพระกรรมฐานนั้น มีคนอยู่ 2 ประเภท คือ
1.ประเภทที่ไม่เคยได้รับการศึกษาด้านพระปริยัติ แม้ทำสมถกรรมฐาน จิตใจก็จะสงบได้รวดเร็วและก็เสียเร็วเหมือนกัน ถ้าไม่ฝึกฝนหรือลุ่มหลง ประเภทนี้จะต้องอยู่ในสำนักของครูบาอาจารย์นาน จึงจะพอเป็นไปได้ เพราะการอยู่ใกล้ครูบาอาจารย์จะมีความสำรวมระวังอยู่ในข้อวัตร กฎข้อบังคับ จะเหลาะแหละไม่ได้ มีการฝึกฝนนั่งสมาธิทำภาวนา ได้เวลาทำวัตรสวดมนต์ ปรนนิบัติสอบถามปัญหาธรรมอยู่บ่อยๆ 5 พรรษา 6 พรรษา จึงจะเอาตัวรอดได้

2.อีกประเภทหนึ่งได้รับการศึกษามาดี เช่น พวกท่านมหานี่แหละ แม้การฝึกทำสมาธินั้นยาก ใจไม่ค่อยจะสงบ ต้องใช้วิปัสนาไปก่อน คือ ปัญญาอบรมสมาธิ พิจารณาทบทวนบ่อยๆ ชอบใจธรรมบทใด พระสูตรบทใด ก็ให้น้อมมาพิจารณาเสมอๆ ทำอยู่อย่างนั้นบ่อยๆ จนกว่าจิตจะยอมรับ อุบายนี้ก็เหมือนคนตัดต้นไม้ ตัดด้วยขวาน จามลงไปในที่เก่านั่นแหละ นานๆ เข้าไม้มันทะลุเอง เช่น คนหุงข้าว นึ่งข้าว ดูแต่ไฟอย่าให้มันดับ นี่เป็นหน้าที่ของเรา ส่วนหน้าที่ของไฟทำข้าวให้สุกเอง การปฏิบัติพระกรรมฐานก็เช่นเดียวกัน ต้องทำจริงๆ จะทำเล่นๆ ไม่ได้ คนเดี๋ยวนี้มันไม่ค่อยจะทำจริง เลยไม่ได้ของจริง มันชอบทำเป็นเล่นไปหมด...

หลวงปู่มั่น​ ภูริทัตโต












...ไอ้พวกที่ไปว่าคนอื่นขี้ขลาด
ก็ไอ้ตัวเองก็โง่แหละ เข้าใจไหม
เพราะว่าไม่รู้จักยอม
ไม่รู้จักหยุด ..ไม่รู้จักทำใจให้เย็น

.คนที่ไปว่าคนที่เขายอมนี้โง่
“คนที่เขายอมนี้เขาไม่โง่”
เขาฉลาด เขาไม่ต้องการชนะใคร

.”เขาต้องการชนะกิเลสของเขา”
เพราะคนอื่นไม่ได้มาทำให้เขาทุกข์
ตัวที่ทำให้เขาทุกข์ก็คือ...
“กิเลสของเขา” ..เขาจึงต้องยอม

.เพื่อจะได้หยุดตัวโกรธในใจเขา
เมื่อหยุดตัวโกรธในใจเขาแล้ว
ใจเขาก็เย็น หายทุกข์...

.นี่เป้าหมายของคนฉลาด
ไม่ได้อยู่ที่การไปเอาแพ้เอาชนะใคร
แต่เป้าหมายอยู่ที่..
“การเอาแพ้เอาชนะกิเลส”
ตัวที่ทำให้ทุกข์ เท่านั้นเอง.

.........................................
สนทนาธรรมบนเขา
วันที่ ๒ มีนาคม ๒๕๖๑
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี








" จำไว้นะ ทุกอย่างบนโลก
ล้วนเกิดขึ้นตามวาสนาบารมี
ที่เคยบำเพ็ญมา หาใช่
สิ่งที่มันปรุงแต่งขึ้นมาเองไม่

บนโลกนี้ สิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ว่า
จะเป็นความผิดหวังก็ดี
สมหวังก็ดี การพลัดพรากก็ดี
การไม่ได้ในสิ่งที่ตนปรารถนาก็ดี

ทุกอย่างเกิดขึ้นตามกระแส
แห่งกรรม ที่ผู้รับนั้นได้เคย
กระทำไว้ในกาลหนหลัง
ไม่มีสิ่งใดที่จะมาหักล้างกันได้

จะไปบนบานที่ใด ก็ตามแต่
ถ้าสิ่งที่เรากำลังเจอนั้น
เป็นวิบากของกรรมแล้ว
เทพองค์ใดก็ไม่สามารถช่วยได้

สิ่งที่ช่วยได้ คือการมีสติ
และเผชิญหน้ากับมัน
การทำกุศลให้ถึงพร้อม
นี่แหละ วิธีการรับมือ
กับวิบากกระแสแห่งกรรม "

โอวาทธรรม
หลวงปู่สุธัมม์ ธัมปาโล








"..คำว่า "หิริ" คือ
"ความละอายใจ"
อายมิใช่อายอย่างธรรมดา
ที่หนุ่มสาวอายกัน

มันอายซึ้งเข้าถึงใจจริง ๆ
ไม่ใช่อายผิวเผินภายนอก
หนุ่มสาวมักอาย
รูปร่างภายนอก

เราคิดจะทำสิ่งใดที่ชั่ว
มันละอายขึ้นมาในใจ
เพียงแต่คิดเท่านั้น
คนอื่นยังไม่เห็นเลย
มันเกิดความละอายขึ้นมาแล้ว

คิดทำชั่ว คืออย่างไร
สิ่งใดที่เป็นไปเพื่อ
ความเลวทรามไม่ถูกต้อง
ทางธรรมคำสอน
ของพระพุทธเจ้า
อันนั้นเป็นความเลว

ความละอายนี่แหละ
เป็นต้นเหตุให้ทำความดี
ความดีทั้งหมดเกิดจาก
ความละอายนี้ทั้งนั้น
ความไม่ดีเกิดจาก
ความไม่ละอายนั่นเอง

ศีล ๕ ข้อ มีความละอาย
เป็นเบื้องต้น เป็นสมุฏฐาน
หากว่ามีความละอาย
ในใจแล้ว ไม่กล้าทำ
ศีลข้อนั้นก็งดเว้นได้หมด.."

โอวาทธรรม
หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี









#ลองเอาอุบายนี้ไปสอนใจเราก่อนนอน

นั่งกำหนดเอา ร่างกาย ปู่ย่า ตายาย
ญาติพี่น้องของเรา ที่ตายแล้ว มานอนเรียงกัน รวมทั้งตัวเราด้วย กำหนดดู ร่างกายแต่ละคน ดูไป พุทโธไป

ทำไมทุกคนต้องตาย ไม่เว้นแม้แต่ตัวเรา หรือแม้กระทั่งคนที่ยังมีชีวิตอยู่ ก็กำหนดให้เขามานอนเรียงต่อๆไป

เพราะสุดท้าย เขาเหล่านั้น ที่ยังเดินได้ ยิ้มได้ กินได้ หัวเราะได้ สักวันเขาก็จะมีสภาพ ไม่ต่างจากทุกๆคน ทุกๆศพ ที่มีตายก่อน เพียงแต่คนๆนั้น เดินทางก่อนเราเท่านั้นเอง

มันเป็นเรื่องที่ต้องเกิดกับทุกๆคน ไม่มีใครหลีกหนีได้

คุณแม่จันดี #โลหิตดี











ให้คิดพุทโธ. แทนความคิดอย่างอื่น. เพราะอำนาจของพุทโธ. แม้แต่เทวดาพระอินทร์พระพรหม. ท่านก็อนุโมทนา

หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน







#ไม่อยากแต่งงานมีครอบครัว. #ต้องภาวนาอย่างไรจึงจะพ้นจากชีวิตคู่?

ท่านบอกว่า.. อายุยังน้อย กลัวว่าผู้ชายจะเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่นะ แต่ถ้าตั้งใจจริง ก็จะรอดบ่วงอยู่

บ่วงของโลก บ่วงรัก บ่วงชัง มันคล้องมันรัดได้แน่นเหนียวมาก แต่ถ้ารู้โทษของมัน และไม่มีกรรมจริงๆ ก็จะทิ้งบ่วงของโลกได้

แต่อันนั้นมันเป็นเรื่องของอนาคต. ไม่ต้องไปคิดถึงมัน ไม่ต้องกลัวมัน ทำปัจจุบันของเราให้ดี อนาคตก็ได้อย่างที่เราหวัง

ให้ภาวนา ค้นคว้าในร่างกาย ใจก็ระลึกพุทโธไป กำหนดดูในร่างกาย มีอะไรน่าดู สวยงาม น่าหลงใหล น่ายึดน่าเกี่ยว น่าทะนุถนอม

ค้นดู ตามดูทุกส่วน กลิ่นของส่วนต่างๆ มีกลิ่น มีสี มีรูป น่าหลงใหลมากแค่ไหน พาจิต ดู สติ กำกับ ให้เห็นความจริง

ถ้าจิตเห็นความจริง ของจริง ในร่างกายของตนแล้ว จิตจะยอมรับ เห็นกายเรา ก็เห็นกายคนอื่น สัตว์อื่นเหมือนกัน

ทีนี้หนังบางๆ ที่หุ้มห่ออยู่ ในกาย ของชาย ของหญิง ก็ทำอะไรเราไม่ได้ เพราะเรารู้ สภาพความเป็นจริง ที่เขาเป็นอยู่

ถ้าเห็นตัวเราเอง ก็ไม่ต้องไปขอให้ใครช่วย ปล่อยให้จิตเขาเลือกเอง

คุณแม่จันดี #โลหิตดี











#ใครปฏิบัติสมาธิไม่ได้ญาณไม่ได้ฌานขั้นใด #แต่ว่ามีสติรู้จิตตลอดเวลา #มีศีลบริสุทธิ์ใช้การได้..

อาตมาไม่อยากจะให้ใครคุยนักหนาเรื่องภูมิจิตภูมิใจ ภูมิสมาธิ

คนที่ไปท่องวิชาไสยศาสตร์ ทำสมาธิ นะ มะ พะ ทะ .. นะ มะ พะ ทะ .. ตัวสั่นย๊อกๆ มองเห็นสวรรค์นรกได้ วิเศษวิโส

-แต่แล้วมันก็ไม่มีประโยชน์อะไร.. ถ้าศีลไม่บริสุทธิ์-

#หลวงปู่พุธ #ฐานิโย








ให้ตั้งจิตของเรา.
เหมือนปลายเข็ม.

หลวงปู่ดุลย์ อตุโล








เป็นผู้มีวิหารธรรมอยู่ในใจ

ผู้ปฏิบัติธรรมน่ะ แม้ว่าใครจะทำอะไรไม่พออกพอใจ เราก็ไม่ถือ ละทิ้งให้หมดไปเลย ไอ้ความไม่พอใจนั่นเป็นกิเลส

เรื่องที่เขาพูดมานั้นเมื่อจิตเราไม่หวั่นไหว ไม่ยึดถือซะแล้ว มันก็ดับไป มันไม่ใช่มีตัวมีตน เหมือนหอกดาบมาทิ่มแทงเอาอย่างนั้น หามิได้เลย

อืม ต้องให้เข้าใจ ต้องเรียนรู้ รู้ "กฎธรรมดา"เหล่านี้นะ ไอ้ความชั่วมันก็เป็นกฏธรรมดาอย่างหนึ่ง

ถ้าตนมีความชั่วอย่างนั้นอยู่ในใจ ตนก็ปล่อยออกไปกระทบกระทั่งผู้อื่น ถ้าผู้อื่นมีความชั่วอย่างนั้นอยู่ในใจ เขาก็ปล่อยออกไปกระทบกระทั่งผู้อื่น มันก็เป็นอยู่อย่างนี้

เพราะฉะนั้นพระพุทธเจ้าจึงได้ทรงสอนให้รู้จักให้อภัยต่อกัน เพราะความพลั้งเผลอมันมี บุคคลละกิเลสยังไม่หมด เมื่อความพลั้งเผลอของใครเกิดขึ้นแล้ว เราก็ต้องระลึกเสมอ..อ่อ ผู้นี้เผลอแล้ว อย่างนี้เราก็ไม่ถือสา เราก็นิ่งเสียอย่างนี้นะ

นิ่งทางภายนอกด้วย ควบคุมจิตให้นิ่งอยู่ภายในด้วย ไม่ให้จิตมันหวั่นไหว แบบนิ่งแต่ภายนอก แต่ภายในจิตใจยังหวั่นไหวอยู่ มันก็ใช้ไม่ได้อีกเหมือนกัน

เหตุนั้นต้องให้มันนิ่งภายใน แล้วก็มันนิ่งภายนอกอีกด้วยกัน เช่นนี้มันจึงไม่กำเริบขึ้นมาอีก กิเลสเหล่านั้นน่ะ มันเป็นอย่างนั้น

นี่ล่ะขอให้พากันศึกษาให้เข้าใจ อย่าไปศึกษาแต่เรื่องศีล เอ้าตนมีศีลอยู่นี้ไม่ล่วงสิกขาบทนั้น เท่านี้แล้วไม่หวนนึกถึงธรรมะประกอบกันนี่ไม่ได้เลย เมื่อไม่มีธรรมะอยู่ในใจแล้วหน่อยนึงมันก็ทำลายศีลอีกแล้ว มันเป็นเช่นนั้น

เพราะศีลธรรมมันจึงว่าได้เป็นคู่กันนั่นแหละ เป็นคู่กัน ท่านจึงเรียกว่า เป็นผู้มี “วิหารธรรม” อยู่ในใจ อืม เป็นอย่างนั้น

--------------------
หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
ส่วนหนึ่งจากพระธรรมเทศนาหัวข้อ
"สติใคร่ครวญเสียก่อนจึงค่อยพูด ปี พ.ศ. ๒๕๓๖"











การไม่กังวล. การไม่ยึดถือ. นั่นแหละคือวิหารธรรมของนักปฏิบัติ

หลวงปู่ดูลย์ อตุโล









#อาการของจิตนั้นเป็นได้ทั้งกิเลสเป็นได้ทั้งธรรมะ #ต้องระมัดระวัง

การจะปล่อยวางได้ การจะละคลายความยึดถือ การจะหายจากความยึดมั่นสำคัญหมาย ต้องทำจิตให้สงบเสียก่อน เพราะอาศัยความสงบของจิตนั้นเอง วิปัสสนาญาณจึงจะเกิดได้.


อาการของจิตนั้น เป็นได้ทั้งกิเลส เป็นได้ทั้งธรรมะ ต้องระมัดระวังอย่า หลงจิต อย่าหลงตน.


อยู่เฉย ๆ มันไม่ได้ประโยชน์อันใดดอก มันต้องพิจารณาฝึกหัดใช้ปัญญา ใช้ปัญญาพิจารณา อย่าอยู่เฉย ๆ

เราเกิดมาในกามภพนี้ จึงได้สุขจากกาม จึงได้ทุกข์จากกาม ความรัก ความชังความยินดี ความยินร้ายจึงเป็นตัวกาม , เป็นตัวตัณหา แม้สุขก็สุขอยู่กับทุกข์ จึงเป็นทุกข์ล้วน ๆ ในชีวิตของเรา..

วาทะธรรม ของ.. #หลวงปู่จาม #มหาปุญโญ #วัดป่าวิเวกวัฒนาราม ในพรรษา ปี 2545











#ถึงจะหาเงินได้กองเท่าภูเขาก็เถอะถ้าใจไม่มีธรรม

นี้เรื่องจิตใจก็ได้เท่านั้นแหละ. สมบัติก็รั่วไหลไปหมด ความกระทบกระเทือนจิตใจ

ให้พากันตั้งใจภาวนานะ
ถ้าอยากจะเอาตัวเองให้พ้นทุกข์

#หลวงปู่ลี #กุสลธโร









นอนอยู่ในไฟก็ยังไม่พ้นทุกข์ #ไฟโลภไฟโกรธไฟหลง

เพราะนอนอยู่ในน้ำเหมือนกระบืออีก
เหมือนกัน น้ำราคะ น้ำโทสะ น้ำโมหะ

ลมพัดอยู่ไม่มีกลางวันกลางคืนอีกเหมือนกัน ลมโลภ ลมโกรธ ลมหลง อารมณ์ของลมปาก อารมณ์


นอนอยู่ในดิน ไม่มีกลางวันกลางคืน ถึงจะทำกุฏิอยู่ก็นอนอยู่ในดิน ก็เพราะธาตุดินเป็นตัวอยู่ ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เอ็น กระดูก

นั่นก็นอนอยู่ในธาตุดิน และนอนอยู่ในธาตุน้ำอีกด้วย ธาตุไฟอีกด้วย ธาตุลมอีกด้วย


ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกไม่มีแก่นสาร ก็มีแก่นสารแต่ทางที่ไม่เที่ยง เป็นทุกข์เท่านั้น

#หลวงปู่หล้า #เขมปัตโต










"ร่างกายนี่มันไม่เที่ยง เราจะบำรุงอย่างไร
อย่างไรมันก็ต้องทรุดโทรมอยู่นั่นแหละ
ส่วนจิตใจนี่ เราบำรุงด้วยบุญด้วยกุศล
ด้วยคุณธรรมอันดีอันงาม ย่อมมีความสุข
ความสงบ เบิกบานทั้งกลางวัน และกลางคืน"

หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ








"วัตถุนิยมเป็นของดี ท่านชมว่าดีอยู่
ถ้าได้มาในทางที่ชอบ ได้มาในทางที่ไม่ชอบ
มันก็ไม่เป็นมงคล เอามาทำบุญก็ได้น้อย
ไม่เหมือนได้มาในทางที่ชอบ

เงินเลข เงินผา เงินเบอร์ เงินทุจริต
ทรัพย์สินที่เป็นสังหาริมทรัพย์ก็ดี
อสังหาริมทรัพย์ก็ดี นำมาบริจาคทาน
ในสมณะในทางพระพุทธศาสนานั้น
อานิสงส์ไม่มาก มีอานิสงส์นิดเดียว
เพราะเป็นของไม่บริสุทธิ์"

หลวงปู่หล้า เขมปตฺโต








"เรามาอาศัยกายนี้ทำคุณงามความดี
ร่างกายนี้ไม่ได้อยู่กับเรานานเท่าไรนะ
มันคร่ำคร่าชราภาพไปเรื่อย
มันเดินตามทางมันไปอยู่แล้ว ห้ามมันไม่อยู่

มันไม่ใช่ตัว ไม่ใช่ตน ไม่ใช่เรา
ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล
มันเป็นสภาพสูญ ห้ามไม่อยู่

ดังนั้น จงรีบทำความเพียร
ให้อาสวะกิเลสมันสิ้นไปโดยเร็ว"

หลวงปู่ท่อน ญาณธโร


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 3 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO