นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน พฤหัสฯ. 25 เม.ย. 2024 1:03 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: สติปัฏฐาน
โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร 26 ม.ค. 2021 8:35 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4538
"ของดี ก็มีอยู่ด้วยกัน ทุกคนแล้ว จะไป
เอาของดี ที่ไหนอีก ของดีก็ต้องทำให้มัน
เกิด มันมีขึ้นในจิตใจของตน ความดีอันใด
ที่ยังไม่มี ก็ต้องเพียรพยายาม ทำให้เกิด
ให้มีขึ้น นี่แหละ ของดีมองให้มันเห็น หา
ให้มันเห็น ภายในตน ของตน นี่แหละ จึง
ใช้ได้ ถ้าไปมองหาแสวงหา ของดีภายนอกแล้ว ใช้ไม่ได้ ให้เอาของดี ของจริง คือ
ธรรมะปฏิบัติ ทำให้เกิดให้มีขึ้น เป็นที่พึ่ง
อันประเสริฐ..."

#โอวาทธรรม
#หลวงปู่แหวน_สุจิณฺโณ
วัดดอยแม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่
(พ.ศ. ๒๔๓๐ - ๒๕๒๘)











"คนเรามีทั้งส่วนดีและส่วนชั่ว คนที่ชั่วก็มีดี
อยู่บ้าง มิได้ชั่วไปเสียทั้งหมด ต้องมองดูเขา
ในแง่ดีบ้างเหมือนลูกไม้บนต้น ย่อมมีผลไม่เสมอกัน คนก็ไม่เสมอกันแต่ต้องทำใจของเราให้เสมอไว้ ใจเราบางครั้งก็ดี บางครั้งก็ไม่ดี ฉะนั้น จงทำใจของเราอย่าให้มีโกรธ โลภ หลง ใครทำได้ก็จะได้บรรลุผลตามสมควรแก่การปฏิบัติ..."
-------------
#พระธรรมคำสอน
#พระสุทธิธรรมรังสีคัมภีรเมธาจารย์
(ท่านพ่อลี ธมฺมธโร)
วัดอโศการาม อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ(พ.ศ. ๒๔๔๙ - ๒๕๐๔)










...อย่าทำบุญอย่างเดียว
ต้องรักษาศีลด้วย

.รักษาได้มากน้อยเท่าไหร่
ก็รักษาไป

แล้วก็ต้อง”ภาวนา”ด้วย
ไหว้พระสวดมนต์
นั่งสมาธิ เจริญวิปัสสนา

.ก็ทำไปตามกำลังของเรา
เท่าที่จะทำใด้.
....................................
จุลธรรมนำใจ
ธรรมับนเขา 9/10/2548
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี










#นิพพานคือผู้มีจิตที่ไม่ตาย

คำว่าไม่ตายคือ ไม่ตายไปกับราคะ โทสะ โมหะ ถึงแม้ว่าหลวงปู่ผู้เป็นพระอรหันต์จะดับขันธ์นิพพานไปแล้ว แต่พระจิตอันบริสุทธิ์จะยังไม่ตาย จะตายยังไง ก็เห็นๆ กันอยู่ ...

หลวงปู่ไมจะเล่าให้ฟัง เมื่อครั้งที่หลวงปู่ไมไปสร้างวัดป่าหนองช้างคาว ใหม่ๆ #หลวงปู่มั่นซึ่งเป็นพระอรหันต์ท่านก็มาเยี่ยมหลวงปู่อยู่บ่อยๆ ท่านนิพพานไปนานหลายปีตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๔๙๒ #พระอุปคุตท่านก็มาเยี่ยมหลวงปู่ ซึ่งท่านนิพพานไป ๒ พันกว่าปี และเมื่อครั้งที่หลวงปู่ไมเป็นเณรอายุ ๑๙ ปี มีพระอรหันต์ที่ยังมีชีวิตอยู่มาเยี่ยม พระอรหันต์องค์นั้นคือ หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ ...ตอนนั้นหลวงปู่ไมเป็นเณร นั่งภาวนาอยู่ในกุฏิ จิตใจสว่างไสวอยู่นั้น #เห็นหลวงปู่อ่อนเหาะมาโดยอากาศ มาสนทนาธรรม แก้ปัญหาธรรมให้เณรไมอยู่เป็นประจำ จึงทำให้เณรไมได้บรรลุธรรมขั้นสูงขึ้นเป็นลำดับ เณรไม เมื่อได้หลวงปู่อ่อนเป็นพ่อแม่ทางธรรมเพิ่มอีก จึงอยากจะตอบแทนบุญคุณ จึงได้ถามหลวงปู่อ่อนว่า "หลวงปู่ครับ หลวงปู่มาจากวัดไหนครับ?" หลวงปู่อ่อนก็ตอบว่า "มาจากวัดป่านิโครธาราม อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี ซึ่งห่างจากวัดของเณรไม ประมาณ ๑๐๐ กิโลเมตร"

...นี้แหละความอัศจรรย์ของการภาวนา ทั้งๆ ที่ไม่เคยเห็นหน้าตากันเลย ก็ได้เห็นกันในทิพย์จักษุ ได้เห็นทั้งพระอรหันต์ที่ยังมีชีวิตอยู่มาเยี่ยม และได้เห็นทั้งพระอรหันต์ที่นิพพานไปแล้วมาเยี่ยม ...คำว่านิพพานจะเรียกว่า "ผู้มีจิตที่ไม่ตาย" ก็ไม่ผิด

หลวงปู่ไม อินทสิริ
(เทศน์สอนพระเณร)










".."พระพุทธะ" ก็คือตัวผู้รู้
"ธัมมะ" คือคำสอน
ของพระพุทธเจ้า
"สังฆะ" ก็คือผู้ปฏิบัติ
ใครล่ะปฏิบัติ เราแหล่ะ
ตนของตนนี่แหละเป็นผู้ปฏิบัติ

ปฏิบัติทั้งในศีล ปฏิบัติทั้ง
ในธรรม มาปฏิบัติ มาทำตน
ของตนให้เป็นที่พึ่งของตน

เพราะฉะนั้น จึงได้ว่า
มาปฏิบัติทำตนของตน
ให้เป็นที่พึ่งของตน
แล้วทีนี่ ท่านว่า
"อัตตาหิ อัตตโน นาโถ"
ตนนั้นแลเป็นที่พึ่งของตน
"โกหิ นาโถ ปโรสิยา"
คนอื่นใครเล่าจะเป็นที่พึ่งได้นั่น "

โอวาทธรรม
หลวงปู่บุญมา คัมภีรธัมโม







“สิ่งใดที่มันล่วงมาแล้ว เลยมาแล้ว
เราไม่สามารถไปตัด ไปปลงมันได้อีกแล้ว
สิ่งที่เราทำไปนั้น ถ้ามันดีมัน ก็ดีไปแล้ว
ผ่านไปแล้ว พ้นไปแล้ว ถ้ามันชั่ว มันก็ชั่วไปแล้ว
ผ่านไปแล้ว เช่นกัน

อนาคตยังมาไม่ถึง สิ่งที่ยังไม่มาถึง
เราก็ยังไม่รู้เห็นว่ามันจะเป็นอย่างไร อย่างมาก
ก็เป็นแต่เพียงการคาดคะเนเอาเองว่า
ควรเป็นยังงั้น เป็นยังงี้ ซึ่งมันอาจจะเป็น
ไม่เป็นไปอย่างที่เราคาดคะเนก็ได้

ปัจจุบัน คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริง เราได้เห็นจริง
ได้สัมผัสจริง เพราะฉะนั้น ความดีต้องทำในปัจจุบัน
ทานก็ดี ศีลก็ดี ภาวนาก็ดี ต้องทำเสียในปัจจุบัน
ที่เรายังมีชีวิตอยู่ เราต้องการความดี ก็ต้องทำ
ให้เป็นความดีในปัจจุบันนี้ ต้องการความสุข
ต้องการความเจริญ ก็ต้องทำให้เป็นไปในปัจจุบันนี้”

หลวงปู่แหวน สุจิณโณ










"ต้องเน้นการหาความรู้
มากกว่าการให้ความเห็น
ต้องให้การแสดงความเห็นนั้น
ตั้งอยู่บนฐานของความรู้ที่มั่นคงที่สุด
เวลานี้ มีปัญหามากเหลือเกิน
คนชอบแสดงความเห็น
โดยไม่หาความรู้เลย"

สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต)








#การปฏิบัติที่ไม่ได้มรรคได้ผล

การปฏิบัติไม่ได้มรรค ไม่ได้ผลนั้น เราปฏิบัติไม่มีหลักไม่มีฐาน คือ ที่มั่นไม่ตรงต่อเส้นทางที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ คือมรรค 4 ผล 4 นิพพาน 1 ก่อนที่จะปฏิบัติก็ต้องตั้งฐาน คือที่ต่อสู้กันกับกิเลสให้มั่นคงดีเสียก่อน

คือมีมหาสติปัฏฐาน 4 เป็นผู้ควบคุมดูแล ไม่ให้ขาดสติ

-สติมีหน้าที่ตามดูจิต ไม่ให้ขาดระยะของการเคลื่อนไหวไปมาของจิต ให้รู้เห็นอยู่ทุกขณะไม่ให้ขาดสติ-

เมื่อจิตดูรู้เห็นอะไรแล้ว สติต้องจดจำเอาไว้ให้ได้หมด ไม่ให้เผลอ ถ้าเผลอเมื่อใด จิตก็ออกจากฐานเดิมเมื่อนั้น ไปตามอารมณ์ของโลกทันที ไม่ได้อยู่ในอารมณ์ของธรรมก็ผิดศีล สมาธิก็ไม่มั่นคง องค์ของปัญญาก็ไม่เกิด อวิชชาก็ปิดตาใจทันที

ก็เพราะจิตไม่อยู่ในฐานคือ กาย เวทนา จิต ธรรม เป็นเส้นทางที่ตรงต่อมรรคผลนิพพาน

ถ้าจิตออกจากกายเมื่อใด ก็ผิดเส้นทางสายกลางขององค์มรรคเมื่อนั้นทันที เป็นความเห็นผิดไปในจิต ก็ทำให้หลงทาง เดินกลับไปกลับมาไม่รู้จักจบจักสิ้น เพราะปีนเกลียว

#หลวงปู่คูณ #สิริจันโท


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Bing [Bot] และ บุคคลทั่วไป 3 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO