นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน พุธ 24 เม.ย. 2024 5:14 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: สติ
โพสต์โพสต์แล้ว: ศุกร์ 22 ม.ค. 2021 6:31 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4538
...พยายามทำไปเถิดนี่ของดี
ของวิเศษจริงๆนะ
ไม่มีอะไรในโลกนี้
"ที่จะดีกว่า..สติ"
.
สติคือ พุทโธ
นี่เวลาเราท่องพุทโธนี่
เป็นเวลาที่เรากำลังสร้างสติขึ้นมา
.”สติ...เป็นตัวที่จะทำให้ใจเรานิ่ง
ทำให้ใจเราหยุดคิดได้”.
..................................
.
คัดลอกการสนทนาธรรม
ธรรมะบนเขา 17/1/2561
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี










"...ชีวิตของเทพเสวยความสุขที่บุญสร้างเอาไว้ เป็นโอปปาติกะ เกิดผุดขึ้นตามบุญของตนเอง ใหญ่เท่ากันหมดเลย ตัวเท่ากัน แล้วก็สวยเท่าๆ กัน หมู่ใครหมู่มัน เป็นภูมิ คนรักษาศีล ๕ ก็ภูมิของพวกนั้น พวกรักษาศีล ๘ ก็ภูมิของพวกนั้น ของใครของมัน ก็เสวยบุญของตนเอง เรียกว่า...บุญทิพย์
..เทวดานี่ ถ้าใครได้ทำบุญอะไรไว้บ้าง เหมือนถวายน้ำปานะอย่างนี้ นึกอยากจะกินน้ำปานะ ก็นึกอิ่มขึ้นมาเลย เพราะเขาได้ทำบุญไว้แล้ว ถ้าใครไม่ทำ นึกอย่างไรก็ไม่อิ่ม นี่..เมืองสวรรค์ ถ้าหากมีปราสาทไปนั่งอยู่นี่ ถ้าบุคคลไปถวายพระพุทธรูป ก็ไปนั่งดูพระพุทธรูปอยู่ แล้วก็เดินไป
..ถ้าบุคคลใดสร้างกุฏิศาลามีสระน้ำรอบ มีดอกบัว ใครบริจาคทานดอกไม้ไว้มาก สวนไม่รู้กี่ไร่ ล้อมปราสาท มันดอกใหญ่ ปฏิบัติให้ถึง มันก็เห็นเอง ดอกกุหลาบขนาดนี้ (ขนาดเท่าบาตร)..บนสวรรค์ เราใช้ดอกน้อยๆ ไปบูชากันทุกวันนี้ พูดแล้วก็อยากให้คนไปเที่ยวเองไปดู แล้วคงจะพูดกันง่ายหน่อย อันที่ไม่เห็นก็จะต้องบอกกันอย่างนี้แหละ
..ถ้าไปเห็นแล้วคงจะขยัน บางคนขยันทำบุญ อยากมาอยู่อย่างนี้แหละ เป็นภวตัณหา ดี..ก็ไม่เป็นไร ตัณหาอยากพาไปดี ชั้นสูงขึ้นก็มีตามระดับ จริงๆ แน่นอนเลย
..เทวดานางฟ้า วันนี้อยากใส่สีกุหลาบ มันจะเกิดขึ้นมาทันที วันนี้อยากใส่สีขาว มันจะเกิดขึ้นมาทันที จะใส่สีแดง มันก็เกิดปั๊บขึ้นมาเลย เป็นเครื่องนุ่งสีแดงเลย แล้วแต่บุญผู้ที่สร้างไว้ เป็นของทิพย์ นี่..เมืองสวรรค์
..อยู่ไม่เฒ่าไม่แก่ ไม่เจ็บไม่ป่วย เวลาตายไปก็ไม่เห็นซากศพ หายแว๊บไปเลย ไม่รู้ไปไหน เขาเรียกว่า คนนั้นหมดบุญ คนนี้หมดบุญ จากกันไป..."

หลวงพ่อพระอาจารย์เปลี่ยน ปญฺญาทีโป










เครื่องสังเกตผู้รู้หรือนักปราชญ์อย่างหนึ่งคือ "ความกตัญญู"
ถ้าคนไหนฉลาดขนาดไหน ถ้าว่าถือตัวถือตนว่าเก่งคนเดียวและได้เพราะความเพียร เป็น self made man อะไรต่ออะไร มันไม่ใช่คนมีปัญญา
แล้วคนเราจะได้ดีเพราะมีสิ่งแวดล้อมที่ดี เพราะมีกัลยาณมิตร เพราะมีอาจารย์ และที่สำคัญเพราะมีคุณพ่อคุณแม่ เป็นต้น
ฉะนั้น การรับรู้รับทราบต่อเหตุปัจจัยต่าง ๆ ก็เป็นอาการของปัญญา และความรู้สึกที่เกิดพร้อมปัญญา คือความกตัญญู

พระเทพพัชรญาณมุนี (พระอาจารย์ชยสาโร)










" คำว่า "ปุถุชน"
ยังเกี่ยวข้องอยู่กับ
คนดีและคนไม่ดี
ยังเกี่ยวข้องอยู่กับ
บุญและบาป
ยังเกี่ยวข้องอยู่กับ
สุขและทุกข์
ยังเกี่ยวข้องอยู่กับ
โลกนี้และโลกหน้า
ไม่ดีก็ไปสู่นรก ดีก็ไปสู่สวรรค์
ให้รู้จักตนเอง วิชชาใดๆ
ในโลกนี้ที่เรียนมา เพื่อรู้จัก
ตนเอง โลกียวิชชาก็เพื่อ
รู้จักตนเอง โลกุตรวิชชา
ก็เพื่อรู้จักตนเอง หากรู้
ตนเองได้แล้ว ก็สามารถ
จักเอาตนเองเป็นที่พึ่งได้ "

โอวาทธรรม
หลวงปู่จาม มหาปุญโญ












"..คนเรา ถ้ามีการ
สังเกตสอดส่องความ
ประพฤติชั่ว-ดีของตัวบ้าง
ย่อมมีที่ดัดแปลงแก้ไข
ให้เป็นคนดี เป็นที่เคารพ
นับถือของผู้อื่นได้
อย่างน่าชมและสนิทใจ.."

โอวาทธรรม
หลวงปู่ขาว อนาลโย










" เพียรในทางที่ชอบ
ย่นลงมาเป็นสองเพียร
ละชั่ว ทำดี ก็ว่า
เพียรละบาป บำเพ็ญบุญ ก็ว่า
เพียรขยัน ละขี้เกียจ ก็ว่า
ผู้จะล่วงทุกข์ได้
ก็เพราะความเพียร
ความเพียรเป็นเครื่องประดับ
ของนักปราชญ์
ความมีศรัทธา
มีความเพียร
มีสติ มีสมาธิตั้งมั่น
มีปัญญารอบรู้
ทั้งห้าข้อนี้ เป็นพลัง
รวมพลเป็นกองทัพ
ที่ทรงพระกำลังมาก
ในธรรมะของพระพุทธศาสนา
แข็งแกร่งมาก
ศรัทธาเชื่อ
ในเป้ากรรมฐานที่ตั้งไว้
เพียรประกอบกับ
กรรมฐานที่ตั้งไว้
สติระลึกไว้
ในกรรมฐานที่ตั้งไว้
สมาธิตั้งมั่น
ในกรรมฐานที่ตั้งไว้
ปัญญารอบรู้
ในกรรมฐานที่ตั้งไว้นั้น
ผลรายรับก็ต้องปรากฏเอง
ตามส่วนควรค่าที่ทำน้อย
และมาก ให้ผลไม่ลำบาก
ไม่นิยมกาลเวลา.."

โอวาทธรรม
หลวงปู่หล้า เขมปัตโต












สอนตนเองให้รู้จักการเสียสละ
เห็นหอบข้าวของมาถวายมากมาย มาแล้วก็มาบอกทำบุญให้คนนู้นคนนี้ อุทิศให้คนนั้นคนโน้น มีแต่ให้คนอื่นนี่มันผิดหลักนะ...
การเอาของมาถวายพระ หรือยกให้คนอื่น พระพุทธเจ้าท่านสอนไว้ว่า เป็นทาน ทาน คือสละออก เราต้องตั้งใจที่จะเสียสละ เสียสละจากความตระหนี่ถี่เหนียว เสียสละจากความห่วงความหวง คือเสียสละออกจากตนเอง
โดยหลักแล้ว ความเสียสละนี้ คือการเต็มใจที่จะยกสมบัติตนให้คนอื่น เมื่อให้ไปแล้วตัวเองต้องมีความสุขนะ ไม่กังวลในของนั้น ไม่อาลัยในของนั้น อิ่มเอิบ ดีใจกับการกระทำของตนเองนั้น มันถึงจะถูกต้อง
เมื่ออิ่มอกอิ่มใจแล้ว จึงค่อยระลึกถึงคนอื่น จะระลึกอุทิศหาใครต่อใคร นั่นเป็นเรื่องรองๆ แต่โดยหลัก คือการฝึกตนเอง การสอนตนเองให้รู้จักการเสียสละ การมีใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อคนอื่น สัตว์อื่น นี่...เรื่องมันเป็นอย่างนี้...

#หลวงปู่แบน #ธนากโร
#วัดดอยธรรมเจดีย์ จ.สกลนคร








อันความตายและการพลัดพรากจากกันนั้นเป็นธรรมดาและเป็นไปตามธรรมชาติ
เขาตายกันนับตั้งแต่คราวปู่ย่าตายาย แต่โบราณกาลมาตลอด ถ้าเราพิจารณาให้ดีก็จะรู้ว่า การตายไม่ใช่เป็นสิ่งที่น่าสยดสยองอย่างคนส่วนมากคิด
คนเราเกิดมาก็ต้องมีสังขารเป็นที่อาศัย สังขารก็มีเวลาอยู่อย่างจำกัด ย่อมจะมีเสื่อมมีทรุดโทรมเป็นไปตามกาลเวลา
ความตายไม่ได้เป็นสิ่งที่หายไปไหน หากแต่เป็นเพียงเปลี่ยนจากภพหนึ่งไปเกิดอีกภพหนึ่ง อุปมาเหมือนหมอกับอาตมา ซึ่งอยู่ในเวลาปัจจุบัน เดี๋ยวนี้กำลังสนทนา เวลาดับผ่านไปทุกวินาทีทุกชั่วโมง และหมอได้ทำแผลให้อาตมา ประเดี๋ยวหมอก็จะต้องกลับไปบ้าน และอาตมาก็กลับไปกุฎิ และทุกคนก็พากันจะกลับไปสู่ที่อยู่ของตน
นี่ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่เราต้องจากกัน เราได้พลัดพรากกัน แต่เรายังมีชีวิต มีสังขารร่างกาย เมื่อเราไปแล้ว แต่ที่นี่ที่เราได้มาร่วมสนทนาก็จะว่างเปล่า ไม่มีหมอ ไม่มีอาตมา และไม่มีใคร เพราะต่างแยกย้ายกันไป
รู้ว่าเรายังมีชีวิตอยู่ทุกคน อาตมาก็อยู่ที่กุฏิหลังจากที่ได้นั่งสนทนากัน แต่เวลานั้นก็ได้ผ่านดับไปตามโมงยาม เวลาไม่กลับมาอีก เป็นอดีต
หมอก็เช่นเดียวกัน ก็ต้องนึกว่าวันนี้ได้ไปทำแผลให้อาตมา และได้สนทนากันในโบสถ์ที่วัดเทพศิรินทราวาส แต่เวลานั้นได้ผ่านไปเป็นอดีต ไม่กลับมาใหม่ เราก็มีแต่ความทรงจำเหลือไว้เท่านั้น แต่เราก็คิดถึงกันได้ทางใจ
การตายก็เหมือนกับเป็นการจากไป ไม่ได้สูญไปไหน ยังคงอยู่ หากแต่เปลี่ยนจากสภาวะปัจจุบันนี้ไปอยู่อีกสภาวะหนึ่ง ซึ่งยากที่จะอธิบายให้เข้าใจได้ง่าย ๆ และเราก็ยังสามารถระลึกถึงกันได้ อย่าเข้าใจว่าสูญสิ้นไป ความตายความเกิดนั้นมีอยู่ตลอดเวลา

#ท่านธมฺมวิตกโกภิกขุ
กล่าวกับนายแพทย์ไพบูลย์ บุษปธำรง เมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๑๓












พูดถึงการบริจาค #ยกหลวงปู่มั่นขึ้นมา #เรื่องเงินทองนี่
ถ้าเรามีครอบครัว เราต้องดูแลครอบครัวให้มีความสุข ใครจะถวายเงินหลวงปู่มั่น ท่านบอกพอแล้วหรือ ถ้าพอแล้วก็แบ่งมา ถ้ามีครอบครัว อยากจะได้บุญ ก็เลี้ยงครอบครัวให้มีความสุขก็ได้บุญเหมือนกัน
เดี๋ยวนี้คนเอาแต่ความสะดวก บ้านเล็ก ๆ ก็มีตู้เย็น แต่เป็นตู้หนี้ นี่อำนาจของความอยาก วัดเราจึงไม่ให้เอาเข้ามา เรื่องไฟฟ้า เรื่องอะไรที่จะเป็นหนี้เป็นสินอย่าเอาเข้ามา พระหาเงินไม่เป็นจะไปเบียดเบียนเขา เขามาวัดไม่ได้มาเอาความวุ่นวาย แล้วก็งดกฐินออก คิดถึงคำสอนหลวงปู่มั่น หลวงปู่มั่นท่านก็ไม่ได้บอกให้ทอดกฐิน ใครมาท่านก็ให้บังสุกุลเอา ท่านเอาง่าย ๆ
อย่างเรื่องเจ้กไฮ เจ้กไฮไปทำบุญกับหลวงปู่มั่นด้วยความปลื้มอกปลื้มใจ ไปทำอาหารถวายหลวงปู่มั่น ใส่บาตรเสร็จแล้วถึงเวลารับพรเขาก็เรียกเจ้กไฮมารับพร เจ้กไฮว่า อั้วไม่เอา สวดอั้วก็ไม่สวด อั้วได้บุญตั้งแต่อั้วคิดที่บ้าน หลวงปู่มั่นชมเชยเจ้กไฮมาก แต่พวกเรานี่ ยัดใส่มือยังบอก ฉันให้หน่อยน่า ก็ตัวเจตนาเป็นตัวบุญมันเสร็จแล้ว คนมาใส่บาตรตั้งเท่าไร เป็นร้อย ๆ จะให้ฉันหมดต้องฉันตั้งกี่วัน เจตนานั่นคือตัวกุศล ได้แล้วน่ะ คนอิสานนี่ครูบาอาจารย์สอนแนะนำพอเข้าใจกัน คนกรุงเทพนี่ว่าอิมานิอยู่นั่น ก็เลยว่า เวลาตัวเองจะทาน ทานร้อน ๆ อร่อย พระก็อยากร้อน ๆ เหมือนกันนะ ก็ว่าอยู่นั่นน่ะจนข้าวเย็น มันเกินไป
แล้วมีพวกส่งเขียนใส่สังฆทานมาที่นี่ เขียนใส่กระดาษมาเลยนะ สังฆัสสะ โอโนชยามะ มันเกินขอบเขต ส่งกลับเลย รับไม่ได้ คำว่าสังฆทานต้องเข้าหาสงฆ์ พร้อมหน้าสงฆ์ ต้องอยู่ต่อหน้า ยกวัตถุขึ้นมา แล้วว่า อิมานิ สังฆัสสะ ต้องว่าอย่างนี้ นี่เขียนใส่กระดาษมาเลยส่งกลับ มันจะมาสอนพระให้มักง่ายเหมือนกันหมด ไม่มีเวลาก็ไม่จำเป็นต้องส่งมาที่นี่ ส่งไปที่วัดไหนในกรุงเทพเต็มไปหมด ทำไมมาทำอย่างนี้ แต่คนเขานิยม มันวุ่นวาย เราเลยเลิกกฐินออก มันวุ่นวาย กว่าจะเสร็จ เสียเวลาทำการทำงาน เลยส่งกลับไป แล้วเขียนบอกห้ามส่งมาอีก สังฆทานใส่กระดาษนี่ สงฆ์ไม่พร้อมที่จะรับ
แล้วมาเขียนสอนพระให้ทำด้วยนะ เขียนมา อิมานิ มะยังภันเต อิมานิ สังฆัสสะ โอโนชยามะ เขียนมาถวายสังฆทาน นี่บวชมาไม่ได้บวชมาโง่ ๆ ไม่รู้จักสังฆทานคืออะไร ไปดูบ้างสิ ต้องพร้อมหน้าสงฆ์ แล้วต้องอยู่ต่อหน้าว่า ยกของขึ้นว่าอิมานิ นี่จะมาทำงู ๆ ปลา ๆ ไม่ได้ จนต้องเขียนบอกไม่ต้องส่งมาอีก ไม่สะดวกจะรับสังฆทานแบบเขียนใส่กระดาษมา ต้องแนบกลับให้เจ็บ ๆ เลย จะได้เข็ด ถ้าได้มาไม่ชอบธรรมมันก็มิจฉาอาชีโว เลี้ยงชีพไม่ชอบธรรม ไม่ถูกธรรมถูกวินัยก็เป็นอาบัติ ถ้าเป็นของฉัน ได้มาไม่ถูกธรรมถูกวินัย ฉันไปก็เป็นอาบัติทุกคำกลืน วินัยนี่ละเอียด ถ้าไม่ถูกต้องก็ไม่เอาแล้ว เอากลับไป ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องฉัน เราไม่เล่นด้วย

#โอวาทธรรมคำสอนพ่อแม่ครูบาอาจารย์ #หลวงปู่ทุย #ฉนฺทกโร
#วัดป่าดานวิเวก อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ
๒๘ ตุลาคม ๒๕๖๑


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 3 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO