นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน ศุกร์ 26 เม.ย. 2024 10:50 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: ทางสายกลาง
โพสต์โพสต์แล้ว: เสาร์ 26 ก.ย. 2020 8:31 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4540
#หนีนรกมาเกิด

ถาม : พอดีเคยพบคนที่เป็นบุคคลที่หนีมาจากนรกเจ้าค่ะ เราก็บอกให้ทำบุญทำกุศลแล้วเขาก็ไม่ทำ แล้วยมทูตเขามาเจอตัว อีกไม่นานเขาก็ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไป ก็เลยสงสัยว่า ทำไมวิญญาณเหล่านี้ จึงสามารถหลบหนีมาได้เจ้าคะ ?

ตอบ : ถ้าหากว่าเขาโดนลงโทษอยู่ในขุม ก็ไม่สามารถจะหนีมาได้ น่าจะอยู่ในระหว่างรอการตัดสิน แล้วตรงกับวันสำคัญที่พระยายมท่านปล่อยให้มาโมทนาบุญมากกว่า

ฟังให้ดี ๆ จะมีวันสำคัญอยู่สี่วัน คือวันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันเข้าพรรษา วันออกพรรษา ซึ่งเป็นวันที่ชาวบ้านเขาทำบุญกันมาก พระยายมท่านจะปล่อยบรรดาผู้ที่ไปรอรับการตัดสิน ให้ไปโมทนาบุญก่อน บรรดาผู้ที่โทษหนัก รู้ตัวว่าถ้าหากรอการตัดสินมีหวังแย่แน่ ก็เผ่นเลย

แต่ว่าส่วนใหญ่แล้วเขามักไปรอการตัดสิน เพราะว่าพระยายมท่านพยายามช่วยทุกวิถีทาง เพื่อที่จะให้เขาพ้นนรกไปได้ จะได้ไม่ต้องรับโทษ

จำให้แม่น ๆ ว่าพระยายมไม่มีหน้าที่พาใครลงนรก แต่ท่านพยายามกันไว้ไม่ให้ลงนรก พวกที่กลัวไม่เข้าเรื่องเข้าราว ก็เผ่นเสียก่อน อย่างนั้นยมทูตก็ต้องไปตามคืน

ถาม : แล้วต้องใช้เวลานานไหมครับ ?

ตอบ : เวลาของท่านนิดเดียว อย่าลืมว่า ที่ตำหนักพระยายม วันหนึ่งเท่ากับห้าสิบปีมนุษย์ เวลาของท่านนิดเดียว แต่ทางนี้โตเป็นหนุ่มเป็นสาวแล้วก็มี

พวกเราใช้แรงงานพรหมเกินขนาด ท่านหยุดงานปีละสี่ครั้งแค่นั้น ครั้งละสามวัน คือ ขึ้นสิบสี่ค่ำ ขึ้นสิบห้าค่ำ แล้วก็แรมหนึ่งค่ำ แล้วขณะเดียวกัน เวลางานมาก ๆ ก็หยุดแต่ตัวจริง ต้องเนรมิตตัวปลอมเอาไว้ทำงานแทนด้วย

สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๔๔










...ชีวิตเราเป็นเหมือนเทียน
พอจุดแล้วก็มีแต่จะสั้นลงๆ ไปเรื่อยๆ
“อายุยาวขึ้น แต่ชีวิตมันสั้นลง”

.ตัวเลขมันยาวขึ้น ตอนนี้ ๔๐ นะ ๕๐ นะ
มันยาวขึ้น ...แต่ชีวิตมันสั้นลง คือ..
”ส่วนที่เหลืออยู่นี้จะน้อยลง สั้นลงไปเรื่อยๆ”
เวลาที่จะได้บําเพ็ญ ได้เจริญมรรคนี้
จะน้อยลงไปเรื่อยๆ

.“อย่าไปผัดวันประกันพรุ่ง”
ควรรีบหันเข้ามาทางนี้ ..มีภารกิจ
การงานอะไรที่ปลดเปลื้องได้ ตัดได้
ก็ปลดเปลื้องมันไปเถิด ตัดมันไปเถิด

.ทํางานนี้ดีกว่า
งานนี้เป็นงานที่แท้จริง
งานอื่นทําไปก็เท่านั้นแหละ.
........................................
มหาเศรษฐีที่แท้จริง
หน้า 213
ธรรมะบนเขา ณ เขาชีโอน
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี











"ทุกๆ คน ควรรีบขวนขวาย ซึ่งคุณงามความดี
ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เป็นเด็กก็อย่าได้เกียจคร้าน
ในการเรียนหนังสือ จงตั้งจิตตั้งใจศึกษาเล่าเรียน
ให้มีความรู้ ความเฉลียวฉลาด ความสามารถ

เป็นผู้ใหญ่แล้ว ก็จงตั้งตัวตั้งตนให้ดี
ให้มีความขยัน มีความประหยัด ให้คบแต่คนดี
ให้รู้จักประมาณในการใช้จ่าย

ถ้าเป็นผู้เฒ่าผู้แก่แล้ว ก็เตรียมตัวเพื่อ
คุณงามความดีให้ยิ่งๆ กว่าเด็ก และคนหนุ่มทั้งหลาย”

ครูบาเจ้าพรหมา พรหมจักโก










“เราป่วยเข้าโรงพยาบาล คิดในใจไม่อยากตาย
อยากหายเท่านั้น คิดอย่างนั้นไม่ถูก เป็นทุกข์
ต้องคิดว่า หายก็หาย ตายก็ตาย เพราะเราแต่งไม่ได้
นี่เป็นสังขาร คิดอย่างนี้ถูก ตายก็สบาย หายก็สบาย ต้องได้อย่างหนึ่งจนได้”

หลวงปู่ชา สุภทฺโท









"อะไรที่ดีงาม ให้รีบทำเสีย
อย่าผัดวันประกันพรุ่ง
เมื่อโอกาสที่ทำได้ผ่านพ้นไป
จะไม่มีโอกาสเช่นนั้นอีก"

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ










" คนเราต้องการดับทุกข์
หรือต้องการพ้นทุกข์
หนทางที่จะสมหวังก็คือ
ต้องรู้เรื่อง ศีล สมาธิ ปัญญา

และต้องปฏิบัติให้เกิด
ศีล สมาธิ ปัญญา ขึ้นในตน
เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า
เกิดอริยมรรคขึ้นในตน
เพราะมรรค ๘ ย่อลงมา
ก็คือ ศีล สมาธิ ปัญญา นั่นเอง

การปฏิบัติเรื่องไตรสิกขานี้
เกิดขึ้นในตัวเรา
จนเป็นเนื้อเดียวกัน
จึงจะถือว่าสมบูรณ์แบบ
มิใช่ว่าจะปฏิบัติ
เพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง

เพราะสิ่งทั้งสามนั้น
ต้องอิงอาศัยกันเป็นลูกโซ่

คือ ศีลที่เคร่งครัด
กาย วาจา ก็เรียบร้อย
ใจก็พลอยเป็นสมาธิ
ปัญญาก็ละเอียดลุ่มลึก

จึงอาจกล่าวได้ว่า
ศีล เป็นรากฐานของสมาธิ
สมาธิ เป็นรากฐานของปัญญา

อยากมีความสุข
อยากห่างจากกอง
แห่งความทุกข์ จงใส่ใจ
ในเรื่อง ศีล สมาธิ ปัญญา

ถ้าปราศจากสิ่งเหล่านี้
ก็มิใช่ทางแห่งความสุข
ที่แท้จริง.."

โอวาทธรรม
พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต








ผิดถูกยังไง. อย่าคอยแต่ไปวินิจฉัยผู้อื่น. ให้มากยิ่งกว่า. การวินิจฉัย. ตนเอง.

หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน









#มีโยมคนหนึ่งมาถามหลวงปู่ว่าให้หลวงปู่เทศน์สั้นๆ

หลวงปู่ก็เลยบอกว่า ถ้าเทศน์สั้นๆจะให้มันได้ผลเร็ว ก็คือนั่งตาย นั่งให้มันตายลองดู ถ้าใครนั่งตายได้นั้นล่ะ มันจะเห็นธรรม

ธรรมอันเดียว ธรรมอันหนึ่งอันเดียว ถ้าเสียสละตาย มันจะตายจริงมั๊ย ธรรมดาคนจะตายมันต้องเจ็บไข้ได้ป่วย เกิดจากโรคภัย โรคนั้น โรคนี้ก่อน

นั่งสมาธิให้มันตายลองดู ถ้ามันตายมันจะได้เห็นความจริง

#ความจริงคืออะไร
#ความจริงก็คือตนของตนนั้นล่ะ

ตนของตนที่จริงมันไม่มีอะไรในนั้น มันจะว่างไม่มีอะไร ถ้าจิตหยุดนิ่งได้ เมื่อจิตหยุดนิ่งได้ ท่านให้ชื่อให้นามว่านี่ละหนทางจะเข้าไปดับทุกข์ ท่านให้ชื่อว่า "..มรรค.." ทุกข์ สมุทัย หนีโลด(นิโรธ) มรรค..

คติธรรมหลวงปู่บุญมา คัมภีรธัมโม










#ทางสายกลาง (หลวงปู่ชา สุภัทโท)

อัตตกิลมถานุโยโค และ กามสุขัลลิกานุโยโค ก็คือทางตึงและทางหย่อน นั่นเอง ถ้าเราน้อมเข้ามาพิจารณาให้เห็นในปัจจุบัน

ทางตึงก็คือความโกรธ อันเป็นทางเศร้าหมอง ท่านเรียก อัตตกิลมถานุโยโค เดินไปแล้วก็เป็นทุกข์ลำบาก

กามสุขัลลิกานุโยโค ก็คือความดีใจความพอใจ ความดีใจนี้ก็เป็นทางไม่สงบ ทางทุกข์ก็เป็นทางไม่สงบ ทางสุขก็เป็นทางไม่สงบ

เราจะเห็นได้ว่า สมเด็จพระบรมศาสดาท่านตรัสว่า เมื่อได้เห็นความสุขแล้ว ให้พิจารณาความสุขนั้น ท่านไม่ให้ติดอยู่ในความสุข คือท่านให้วางทั้งสุขและทุกข์

การวางทางทั้ง ๒ ได้นี้ เป็นสัมมาปฏิปทา ท่านเรียกว่า เป็นทางสายกลาง

หลวงพ่อชา สุภัทโท










คนเฮานี้. ก้อนขี้. ก้อนบักใหญ่. ก้อนขี้. ย่าง(เดิน)ได้ว่างั้นเถอะ

หลวงปู่หนูเพชร ปัญญาวุโธ








#ให้จิตมีอำนาจ_ถ้าเฮาบ่หลงจิตเฮาสิมีอำนาจ

การนั่งก็ตาม การนอนก็ตาม ให้มีสติควบคุมจิตอยู่ตลอด ฮู้จักอยู่ตลอด ถ้ามันง่วง ถ้ามันง่วงหลาย ก็ให้ฮู้สึกตัวอยู่ตลอด

การนั่งก็บ่ให้นั่งพับขา ให้นั่งแบบนี้ มือกะแล้วแต่สิวาง วางท่าไหนสบายก็วาง แต่ให้รู้ว่ามืออยู่ท่าไหน เท้าวางอยู่ท่าไหน ตอนนี้เฮานั่งหันหน้าไปทางใดให้ฮู้ ฮู้ก็ให้มีสติอยู่ตลอด คุมกายอยู่ตลอด

#ให้จิตเหนือกาย #บ่ให้กายเหนือจิต

ให้มีความฮู้อยู่ตลอด แต่ว่าตัวใจมันไปละเด้ทีนี่ ใจมันบ่เอา มันสิไปไสกะช่างใจมัน ใจมันไป พอนั่งปั๊บ ใจมันจะไปกะช่างมัน

เบิ่งจิตเจ้าของทีนี่ ให้จิตมันอยู่ในกายเจ้าของ กายคตสติ พิจารณากายเป็นอารมณ์เจ้าของอยู่ตลอด นั่งอยู่ตลอดฮู้อยู่ตลอด ถ้ามันง่วงนอนกะให้ฮู้ อดบ่ได้กะให้นอน นอนกะให้ฮู้บ่ให้หลง ตอนนี้นอนหงายหรือนอนแคง แคงซ้ายหรือแคงขวา

#ความหลงนี่เพิ่นถึงว่าความหลงนี่ละสำคัญเป็นมูลเดิม

มูลเดิมนี่คือความโลภ ความโกรธ ความหลง เพิ่นถึงบอกว่า ราคะ โทสะ โมหะ อันนี้เพิ่นว่าเป็นมูลเดิม

ราคะคือความกำหนัด เพิ่นถึงบอกว่าบ่ให้เฮาหลง ให้ฮู้อยู่ตลอดเวลา กินกะบ่ให้หลง นอนกะบ่ให้หลง นั่งนี่เฮานั่งหันหน้าไปทางใดกะบ่ให้เฮาหลง นอนคว่ำนอนหงายกะบ่ให้หลง ยืนอยู่ซื่อๆกะบ่ให้หลง ยืน เดิน นั่ง นอน ใน ๔ อิริยาบถ ทางธรรมเพิ่นว่าอิริยาบถ ทางเฮาเพิ่นว่า ยืน เดิน นั่ง นอน

เฮานั่งรถไปนี่กะให้เฮาฮู้อยู่ตลอด ให้จิตมีอำนาจ ถ้าเฮาบ่หลงจิตเฮาสิมีอำนาจ ถ้าเฮาถืกความหลงเข้าควบคุมจิต จิตเฮากะเศร้าหมอง บ่ดี

#คนเฮานี้ก้อนขี้ก้อนบักใหญ่
#ก้อนขี้ย่าง(เดิน)#ได้ว่างั้นเถอะ

เป็นหยังคือว่าก้อนขี้ ขี้ตั๋ว ในตาก็มีขี้ตานั่นเด้ ถ้าหูก็มีขี้หู ถ้าดัง(จมูก)ก็มีขี้ดังนั่นเด้ ถ้าว่าหนัง ก็มีขี้ไคลนั้นเด้

ให้เห็นแบบนั้นให้ฮู้ไปแบบนั้น จิตเฮากะสิมีปัญญา ถ้าพ้นจากมูลเดิมกะสิมีปัญญา

#ปัญญาคือหยัง

ปัญญา คือ ความฉลาดรอบรู้ในกองสังขารของเจ้าของนี่ละ ถ้าฮู้เจ้าของแล้ว ไปเบิ่งผุอื่นกะคือกันกับเฮา คือกันเบิ่ด

ถ้าไม่งั้นเพิ่นบ่เว้า สัตว์ทั้งหลายเกิดมา เขากะใช้กรรม สัตว์ทั้งหลายบ่ว่าอยู่น้ำ อยู่บก เขาเกิดมาตามกรรมของเขา

ถอดจากเทปโอวาทคำสอน
หลวงปู่หนูเพชร ปัญญาวุโธ วัดป่าภูมิพิทักษ์
บ.หนองไผ่ ต.คำสะอาด อ. สว่างแดนดิน จ.สกลนคร
ถอดเทป/เรียบเรียง : นรินทร์ ศรีสุทธิ์


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 7 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO