นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน ศุกร์ 29 มี.ค. 2024 11:30 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: อบรมจิต
โพสต์โพสต์แล้ว: ศุกร์ 18 ก.ย. 2020 10:28 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4511
"ตนของตนย่อมเป็นที่พึ่งแก่ตนเอง
เหตุนี้ จึงต้องหัดบังคับตนเอง ผู้อื่นถึงจะเป็นศัตรู
ก็ไม่เท่าตนเป็นศัตรูต่อตนของตนเอง
ถ้ายังไม่สามารถบังคับตนของตนเองให้ดีได้แล้ว
ก็อย่าหวังเลยว่า จะบังคับผู้อื่นให้ดีได้”

ท่านเจ้าคุณนรรัตน์ราชมานิต









“กรรมทางวาจานี้ ร้ายแรงมาก
การที่เราพูดใส่ร้าย หรือพูดไม่ดี
จนทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน และเสียใจ
หรือพูดไปทำลายความหวังต่างๆ ของเขา
ถ้ารู้ตัว ให้หยุดเสีย ถ้าไม่หยุด ก็เลิกทำเสีย
กรรมไม่สนองแต่ในชาตินี้ พอตายลงไป
ยังต้องไปใช้กรรมยังนรก ตามขุมต่างๆ อีก”

หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ








"พวกเราทั้งหลายที่อยู่ด้วยกันนี้ เป็นญาติกันนะ
ญาติความเกิด ญาติความแก่ ญาติความเจ็บ
ญาติความตาย ฉะนั้น พวกเราอย่าเอารัดเอาเปรียบกัน
ให้มีธรรมไว้ในใจ"

หลวงปู่ชา สุภัทโท









อย่างท่านหลวงปู่มั่น ที่พ่อแม่ครูจารย์ท่านเล่าให้ฟัง ที่บ้านนามน ได้เข้าไปหาท่าน ท่านว่า

“เออ...มหา มาน่ะ ให้ภาวนาพุทโธนะ ความรู้ที่เรียนมาให้เก็บใส่หีบใส่ตู้ไว้ อย่าเอามาเป็นสัญญา อย่าเอามาเป็นอารมณ์”

ท่านว่าเรียนพุทโธอยู่ตั้ง ๑ ปีกับ ๖ เดือนถึงค่อยอยู่ ขนาดนั้นโน่นนะ ถ้าเราอยู่กับพุทโธ คล้ายๆเวลาเราเดินจงกรมน่ะ เราเดินไปต้องสะดุดล่ะ เวลาเกิดวาระจิตขึ้นนะ ท่านเล่าว่า...

ตรงหัวน่ะเกิดแสงสว่างขี้น แสงออกจากหน้าผาก สว่างออกทั่วไปหมดเลย สว่างหมด พอวาระจิตยุบลงมา มาเห็นกระดูกตัวเอง ขาขวาน่ะขาวหมด ทางนั้นก็หดไป ทางนี้ก็หดมา ขาวโพลนไปหมด

โห...ทำนะ ทำความเพียร เร่งเพราะอยากได้ อยากให้มันเป็นเหมือนเดิม เดินจงกรมไม่มีเกียจคร้านล่ะ นั่งสมาธิก็ไม่เกียจคร้าน เมื่อเหตุมันพร้อม ผลมันเกิดเองหรอก เหมือนชาวนาน่ะ เขาไม่ได้ปรารถนารวงข้าวหรอก เขารักษาลำต้นมันไว้ รักษาไป หากลำต้นมันงาม ดอกผลมันเกิดเอง ถ้าไปตั้งก็จะเกิดสัญญานั่นล่ะจะหลอกเอง เวลาเดินจงกรม ความอยากมันก็อยากอยู่อย่างนั้นท่านว่า บริกรรมก็ให้ถี่อยู่อย่างนั้น ทำอยู่อย่างนั้น เว้นแต่นอนหลับ เวลาตื่นขึ้นมาก็ให้เริ่มพุทโธอยู่อย่างนั้น นานเข้าๆ ก็ลงอีก โห...คราวนี้แรง ปรากฏแสงสว่างขึ้น ปรากฏว่าตัวเองยืนอยู่เห็นกระดูกตัวเองทั้งหมด เหลือแต่กระดูก ดูอยู่นั่น...พ่อแม่ครูจารย์ท่านเห็นอย่างนั้นนะ

หลวงปู่ลี กุสลธโร
๑๘ สิงหาคม ๒๕๓๗








#องค์หลวงปู่หล้าท่านสอนว่า..

คนเรานั้น.. จะตายด้วยสาเหตุอะไรมันก็ทุกข์อยู่ดี.. จะตายด้วยโรคภัยไข้เจ็บ หรืออุบัติเหตุ โรคชรา หรืออะไรๆ ก็ไม่สำคัญ เพราะมันทุกข์ตายเหมือนกัน

แต่ยังไงๆ ก็ขอให้"ตายคาภาวนา- ตายอย่างมีสติ" คนธรรมดาทั่วไป.. ที่ยังไม่ได้โลกุตร.. เรียกว่า"ตายร้อน".. คือ ยังต้องเกิด-ตาย เกิด-ตาย.. แบบนี้ไปอีกนาน ส่วนคน"ตายเย็น" คือ พระโสดา สกิทาคา อนาคา พระอรหันต์นั่นแหละ.. เย็นมาก เย็นน้อยไปตามลำดับ

แบบว่า"ใจไม่ถึงโลกุตรธรรม.. ก็ขาดที่พึ่ง". ทุกข์กายไม่สำคัญ ของสำคัญพระพุทธเจ้าให้แก้ทุกข์ใจ.. แก้ได้มาก-น้อยก็เป็นของตัว..

หลวงปู่หล้า เขมปัตโต








"..พระพุทธเจ้าท่านเล็งเห็น
การจุติ คือเคลื่อนจากร่าง
และการปฏิสนธิ คือ การเข้า
สู่ภพชาติของมวลสัตว์

ว่าเป็นไปไม่มีประมาณ
ทั้งภูมิสูง ภูมิต่ำ และการสับ
เปลี่ยนแห่งภพชาติสู่ความ
เป็นสัตว์เป็นบุคคล เป็นต้น
และเป็นไปได้ทุก ๆ ภายใน
บรรดาสัตว์ผู้มีกิเลสเป็น
เจ้าครองใจ

จึงทรงสั่งสอนให้อบรมจิต
ไปในทางที่ดี คือทาน ศีล
ภาวนา เสียตั้งแต่เมื่อยังมี
ชีวิตอยู่ เมื่อถึงคราวจวนตัว
ใจจะมีที่พึ่ง ไม่กระสับ
กระส่ายและเขวไปในทางผิด

โดยไม่คว้าเอากำเนิดตุ๊กแก
มาครองเสียบ้าง นับว่า
เป็นกำเนิดที่ขาดทุน
อย่างย่อยยับในภพเช่นนั้น.."

โอวาทธรรม
หลวงตาพระมหาบัว
ญาณสัมปันโน


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 2 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO