นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน ศุกร์ 29 มี.ค. 2024 3:06 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: เมตตาธรรม
โพสต์โพสต์แล้ว: ศุกร์ 28 ส.ค. 2020 7:04 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4510
.
ก็รู้อยู่ไม่ใช่หรือว่าต้องแก่ ต้องเจ็บ
ต้องตาย “แล้วทำไมไม่ยอม”

.
ทำไมยังอยากไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย
อยากไปแล้วมันทำให้
ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย หรือเปล่า
“มันก็แก่ เจ็บ ตาย เหมือนเดิม”

.
แต่ถ้าไม่อยาก ..
ถ้าไม่มีความอยากให้มันไม่แก่
ไม่เจ็บ ไม่ตาย “มันจะไม่ทุกข์”
มันจะสบาย ...ใจมันจะเฉยๆ

.
“มันถึงต้องปฏิบัติไง” รู้เฉยๆ นี้ไม่พอ
ศึกษาเฉยๆ ไม่พอ
ศึกษาแล้วต้องมา..ปฏิบัติ
ต้องมาทำใจให้ได้.

..................................
.
สนทนาธรรมะบนเขา
วันที่ ๒๙ มิถุนายน ๒๕๕๙
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี









#ธรรมะจากภายใต้หนังกำพร้าของคนเรามีแต่ความโสโครก น่าเกลียดน่าสะอิดสะเอียน

มีอวัยวะภายใน เช่น ตับ ไต ไส้น้อย ไส้ใหญ่ กระเพาะ น้ำเลือด น้ำเหลือง น้ำหนอง น้ำดี อุจจาระ ปัสสาวะ เหงื่อไคล ขังอยู่ภายในร่างกายโดยมีหนังกำพร่าห่อหุ้มอยู่

ถ้าลอกหนังออก จะเห็นร่างมีเลือดไหลโซมกาย เนื้อที่ปราศจากผิวหนังห่อหุ้ม จะมองไม่เห็นความสวยสดงดงามเลย

มองแล้วอยากจะอาเจียนมากกว่าน่ารัก ที่พอจะมองเห็นว่าสวยงาม ก็ตรงผิวหนังห่อหุ้มเท่านั้น

ผิวหนังนี้ก็ใช่ว่าจะเกลี้ยงเกลาเสมอไป ไม่ คนเราต้องคอยอาบน้ำชำระล้างทุกวัน

เพราะสิ่งโสโครกเหงื่อไคลภายในหลั่งไหลออกมาลบเลือนความผุดผ่องของผิวกายอยู่ตลอดวัน

ถ้าไม่คอยชำระล้างก็จะสกปรกเหม็นสาบน่ารังเกียจ ทางช่องทวารขับถ่ายอุจจาระปัสสาวะ ก็หลั่งไหลออกมาตามกำหนดเวลาของมันทุกวัน น่ารังเกียจ เลอะเทอะโสมม

ซึ่งเจ้าของไม่ปรารถนาจะแตะต้องทั้งๆ ที่เป็นของในกายของตัวเอง

#ยิ่งพิจารณาไป
#คนเราก็คือส้วมเคลื่อนที่ หรือ
#ป่าช้าที่บรรจุซากศพเคลื่อนที่ และ
#เป็นผีเน่าที่เดินได้ดีๆ นี่เอง

หลวงปู่แหวน สุจิณโณ
วัดดอยแม่ปั๋ง
อำเภอพร้าว
จังหวัดเชียงใหม่







“ของดีคืออะไร อะไรคือของดี
ของดีมีอยู่ด้วยกันทุกคนแล้ว

การที่มีร่างกายแข็งแรง
ไม่เจ็บไม่ไข้ได้พยาธินั้น
ก็มีของดีแล้ว

การมีร่างกายแข็งแรง
มีอวัยวะครบถ้วน ไม่บกพร่อง
พิกลพิการ อันนี้ก็มีของดีแล้ว
จะต้องไปหาของดีที่ไหนกันอีก"

หลวงปู่แหวน สุจิณโณ







"วิธีชนะ ที่จะไม่ต้องเบียดเบียนใคร
เป็นความดีชั้นตรี

ถ้าเป็นการชนะ ชนิดที่เกื้อกูลเขา
ทำให้เขากลับเป็นคนดี
ก็นับว่าเป็นความดีชั้นโท

ส่วนความดีชั้นเอก ก็คือ
ความดีที่ชนะความชั่วของตนเอง”

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ










#ถ้าเราไม่ผ่านความทุกข์_มันจะถึงความสุขได้ยังไง

คนเราทำงานหนัก กรรมกรเป็นไง ทำงานกรรมกรหนักไหม ก่อนที่จะได้เงินค่าแรงแต่ละวันมาซื้ออาหาร ทำทั้งวันเขาถึงจ่ายเงินให้

#การปฏิบัติจิตฝึกแรกๆมันก็เป็นอย่างนั้น

หนักอย่างนั้นแหละ เขาสั่งให้แบกอะไร ก็ต้องแบกไป สั่งให้หามอะไรก็ต้องหาม หนักก็ต้องหามต้องแบกล่ะ ถ้าไม่อย่างนั้นเขาก็ไม่ออกให้ไม่ได้ค่าแรง

#เราปฏิบัติถ้ามันหนักเราจะไปถอยมันก็ไม่ได้อะไร

ใครจะไปจ่ายค่าแรงให้เราล่ะ ถ้าเราไม่ผ่านความทุกข์ มันจะถึงความสุขได้ยังไง สุขมันอยู่เหนือตาย

หลวงตาท่านพูดว่า เดินจงกรมมันจนเท้าแตก นั่งจนก้นแตก เราเอามาคิดดูสิ พวกเรานั่งอยู่อย่างนี้ มันจะมาแตกได้ยังไง ที่ว่าก้นแตกๆ นั้น ท่านไปนั่งอยู่ก้อนหินอยู่พลานหิน เดินอยู่ในป่าเท้าแตกนะ เดินอยู่ในพลานหิน เดินอยู่บนภูเขา ไม่มีบ้านคน เดินทั้งวันทั้งคืน

#นี่ต่อสู้กับกิเลสนะ

ขนาดนั้นกิเลสมันยังห้ำหั่นอยู่ตลอดเวลา สู้กันอยู่อย่างนั้นล่ะ ถ้าเราถอยเมื่อไหร่ มันก็แพ้เมื่อนั้น เพราะฉะนั้นก็ต้องเอาอย่างนั้น
……..
#พระธรรมเทศนาองค์พระครูกิตติอุดมญาณ (#หลวงปู่ไม #อินทสิริ) #วัดป่าเขาภูหลวง ตำบลระเริง อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา











#เวลาภาวนาอย่าส่งจิตออกนอก

ความรู้อะไรทั้งหลาย อย่าไปยึด ความรู้ที่เราเรียน กับตำรา หรือครู อาจารย์ อย่า เอามายุ่งเลย ให้ตัดอารมณ์ออกให้หมด แล้วเวลาภาวนาไปให้มันรู้ รู้จากจิตของเรานี่แหละ จิตของเราสงบ เราจะรู้เอง

#ต้องภาวนาให้มากๆเข้า

เวลามันจะเป็น จะเป็นของมันเอง แล้วก็ความรู้อะไร ๆ ให้มันออกมาจากจิตของเรา ความรู้ที่ออกจากจิตที่สงบนั่นแหละเป็นความรู้ที่ลึกซึ้งถึงที่สุด ให้มันรู้จากจิตเองนั่นแหละมันดี คือจิตมันสงบ ทำจิตให้เกิดอารมณ์อันเดียว

#แต่ก่อนภาวนาก็อย่าส่งจิตออกนอก

ให้จิตอยู่ในจิต และก็ให้จิตภาวนาเอาเอง ไม่ต้องบริกรรมทางปาก ให้จิตเป็นผู้บริกรรม พุทโธ พุทโธ อยู่นั่นแหละ เกิดครั้งเดียวเท่านั้น และพุทโธนั่นแหละจะผุดขึ้นในจิตของเรา เราจะได้รู้จักว่า พุทโธนั้น เป็นอย่างไร แล้วรู้เอง..เท่านั้นแหละไม่มีอะไรมากมาย

#ภาวนาให้มากๆเข้าในอิริยาบถ4

ยืน เดิน นั่ง นอน อะไร อะไรทำให้หมดเลย บริกรรม พุทโธ ให้จิตว่าเอาเอง ว่านาน ๆ ไป จิตของเราติดอยู่กับ พุทโธ นั้นแล้วไม่ลำบาก มันจะว่าเอาเอง

#ถ้ามันติดกับพุทโธแล้วนะนั่นแหล่ะมันใกล้จะเป็นสมาธิแล้ว

ถ้าเป็นสมาธิแล้ว เราก็กำหนดสมาธิของเราอยู่นั่นแหละ เออ..จิตมันเป็นสมาธิ มันเป็นอย่างนั้น ๆ แล้วเราก็รู้เอง เข้าไปรู้อยู่ในสมาธินั่น สมาธิสูงสุดอยู่ตรงนั้น คือ จิตมีอารมณ์เดียว จิตไม่ฟุ้งซ่าน ตัวจริงมันอยู่ตรงนั้น

#เรารู้อะไร

เรารู้จากจิตของเราเอง เรารู้ถึงความบริสุทธิ์ ของเราเลย นอกจากนั้นไม่มีอะไร

#แต่เราต้องพยายามให้มากๆเข้า

ก่อนจะนอนหรือลุกจากที่นอน เราต้องทำเสียก่อน ทำแล้วก็นั่งให้นาน ๆ เวลามันจะเป็น มันจะรู้เองดอก

#แต่ถ้ายังไม่เป็นบอกเท่าไรมันก็ไม่รู้

รู้จากจิตของเรานะ รู้ถึงความบริสุทธิ์ของเราเลย รู้ถึงความเป็นจริง เท่านั้นเอง ไม่มีอะไรมากมาย มีเท่านั้น

รู้จากจิตที่เป็นสมาธิ รู้ถึงความเป็นจริงแล้ว เราก็หมดความสงสัยในพระพุทธศาสนา รู้ไม่ถึงความเป็นจริงก็ไม่หมดความสงสัยดอก ศาสนาเป็นอย่างไร เรารู้ของเราเอง

#อย่าปล่อยให้มันปรุงแต่งมากนัก

ข้อสำคัญ ให้รู้จักจิตของเราเท่านั้นเอง เพราะว่าจิตคือ ตัวหลักธรรม
นอกจากจิตแล้วไม่มีหลักธรรมใด ๆ เลย

#หลวงปู่ดูลย์ #อตุโล









#นักปราชญ์ท่านสอน

ให้แผ่เมตตาให้มากๆ ให้ใช้ความดีในการท่องมนต์บ้างสวดมนต์บ้าง

ถ้าตัวใช้เมตตาของตัวยังไม่เป็น ก็ให้ไปรวมกับคนที่เขาใช้เป็น จึงจะได้ส่วนเย็นนิดๆ หน่อยๆ

เหมือนคนที่ใช้เงินไม่เป็น ไปเข้าหุ้นค้าขายกับคนอื่นเขา ก็จะพลอยได้กำไรไปด้วย

#ท่านพ่อลี #ธมฺมธโร










" เรารู้ว่าใครไม่ดี
ก็หลีกออกให้ห่าง
ใครดีจึงคบหา ไปมาสู่กัน

ทุกๆ คน
ควรกระทำแต่ความดี
มีศีลสัจจธรรม

ส่วนคนประพฤติชั่ว
ก็จะต้องได้รับกรรม
ตามสนอง และ
เขาเป็นคนน่าสงสาร "

โอวาทธรรม
หลวงพ่อจง พุทธสโร








"..จงเพียรพยายามรักษา
ศีล ๕ ศีล ๘ ศีล ๑๐ ศีล ๒๒๗
ตามศรัทธาของตน ๆ

พร้อมทั้ง "ขันติ ความอดทน"
ทุก ๆ คนไป จนตราบเท่า
"ยาวขีวํ" ตลอดชีวิต
ด้วยจิตศรัทธาเลื่อมใสจริง ๆ

ให้พากันทำความเพียร
นั่งสมาธิ ยืนก็ให้เป็นสมาธิ
เดินไปข้างหน้าก็ให้เป็นสมาธิ

ถอยหลังก็ให้เป็นสมาธิ ขึ้นรถ
ก็ให้เป็นสมาธิ ไปรถไปเรือ
ก็ให้เป็นสมาธิ ลงจากรถ
ก็ให้เป็นสมาธิ ขึ้นจากเรือ
ก็ให้เป็นสมาธิ ขึ้นเครื่องบิน
และขณะโดยสารอยู่
ในเครื่องบินก็ให้เป็นสมาธิ

ตลอดทั้งกลางวัน ตลอดทั้ง
กลางคืน ก็ให้เป็นสมาธิ อยู่ดี
ก็ให้เป็นสมาธิ เจ็บไข้ได้ป่วย
ก็ให้เป็นสมาธิ

ครั้งสุดท้าย เวลาจะตาย
ยิ่งให้เป็นสมาธิอย่าง
ยอดเยี่ยม ถอดถอน
อาสวกิเลสออกให้หมดสิ้น

ก็ดับเข้าสู่นฤพานเลย
เอวํ ก็มีด้วยประการฉะนี้.."

โอวาทธรรม
หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร









หากผู้ใดหวังคําอธิษฐาน ก็ต้องมีศีล มีสัจจะกํากับ หากมีศีลคุมใจ จิตจะมีโอกาสเกิดสมาธิ เมื่อจิตมีสมาธิ จะเกิดพลังมหาศาล

สัจจะ คือความจริง ทั้งกาย วาจา ใจ กายกับจิตตรงกันเมื่อใด กายนั้น ศักดิ์สิทธิ์ จิตนั้นศักดิ์สิทธิ์ เมื่อใดกายศักดิ์สิทธิ์ จิตศักดิ์สิทธิ์ เมื่อนั้นวาจา ศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นอธิษฐานถ้ามีศีลและสัจจะกํากับ จิตจะมีกําลังสมาธิกล้าแข็ง เมื่อทําการอธิษฐานแล้วจะได้สมปรารถนา

หลวงปู่โต๊ะ อินทสุวัณโณ







"..ความ​เป็น​กับ​ความ​ตาย​
มันมีเส้นบางๆ กั้น​ไว้​
คือ​ลมหายใจ​เท่านั้น​นะ​

เข้า​แล้ว​ไม่​ออก​ก็​ตาย​
ออก​แล้ว​ไม่​เข้า​ก็​ตาย​

มัน​ไม่ได้​เลือก​เด็ก​
เลือกผู้ใหญ่
ไม่​เลือก​กาล​เลือกเวลา
ไม่​ได้​บอก​ล่วงหน้า​อีก​ด้วย​

เพราะ​ฉะนั้น​
อย่าพากันประมาท.."

โอวาทธรรม
หลวง​ปู่​ไม​ อิน​ฺ​ท​สิริ








".."เมตตาธรรม" ก็เช่นกัน
ขอให้แผ่ไปให้
แก่ชนทุกชั้นทุกระดับ

ใครจะรับได้มากน้อย
สุดแต่วาสนาบารมีของผู้นั้น "

โอวาทธรรม
หลวงปู่แหวน สุจิณโณ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Bing [Bot] และ บุคคลทั่วไป 3 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO