นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน เสาร์ 20 เม.ย. 2024 4:49 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: แสวงหาบุญ
โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 13 ส.ค. 2020 6:00 pm 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4532
วันนี้เป็นวันว่างเพื่อเสาะแสวงหาบุญกุศลเข้าสู่ใจ วันนอกนั้นเป็นวันงานเพื่อธาตุเพื่อขันธ์ความเป็นอยู่ และมีด้านจิตใจได้บ้างเล็กน้อย

แต่วันนี้เป็นวันเสาะแสวงหาบุญกุศล เป็นวันว่างเพื่อหาบุญคุณงามความดีเข้าสู่ใจ ท่านทั้งหลายได้บุญเข้าสู่ใจแล้วไม่ต้องวิตกวิจารณ์ในการเป็นอยู่หรือตายไปนะ จะมีความสงบร่มเย็นตลอดไป ให้พากันเสาะแสวงหา หันหน้าเข้าสู่ธรรม นอกจากนั้นเหลวไหลทั้งนั้นแหละ ล้มเหลวๆ เกาะที่ใดพังๆ เพราะไม่ใช่สิ่งที่เป็นวิสัยของจิตจะเกาะได้ติดได้ บุญกุศลนี้เกาะติดๆ เลย ไปที่ไหนไป ตั้งแต่สวรรค์ขึ้นไป ๖ ชั้น พรหมโลก ๑๖ ชั้น แล้วนิพพาน นี้เป็นคนบุญทั้งนั้นนะไป คนบาปไปไม่ได้

คนบุญก็คือผู้เสาะแสวงหาบุญ อย่างเราๆ ท่านๆ เสาะแสวงหาอยู่เวลานี้ นี่ละพวกที่จะไปสวรรค์ ๖ ชั้น พรหมโลก ๑๖ ชั้น แล้วนิพพาน ๑ ผู้มีบุญเท่านั้นที่จะไปได้ นอกนั้นไปไม่ได้เลย ส่วนนรกก็มีแต่คนบาปแหละจะไป ไหลกันไปเรื่อยๆ นรกมีไว้สำหรับคนบาป เป็นหลักธรรมชาติของมัน บุญก็มีที่รองรับ บาปก็มีที่รองรับ

วันนี้เป็นวันเหมาะสมของเราที่ได้เสาะแสวงหาบุญคุณงามความดีเข้าสู่ใจ ท่านทั้งหลายทานมากน้อยๆ นี้จะเข้าสู่ใจทั้งหมดนะ บุญใครจะคาดไม่ได้นะ บาปหนึ่ง บุญหนึ่ง คาดไม่ได้ เป็นสิ่งที่เราสุดวิสัยด้วยกัน เป็นหน้าที่ของบุญของบาปที่จะให้ผลแก่เรา

ท่านบอกว่ากรรมมีอำนาจมาก คือกรรมดีกรรมชั่วมีอำนาจมากด้วยกันทั้งสอง ใครมีกรรมดีก็มีอำนาจมาก พวกต่ำทรามทั้งหลายไหลลงนรก ผู้มีบุญขึ้นสวรรค์ สวนทางกันไปเลย เรื่องบุญเป็นอย่างนั้น เรื่องบาปก็เป็นอย่างนั้น บาปให้ขึ้นไม่ขึ้น มีแต่จะลงท่าเดียว บุญนี้ให้ลงไม่ลง มีแต่จะขึ้นท่าเดียว ฯ
.
บูชาพระคุณ ๑๐๗ปี ชาตกาล
องค์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
วัดป่าบ้านตาด








"..บรรดากุศลทั้งมวล
ที่บำเพ็ญ "การทำภาวนา
เป็นเยี่ยมกว่าทุกวิธี และ
เป็นเหมือนก้นอ่างเก็บน้ำ"
คือความดีทั้งหลายซึ่ง
จะไหลรวมมาสู่จุดนี้แห่งเดียว

ผู้บำเพ็ญภาวนาทางจิต
จนได้รับความสงบแน่วแน่
"ย่อมเป็นผู้มีคติอันแน่นอน
ทั้งเวลาปกติและเวลาจวนตัว"

เป็นผู้องอาจกล้าหาญ
ต่อคติธรรม คือความตาย
ทั้งที่ยังมาไม่ถึงและขณะที่
กำลังถูกมรณภัยคุกคาม

สามารถวางตนอย่างสม่ำ
เสมอตลอดวาระสุดท้าย.."

โอวาทธรรม
หลวงตาพระมหาบัว









" การที่เราจะอยู่เป็นมนุษย์​
ด้วยความอยู่เย็น​เป็นสุข​นั้น​
ก็ต้องอาศัย​บุญ​

การทำสมาธิ​ภาวนา​
การสวดมนต์​ภาวนา
ล้วนแล้ว​แต่เป็นสิ่งที่
ก่อให้เกิดบุญทั้งสิ้น
เราจะแสวงหา​บุญ​ได้ทุกเวลา​

พระพุทธเจ้า​ได้เปิดโอกาส​
ให้พวกเราทั้งหลาย
ได้สร้างบุญทุกเวลา
เรานึกได้เมื่อไหร่​
เราก็ได้บุญ​เมื่อ​นั้น​
สร้างบุญ​นั้นก็คือภาวนามัย​
บุญ​สำเร็จ​ด้วยการภาวนา​

เราจะนึก "พุทโธ"
แม้แต่คำเดียว
ก็ถือว่าเป็นบุญแล้ว "

โอวาทธรรม
หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร










" ควรพวกเราทั้งหลายคิดดู
ให้เห็นโทษและคุณแห่ง
ความตายเสียให้ชัดใจ

ผู้มีปัญญาไม่ควรประมาท
ความตาย ให้เห็นว่าเป็น
สมบัติสำหรับตัวเรา เราจะ
ต้องการในกาลอันสมควร
คือ ความตายมาถึงเรา
สมัยใด สมัยนั้นแหละ
ชื่อว่ากาลอันสมควร

ไม่ควรจะเกลียด ไม่ควร
จะกลัว สังขารทั้งหลาย คือ
สัตว์ที่เกิดมาในไตรภพ
จะหลีกหลบให้พ้นจาก
ความตาย ไม่มีเลย

เมื่อมีความเกิดเป็นเบื้องต้น
แล้ว ย่อมมีความตายเป็น
เบื้องปลายทุกคน นัยหนึ่ง
ให้เอาความเกิดความตาย
ซึ่งมีประจำอยู่ทุกวัน
เป็นเครื่องหมาย

เมื่อพิจารณาถึงความตาย
ก็ต้องพิจารณาถึงความป่วย
ไข้ และความแก่ ความชรา
เพราะเป็นเหตุ เป็นผลกัน

ให้พิจารณาถึงพยาธิความ
ป่วยไข้ว่า พยาธิ ธมฺโมมหิ
พยาธิ อนตีโต เรามีความ
ป่วยไข้เป็นธรรมดา จะข้าม
ล่วงพ้นไปจากความป่วยไข้
หาได้ไม่

ถ้าแลพิจารณาเห็นความ
ชราอันเป็นปัจจุบันได้ก็ยิ่ง
ประเสริฐ ความระงับสังขาร
ทั้งหลายนั้น ท่านมิได้หมายถึง
ความตาย ท่านหมายถึง
วิปัสสนาญาณ และ
อาสวักขยญาณ

คือปัญญารู้เท่าสังขาร
รู้ความสิ้นไปแห่งอาสวะ
เป็นชื่อของพระนิพพาน
เป็นยอดแห่งความสุข ”

โอวาทธรรม
พระอุบาลีคุณูปมาจารย์
(จันทร์ สิริจันโท)







สัญญาอารมณ์. ผ่านไปกี่ปีแล้ว. มันก็(เอามา)อุ่น. มันตื่นเป็นบ้าอยู่นั่น.

หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน









เค้าด่าเรา. เราก็ต้องพูดดีตอบ. อย่ามองเหตุการณ์. ให้มองที่ใจ.

หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย







โตตายไป.. เที่ยวเอิ้นพี่ เอิ้นน้อง มาเบิ่งโต มันบ่แมนแนว เอาแต่เพิ่นสิมาแหล่วเบาะ เป็นเรื่องของเพิ่น


ไผ๋มายามใด๋ กะทันอยู่ดอก อันทันตาย ขั่นมันคืนแล้ว จั่งบ่ทันแหม๋ โอ๊ย..ได้ยินข่าวว่าตาย มาแล้วผั่นบ่ทัน นั่งโค่โม่อยู่ผั่นสิว่า


อันนี่หยัง ของมากะตายแล้ว มันกะทันอยู่ซูคนฮั่นล่ะ ไผ๋มายามได๋กะดาย


อันผู้มาทัน กะบ่เห็นไปเปิดเบิ่งในโลงดอก เฮาเห็นอยู่.. โอ๊ย..ผู้ข้ามาแล้ว ไปเปิดเบิ่งโลงก่อน.. บ่เห็นว่าจักเถื่อเด้.. เหลียวเบิ่งโลงแหล่วกะแล้วถ่อนล่ะ

เฮาเห็นอยู่.. เห็นคนมา บ่เห็นไผ๋ไปเปิดเบิ่งจักเถื่อเด้โลง มากะมาเบิ่งหีบนั่น.. เหลียวเบิ่งหีบมันสิยากหยัง จักอึดตายหยังแต่หีบ

อยากเบิ่งบ่อนใด๋ กะเบิ่งล่ะแมะ เฮากะเห็นกันพอแฮงแหล่ว จักสิมาเบิ่งอีหยังอีก.. ไผ๋สิว่าจั่งใด๋กะซาง อย่าสุโง่.. พินัยกรรมเฮาเขียนไว้พอแฮงแล้ว..

#หลวงปู่หล้า #เขมปัตโต








ถ้าวางโลกได้. รู้โลกได้. ใจมันก็สบาย. เอาเท่านั้นแหละ

หลวงตาสมหมาย อตฺตมโน









“แม่นั่นแหละ คือผู้สร้างโลก
เขาจะพูดว่าพระเจ้าคือผู้สร้างโลก
ก็ตามใจเขา

เดี๋ยวนี้เรามามองดูว่า ผู้ที่เป็นแม่นั่นแหละ
เป็นผู้ที่สร้างโลก คือแม่สร้างลูก สร้างเด็กขึ้นมา
ในลักษณะอย่างไร คนเหล่านี้ก็ประกอบกันขึ้นเป็นโลก

โลกนี้ทั้งหมด จะชั่วจะดีอย่างไร
มันก็แล้วแต่ว่า คนทั้งหมดที่ประกอบกันขึ้น
เป็นโลกนั่นแหละ มันดีมันชั่วอย่างไร
แล้วคนเหล่านี้ จะดีจะชั่วอย่างไร
ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่ที่แม่ที่ปั้นดวงวิญญาณ
ของเขามาตั้งแต่อ้อนแต่ออก”

ท่านพุทธทาสภิกขุ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO