นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน ศุกร์ 29 มี.ค. 2024 1:39 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: หมดบุญ
โพสต์โพสต์แล้ว: อาทิตย์ 31 พ.ค. 2020 7:33 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4510
#นี่แหละบุญ

"การทำบุญให้ทานมีอานิสงส์มาก คนผู้มีการทำบุญให้ทานไปที่ไหนไม่อดอยากขาดแคลน ไปที่ไหนไม่อด เบิกกว้างไปตลอดเวลา เพื่อนฝูงก็มาก จิตใจของเราก็เบิกกว้่างออกไป เกิดภพใดชาติใดไม่มีคำว่าอัดอั้นตันใจด้วยความขาดแคลนในสิ่งที่จะนำมาเสวย

นี่อำนาจแห่งทานนี่ละ เบิกๆ ออกไป ไปอยู่ในภพใดชาติใด ก็มีแต่อำนาจของทาน อำนาจของบุญกุศลที่เกิดขึ้นจากการให้ทานนี้ ให้เป็นเครื่องเสวย เป็นที่อยู่ที่อาศัยสะดวกสบายไปตามๆ กันหมด"

..... หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน












#ความอัศจรรย์

"สำหรับหลวงพ่อการไต่ถามความรู้
ความเห็นหรือข้อขัดข้องใจต่างๆ ใน
ปัญหาธรรมกับครูบาอาจารย์นั้น คือ
บางสิ่งบางอย่างมันไม่ใช่ง่าย ความรู้
บางอย่างมันเกิดขึ้นจากเราก็ดี ถ้าเรา
จะไปศึกษากับท่านพระอาจารย์มั่น เรา
ไปศึกษาดีไม่ดีเดี๋ยวเขาจะหาว่าเรานี้
ภาวนาเก่งนัก ไปศึกษากับท่านได้อย่าง
โน้นอย่างนี้เข้า คือไปศึกษาแล้วหมู่เขา
จะหาว่าเรานี้อวดดีหรือว่าภาวนาเก่ง ดี
กว่าเขาอย่างโน้นอย่างนี้เข้า เราก็เลย
อยากจะเก็บของเรานี้ไว้ ไม่อยากจะไป
เปิดเผยให้ท่านฟัง แต่ท่านพระอาจารย์มั่น
ท่านรู้ รู้ได้หลายอย่าง อย่างหลวงพ่อยัง
ไม่ได้คัดเลือกทหาร ทำไมท่านรู้

อีกเรื่องที่ว่าท่านรู้นี้ วันหนึ่งผ้าปูนั่ง
(นิสีทนะ) มันขาด ผ้าขาดแล้วเย็บไม่อยู่
ด้ายพื้นบ้านเขาทอด้วยมือซ่อมแซมก็ไม่ได้
ก็เลยนั่งคิดอยู่บนกุฏิว่า “ท่านครูบาวัน
(พระอาจารย์วัน อุตตฺโม) ท่านเป็นผู้รักษา
คลังผ้าไว้ ถ้าหากว่าเราขอผ้าตัดผ้าปูนั่ง
จะได้หรือเปล่าหนอ” ว่าแล้วก็ไปหรอก พอ
ขึ้นไปฟังเทศน์ท่านจบ ท่านพระอาจารย์มั่นกล่าวขึ้น “วัน...เอ้ย เอาผ้าให้ท่านคำพองเขาตัดผ้าปูนั่งเน้อ ผ้าปูนั่งท่านคำพองขาด เย็บ
ไม่อยู่ เห็นบ่นว่ามันขาดอยู่” เราตกใจวูบเลย แล้วอย่างนี้ถือเป็นเรื่องอัศจรรย์อย่างหนึ่ง

เรื่องของความอัศจรรย์เป็นเรื่องระวังตัว
ไม่อยากจะคิด คือว่าท่านเตือนอย่างนี้ ที่เรา
จะไปคิดอย่างหนึ่งก็ไม่อยากคิด เพราะกลัวท่านจะรู้ว่าเราคิดเรื่องอะไร นี้เป็นเรื่องที่ระวังตัว เป็นเรื่องที่เกิดความบริสุทธิ์ขึ้นส่วนหนึ่ง เพราะว่า เราระวังอยู่ไม่ปล่อยจิตให้ไปคิด
เรื่องโน้น เรื่องนี้ให้มาก.. "

#หลวงพ่อคำพอง_ติสฺโส










"ทำความดีมีการบำเพ็ญทาน​ รักษาศีล​
เจริญภาวนา​ ซึ่งเป็นเหมือนดาบอันคมกล้า​
ตัดกิเลส​ ตัณหา​ ตัดภพ​ ตัดชาติ​ให้เบาบาง
และสั้นเข้ามา​ เมื่อบำเพ็ญ​อยู่โดยสม่ำเสมอ
ไม่ลดละปล่อยวาง​ ความดีเหล่านั้นย่อมจะมีกำลังกล้าขึ้นโดยลำดับ​ และตัดกิเลสตัดภพชาติให้สั้นเข้ามาจนถึงภพชาติปัจจุบัน​ และ
รู้เท่าทันพร้อมทั้งตัดกิเลสอันเป็นเชื้อแห่ง
ภพที่ฝังอยู่ภายในใจ​ ให้ขาดกระเด็นออกเป็นผุยผงไม่มีชิ้นต่อกับใจอีกเลย​ แล้วภพชาติจะเรียกโคตรแซ่ที่ไหนจะมาพาให้เกิด​ แก่​ เจ็บ​ตาย​ เพื่อหาบหามกองทุกข์​น้อยใหญ่อีกต่อไปเล่า​ ถ้าลงใจได้บริสุทธิ์​ล้วนๆ​ แล้ว... "
-----------------
#หลวงปู่ขาว_อนาลโย









" ชาติหน้ามีจริง
ภพชาติมีอยู่จริงนะลูกนะ
ต้องมาเกิดมาตาย
ไม่มีจบสิ้นนะ

บุญไม่มี ศีลไม่มี
สมาธิไม่มี
เกิดเป็นคนไม่ได้เลย
ศีล สมาธิ นี้ต้องมีนะ
ต้องทำให้เกิดในใจเรา
ขาดไม่ได้เลยนะลูก

ศีล สมาธิ นี้แหล่ะ ลูกเอ๋ย
กลับมาเกิดเป็นคนได้
เป็นนางฟ้าเทวดาได้

ถ้าไม่มีแล้วไปเกิด
เป็นปลา เป็นวัว เป็นควาย
เป็นไก่ ให้เขาฆ่า
หาที่จบไม่ได้เลยนะ "

โอวาทธรรม
คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม









" ให้พิจารณาความตาย
นั่งก็ตาย นอนก็ตาย
ยืนก็ตาย เดินก็ตาย
ทุกคนมีความตายเป็นที่สุด

ตายทุกเพศทุกวัย
ตายได้ทุกกาลเวลา
เพราะฉะนั้น จึงไม่ควร
ประมาทในชีวิต

ให้เว้นจากความชั่ว
สร้างสมคุณงามความดี
สร้างบุญ สร้างกุศล
ไว้เป็นที่พึ่งของตน
เมื่อล่วงลับจากโลกนี้ไปแล้ว "

โอวาทธรรม
หลวงปู่ชอบ ฐานสโม









“#หมดบุญ”

พระใหม่ : หลวงปู่ครับ ผมจะเลิกทำสมาธิ

หลวงปู่ : ทำไม

พระใหม่ : ผมคิดว่าผมบุญน้อย นั่งสมาธิมาเป็นพรรษาแล้ว มันยังไม่สงบเลย ผมคงหมดบุญแล้วครับ

หลวงปู่ : หึ หึ หึ เออดีๆ ผมจะนิมนต์พระไว้รอ

พระใหม่ : นิมนต์พระทำไมครับผม

หลวงปู่ : ไว้สวดคุณน่ะสิ คุณว่าคุณหมดบุญแล้ว

พระใหม่ : ยังครับผมหลวงปู่ ผมยังไม่ตาย ผมหมายถึงว่า ผมนั่งสมาธิ นั่งเท่าไหร่ก็ไม่สงบ

หลวงปู่ : เออ…ถ้ามันสงบแล้วก็ไม่ต้องนั่ง เรานั่งหาความสงบ ถ้าจิตมันเป็นสมาธิแล้วเราจะนั่งทำไม เรานั่งให้มันเป็นสมาธิ ไปยังไม่ถึง มันก็ไม่เจอ ถ้าไม่เจอต้องพยายามต่อไป คนทำสมาธิอย่าโง่ อย่ามัวแต่หาสงบอย่างเดียว สังเกตปัญญาที่มันเกิดขึ้นขณะมันยังไม่เป็นสมาธิด้วยเหมือนคนไปหาเห็ด เดินเข้าป่าไม่ยอมเก็บเห็ด หาว่าดอกมันน้อย ดอกนั้นก็น้อย ดอกนี้ก็น้อย เดินหาดอกใหญ่ รอเจอดอกใหญ่ค่อยเก็บ เดืนจนหมดป่าก็ไม่เจอดอกใหญ่ สุดท้ายเลยล้มเลิกเพราะไม่ได้เห็ด ทำสมาธิก็เหมือนกัน มัวแต่หาความสงบจนลืมปัญญาที่เกิดตามทางที่จะไปสู่ความสงบ ดีกว่าไปสงบแบบโง่ สงบเป็นก้อนหินจะได้ประโยชน์อะไร สงบแบบมีปัญญาดีกว่าสงบแบบโง่ๆนะ ไปๆ

ทำต่อให้มันล้มเหลวยังมีค่ากว่าล้มเลิก ถ้าล้มเลิก อย่าไปเที่ยวบอกใครว่าเป็นศิษย์ผมเด้อ

พระธรรมโอวาท หลวงปู่หา สุภโร (หลวงปู่ไดโนเสาร์)
วัดสักกะวัน จ.กาฬสินธุ์









#เมื่อเกิดมากะมายึดเอาร่างกายตัวตนว่าเป็นของเรา

เมื่อยึดแล้วมันกะทุกข์ กลัวมันจะเป็นจั่งซั่น กลัวมันสิเป็นจั่งซี้ เมื่อมันเป็นแล้วมันกะทุกข์อีก กลัวแล้วกลัวอีก รักษาแล้วมันกะบ่หาย ฟังแต่ซื่อมันยา คล้ายๆกับครุฮั่วหาแนวมาอุดมายาไว้ อุดบอนนี้ ยาบ่อนนี้กะไปฮั่วบ่อนหั่น ทำไปทำมา โครงสร้างมันพุ มันพัง ยาแล้วมันกะบ่อยู่ มันแตกเหมือนกับของภายนอกนั้นล่ะ

#อย่าสิไปเลี้ยงมันซือๆร่างกาย
#หาประโยชน์จากมันร่างกายนี้

ละกะบ่แมนของเฮา เป็นของพ่อของแม่ ละกะนำไปถึงความจริงแท้ๆมันบ่แมนของไผ๋

ร่างกายของเฮากับพื้นศาลาที่เฮานั่งอยู่นี่อันเดียวกัน นี่คือธาตุดินอันเดียวกัน ร่างกายเฮามันเป็นหยังจั่งเป็นดิน ข้าวเกิดมาจากไส อาหารการบริโภค สัตว์หมู่นี้เกิดมาจากไส เกิดมาจากดิน ไล่หาต้นตอร่างกายของเฮามาจากไส มาจากพ่อจากแม่ พ่อแม่เฮาได้มาจากไส พ่อแม่กะได้มาจากพ่อจากแม่ พ่อแม่พุ้นเด้ กะได้มาจากพ่อจากแม่คือเก่า พ่อแม่นั้นได้มาเเต่ไส ได้มาจากขี้ดิน ข้าวเกิดจากไส เกิดจากขี้ดิน

#สุดท้ายมันกะเลยหมุนกันอยู่จั่งซี้

อย่างหลวงปู่ขาวเพิ่นให้เวลาฉันบิณฑบาตเพิ่นให้พิจารณา ให้กำหนดคำข้าวป่อนเข้าปากเคี้ยว เคี่ยวเพิ่นกะให้กำหนดตามลงไปถึงกระเพาะอาหาร ไปฮอดกระเพาะอาหาร บาดนิกะออกจากก้น มันกะกลับคืนมาม่องเก่ามัน ข้าวก็มาจากดิน เพิ่นให้พิจารณาให้มันเข้ากันลงเอ๋ยกัน

#พิจารณาเฮ็ดหยังเบิ่งเฮ็ดหยัง

เบิ่งหาความจริง เพื่อจิตใจสิได้ถอนออกจากร่างกาย ถ้าจิตใจมันถอนออก ประโยคแรกตัวสักกายทิฐิ ความยึดมั่นถือมั่นในกาย

#ถ้ามันละได้จริงๆ #ถอนได้จริงๆมันละเอียดไปถึงขั้นพระอนาคามีพุ้นเด้

พระโสดาบันนั้นเป็นเพียงรู้ซือๆ แต่ละบ่ทันได้ ละได้เป็นชั่วครั้งชั่วคราว ชั่วขณะ ยังบ่ขาดอีหลี คล้ายๆกับเฮาแบกไม้ เวลาแบกมันกะหนัก เวลาปงวางมันก็เบา แต่ว่ามันบ่ขาด มันยังหลงไปแบกอีกยุ แต่ว่ามันบ่ขาด เพียงแต่รู้ชัดเจนซือๆ ตัวสักกายทิฐิความยึดมั่นถือมั่นในกาย ละกะ วิจิกิจฉา ความสงสัยว่าอีหยังเป็นตน นี้บ่สงสัยเด้ ละกะ สีลัพพตปรามาส อีหยังเป็นศีล ศีลอยู่ไสบาดนิ สีลัพพตปรามาส นี่กะบ่สงสัย ละได้

#สักกายทิฐิ #วิจิกิจฉา #สีลัพพตปรามาส #สามข้อนี้ #ถ้าเห็น #ถ้ารู้จริงนี่ละจิตใจจะเป็นพระ

พระหยัง พระโสดาบัน ละกะบ่เป็นอย่างอื่น บาดนิเขาสิมาสอนศาสนาใด๋ มันกะบ่เซือมันบ่หลงไปตาม ลัทธิทุกลัทธิในโลกอันนี้ ต้นไม้ ภูเขาเหล่ากา มาเป็นที่พึ่งบ่มี

#เพราะมันเห็นจริงแล้ว

พุทธะ ศาสนา พุทธะกะผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน อยู่กับเฮานี่บาดนิ ละบาดนิกะ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

พระพุทธเจ้ากะคือจิตใจเฮาน้อมเข้ามาอยู่นี่ พระธรรมคือจิตใจนิละ พระสงฆ์กะคือจิตใจ มันสิวิ่งเข้าหากัน

#น้อมเข้ามาอยู่นี่ (#จิตใจ)
#บ่ได้ส่งออกได้ข้างนอก

อันนี้ โอ้ยยย..ส่งไปหาทรัพย์ คือสิเป็นจั่งซั่น คือสิเป็นจั่งซี้ มีเงินจักหมื่นล้านว่าสิสุข พอไปถึงหมื่นล้านมันกะบ่สุข ล้านๆกะยังบ่สุขอีก

#ความสุขมันบ่อยู่พุ้นบาดนิ
#ความสุขมันอยู่พี้
#บอนจิตใจอันบริสุทธิ์พี้

จิตใจปราศจากความอยาก หายจากความอยาก มันจั่งสิสุขแท้

#สุขในจิตในใจ #มันสุขอัศจรรย์เด๊

ถ้าผู้ใดประสบครั้งแรก มันสิเกิดความสลดสังเวช น้ำตาพังพุ้นล่ะ พังนำหยังติ พังว่าจะของนี้หลง หลงมานาน พ่วมแต่ฮู้ความจริง เกิดสลดสังเวช

#ถ้ามันเห็นจริงๆตามความเป็นจริง #ร่างกายนี้กับจิตใจ #มันบ่แมนอันเดียวกัน

มันคนละอย่าง ถ้ามันเห็นคนละอย่างชัดเจนแล้ว เมื่อร่างกายมันแก่ จิตใจกะบ่ได้แก่นำ เจ็บปวดกะบ่ได้เจ็บปวดไปนำ แตกกะบ่ได้แตกไปนำ มันอยู่คนละทาง

#เพราะฉะนั่นล่ะ #เพิ่นจั่งมากำหนดเบิ่ง #ดูร่างกายจะของ #เหมือนดูร่างกายคนอื่น

ทำความเข้าใจ พุ้นล่ะ จนกว่าเห็นว่าร่างกายมันเป็นอย่างอื่น มันบ่แมนตน

#ตนของตนคือจิตใจต่างหาก

ตัวดวงจิตดวงใจเป็นนามธรรม มันบ่เป็นตน มันบ่เป็นตัว เจ็บไข้ได้ป่วยกะบ่เป็น แต่ตัวหลง อุปาทานมันเสกสรรปั้นยอขึ้นมาทุกข์ แน่นหัวอกจนสิแตกพุ้น เขาด่าเคียดให้เขา หรือเขามาล่วงเกิน มาปล้น มาตีหัวตีหางหรือเขามาทำลายทรัพย์สมบัติมันแห่งขึ้น เมื่อมันขึ้นแฮงๆมันกะเผาจะของ

#ถ้าตัวมันรู้มันจะไม่เข้าไปยึด

เขาทำมันก็เป็นเรื่องของเขาช่างหัวมัน มันผ่านไปแล้ว มันเป็นอดีตไปแล้ว บ่ต้องไปถือมัน บ่ต้องไปยึดมัน ถ้ามันฮู้มันสิปล่อยวางเอง บ่ต้องไปบอกให้มันวาง

คล้ายๆกับเฮาจับไฟ อย่าวางเด้อ ห่วยย!!! .. มันฮู้ว่ามันฮ้อนมันสิวางทันทีแมนบ่อ อันนี้มันบ่ฮู้มันกะบ่วาง นี่นา นี่นา..มันบ่ฮู้มันบ่เห็นแท้ๆ

ขันธ์ห้าธาตุทั้งสี่ ดิน น้ำ ลม ไฟ รวมกันเป็นก้อน รูปนี้ขันธ์ที่หนึ่ง

ขันธ์ที่สองคือเวทนา เวทนาคือเสวยทั้งสุขทั้งทุกข์ ทั้งเย็นทั้งร้อน สารพัดอย่างที่มาสัมผัสกับร่างกายนี้ มันสัมผัสทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางจิตใจ นี้บอนที่มันมาสัมผัส เกิดสุขเกิดทุกข์ เกิดบ่สุขบ่ทุกข์ เย็นร้อน นี้เรียกเวทนา ขันธ์ที่สอง

ขันธ์ที่สามคือสัญญา ความจำ ไปเรียนไปศึกษามา ได้ยินได้ฟังมา อันนี้กะบ่เที่ยงคือกันเด้ เกิดๆดับๆของมัน จำดีจำชั่ว บ่ดีบ่ชั่วสารพัด มันกะจำคือกัน สิ่งบ่ให้จำมันก็ไปจำ เป็นหยังมันจั่งบ่จำ มันบ่ฮู้มันหลง สัญญากะทำให้เป็นทุกข์คือกัน


สังขารความคิด ความปรุง ความแต่งนี่กะทำให้จิตใจเป็นทุกข์เดือดร้อนคือกัน คิดดีคิดชั่ว เขาด่าแต่ พ.ศ.บ่ทันมีนึกขึ้นมา โอ๊ยย..พออยากฆ่ามันตาย ตัวเสียงมันกะบ่มีตัวบ่มีตนอีก กะยังไปยึดไว้ จังไว้อยู่ในใจ นั้นล่ะ นึกมายามใด๋ ..โอ๊ยยยย..เดือดร้อนขึ้นมาเป็นทุกข์

จั่งสิล่ะเพิ่นให้ศึกษา ให้เรียนรู้ ปากเขา ลมเขา เฮาบ่รับกะบ่มีปัญหาหยัง หลีกออกไปจั่งสิ อยู่ในโลกมันมีจั่งสิ หูนี้สำหรับกับเสียง ตากับรูป จมูกกับกลิ่น ลิ้นกับรส กายกับสัมผัส มโนกับจิตใจ มันสวนกันไปกันมา ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ หกประตูนี้ แต่ละประตูเป็นพันๆพุ้นเด้อ

หลวงปู่มั่นเพิ่นว่า มันเกิดสวนกันอยู่นี้ หลอกจะของหลงตามมันอยู่นี้ นี้ขันธ์ที่สี่คือสังขาร


ขันธ์ที่ห้า คือความรับทราบ คือความรู้ ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ เรียกว่าขันธ์

ตากะผูก หูกะผูก ลิ้น กาย ใจ กะผูก ขั่นสินับเป็นเชือกผูกเชือกมัดบาดนิ หกพันเส้นแมนบ่ ถ้าให้หลวงปู่นับมันเป็นล้านๆพุ้นเด้ พอตัวหนึ่งมันผุดขึ้นมา มันสวนพร้อมกันโลดเด้

แต่เฮาบ่ฮู้ บ่มีสติฮู้เขาเด้ มันกะหลอก บ่ธรรมดาเด่ มาพิจารณาเบิ่งแล้ว มันสมควรที่หลงมันกะจั่งหลง มันวิจิตรพิศดารคือหยังเด้ คั้นว่าเฮาฮู้มันกะแห่งฮู้กว่าเฮา ยาดนิอวิชชาความบ่ฮู้มันกะมีหลายขั้นตอน ขั้นละเอียดอีหลีว่าจะของฮู้มันกะเลยกลายเป็นอวิชชา "..ว่าโตกะดัต เขาผัดแฮ่งกะด้อ ว่าโตจ้อก้อ เขาผัดแฮ่งขึ้นนั่งตอ..”

สุดท้ายตัวอวิชชา มันงอยอยู่ปลายจิก ถ้าบ่ฮู้จริงเห็นจริง ผลักมันลงจากปลายจิกบ่ได้แล้วทอนั้นมันยังไปต่อ ไปเกิดอีก..มันดับบ่เบิ๊ด..

โอวาทธรรมหลวงปู่บุญมา คัมภีรธัมโม
วัดป่าสีห์พนม อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร








#เมื่อมาก็ตัวเปล่า

เมื่อไปก็ไปตัวเปล่า ให้เร่งสร้างความดีงามเพราะความดีงามเท่านั้นที่คงอยู่ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา เป็นเครื่องทำให้โลกไม่วุ่นวาย

หลวงปู่อินตอง สุภวโร











#การภาวนาเฉพาะส่วนตัว

ก็ได้กำหนดลมหายใจออกเข้าเป็นหลักเป็นส่วนมาก แท้จริงได้หัดทำแต่ยังอยู่เป็นฆราวาส คราวภรรยาตายแล้วเป็นต้นมา นิมิตเห็นแสงดาวและนิมิตก้อนเมฆที่ไหลผ่านแล้วแตกสลาย ได้น้อมลงสู่ไตรลักษณ์ เห็นประจักษ์แต่เป็นฆราวาสแล้ว

#จิตที่รวมลงในอานาปาฯ

ไม่ได้ยินเสียงใดๆ ตัดเสียงหมอลำที่เขาลำอยู่ในวัดที่กำลังเป็นพระมหานิกายอยู่ ก็ได้รู้จักรสชาติแล้วไม่สงสัย พอหมดกำลังก็ถอนออกมา ก็ได้คำนึงน้อมสู่ไตรลักษณ์แถมท้ายส่งเดช

#ฉะนั้นการปฏิบัติมาแต่ต้นจนถึงปัจจุบัน #เดี๋ยวนี้

ท่านผู้ใดเล่าเรื่องนิมิตต่างๆ นานาสารพัดให้ฟัง ก็ฟังได้ แต่ไม่ตื่นเลย เพราะนิมิตทั้งหลายไม่ใช่พระนิพพาน เกิดขึ้นแล้วก็แปรปรวนแตกสลายเท่านั้น เพราะไม่พ้นกองพลของไตรลักษณ์ เพราะนิมิตกับกิเลสมันเป็นคนละรสละชาติ กิเลสต่างจากนิมิตไกลกันริบหรี่เลย

#อยู่กับหลวงพ่อบุญมีนิมิตไม่มาก

แต่ถึงกระนั้น เตียงที่นอนอยู่พาเหาะลอยไปในอากาศก็มี บางทีเหาะขึ้นไปบนอากาศแล้วตีลังกาพลิกคว่ำพลิกหงายโลดโผน เดินจงกรมในอากาศ นอนกลางอากาศเข้าสมาธิก็มี และในเวลาที่นอนขวางอยู่บนอากาศเช่นนั้น ตอบตนเองว่า “นี้สิจึงเป็นสมาธิ” เมื่อหมดกำลังก็ถอนออกมา เห็นลมเข้าออกตามเดิม

#อุปจารสมาธินี้เป็นไปโลดโผนต่างๆ #นานา

กุศลสมาธิชั้นนี้อยู่ใต้อำนาจอนิจจัง ผู้มีปัญญาน้อมลงสู่ไตรลักษณ์ได้เร็วพลันทันเวลา เป็นทาง (ป้อง) กันความสำคัญตัวว่าประเสริฐได้ เป็นทางไม่ให้นอนใจ ติดอยู่เพียงแค่นั้น ผู้ขาดการศึกษา มักพาให้เพิ่มบ้า ว่าตนภาวนาเก่ง ใครเทศน์ก็ไม่ลง เพราะขาดปัญญาปลงลงสู่อนิจจัง เพราะธรรมอนิจจังเป็นศาลยุติธรรมตัดสินฝ่ายสังขารธรรมไม่ลงบัลลังก์อยู่ทุกกาล

#ปัญญาญาณต้องรู้ตามเป็นจริงส่งคืน

ไม่มีหน้าที่จะต้องไปปล้นไปจี้ว่าเป็น เรา เขา สัตว์ บุคคลอะไร จะกลายเป็นหักดอกไม้บูชาอวิชชา ความมัวความเมาให้บวกทวีคูณทวีขึ้น

#นักภาวนาชอบมาติดอยู่ชั้นนี้

แกะยาก จนกว่าจะเห็นคุณและโทษในชั้นนี้ด้วยตนเองชัดเจน แล้วจึงจะข้ามพ้นจากความเข้าใจผิดไปได้สะดวก...

หลวงปู่หล้า เขมปัตโต


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Bing [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO