นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน พฤหัสฯ. 28 มี.ค. 2024 4:40 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: การคิดดี
โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร 05 พ.ค. 2020 8:23 pm 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4510
อาตมาแผ่เมตตาให้คนทั้งโลกทุกวัน
ผู้ใดที่มีความทุกข์ ขอให้พ้นทุกข์
ผู้ใดมีความสุข ขอให้สุขยิ่งๆขึ้นไป
ผู้ใดบวช ถือศีล ภาวนา ขอให้ดวงตาเห็นธรรม
นี่อาตมาแผ่เมตตาให้คนทั้งโลกแบบนี้ ทุกวันไม่เคยขาด...

หลวงพ่อพระอาจารย์เปลี่ยน ปญฺญาปทีโป









ยากอะไร ก็ไม่ยากเท่าปฏิสังขรณ์
ถอนอะไร ก็ไม่ยากเท่าถอนมานะ
ละอะไร ก็ไม่ยากเท่าละกามคุณ
บุญอะไร ก็ไม่เท่าบุญบรรพชา
หาอะไร ก็ไม่ยากเท่าหาตน
จนอะไร ก็ไม่เท่าจนปัญญา

พระอาจารย์วัน อุตตโม
วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม (ถ้ำพวง) อ.ส่องดาว จ.สกลนคร.













การเจริญภาวนานั้น เป็นการสร้างบุญบารมีที่สูงที่สุด
และยิ่งใหญ่ที่สุดในพระพุทธศาสนา จัดว่าเป็นแก่นแท้และสูงกว่าฝ่ายศีลมากนัก​

การเจริญภาวนานั้น มี ๒ อย่าง คือ
(๑) สมถภาวนา (การทำสมาธิ)
(๒) วิปัสสนาภาวนา (การเจริญปัญญา)​

พระพุทธองค์ได้ตรัสไว้ว่า "ผู้ใดแม้จะทำสมาธิจนจิตเป็นฌานได้นานถึง ๑๐๐ ปี และไม่เสื่อมก็ยังได้บุญน้อยกว่าผู้ที่มองเห็นความเป็นจริงที่ว่าสรรพสิ่งทั้งหลายอันเนื่องมาจากการปรุงแต่ง ล้วนแล้วแต่เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตาแม้จะเห็นเพียงชั่วขณะจิตเดียวก็ตาม"​

ดังนี้ จะเห็นได้ว่า วิปัสสนาภาวนา (การเจริญปัญญา) นั้น เป็นสุดยอดของการสร้างบุญบารมีโดยแท้จริง และการกระทำก็ไม่เหนื่อยยากลำบาก ไม่ต้องแบกหาม ไม่ต้องลงทุนหรือเสียทรัพย์แต่อย่างใด แต่ก็ได้กำไรมากที่สุด​

เมื่อเปรียบการให้ทานเหมือนกับกรวด และทราย ก็เปรียบวิปัสสนาได้กับเพชรน้ำเอก ซึ่งทานย่อมไม่มีทางที่จะเทียบศีล ศีลก็ไม่มีทางที่จะเทียบกับสมาธิ และสมาธิก็ไม่มีทางที่จะเทียบกับวิปัสสนา​

แต่ตราบใดที่เราท่านทั้งหลายยังไม่ถึงฝั่งพระนิพพาน ก็ต้องเก็บเล็กผสมน้อย โดยทำทุก ๆ ทางเพื่อความไม่ประมาท โดยทำทั้งทาน ศีล และภาวนา สุดแต่โอกาสจะอำนวยให้ จะถือว่าการเจริญวิปัสสนาภาวนานั้นลงทุนน้อยที่สุด แต่ได้กำไรมากที่สุด ก็เลยทำแต่วิปัสสนาอย่างเดียว โดยไม่ยอมลงทุนทำบุญให้ทานใด ๆ ไว้เลย​

เมื่อเกิดชาติหน้า เพราะเหตุที่ยังไม่ถึงฝั่งพระนิพพาน ก็เลยมีแต่ปัญญาอย่างเดียวไม่มีจะกินจะใช้ ก็เห็นจะเจริญวิปัสสนาให้ถึงฝั่งพระนิพพานไปไม่ได้เหมือนกัน​

อนึ่ง พระพุทธองค์ได้ตรัสเอาไว้ว่า "ผู้ใดมีปัญญาพิจารณาจนจิตเห็นความจริงว่า ร่างกายนี้เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตาไม่ใช่ตัว ไม่ใช่ตน คน สัตว์ แม้จะนานเพียงชั่วช้างยกหูขึ้นกระดิกก็ยังดีเสียกว่าผู้ที่มีอายุยืนนานถึง ๑๐๐ ปีแต่ไม่มีปัญญาเห็นความเป็นจริงดังกล่าว"​

กล่าวคือ แม้ว่าอายุของผู้นั้นจะยืนยาวมานานเพียงใด ก็ย่อมโมฆะเสียเปล่าไปชาติหนึ่ง จัดว่าเป็น "โมฆบุรุษ" คือ บุรุษที่สูญเปล่า​

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช











"การภาวนานั้นไม่ต้องสอนกันมาก ให้ดูลงไปที่กายใจ เพราะกายและใจจะสอนเราเอง ของจริงนั้นไม่ต้องอาศัยตำรา ไม่อาจเรียนจากตำรา ไม่อาจหาเอาจากสิ่งใด"

หลวงปู่อว้าน เขมโก









"พระพุทธศาสนานั้นไม่มีที่ต้องติ!
แต่พระพุทธศาสนาจะต้องถูกติ!
เพราะผู้ปฏิบัติดึงพระพุทธศาสนา
มาเป็นเครื่องมือของกิเลสที่มีเต็มหัวใจ"

หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต








" สิ่งอันประเสริฐที่มีอยู่เฉพาะหน้าแล้วไม่สนใจ
กลับไปหวังไกลถึงสิ่งที่เป็นเพียงการกล่าวถึง
เป็นลักษณะของคนไม่เอาไหนเลย...
ก็ในเมื่อมรรคผลนิพพานในศาสนาสมณโคดมในปัจจุบันนี้
ยังมีอยู่อย่างสมบูรณ์ กลับเหลวไหลไม่สนใจ
เมื่อถึงศาสนาพระศรีอาริย์ก็ยิ่งเหลวไหลมากกว่านี้อีก "

หลวงปู่ดูลย์ อตุโล
วัดบูรพาราม อ.เมือง จ.สุรินทร์








คนพาลถึงจะรู้แค่ไหนก็คือคนพาล
เหมือนเอาสายสร้อยไปใส่คอเป็ดมันก็คือเป็ด
เอาไปใส่คอหมูก็คือหมู เอาไปใส่คอแมวก็คือแมว
มันจะเป็นรสชาติอะไร ความรู้จากคนพาลก็ไม่แตกต่างกัน
งูเห่าเอาไปไว้บนยอดฟ้ามันก็คืองูเห่า

หลวงปู่ทองใบ ปภัสสโร ประธานสงฆ์วัดนาหลวง
อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี








"..มัวแต่คิดจะต่อต้านผู้อื่น
ทำไมไม่คิดต่อต้านกิเลสตัวเอง
เอาชนะกิเลสตัวเอง
ทำอย่างไร...ความโลภมันจึงจะเบาบางลง
ทำอย่างไร...ความโกรธมันจึงจะเบาบางลง
ทำอย่างไรความหลงมัน...จึงจะเบาบางลงไป
นี่คือ...หน้าที่ของเราโดยตรง.."

หลวงปู่ท่อน ญาณธโร
วัดศรีอภัยวัน จ.เลย










คำที่เป็นคติ อันท่านอาจารย์กล่าวอยู่บ่อยๆ ที่เป็นหลักวินิจฉัยความดีที่ทำ ด้วยกาย วาจา ใจ แก่ศิษยานุศิษย์ดังนี้

๑. ดีใดไม่มีโทษ ดีนั้นนับว่าเลิศ
๒. ได้สมบัติทั้งปวง ไม่ประเสริฐเท่าได้ตน เพราะตัวตนเป็นที่เกิดแห่งสมบัติทั้งปวง

เมื่อท่านอธิบาย ตจปัญจกกรรมฐาน จบลง มักจะกล่าวเตือนขึ้นเป็นคำกลอนว่า แก้ให้ตกเน้อ แก้บ่ตก คาพกเจ้าไว้ แก้บ่ได้ แขวนคอต่องแต่ง แก้บ่พ้น คาก้นย่างยาย คาย่างยาย เวียนตายเวียนเกิด เวียนเอากำเนิดในภพทั้งสาม ภาพทั้งสามเป็นเฮือน เจ้าอยู่ ดังนี้ เมื่อคราวท่านเทศนาสั่งสอนพระภิกษุ ผู้เป็นสานุศิษย์ถือลัทธิฉันเจ ให้เข้าใจทางถูก และ ละเลิกลัทธินั้น ครั้นจบลงแล้ว ได่กล่าวเป็นคติขึ้นว่า เหลือแต่เว้าบ่เห็น บ่อนเบาหนัก เดินบ่ไปตามทาง สิถืกดงเสือฮ้าย ดังนี้แล การบำเพ็ญสมาธิ เอาแต่เพียงเป็นบาทของวิปัสสนา คือ การพิจารณาก็พอแล้ว ส่วนการจะอยู่ในวิหารธรรมนั้น ก็ให้กำหนดรู้ ถ้าใครกลัวตาย เพราะบทบาททางความเพียร ผู้นั้น จะกลับมาตายอีก หลายภพหลายชาติ ไม่อาจนับได้ ส่วนผู้ใดไม่กลัวตาย ผู้นั้นจะตัดภพชาติให้น้อยลง ถึงกับไม่มีภพชาติเหลืออยู่ และผู้นั้นแล จะเป็นผู้ไม่กลับหลังมาหาทุกข์อีก ธรรมะเรียนมาจากธรรมชาติ เห็นความเกิดแปรปรวนของสังขาร ประกอบด้วยไตรลักษณ์

ปัจฉิมโอวาท ของ พระพุทธเจ้าโดยแท้ๆ ถ้าเข้าใจในโอวาทปาฏิโมกข์ ท่านพระอาจารย์มั่นแสดงโดย ยึดหลักธรรมชาติของศีลธรรมทางด้านการปฏิบัติ เพื่อเตือนนักปฏิบัติทั้งหลาย ท่านแสดงเอาแต่ใจความว่า.. การไม่ทำบาปทั้งปวงหนึ่ง การยังกุศล คือ ความฉลาดให้ถึงพร้อมหนึ่ง การชำระจิตใจของตนให้ผ่องแผ้วหนึ่ง....

หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต










"กรรมดี หรือชั่ว ถ้าได้ทำลงไปแล้ว
ถึงแม้คนอื่นจะไม่รู้เรื่องที่เราทำ
ตัวเรานั้นแหละ รู้ตัวเองดีที่สุด

ถึงจะโกหกคนทั้งโลกได้
แต่เราจะโกหกความจริงไม่ได้
ปากคนเราพูดจริง พูดเท็จได้
แต่จิตไม่เคยบอกเท็จในเรื่องกรรม
พอตายไปแล้ว ยมบาลไม่ต้องถามให้ยาก

จิตเราที่บันทึกกรรมดีชั่ว
จะอธิบายบอกเล่าให้ฟังเอง"

หลวงปู่ชอบ ฐานสโม









"การคิดดี ไม่ได้หมายถึง การคิดเรื่องที่เราชอบ
ถึงแม้จะทำให้มีอารมณ์ดี บางครั้งก็ทำให้อารมณ์เสียได้

เมื่อสิ่งที่ชอบเปลี่ยนไป เช่น คิดถึงแฟนตอนรักกัน
ก็มีอารมณ์ดี พอคิดถึงตอนที่ทะเลาะกัน ก็จะมีอารมณ์ไม่ดี

ที่ให้คิดดี หมายถึงให้คิดเรื่องธรรมะ คิดตามความจริง"

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต










#ภาวนา #พุทโธ #แล้วถ้าจําศีล #บริจาคทาน #เรือน3ประการนี้เป็นเรือนใหญ่ #อยู่ในดวงจิต

หากว่าความทุกข์มาถึงแล้ว เข้าไปหาเรือน มีที่พักนะ มีศีล มีกัลยาณธรรมนะ

คนไหนไม่ภาวนาพุทโธ ไม่รักษาศีล ไม่บําเพ็ญทาน คนนั้นทุกข์ใหญ่ ไม่มีเรือนที่จะเข้าพึ่งพาอาศัย

เหล่านี้ #ราคะ #โทสะมันร้อน คล้ายๆ แดดเดือนห้านะ ต้องเข้าพักในต้นไม้ใหญ่

ต้นไม้ในที่นี้เปรียบเทียบเหมือน #พุทโธ
เข้าไปใต้ต้นไม้ได้รับอากาศมาสี่ทิศ สําราญใจ

เหตุนั้น ขอให้ตั้งอกตั้งใจให้กับ พุทโธ พุทโธ ไม่ใช่ของหนักนะ โอปนยิโก น้อมพุทโธเข้ามาในดวงใจนะ ภาวนาบริกรรม พุทโธ พุทโธ นะ จิตลงสู่ภวังค์

#ความสงบอันนี้เกิดมาจากพุทโธ #เกิดมาจากการภาวนานะ สุขุมมากที่สุด

บางคนขนพองสยองเกล้า บางคนตัวใหญ่ ปีตินะ บางคนตัวเล็ก หาตัวไม่เห็นนะ นี้เรียกว่า ปีติ พุทโธ อํานาจพุทโธ ล้างหัวใจให้สะอาด

หลวงปู่หลุย จันทสาโร











เมื่อได้ก็ดีใจ. เมื่อเสียก็ร้องไห้. เพราะยึดถือว่า. ของกู. ใช่มั้ย.

หลวงปู่หล้า เขมปัตโต










ถ้าเราเป็นคนดีจริง
จะมองไม่เห็นคนชั่วแม้แต่คนเดียว
ที่เป็นเช่นนั้น...เพราะสายตาของคนดี
จะมองโลกไปในทางสร้างสรรค์
เปี่ยมไปด้วย เมตตา ความรัก
และการให้อภัย

หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
วัดป่าบ้านตาด ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี








สิ่งใด. ที่ใครยึดถือ. เอาเป็นเจ้าของ. สิ่งนั้นจะเป็นของไม่มีโทษ. ไม่มีในโลก.

หลวงปู่หล้า เขมปัตโต


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 3 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO