นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน เสาร์ 20 เม.ย. 2024 2:26 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: ธรรมะคือน้ำดับไฟ
โพสต์โพสต์แล้ว: อาทิตย์ 12 เม.ย. 2020 7:01 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4532
"เรื่องสามี-ภรรยา เมื่อกำลังใจยังอ่อน
เราเกิดมาใช้กรรม ก็อยู่ด้วยกันไปก่อน
มีเมตตา มีความซื่อสัตย์ต่อกัน

ถ้าคนใดไม่ซื่อสัตย์แล้ว ก็อย่าเสียดาย
ของไม่ดีจะเสียดายทำไม เมื่อกำลังใจ
เข้มแข็ง มันจะคิดออกจากกาม

ต้องอย่างนี้ซี่ ถ้าอยู่ด้วยกันก็พากัน
ม้วนลง ต้องมาทางธรรมนี้ถึงจะดึงกันขึ้น.."

#โอวาทธรรม
#คุณแม่จันดี_โลหิตดี







"...ผู้เจริญย่อมไม่เบียดเบียนใคร ไม่อาฆาตใคร ไม่พยาบาทใคร ให้อภัยแก่คนทุกจำพวก ไม่เอาเรื่องเอาราวอะไรกับใครเลย ต้องพร้อมที่จะให้อภัยอยู่เสมอ อย่างนี้ ใจเราสบาย"
"โกรธเขาเราทุกข์เองนั่นแล ถ้าไม่โกรธก็ไม่ทุกข์ สบาย"

...หลวงปู่ท่อน ญาณธโร









" พากันนำหาแต่พระอรหันต์ ปานเพิ่นสิมีป้ายแขวนคอบอก ฮู้ว่าพระอรหันต์ยุไสกะพากันนำไป มันแมนอยู่แต่มันแฮงบ่แมน เฮ็ดบุญนำล้านสองล้าน พระน้อยๆพรรษาน้อยๆ กะบ่พากันเฮ็ดนำเพิ่น มันพากันข้ามไปเบิด ตื่นพระอรหันต์กัน หาเจ้าของนั่น เบิ่งเจ้าของนั่น มันจังแมนตั้ว หลานเอ๊ย! "

" พากันตามหาแต่พระอรหันต์ อย่างกับท่านมีป้ายแขวนคอบอก รู้ว่าพระอรหันต์อยู่ที่ไหนก็พากันไป มันใช่อยู่แต่มันยิ่งไม่ใช่ ทำบุญด้วยล้านสองล้าน พระน้อยๆพรรษาน้อยๆ ก็ไม่พากันทำกับท่าน มันข้ามไปหมด ตื่นพระอรหันต์กัน หาตัวเองนั่น ดูตัวเองนั่น มันจึงใช่ หลานเอ๊ย! "

(หลวงพ่อสมาน วชิโร)
วัดป่าบูรพา อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์









"...ถ้าคนไหนเป็นคนจริง ซื่อสัตย์ มีศีลธรรม สัตย์และศีลธรรมจะเป็นเกราะป้องกันคุ้มครองตนเอง ๑๐๐% หลวงปู่รับประกัน .."

โอวาทธรรม
หลวงปทุย ฉนฺทกโร










“การปฏิบัติ เป็นเครื่องยังพระสัทธรรม
ให้บริสุทธิ์ สติปัฏฐาน เป็นชัยภูมิ คือ
สนามฝึกหัดตน พลธรรม ๕ ใครไม่เหินห่าง
ไปอยู่ที่ไหนก็ไม่ขาดทุนและล่มจม..
สรณะทั้ง ๓ คือ พระพุทธ พระธรรม
พระสงฆ์มิได้เสื่อมสูญอันตรธานไปไหน
ยังปรากฏอยู่แก่ผู้ปฏิบัติเข้าถึงอยู่เสมอ
ผู้ใดมายึดถือเป็นที่พึ่งของตนแล้ว ผู้นั้น
จะอยู่ในกลางป่าหรือเรือนว่างก็ตาม
สรณะทั้งสามก็ปรากฏแก่เราอยู่ทุกเมื่อ
จึงว่าเป็นที่พึ่งแก่บุคคลจริง เมื่อปฏิบัติ
ตามสรณะทั้งสามจริงๆ แล้ว จะแคล้วคลาดจากภัยทั้งหลาย อันก่อให้เกิดความ
เดือดร้อนอกร้อนใจได้แน่นอนทีเดียว..”

#พระอาจารย์มั่น_ภูริทตฺโต











#พระอรหันต์
#คือบุคคลผู้หักกงล้อแห่งสังสารจักรเสียได้

"เรื่องราวที่ประเสริฐที่สุด อันเกี่ยวกับ "พระอรหันต์" นั้น ไม่มีเรื่องใดยิ่งไปกว่าเรื่องความดับทุกข์ หรือ ความไม่มีทุกข์ ท่านทั้งหลายจะต้องระลึกนึกให้ดีว่า คำว่า "อรหันต์" หรือ "อรหัง" นั้น มันหมายความว่าอย่างไร.. ?

คำว่า "อรหันต์" นั้น ถ้าจะพูดเป็นไทยๆแล้ว ก็ต้องแปลว่า เป็นมนุษย์สุดยอดทีเดียว เป็นมนุษย์ที่เลิศประเสริฐที่สุดกว่ามนุษย์ทั้งหลาย จนได้นามว่า "เป็นผู้ควรแก่การกราบไหว้อย่างยิ่ง" ไม่มีบุคคลประเภทใดจะเสมอเหมือน.

ข้อนั้น ก็เพราะเหตุว่า พระอรหันต์เป็นผู้บริสุทธิ์สะอาดหมดจด จากกิเลสเครื่องเศร้าหมองทั้งหลายทั้งปวง นั่นเอง เมื่อหมดกิเลสโดยประการทั้งปวงแล้ว ก็ย่อมหมายความว่า หมดความทุกข์โดยประการทั้งปวงด้วย เพราะฉะนั้น ท่านจึงได้กล่าวเปรียบเทียบ หรือกล่าวอย่างอุปมาว่า พระอรหันต์นั้น คือ "บุคคลผู้หักกงล้อแห่งสังสารจักร" เสียได้.

#สังสารจักร_นั้นแปลว่าวงล้อของสังสารวัฏฏ์ หมายความว่า วงกลมที่หมุนไปไม่มีหยุด ในกระแสแห่งการเวียนเกิด เวียนแก่ เวียนเจ็บ เวียนตาย หรืออีกอย่างหนึ่งก็เรียกว่า.."เวียนอยู่ในวงเวียนของกิเลส" ซึ่งเป็นเหตุให้ทำกรรม ครั้นได้รับผลกรรมแล้วก็หล่อเลี้ยงกิเลสไว้ให้ยังคงมีอยู่ สำหรับเป็นเหตุให้ทำกรรมอีกต่อไป และได้รับผลกรรม ใช้กรรมหล่อเลี้ยงกิเลสไว้ สำหรับกระทำกรรมอีกต่อไป อย่างนี้ก็เรียกว่า "วงกลม" เหมือนกัน คือเป็นวงกลมในส่วนที่เป็นต้นเหตุ เรียกว่า กิเลสกรรม และ ผลกรรม เมื่อต้องเป็นไปตามกรรมเช่นนี้ ก็หมายความว่า จะต้องมีเกิด มีแก่ มีเจ็บ มีตาย ซึ่งเป็นวงกลมในส่วนที่เป็นผล.

ฉะนั้น เราทุกคนควรจะรู้จัก สังสารวัฏ หรือ สังสารจักร นี้ไว้ ในฐานะที่เป็นสิ่งที่สัตว์ต้องหมุนไปตาม ด้วยอำนาจของเหตุ คือ กิเลส กรรม และ วิบาก แล้วได้รับผลเป็น ความเกิด ความแก่ ความเจ็บ ความตาย ชนิดที่วนเวียนไม่มีที่สิ้นสุด.

#ถ้าเมื่อใดหยุดวงกลมนี้เสียได้_ไม่ให้หมุนราวกับว่าทำลายวงล้อให้แตกหักออกไปแล้วมันหมุนไปไม่ได้​#เพราะมันไม่กลมอีกต่อไปอาการอย่างนี้แหละ_เปรียบเหมือนกับที่พระอรหันต์ท่านทำลายสังสารวัฏเสียได้
จึงได้นามว่า "ผู้หักสังสารจักรเสียได้" ดังนี้เป็นต้น ซึ่งเป็นคำเปรียบเทียบ โดยที่แท้แล้ว
ก็เพราะ #ท่านหมดกิเลสและหมดความทุกข์นั่นเอง... "

#พุทธทาสภิกขุ
#ที่มา_มาฆบูชาเทศนา
#หัวข้อเรื่อง_อนุปาทาวิมุตติกถา
#ณ_ศาลาโรงธรรม_สวนโมกขพลาราม
[เมื่อวันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๕]​
#จากหนังสือชุดธรรมโฆษณ์เล่มชื่อว่ามาฆบูชาเทศนา เรื่องที่ ๑๒












"เราเกิดมาได้อัตภาพอันดี
สมบูรณ์บริบูรณ์​ พวกเราได้
สมบัติมาดีแล้ว​ ควรใช้มันเสีย
ใช้ไปในทางดี​ ทางดี คือการ
ทำบุญให้ทาน​ รักษาศีล ภาวนา​
ใช้มันเสีย​ เมื่อมันยังสมบูรณ์
บริบูรณ์อยู่​ อย่าไปนอนใจ
เมื่อวันคืนล่วงไปๆ พระพุทธเจ้าว่า
วันคืนล่วงไปๆ มิใช่จะล่วงไป
แต่วันคืนเดือนปี​ ชีวิตความเป็นอยู่
ของเราก็ล่วงไปๆ ทุกขณะลม
หายใจเข้าออก​ ไม่ควรนอนใจ.. "
--------------------------------
#หลวงปู่ขาว_อนาลโย
#วัดถ้ำกลองเพล
#อ_เมืองหนองบัวลำภู
#จ_หนองบัวลำภู











#คำบริกรรมกับพุทโธ

"คำบริกรรมกับพุทโธนี้
แม้จะเป็นความปรุงก็ตาม
แต่เป็นความปรุงอยู่ในจิตเดียว
ความปรุงอยู่ในจิตเดียวนั้น
เป็นเหตุที่จะให้จิตมีความสงบตัว
ได้ด้วยความปรุงอันนั้น​ เช่น..
#คำว่า_พุทโธ_พุทโธ_พุทโธ
หากว่าจิตมันจะแยกออกไปทำงาน
เพราะความเพลิดเพลินในงาน งาน
ยังไม่เสร็จเราก็ให้พยายามทำกำหนด
คำบริกรรมถี่ยิบเข้าไป​ ไม่ยอมให้จิตนี้
ออกไปทำงานคือจิตขั้นที่เพลินต่องาน
มันเป็น มันมี เผลอไม่ได้ ถ้าจะว่าเผลอ
มันก็พูดยาก​ รามือไม่ได้ว่างั้น พูดง่ายๆ
เรารามือไม่ได้ มันจะต้องโดดไปหางาน
เอ้าตอนนี้ เราต้องให้หนักแน่นในการ
บริกรรมบังคับจิตให้อยู่กับอารมณ์
อันเดียวคือ พุทโธ​ เป็นเครื่องยับยั้งจิต
กำหนด พุทโธ พุทโธ ให้มันถี่ยิบอย่างนั้น
แล้วก็พุทโธกับจิตก็เป็นอันเดียวกัน
แน่วลง สงบ​ พอจิตสงบลงไป จิตก็สบาย
ปล่อยวางงานอะไรทั้งหมด​ เย็นขึ้นมา ซึ้งภายในจิตใจ​ นี่คือสมาธิ สมาธิที่ชอบ.. "
------------------ -​------------- -​-----------------
#พระธรรมวิสุทธิมงคล
#หลวงตามหาบัว_ญาณสัมปันโน
วัดป่าบ้านตาด อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี











สิ่งที่สบายที่สุดคือใจ
ไอ้ที่ๆไม่สบายไม่ใช่ใจ
สี่งที่สกปรกไม่ใช่ใจ
สิ่งที่มันยุ่งยากไม่ใช่ใจ
มันกิเลสตัณหา ให้เราเข้าใจอย่างนี้

#คติธรรมหลวงปู่ชา สุภัทโท









"หลวงปู่ชอบเคยบอกไว้ว่า
คนที่นั่งภาวนานานได้วันหนึ่ง
เท่ากับเวลาที่ใช้นั่งกินข้าว
ปิดทางอบายได้เลย
อยากไปอยู่นรกก็ไม่ได้ไป
คนที่อยากได้อะไร
ให้ตั้งสัจจะไว้
แล้วมานั่งสมาธิให้จิตรวม
แล้วจะสมหวังเอง"

- หลวงปู่จันทร์เรียน คุณวโร









" ศาสนาคือน้ำดับไฟ
ไฟราคะ ไฟตัณหา หรือว่า
ไฟโลภ ไฟโกรธ ไฟหลง
ไหม้หัวใจสัตว์โลก

ถ้าไม่มีน้ำ คือ ธรรมะเป็น
เครื่องประดับระงับกัน
บ้างเลย หัวใจดวงนั้นๆ
จะเป็นเหมือนไฟทั้งกอง
เผาลนอยู่ตลอดเวลา
หาความสงบสุขไม่ได้

ไม่ว่าจะอยู่ในสถานที่
ใดๆ ไม่สำคัญที่สถานที่
แต่สำคัญที่ความรุ่มร้อน
เผาลนจิตใจเพราะ
อำนาจแห่งกิเลส "

โอวาทธรรม
หลวงตาพระมหาบัว
ญาณสัมปันโน









" พระพุทธศาสนาเน้น
ลงเบื้องต้น​ กล่าวเรื่อง
ไฟราคะดับยาก และก็
ไหม้จิตใจแบบอบอวล
นิ่มนวล​ เหมือนไฟเผา
ถ่านที่อบไว้ จะบรรเทา
และดับได้ก็เนื่องด้วย
การพิจารณา​ร่างกาย
ที่เปื่อยเน่า​ และสกปรก​
โสมมให้เห็นชัด

ทั้งกลิ่นและสีและลักษณะ
ที่อยู่ให้เห็นเป็นของ
โสโครกจริงๆ จนเป็น
นิมิตติดตาเนืองนิจแยบยล

จนถอนอาลัยว่าสวยงาม
ได้ในขันธสันดานดวงใจ
ได้เด็ดขาด "

โอวาทธรรม
หลวง​ปู่​หล้า​ เ​ขม​ปัตโต









"การกระทำใดๆ...
ที่ทำเป็นไปโดยต่อเนื่อง
ของเล็ก ก็กลายเป็นของใหญ่
บุญน้อย ก็จะกลายเป็นบุญมาก
ทำดีไม่ได้ผล เพราะทำตนลุ่มๆดอนๆ
ทำดีที่ได้ผล เพราะทำตนสม่ำเสมอ"

- หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม








"..ผู้ใดภาวนาดี ละกิเลส
ความโกรธหมดไป
ละกิเลสความโลภหมดไป
ละกิเลสความหลงหมดไป
ผู้นั้นก็ไม่ทุกข์
ไม่เดือดร้อนประการใด

แม้ความตายมาถึงเข้า
ท่านก็ยอมตาย คือ ท่าน
เห็นแล้วว่า ตายเป็นเรื่อง
ของธาตุทั้งสี่ ดิน น้ำ ไฟ ลม

มันกระจัดกระจายไป
เขาก็เรียกว่าตาย
ใช้การไม่ได้
เขาก็เรียกว่าตาย
จิตใจมันไม่ได้ตาย

จิตใจไม่ได้ตายนั้น ย่อม
ส่อแสดงให้เห็นแล้วว่า
แม้พระอริยเจ้าทั้งหลาย
ที่เราว่าท่านดับขันธ์
เข้าสู่นิพพานแล้ว มันก็
เป็นแต่ว่าดวงจิตดวงใจ
ของท่านส่วนหนึ่ง
ร่างกายของท่านแตกดับ
ไป แต่จิตใจเป็นของไม่ตาย

แต่จิตนี้เมื่อละกิเลส
ราคะ โทสะ โมหะ
หมดไปแล้ว ออกจาก
จิตใจไปแล้ว เหลือแต่
จิตอันบริสุทธิ์ผ่องใส
จะอยู่ที่ใดเป็นอะไร
ก็ชื่อว่าอยู่ในนิพพาน.."

โอวาทธรรม
หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 6 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO