นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน ศุกร์ 29 มี.ค. 2024 9:24 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์โพสต์แล้ว: เสาร์ 04 ม.ค. 2020 5:37 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4511
ผู้ที่ปรารถนาจะเป็นคนสะอาดหมดจดสวยงาม มีหนทางเดียวที่จะช่วยให้เป็นไปได้ คือต้องพยายามไกลความโลภความโกรธความหลง ไกลให้เป็นลำดับจนถึงไกลได้จริงในวันหนึ่ง เช่นที่พระพุทธเจ้าทรงทำได้แล้ว และพระอรหันต์ตสาวกทั้งหลายท่านทำได้แล้ว

สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร







ศีลเป็นฐานของการปฏิบัติธรรม
ศีลเท่านั้นกันตนพ้นไกลชั่ว
ศีลเท่านั้นปานรั้วล้อมตัวไว้
ศีลเท่านั้นเป็นฐานธรรมนำตัวไป
ศีลเท่านั้นบันดาลให้สุขจริง

หลวงปู่หา สุภโร









..นี่คือใจที่จะเรียกว่า ปรมัง สุญญัง
ใจที่ว่างจากความอยาก ๓ ประเภทด้วยกัน
...คือ กามตัณหา..
ความอยากในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ
ภวตัณหา..
ความอยากมี อยากเป็น
วิภวตัณหา..
ความอยากไม่มี อยากไม่เป็น
...ผู้ใดสามารถชำระ
ความอยากทั้ง ๓ประเภทนี้
"ให้หมดไปจากใจ"ได้แล้ว
ก็จะได้ใจที่เป็น..ปรมัง สุญญัง.
..............................................
ธรรมะบนเขา
เล่ม2 หน้า163
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี









" องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ท่านตรัสไว้ว่า...ขะยะวะยัง
ความสิ้นไป เสื่อมไป ของสังขารทั้งหลาย

เรา นั่งอยู่บนศาลานี้
ทั้งอุบาสก อุบาสิกา ทั้งพระ ทั้งเณร ทั้งหมดนี้
มีแต่ก้อนเสื่อม ทั้งนั้น
นี่ที่ ก้อนมันแข็ง(ร่างกายคนเรา)เปรียบ
เช่น ก้อนน้ำแข็ง
แต่ก่อนเป็นน้ำ
พอมันเป็นก้อนน้ำแข็งแล้ว ก็เสื่อมไป

เห็นความเสื่อมไหม ?
ดู อาการที่มันเสื่อมซี ร่างกายของเรานี่ทุกส่วน
มันเสื่อม...
ผม มันก็เสื่อมไป
ขน มันก็เสื่อมไป
เล็บ มันก็เสื่อมไป
หนัง มันก็เสื่อมไป
อะไรทุกอย่าง มันก็เสื่อมไป ทั้งนั้น."

(หลวงพ่อชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง)










"..#ไม่ต้องตื่นเต้นกับวันใหม่
ปีใหม่ อันนั้นมันหมุนไป
ตามเรื่องของมัน
วันหนึ่ง เดือนหนึ่ง ปีหนึ่ง
อันนั้นเป็นสมมุติบัญญัติขึ้นมา

อันที่เราควรจะตื่นเต้นนั่น
ควรตื่นเต้นที่ตัวของเรา
ว่าวันหนึ่งๆ เดือนหนึ่ง ปีหนึ่ง
เราเจริญขึ้นหรือว่าเราเสื่อมลง
อันนั้นต่างหาก
เราเห็นความเสื่อมความเจริญของเรา

แท้จริงร่างกายของเรามันเจริญขึ้น
ไม่มีหรอกมีแต่เสื่อมลง
มันเกิดขึ้นมาแล้วก็เสื่อมลงทุกทีๆ"

หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี








เราทุกคนเป็นผู้มีปัญหา
คนที่หมดปัญหาได้ก็คือ...
พุทธะ พุทธะตรัสรู้คือ...
การรู้จริง เมื่อรู้จริง
ปัญหาก็เกิดไม่ได้
เพราะปัญหานั้นดับไปหมดแล้ว
ต้นเหตุของปัญหาคือ...
ความไม่รู้
คืออวิชชา

พระธรรมเทศนา
:::หลวงพ่อสนอง กตปุญโญ:::
อดีตเจ้าอาวาสวัดสังฆทาน จ.นนทบุรี










เจ้ากรรมนายเวรคือใจ ดวงใจอันเดียว วิญญาณอันเดียวเป็นตัวกรรม : หลวงปู่ขาว อนาลโย
พระพุทธเจ้าว่า เรา ตถาคต เป็นผู้แนะนำสั่งสอนทาง ทางออกจากโลก ทางไปสวรรค์ก็ดี ทางไปนิพพานก็ดี เรา ตถาคต เป็นผู้แนะนำสั่งสอนให้เท่านั้น ตนนั่นแหละ พวกอุบาสก-อุบาสิกาทั้งหลายต้องทำเอาเอง แม้พระพุทธเจ้าทั้งหลาย พระสาวกทั้งหลาย ก็ทำเอาเองทั้งนั้น ตนแหละทำให้ตน ตนจะออกจากโลกก็แม่นตนตั้งอกตั้งใจทำใส่ตน ตนจะติดอยู่ในโลกก็แม่นใจของตนไม่อยากไป เพราะหลงตนหลงตัวทางปฏิบัติน่ะ เราก็ได้ยินได้ฟังมาแล้ว แล้วก็ตั้งอกตั้งใจปฏิบัติเอา

พระพุทธเจ้าแนะนำสั่งสอน หรือครูบาอาจารย์แนะนำสั่งสอน ก็ไม่หนีจากกายคตา คือปัญจกรรมฐาน นี่แหละ ต้องพิจารณา เราจะพิจารณานอกมันไป ก็เป็นนอกไปเสีย ไกลไปเสีย เพื่อให้จิตให้ใจนั่นแหละรู้จักสกนธ์กายอันนี้ รู้จักก้อนอันนี้ว่ามันเป็นอย่างหนึ่ง มันเป็นของกลาง ไม่ใช่ของใครสักคน เรานี้ได้สมบัติอย่างดี คือสกนธ์กายนี้ มีตา หู จมูก ลิ้น กายดี มีใจดี ได้สมบัติอันดีมาใช้ เราจะใช้สอยมัน เราจะเดินทางไปสวรรค์ก็ดี จะเดินทางไปนิพพานก็ดี ต้องอาศัยอันนี้ จะมีแต่ดวงจิตอย่างเดียว ก็ไม่สำเร็จอะไรหมดทั้งสิ้น

พระพุทธเจ้าได้เทศน์ไว้ว่า มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา มโนเสฏฺฐา มโนมยา ธรรมทั้งหลาย จะทำดีทำกุศลดี ก็ใจนี่แหละ เป็นผู้ถึงก่อน เป็นผู้ถึงพร้อม จะทำบาปอกุศล ก็ใจนี่แหละ จะผ่องแผ้วแจ่มใสเบิกบาน ก็ใจนี่แหละ จะเศร้าหมองขุ่นมัว ก็ใจนี่แหละ ใจเศร้าหมองขุ่นมัวแล้วก็ไม่มีความสุขอยู่ในโลก จะอยู่ที่ไหนก็ไม่มีความสุข ครั้นใจผ่องแผ้วละก็ พระพุทธเจ้าท่านว่า มนสา เจ ปสนฺเนน บุคคลผู้มีใจผ่องแผ้วดีแล้ว แม้นจะพูดอยู่ก็มีความสุข แม้นจะทำอยู่ก็มีความสุข

ตโต นํ สุขมเนฺวติ อยู่ที่ไหน ๆ ก็มีความสุข มีความสุขเหมือนกะเงาเทียมตนไป ฉายาว อนุปายินี เหมือนเงาเทียมตนไป ไปสวรรค์ก็ดี มามนุษย์ก็ดี เพราะเหตุนั้นแหละให้เราพากันตั้งใจอบรม ตั้งสติไว้ที่ใจ ควบคุมใจให้มีสติสัมปชัญญะ มีสติรู้ตัวอยู่เสมอ การทำ การพูด การคิด ก็อย่าให้มันผิด มันพลาดไป ควบคุมให้มันถูก ครั้นมันผิดมันพลาด เราก็มีสติยั้งไว้ ละ ปล่อยวาง ไม่เอามัน ทางผิดน่ะ
พระพุทธเจ้าแสดงไว้ ทางไปนรก ทางไปสวรรค์ ทางไปพรหมโลก ทางไปพระนิพพาน พระองค์ก็บอกไว้แล้ว ให้วางกายให้เป็นสุจริต วาจาให้บริสุทธิ์ ใจให้บริสุทธิ์นี้ทางไปสวรรค์ ทางมามนุษย์ ทางไปพระนิพพานให้บริสุทธิ์อย่างนี้ ทางไปนรกนั่น เรียกว่าทุจริตนั้น ทางกาย ทางวาจา ทางใจ อันนี้ทางไปนรก เราจะเว้นเสีย ไม่ไปละรู้จักแล้ว เราจะไปแต่ทางที่ราบรื่น ทางสบาย การเดินก็ทางกาย วาจา ใจ เท่านั้นและ

ผู้ที่จะเที่ยวเอาภพ เอาชาติ นับกัปป์ นับกัลป์ไม่ได้ ตั้งแต่โลกเป็นโลกมา คือดวงจิตของเรานี่เอง ดวงจิตของเรานี่เองเป็นผู้ก่อกรรมก่อเวรแล้วก่อเล่า ไม่เบื่อสักที ก็แม่นดวงจิตของเรานี่แหละ เพราะเหตุนั้น เราจึงต้องอบรมจิตใจของเราให้ดี ให้ใจรู้เสีย ใจนี่แหละมันเป็นผู้หลง จนนับภพนับชาติไม่ได้ ภพน้อย ภพใหญ่เที่ยวอยู่ในสังสารจักร์นี่ จึงให้เข้าใจเสียว่า เจ้ากรรมนายเวรคือใจ ตัวกรรมแม่นใจ ดวงใจอันเดียว วิญญาณอันเดียวเป็นตัวกรรม แต่งกรรมเสียแล้วให้เวียนตายเวียนเกิดที่นี่ ไม่เลิกเรารู้จักแล้วเราต้องควบคุมใจแนะนำสั่งสอนใจ ทำใจของเราให้ผ่องแผ้วว่าเอาย่อ ๆ นี่แหละ กว้างขวางก็ได้ยินมาพอแฮงแล้วเอาย่อ ๆ ควบคุมใจเท่านั้นและ

โอวาทธรรมหลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล










..ผู้ใด๋มีสติอยู่กับใจเจ้าของหลายท่อใด๋ ใจผู้นั่นกะสิบ่ทุกข์ มีปัญญาเป็นของเจ้าของแล้ว ผู้นั่นกะสิแก้ทุกข์ให้ใจเจ้าของได้.."

—————————
หลวงปู่ชอบ ฐานสโม..


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO