นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน ศุกร์ 29 มี.ค. 2024 8:08 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: เห็นคุณค่า
โพสต์โพสต์แล้ว: อาทิตย์ 13 ต.ค. 2019 5:47 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4511
ผู้เห็นคุณค่าของตัว

ผู้เห็นคุณค่าของตัว จึงเห็นคุณค่าของผู้อื่น
ว่ามีความรู้สึกเช่นเดียวกัน ไม่เบียดเบียนทำลายกัน

ผู้มีศีลสัตย์เมื่อทำลายขันธ์ไปในสุคติในโลกสวรรค์
ไม่ตกต่ำเพราะอำนาจศีลคุ้มครองรักษาและสนับสนุน จึงควรอย่างยิ่งที่จะพากันรักษาให้บริบูรณ์
ธรรมก็สั่งสอนแล้วควรจดจำให้ดี ปฏิบัติให้มั่นคง
จะเป็นผู้ทรงคุณสมบัติทุกอย่างแน่นอน

พระอรหันต์ผุดขึ้นมาจากใจของปุถุชน
พระอรหันต์ไม่ได้ผุดขึ้นมาจากไหน
ก็มาจากหัวใจของปุถุชน มาจากราคะ โทสะ โมหะ

ถ้าหากใจปุถุชนนั้นพยายามบากบั่นฝึกปรือตน
ให้เดินตามมรรคาสัมมาปฏิบัติ
พระอรหันต์ก็มาจากที่นั่น กลั่นกรองมาจากที่นั่น
เหมือนดอกบัวมาจากขี้ตมขี้โคลนเน่า ๆ เหม็น ๆ
แต่พอพ้นน้ำ รับแสงอาทิตย์ แย้มบานเต็มที่
มีสง่าราศรี ใครก็อยากได้อยากชม
.
.
โอวาทธรรม : ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต
ที่มา : หนังสือหลวงปู่ศรี มหาวีโร








ปัญญา ของ พระพุทธเจ้า

“อาตมาเห็นว่าเรื่อง “ปัญญา” นี้ เราไม่จำเป็นต้องไปเอาของฝรั่ง ซึ่งก็มี..ดีบ้าง เสียบ้าง แต่จะบอกว่า ระบบต่างๆ ปรัชญาต่างๆ ทั้งหมดของตะวันตก ขอให้จำไว้ให้ดีว่า เป็นปรัชญาเป็นแนวความคิดของ“ปุถุชน” ไม่ใช่ปัญญาที่เกิดขึ้นกับ“พระพุทธเจ้า” คือ “ผู้ที่รู้โลกและชีวิตตามความเป็นจริง”
.
จะเห็นว่า..ระบบความคิดที่ถือว่าเฉียบแหลมที่สุดของฝรั่ง อย่างเช่นของ คาร์ล มาร์ค ( Karl Marx ) ของ ฟรอยด์ ( Sigmund Freud ) เป็นต้น ไม่กี่สิบปีก็ทิ้งทั้งหมด
.
แต่ของพระพุทธเจ้าเกือบทั้งหมด ๒๕๐๐ กว่าปี ยังไม่มีนักวิทยาศาสตร์ที่ไหนที่สามารถพิสูจน์ได้ว่า คำสอนของพระพุทธเจ้าผิดแม้แต่ข้อเดียว...”
.
ชยสาโรภิกขุ
ที่มา : ธรรมเทศนา เนื่องในงานเปิดอาคารประถม(เพาะปัญญา) ของ โรงเรียนทอสี เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2546








แก้ที่ตัวเราซิ คนอื่น ก็ให้เขาแก้ของเขาเอง
เมืองใครเมืองมัน บ้านใครใครอยู่
อู่ใคร ใครนอน ไม่ก้าวก่ายกันหรอก

หน้าเศร้าๆ เพราะมันไม่อยู่กับที่
ไม่อยู่กับหนัง กับจิต มันไปอยู่กับอารมณ์
...
ประเดี๋ยว ก็ร้องให้ เดี๋ยวก็หัวเราะ
มันแน่นอนเมื่อไรน่ะโลกน่ะ
ชอบใจก็หัวเราะ ไม่ชอบใจก็ร้องให้
อวิชชา มันบัง ผม ขน เล็บ ฟัน หนังมันบังไว้ซะ

หลวงปู่บุดดา ถาวโร






“...จะเอาสุขทางโลก ก็ได้ทุกข์มาพร้อมกัน
เช่นคิดว่า สามี ภรรยา เป็นความสุข
ก็ได้รับทุกข์เพราะ สามี ภรรยา นั่นแหละ
อยากได้ลูก มีความสุขที่ได้ลูกหญิงลูกชาย
แต่ก็ได้รับทุกข์ เพราะลูกนั่นแหละ
จะเอาความรัก ก็ได้ความชังมาพร้อม
... จะเอาอย่างเดียวไม่ได้ อยากได้หนึ่งแต่ได้สอง
เป็นกฎธรรมชาติอย่างนั้น ...”

หลวงปู่คำดี ปภาโส






"คนส่วนมาก ยังมีความเชื่อว่ามีผู้ดลบันดาล
ให้เกิดสิ่งต่างๆ ขึ้น แต่ทางพระพุทธศาสนา
ได้แสดงว่า คนมีกรรมเป็นของตน จะมีสุขหรือทุกข์
ก็เพราะกรรม

พระพุทธศาสนา ไม่ได้สอนให้คนกลัวกรรม
ไม่ได้สอน ให้ตกเป็นทาสของกรรม
หรืออยู่ใต้อำนาจของกรรม

แต่สอนให้รู้จักกรรม ให้มีอำนาจเหนือกรรม
ให้ควบคุมกรรมของตนในปัจจุบัน"

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 6 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO