นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน ศุกร์ 29 มี.ค. 2024 3:18 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: ของเก่าของเดิม
โพสต์โพสต์แล้ว: อาทิตย์ 28 ก.ค. 2019 4:29 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4511
มีแต่ของเก่าของเดิม

เราเกิดมาหลายภพหลายชาติแล้ว ยังอยากจะเกิดอีกหรือ
เกิดมากี่ทีก็ภูเขาอันเก่าภูเราอันเดิม ไม่มีอะไรแปลกใหม่
ลูกยังไม่พิจารณาให้เกิดปัญญาอีกหรือ
แม่ระอาเต็มทนแล้วนะ เป็นบ้าหอบฟาง หอบแต่ภูเขาภูเราอยู่ตลอดเวลา...

โอวาทธรรม

พระคุณแม่จันดี โลหิตดี

จากหนังสือสวดมนต์ ทำวัตรเช้า-เย็น
วัดป่าธรรมคีรี (จันดีอนุสรณ์) อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา





“เอ้า ใครมีความพากความเพียร ใครมีความสัตย์
ความจริง ให้ตั้งอยู่อย่างนี้ ให้ตั้งลงในลักษณะนี้
ผู้นั้น ไม่ว่าผู้เก่า ไม่ว่าผู้ใหม่
จะเห็นความอัศจรรย์ในการปฏิบัติธรรม”

-พระภาวนาวิสุทธิญาณเถร (แบน ธนากโร)
วัดดอยธรรมเจดีย์ สกลนคร





มีสมาธิอย่างเดียวไม่พอต้องมีปัญญาด้วย

"..เล่นเกมในโทรศัพท์มือ​ถือก็นับว่าปฎิบัติธรรมได้เหมืินกันหากจิตไม่ส่อส่ายออกไปข้างนอก​ แค่ไม่ไปส่งจิตยุ่งเรื่องคนอื่นก็ดีถมเถไปแล้ว​ บางคนภาวนาพุท-โธ​ จนได้ฌาณยังไปติฉินนินทา​ ทำลายให้ผู้อื่นเดือดร้อน​ แบบนี้เสียหายมหาศาล​ อย่าไปติเตียนคนที่เค้าปฎิบัติรูปแบบไม่เหมือนตนเอง​เป็นอันขาด​ ขนาดหลวงปู่เองขณะนั่งเช็ดบาตร​ จิตยังรวมลึกตั้งแต่เช้าจรดเย็น เห็นหมู่นักปฎิบัติติเตียนกันแล้วสลดใจ​ เรามีสมาธิอย่างเดียวไม่พอ​ ต้องมีปัญญาแก้ไขด้วย​ จึงจะถูกทาง.."

คติธรรม

หลวง​ปู่​ประเสริฐ​ ​สิริ​คุต​ฺ​โต​
วัดป่าเวฬุวันอรัญญวาสี อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี





..ความจริงแล้ว เราโชคดีมาก ที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ และได้พบพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นศาสนาแห่งความจริงแท้

เพราะฉะนั้น อย่ามัวแต่น้อยใจในโชคชะตา หรืออย่ามัวรื่นเริงในบุญบารมี เพราะสิ่งเหล่านี้ สร้างได้ ก็หมดได้ เหมือนกัน...

คติธรรม พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต






“ทำยังไงบารมีจึงจะพอ? สร้างบารมีให้พอคือยังไง?
ก็ต้องทำให้มาก เดินจงกรมก็เดินให้มาก
นั่งสมาธิ ก็นั่งให้มาก นั่งให้มาก เดินให้มากๆ
นี่ล่ะ เป็นการสร้างบารมีให้พอ หนักเข้า นั่งภาวนา
นี่ต้องให้ชนะความเจ็บปวดให้ได้เสียก่อน จึงค่อยเลิก
เดินจงกรมนี่ ให้ชนะขาอ่อนขาเพลียไปเสียก่อน จึงค่อยเลิก
เรียกว่ามันขยับก้าวหน้าไปได้ขึ้นชั้น ถ้าหากว่าเดินจงกรม
ผ่านการเหน็ดการเหนื่อย ผ่านการอ่อนการเพลีย
ทีนี้ ถ้าจะเดินตลอดคืน เดินตลอดรุ่งนี่ ไม่มีปัญหาอะไร
เดินได้อย่างสบาย ไม่ได้เดินอย่างทุกข์ อย่างลำบาก
นั่งภาวนาก็เหมือนกัน นั่งอย่างสบาย ไม่ได้นั่งอย่างทุกข์
ไม่ได้นั่งอย่างทรมาน นี่เรียกว่า บารมีพอ”

-พระภาวนาวิสุทธิญาณเถร (แบน ธนากโร)
วัดดอยธรรมเจดีย์ สกลนคร





ธรรมของพระพุทธเจ้านี้ มันไม่ใช่ของเล่นเด้อ มีตาผ้าขาวแก่คนหนึ่งอยู่กับหลวงปู่ชอบ แก่หูหนวกประมาณ ๗๐-๘๐ เปอร์เซนต์ ยังไม่ถึงร้อยเปอร์เซนต์ แก่เข้าไปศึกษา ไปถามหลวงปู่ชอบว่า

“หลวงปู่ๆๆนิมนต์หลวงปู่พิจารณากรรมที่หูกระผมหนวกมันเป็นเพราะอะไร”

หลวงปู่ชอบท่านก็กำหนดดู พอหลวงปู่ชอบกำหนดดูท่านก็ว่า สาเหตุที่หูเธอหนวกเพราะเวลาพระท่านกำลังแสดงธรรม เธอไปทำให้พระที่ท่านแสดงธรรมเสียสมาธิในการแสดงธรรมสองครั้ง หนวกก็ดี บอดก็ดี อยู่ๆถ้าไม่มีกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งมันเป็นไปไม่ได้

เพราะฉะนั้นให้พวกเราสังวรระวังเวลาพระท่านแสดงธรรม มันไม่ใช่ของเล่นจะกลายเป็นบาปเป็นกรรม เวลาฟังให้ตั้งใจฟัง กำหนดอยู่กับลมหายใจ หูก็ฟัง นำมาประพฤติปฏิบัติตาม
(โอวาทธรรม หลวงปู่บุญมา)





สันตุสสโกวาท
"เมื่อมีทุกข์ ต้องปล่อยวาง"

เราต้องมองโลกทุกสิ่งทุกอย่าง มันไม่ได้ดั่งใจเราหรอก
เราจะไปทุกข์ กับคนอื่นมากก็ไม่ได้
ตั้งแต่เรายังไม่ทันเกิดมามันก็เป็นอยู่อย่างนี้แหละโลก
ในเมื่อตอนเราตายไปแล้ว โลกก็ต้องเป็นอยู่อย่างนี้อีกอย่างเก่า
เพราะฉะนั้นเราจะไปทุกข์กับโลกวัฏสงสารทุกข์กับเรื่องราวต่างๆ
มันจะมีแต่ทุกข์เท่านั้น เข้ามาหาจิตใจ
เอาเถอะ...มันเกิดขึ้นมาแล้ว
อันไหนจะเกิด มันก็ต้องเกิด อันไหนมันจะดับ มันก็ต้องดับ
แต่มันเกิดขึ้นมาแล้ว เราจะปรับปรุง แก้ไขตัวของเราอย่างไร
เราอยู่ในสถานะไหน เราก็ควรจะปรับปรุงในสถานะของตน
ให้มันถูกต้อง ให้มันเป็นธรรม เท่านั้นแหละ
ถ้ามันปรับปรุงแก้ไขไม่ได้ มันก็จะทำยังไงได้ล่ะ
มันก็ต้องวางอุเบกขาล่ะทีนี่
กรรมของกู กรรมของกู กรรมของกู อย่างที่ว่า
ไม่ใช่ว่าเราจะเอาชนะทุกสิ่งทุกอย่าง
ในโลกนี้จะให้ได้อย่างใจเราทุกอย่าง เป็นไปไม่ได้
ถ้าเป็นไปได้ทุกอย่างมันก็ดี
หลวงพ่อก็อยากจะให้เป็นไปอย่างตัวเองคิดอยู่
แต่มันเป็นไปไม่ได้ แต่บางสิ่งบางอย่างก็ต้องทำใจนะ
ทำใจตัวเองนะ อย่าไปทำใจคนอื่นนะ
ถ้าทำใจคนอื่น มันทุกข์เรา
ทำใจตัวเองนั้นล่ะ ปล่อยวางที่ใจของเรา
เอาเถอะอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด
แต่เราจะต้องทำให้ดีที่สุด ในความรู้สึกของเรา
ถ้าธรรมของพระพุทธเจ้าไม่มีอุเบกขานี้
คงจะทุกข์ยากลำบากมาก หลวงพ่อว่านะ
เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
มีแต่เมตตาอย่างเดียว สงสารอย่างเดียว
กรุณาอย่างเดียว มีแต่อยากจะให้เขาดีอย่างเดียว
แต่พอเขาดีไม่ได้ มองมาหาตัวเอง ตัวเองทุกข์ทีนี้
เพราะเหตุว่า ตัวเองอยากจะให้เขาดี แต่เขาดีไม่ได้ เราก็ทุกข์
พระพุทธเจ้าบอกว่า ต้องวางอุเบกขานะ
ไม่ดีใจ ไม่เสียใจ เมื่ออะไรเกิดขึ้น ที่ไม่เป็นที่พอใจของเรา
เราต้องวางอุเบกขา โลกอันนี้มันเป็นอยู่อย่างนี้แหละ ตั้งแต่เรายังไม่เกิด
ไม่ใช่แต่เราคนเดียว หลายๆคนก็เป็นอย่างนี้อีก
ต่อไปภายภาคหน้าก็คงจะเป็นอย่างนี้อีก
เอาเถอะ เราจะพยายามทำให้ดีที่สุด ในตัวของเรา
ก็ขอให้พวกเราทุกคนวางอุเบกขาในจิตในใจนะ
นี้แหละ...ธรรมะ ธรรมคำสอนของพุทธะ

โดย หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
จากพระธรรมเทศนา "ไม่สมหวังต้องรู้จักปล่อยวาง"
แสดงธรรมเมื่อวันที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๖๒


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 7 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO