นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน ศุกร์ 29 มี.ค. 2024 3:07 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร 18 ก.ย. 2018 5:35 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4510
"ธรรมะแสดงอยู่ทุกเมื่อ
เกิดอยู่เสมอ

ผู้มีปัญญา ย่อมโอปนยิโก
คือ น้อมเข้ามาใส่ตัวเอง
น้อมเข้ามาพิจารณาในตัวเอง

เมื่อพิจารณามากเข้า
ก็จะปัจจัตตัง คือ รู้ได้เฉพาะตน"

หลวงปู่ท่อน ญาณธโร




“คนไม่ดีเราก็มีไว้เพื่อ
ทดสอบกิเลสของเรา
ว่าหมดจริงหรือยัง"
ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก




“เมื่อเราพยายามตัดกระแสในทางที่ชั่ว ไม่ยอมให้เป็นไปโดยเด็ดขาด ให้มันพอใจแต่แนวคิดที่ดี พอใจในทางที่ดี ทางที่ไม่ดีไม่ยอมให้คิดเป็นเด็ดขาด พยายามหักห้ามทำลายอยู่อย่างนี้เสมอๆแล้ว ก็เรียกเป็นผู้ถึงซึ่งเอกัคคธรรม คือ สิ่งที่เป็นบุญบำรุงไว้ซึ่งอารมณ์ที่เป็นบุญ ในส่วนกุศลที่เจตนาแล้วโดยสมบูรณ์ ก็เรียกว่าเป็นผู้มีทางที่จะงอกงามเจริญขึ้นตามลำดับ อันความสุขนี้แหละ จะบำรุงให้เกิดปัสสิทธิแห่งกายและจิตแล้วก็มีทางที่จะก้าวเข้าไปสู่สมาธิขั้นละเอียดต่อไปได้...”
- หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย -
วัดเขาสุกิม จ.จันทบุรี




หลวงพ่อจรัญ เทวดา กับการสวดมนต์

หลวงพ่อครับ กระผมอยากทราบความคิดเห็นของหลวงพ่อที่มีต่อเทวดาที่เขาสวดชุมนุมเทวดานั้น จะมีจริงหรือไม่”

หลวงพ่อจรัญท่านตอบในทันทีว่า “อาตมาเชื่อ ทำไมจึงเชื่อ อาตมาจะเล่าให้ฟัง”
แต่เดิมนั้นอาตมาไม่เคยเชื่อเรื่องเทวดา เพราะอาตมาไม่เคยสัมผัสนี่ แล้วอาตมาจะไปเชื่ออย่างไร ในเมื่อแม่ชีก้อนทอง ปานเณร อายุ ๘๗ ปี มาบอกกับอาตมาว่า เทวดามาสอนสวดมนต์

แม่ชีมาเรียนกรรมฐาน อาตมาสอนให้เดินจงกรม ให้พิจารณาเห็นหนอ แต่แม่ชีเดินจงกรมแล้วไปคิดถึงเทวดา ไปเพ่งเทวดาเข้า เทวดาก็มา แกก็เก็บเงียบไว้ แต่แล้วในที่สุดแกก็เก็บไม่ไหวต้องการให้มีใครสักคนได้รับรู้เอาไว้ แกจึงมาบอกอาตมาว่า

“หลวงพ่อ ดิฉันเห็นเทวดาเจ้าค่ะ มาสอนสวดมนต์ให้ด้วยเจ้าค่ะ”
“เทวดาที่ไหนกันแม่ชีเอ๊ย อาตมาไม่เชื่อหรอก” แต่แม่ชีก็ว่าไม่ได้โกหก อาตมาถามว่า “เทวดามาตอนไหนเล่า” แม่ชีบอกว่า

“พอดิฉันได้ยินนาฬิกาตี ๑๒ เป็นเวลาเที่ยงคืนเทวดาก็ปรากฏให้ดิฉันเห็นไม่ได้มาเปล่านะคะ มาสอนให้ดิฉันสวดมนต์บทเมตตาใหญ่ ดิฉันจึงสวดได้”

อาตมาก็บอกให้แม่ชีไปถามเทวดาว่าอยู่ที่ไหน วันรุ่งขึ้นแม่ชีก็มาเล่าให้ฟังว่า เทวดาอยู่ที่ต้นพิกุล ต้นพิกุลที่ว่านี่ อาตมาถามผู้เชี่ยวชาญด้านต้นไม้ เช่นหลวงสมานวนกิจ อธิบดีกรมป่าไม่มาที่นี่ ในตอนที่แม่ชีเห็นเทวดา ประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๐ หลวงสมานฯ ว่า อายุกว่า ๑,๐๐๐ ปี เทวดาบอกแม่ชีว่า เดิมอยู่บนสวรรค์ แล้วละเมิดกฎต่อนางฟ้าจึงถูกให้ลงมาอาศัยวิมานต้นพิกุลอยู่จนกว่าจะหมดกรรม แล้วก็บอกวันเวลาเอาไวชัดเจน อาตมาก็จดไว้แล้วก็เป็นจริง พอถึงเวลาก็เหมือนที่เทวดาให้สังเกตสังกา

อาตมาก็ให้แม่ชีไปถามเทวดาว่า ไปชวนมนุษย์สวดมนต์ทุกบ้านหรือไม่ เพราะอาตมาเริ่มจะเชื่อ เพราะบทเมตตาใหญ่ที่แม่ชีสวดนี่ อาตมาไปหาที่ไหน ๆ ก็ไม่เจอ จนกระทั่งไปรู้ว่า สมเด็จพระสังฆราช (แพ) วัดสุทัศน์ ได้นำเอาไปต่อท้ายพุทธมนต์พุทธาภิเษก และตำรับนั้นไปตกอยู่กับ พระครูลมูล วัดสุทัศน์ฯ พระครูลมูลนี้เป็นศิษย์สมเด็จพระสังฆราชแพนะ ทำสมเด็จเนื้อผงดีมากนะ มีละก็เก็บเอาไว้ให้ดีเชียว

อาตมาไปขอตำรับมาตรวจสอบที่วัด ท่านพระครูลมูลบอกว่าไม่ได้ ๆ ตำรับนี้ของอาจารย์ อาตมาให้ใครยืมไม่ได้ อาตมาก็บอกว่าไม่ได้เอาไปเลย แต่จะเอาไปสอบทานอะไรหน่อย แล้วก็เล่าความจริงให้ท่านฟัง ท่านก็ใจอ่อนบอกว่า เอ้าเอาไปเถอะให้ยืมเจ็ดวัน แล้วเอามาส่งคืนนะ อาตมาก็เอามาเป็นตัวขอมทั้งนั้น อาตมาก็บอกแม่ชีว่า มาท่องให้อาตมาฟังหน่อย แม่ชีก็เริ่มท่อง ก็แกอายุ ๘๗ แล้วนี่นะ ก็ยานคางกว่าจะหลุดออกมาได้ตามประสาคนแก่

โยมเชื่อไหมล่ะว่า แม่ชีก้อนทอง คนนี้เป็นคนไม่รู้หนังสือ อ่านหนังสือไม่ออก ตัวขอมยิ่งไม่กระดิกใหญ่ แล้วเมตตาใหญ่ที่แกท่อง อาตมาก็ไม่เคยเห็นมาก่อน แกท่องด้วยความมั่นใจ อาตมาสอบกับต้นฉบับขอมของท่านพระครูลมูล ปรากฏว่าไงรู้ไหมโยม

ตั้งแต่ตัวแรกจนตัวสุดท้ายไม่มีผิดเลย”

อาตมาถามว่าเทวดาไปชวนคนสวดมนต์ทุกบ้านหรือเปล่า เทวดาบอกกับแม่ชีมาว่า

“เปล่า บ้านไหนจัดที่บูชามีโต๊ะหมู่ มีพระพุทธรูปตั้งไว้ แล้วเจ้าของบ้านสวดมนต์ เทวดาก็มาร่วมสวดมนต์ด้วย พระพุทธรูปเหล่านั้น ที่ไม่ได้เข้าพิธีอะไร เช่ามาบูชาจากเสาชิงช้า หากเจ้าของบ้านเอามาสวดมนต์ไหว้พระทุกวันด้วยใจศรัทธา เทวดามาสวดมนต์ หนักเข้าก็เลยเข้าสิงรักษาองค์พระเอาไว้ ก็เลยศักดิ์สิทธิ์ใหญ่ ทำให้เกิดสิริมงคลในครัวเรือน

หลวงพ่อพระพุทธโสธรนั้น คนกราบไหว้บูชากันมากเลยมีเทวดามารักษา ๑๖ องค์ ทำให้เกิดอภินิหารนานาประการ พระพุทธรูปสำคัญ ๆ ก็มีเทวดารักษาทั้งนั้นแหละ

เทวดาท่านว่าอย่างนั้นและเทวดาก็ว่าบ้านไหนมีพระพุทธรูปแค่ตั้งโชว์ เทวดาก็ไม่ไปสวดมนต์ เพราะร้อยวันพันปีไม่เคยทำวัตรสวดมนต์ เทวดาก็ไม่มา ผ่านเลยไปเลย มาไม่ลงมาสวดมนต์ คนเราก็มีเทวดารักษา คนดีมีศีลธรรม เทวดาที่เป็นบัณฑิตรักษา ถ้าคนชั่วขี้เหล้าเมายาทำชั่ว เทวดาพาลพวกมิจฉาทิฐิก็มารักษา

อาตมาถามต่อไปว่าแล้ว “เวลาพระสัคเคกาเมจะรูเป เทวดาลงมาหรือไม่” เทวดาว่า “รีบลงมา เทวดาบัณฑิตมาก่อน พอเห็นเจ้าภาพกินเหล้าเมาหงำกันในงานบุญก็เบ้หน้าแล้วกลับ เทวดาพาลก็เข้ามาแทนที่ เลยเกิดเรื่องเกิดราวตูมตามนั่นแหละ

ที่มา หนังสือกฎแห่งกรรม เล่ม 5





ธรรมบทเดียวกัน
บางท่านฟังแล้วไม่ได้อะไรเลย
บางท่านฟังแล้วสำเร็จโสดาบัน
บางท่านฟังแล้วสำเร็จสกิทาคามี
บางท่านฟังแล้วสำเร็จอนาคามี
บางท่านฟังแล้วสำเร็จอรหันต์
บางท่านฟังแล้วตกนรก เพราะเพ่งโทษธรรม

สิ่งที่สัตว์โลกเป็นเหมือนกันก็คือ
เมื่อฟังธรรมแล้วต่างคนก็ต่างจะ
น้อมธรรมเข้าสู่กิเลสของตน

กิเลสที่ต่างกัน ทำให้ผลของ
ธรรมบทเดียวกันนั้น ออกมาต่างกัน

หลวงปู่หล้า เขมปัตโต
วัดบรรพตคีรี (ภูจ้อก้อ) จ.มุกดาหาร






ความเพียรชอบ

นิพพานเป็นจุดหมายสูงสุดพระพุทธศาสนา คือการหลุดออกจากเครื่องร้อยรัด ใจของคนเราถูกมัดเอาไว้กับอารมณ์ เมื่อเราจะตายจิตของเราจะเป็นเครื่องกำหนดว่าเราจะไปไหนนรกหรือสวรรค์ ขึ้นอยู่กับความคิดขณะนั้น ถ้าเราคุมจิตไม่อยู่จะเลือกไม่ได้ว่าตายแล้วจะไปทางไหน ทั้งนี้เราสามารถประเมินตนได้โดยให้ดูที่ความคิดในระหว่างวันถ้าเราคิดดีมากกว่าคิดไม่ดีแนวโน้มก็จะไปสวรรค์มากกว่า แต่ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ดีหรือไม่ดีก็ยังเป็นเครื่องผูกมัดไม่หลุดพ้นและยังไม่ถึงนิพพาน การทำสมาธิคือการทำให้จิตรวมตัวเหลืออารมณ์เดียวมั่นคงขึ้นขณะหนึ่งแต่เมื่อออกจากสมาธิแล้วสมาธิยังไม่สามารถช่วยเราคุมอารมณ์ได้เลยทำให้เราคุมจิตไม่อยู่ จิตยังออกไปทางอายตนะทั้ง6 แสดงว่าสมาธิไม่ใช่อำนาจของเรา สมาธิเป็นของธรรมชาติเราแค่เข้าไปอาศัยชั่วคราวให้จิตสงบ สมาธิไม่สามารถล้างความคิดอกุศลออกไปจากใจเราได้ ความคิดอกุศลเป็นด่านแรกที่เราต้องชำระออกจากจิตใจให้หมดก่อนเพื่อจะให้ถึงพระนิพพาน จะต้องละบาปทั้งปวง บำเพ็ญกุศลให้ถึงพร้อม ชำระจิตให้ขาวรอบ การที่จะชำระอกุศลออกจากจิตใจเราต้องทำสัมมัปปธาน4 หรือความเพียรชอบ อันได้แก่

1.ภาวนาปทาน คือ เพียรฝึกฝนบำรุงกุศลธรรม ให้เจริญยิ่งขึ้น ( เพียรเจริญ ) เป็นการทำภาวนา เอาจิตมาตั้งไว้ที่อาการ32 ผมขนเล็บฟันหนัง เป็นการตั้งจิตไว้ที่ตัวเองความคิดอกุศลทั้งหลายจะไม่เกิดขึ้น(ราคะ โทสะ โมหะ) เพียรสร้างภาพของเราเอาไว้เสมอ

2.สังวรปทาน คือ เพียรระงับการกระทำอกุศล ไม่ให้เกิดขึ้น ( เพียรระวัง) เป็นการระวังไม่ให้มีภาพของคนอื่นเกิดขึ้น

3.ปหานปทาน คือ เพียรละเลิกอกุศลที่กำลังกระทำอยู่ ( เพียรละ ) เพียรละภาพคนอื่น ตัดภาพเขาออกให้หมด ภาพเขาเกิดก็รีบตัด ฝืนใจเอาไว้ไม่ให้คิดถึงภาพเขา

4.อนุรักขนาปทาน คือ เพียรรักษา กุศลธรรม ที่เกิดขึ้นแล้ว ( เพียรรักษา ) เพียรรักษาภาพของเราไว้ให้เห็นอยู่เสมอแข่งกับภาพคนอื่น

ภารกิจหลักของเราคือสร้างภาพของเราเองและตัดภาพของคนอื่น การสร้างภาพของตัวเองโดยการใช้อุบายจากคนตาย ซากศพขึ้นอืดขึ้นพอง เรียกว่าสัญญา ให้นึกถึงว่าเดี๋ยวเราก็เป็นแบบนี้ แล้วจิตเราจะสะอาด พอคิดไม่ดีก็ให้นึกถึงภาพเราเลยจะทำให้ความคิดไม่ดีนั้นหายไป การทำแบบนี้เรียกว่ามรรค คือการปรุงแต่ง เราจะต้องล้างความปรุงแต่งของจิตด้วยการปรุงแต่งถึงจะเป็นความไม่ปรุงแต่งทีหลัง การเจริญอสุภะคิดให้มากเจริญให้มากแล้วจะสงบมาก จิตเราจะไม่ไปทางอายตนะทั้ง6 นักปฏิบัติเราต้องรู้จักข่มใจฝืนใจไม่ให้คิดถึงภาพเขา เป็นการทำลายอัตตาตัวตนคือการเห็นความไม่เที่ยง เห็นอนัตตา ทำให้เกิดญาณทัศนะ เกิดความเบื่อหน่าย จิตจะตัดจากอารมณ์ทั้งหมดเองซึ่งนั่นคือนิพพาน

หลวงพ่อจรัญ ทักขญาโณ




ฝึกเดินจงกรม นั่งสมาธิ ยืน นอน
พิจารณาร่างกายตัวเองในอิริยาบถต่างๆ
เราทำให้รู้ ทำให้จิตใจมันรู้ว่า
ความทุกข์ของกายเป็นยังไง
พอมันรู้มันก็จะเข้าใจว่า
จริงๆมันต้องปล่อยวาง
ถึงจะไม่ยึดติดกับทุกข์ที่เกิดทางกาย
นั้นละเราถึงจะเข้าใจว่า
ว่างเปล่ามันเป็นยังไง
ทำตามที่หลวงตาบอกนะ
แล้วจะรู้เองเห็นเอง
หลวงตาสมหมาย อตฺตมโน
วัดป่าสันติกาวาส อ.ไชยวาน อุดรธานี




...การอโหสิกรรมนี่
ควรจะทำทันที
อย่าปล่อยให้มันคั่งค้างอยู่ในใจเรา
มันเป็นเหมือนยาพิษ
เราต้องกำจัดมัน
.
เพราะการโกรธเกลียดนี้มันไม่ดี
"มันทำให้จิตใจเราไม่สบาย"
เพราะฉะนั้น...
"มีโอกาสอโหสิกรรมได้เมื่อไร
รีบ..อโหสิกรรมไปเลย".
.............................
.
คัดลอกการแสดงธรรม
ธรรมะบนเขา 19/8/2561
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 4 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO