นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน ศุกร์ 19 เม.ย. 2024 2:32 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: การไม่ยึดมั่น
โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ 07 พ.ค. 2018 2:25 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4531
“ความยึดมั่นถือมั่น เป็นตัวกิเลสใหญ่โต”

..ธรรมะนี้ สักแต่ว่าเหมือนทางเดิน คล้ายสะพาน คล้ายถนนหนทาง ถ้าใครไปเดิน จะว่าทางเดินของตนเอง จะไม่ให้คนอื่นเดินจะได้เหรอ หรือจะว่าตนเองเก่งกว่าคนอื่น ก็ไม่ใช่ เพราะว่า เขาทำไว้เป็นสาธารณะ เป็นหนทางเดิน นี้พระพุทธเจ้า พระอริยะเจ้าท่านก็เดินผ่านไปแล้ว ท่านก็ทิ้งไว้นี้หละ ท่านไม่ได้เอาไปไหน เพียงแต่ว่าท่านร้อง ท่านเรียกให้คนเดินตาม ถ้าผู้ใดเดินตามไปได้ จะได้รับความสุข ความบริสุทธิ์ หรือได้เห็นสัจธรรมแล้ว ก็จะหายจากความสงสัยในโลก พาจิตตนเองให้เดินไปสู่ความบริสุทธิ์เท่านั้น ถ้าหากผู้ใด เห็นธรรม ถือธรรมว่าเป็นตน เป็นตัวเจ้าของหละ ผิดเลย แม้รู้มากขนาดไหน พอไปยึดถือปั๊บ มันเป็นอุปาทาน ความยึดมั่นถือมั่น เป็นตัวกิเลสใหญ่โต สำหรับขัดขวางธรรมะ ขัดขวางจิตใจ ไม่ให้เดินไปสู่ความบริสุทธิ์ ให้เราเข้าใจว่าอย่างนั้น..

หลวงปู่ศรี มหาวีโร
เทศนา เรื่อง เราลืมเจตนาดั้งเดิม




ขอสรรพสัตว์ทั้งหลายจงมีความสุข การแผ่เมตตาคือการปรารถนาความสุขให้กับตนเองและผู้อื่นเท่าเทียมกันเสมอกัน นี่เป็นหัวใจเป็นหลักสำคัญของการแผ่เมตตา

อันดับต่อไป ทำความสม่ำเสมอในบรรดาสรรพสัตว์ทั้งหลาย รวมทั้งตัวเราเองด้วย โดยการคิดถึงบุคคล ๔ คน คือ
๑. ตัวเราเอง
๒. คนที่เรารัก
๓. คนที่ไม่รักไม่ชังคนทั่ว ๆ ไป
๔. คนที่เราไม่ชอบ คนที่เราเกลียด
แผ่เมตตา คือ ปรารถนาความสุขให้บุคคลทั้ง ๔ คนนี้ เท่าเทียมกัน เสมอกัน ข้อนี้ทำได้ยากซักหน่อย แต่ถ้าหากว่าเราทำแผ่เมตตาเป็นประจำทุกวัน ๆ เราจะหาคนที่เกลียดไม่พบ ทุกคนจะเสมือนเป็นมิตรสหาย เป็นญาติ เป็นพี่น้อง หรือเป็นลูก เป็นหลาน มีความปรารถนาดี เท่าเทียมกันเสมอกัน แสดงว่า การแผ่เมตตาของเราได้รับผลดี
......คิดถึงบุคคล ๔ คน ๑. ตัวเราเอง ๒. คนที่เรารัก ๓. คนที่ไม่รักไม่ชัง ๔. คนที่เราไม่ชอบ คนที่เราเกลียด แผ่เมตตาคือ ปรารถนาความสุขให้บุคคลทั้ง ๔ คนนี้ เท่าเทียมกันเสมอกัน.......

อันดับต่อไป แผ่เมตตาไปยังสรรพสัตว์ทั้งหลายทั่วจักรวาล แผ่เมตตาคือ ปรารถนาความสุขไปยังสรรพสัตว์ทั้งหลายทั่วจักรวาล นับตั้งแต่พรหม ลงมาเทวดา มนุษย์ เปรต เปรตนี่มีความหิวโหย อสุรกาย อสุรกายนี่ มีกาย วิกลวิกาล มีความทุกข์ทรมานทางกายดิรัจฉาน สัตว์นรก ขอให้มีความสุข

อันดับต่อไป แผ่เมตตาไปยังทิศต่าง ๆ แผ่เมตตาคือปรารถนาความสุข ไปยังทิศข้างหน้า ตรงหน้าเราเลยทีเดียว ทิศหลัง ข้างหลังของเรา ทิศขวา-ขวามือ ทิศซ้าย-ซ้ายมือ เฉียงข้างหน้าทางขวา ครึ่งหนึ่งระหว่างทิศข้างหน้ากับทางขวา เฉียงข้างหน้าทางซ้าย เฉียงข้างหลังทางขวา เฉียงข้างหลังทางซ้าย ทิศบน บนหัว ทิศล่าง ดิ่งลงไปที่เรานั่ง สมมุติว่าตัวเรานี่คล้าย ๆ หลอดไฟฟ้า แผ่รัศมี ไม่ใช่แสงสว่าง แต่เป็นรัศมีแห่งความสุข ด้วยการปรารถนาความสุขแผ่ไปรอบตัวเรา

สรุป ขอข้าพเจ้าจงมีความสุข ขอสรรพสัตว์ทั้งหลายจงมีความสุข นึกแผ่ความสุขนี้ออกไปรอบตัวเราไม่มีขอบเขตของความสุข เป็นการสร้างบรรยากาศแห่งความสุข แล้วเราก็อยู่ในบรรยากาศนั้น นี่คืออารมณ์ของเมตตาพรหมวิหาร พยายามรักษาอารมณ์นี้ไว้ให้ได้ซักพักหนึ่ง โดยการคิดซ้ำ ๆ ย้ำ ๆ ขอข้าพเจ้าจงมีความสุข ขอสรรพสัตว์ทั้งหลายจงมีความสุข แล้วก็นึกแผ่ความสุขนี้ออกไปรอบตัวเราไม่มีขอบเขตแห่งความสุข




อย่ามัวแต่วิ่งหาครูบาอาจารย์ จนลืมตัวเอง

“..เรื่อง การสร้างบารมีกับครูบาอาจารย์ต่างๆ..”

โยม : นี่คือรายชื่อครูบาอาจารย์ที่ผมรวบรวม

พระอาจารย์ : เอารายชื่อไปทำไม ไม่เอาตัวเรา

โยม : ไปสร้างบารมีกับท่านทุกๆองค์

พระอาจารย์ : ไม่ต้องไปสร้างทุกองค์หรอก เอาองค์เดียวก็พอ เหมือนกันรถ โตโยต้า ๕๐ คัน มันก็เหมือนกันหมดทุกคนแหละ คันเบนซ์ ๕๐ คันมันก็เบนซ์เหมือนกันหมด เอาคันเดียวก็พอ เวลาคุณขับรถขับกี่คัน ก็นั่งคันเดียว ครูบาอาจารย์องค์ไหนใกล้เรา เราสะดวกไปหาท่านก็เอาองค์นั้น ฟังเทศน์ฟังธรรมแล้วเข้าใจง่ายก็เอาองค์นั้นก็เท่านั้นเอง
.............................................................................
บทสนทนาธรรมจากพ่อแม่ครูอาจารย์
(พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต)
วัดญาณสังวราราม อ.บางละมุง จ.ชลบุรี






"..คนเราชอบขอนั้นขอนี้
ขออะไร..ก็สู้ขอพ้นจากทุกข์ไม่ได้
ขอพ้นจากทุกข์..ประเสริฐที่สุด.."

โอวาทธรรม หลวงปู่อ้ม สุขกาโม
วัดป่าภูผาผึ้ง จ.มุกดาหาร





"คำสอนหลวงตา"

.....การบิณฑบาต เป็นอริยประเพณีของพระพุทธเจ้าและพระสาวกท่านดำเนินมา ใครจะออกมาจากสกุลใดก็ตาม ต้องเป็นกิจประจำองค์ประจำตัวของพระ คือบิณฑบาตมาครองชีวิตพอได้ประกอบความพากเพียร และให้ทำความพยายามอย่างนั้นตลอดชีวิตของพระ เวลาไปก็ไม่ได้สนใจกับอาหารการบริโภคจะได้ประณีตบรรจงหรือไม่อย่างไร ก็ไปตามกิจวัตร นี้เรียกว่าไปด้วยความเป็นธรรม ไม่ได้บิณฑบาตตามกิเลส

การเดินไปบิณฑบาตนั้นจะมีกี่รูปกี่องค์ก็ตาม ต่างองค์ต่างรักษากิจวัตรของตนไปโดยลำดับ ไม่พูดไม่คุยเรื่องอะไรกับผู้ใดทั้งสิ้น ต่างรักษากิจจำเป็นของตัวโดยเฉพาะๆ ทั้งไปทั้งกลับ นี่คือหลักประเพณีของท่านบิณฑบาตท่านเป็นอย่างนั้น เรียกว่าบิณฑบาตเป็นวัตร.

"หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน"




"การประพฤติ การปฏิบัติ ถ้าเราไปดูแต่ข้างนอก ไปฟังแต่ข้างนอกเราก็จะมองไม่เห็น หรือเห็นแต่มันละไม่ได้วางไม่ได้ เช่นว่า ความเกิดอย่างนี้หละ เราก็มองเห็นคนเกิดมา คนแก่เราก็มองเห็น แต่เราละไม่ได้ คนเจ็บไข้ได้พยาธิเราก็มองเห็น แต่เราละไม่ได้ อันนี้ในพระธรรมคุณท่านจึงบอกไว้ว่า เอหิปสฺสิโก จงร้องเรียกสัตว์ทั้งหลายมาดูธรรม ท่านให้มาดูธรรม โอปนิยิโก ท่านให้น้อมเข้ามา มาดู

ดูความเกิด อะไรมันเกิดเล่า ตัวเรานี้เป็นผู้เกิด ถ้าเราเห็นความเกิดของเราว่าเป็นทุกข์มันละเอง ถ้าเราไม่เห็นในตัวของเราว่าเป็นทุกข์แล้วมันก็ละไม่ได้"
....หลวงปู่ฝั้น อาจาโร





หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ท่านกล่าวไว้ว่า .... "อภัยทานควรให้แก่กัน เมื่ออีกฝ่ายหนึ่งผิดพลาดหรือล่วงเกิน คนมีทานย่อมเป็นผู้สง่าผ่าเผยและเด่นในปวงชน เป็นที่เคารพรักในหมู่ชน จะตกอยู่ทิศใดย่อมไม่อดอยากขาดแคลน จะมีสิ่งหรือผู้อุปถัมภ์จนได้ ไม่อันจนทนทุกข์ บุคคลทุกชั้นไม่รังเกียจ
ผู้มีทานย่อมเป็นผู้อบอุ่น หนุนโลกให้ชุ่มเย็น การเสียสละจึงเป็นเครื่องค้ำจุนหนุนโลก"





ท่านพ่อลี ธมฺมธโร กล่าวว่า .... “การไม่ยึดมั่นถือมั่น” ในสิ่งที่ตนได้กระทำไปแล้ว จะทำดีหรือทำชั่วก็ตามไม่ยึดถือเอามาเป็นสมบัติของตัว ทิ้งไว้ให้เป็นสมบัติของโลก ไม่เก็บมาลูบคลำเลย อย่างนี้เรียกว่า เป็นผู้มีปัญญา


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 2 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO