นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน อังคาร 19 มี.ค. 2024 3:34 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: จิตหลงอารมณ์
โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร 27 มี.ค. 2018 4:49 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4501
"จิตหลงอารมณ์"

" .. การปฏิบัติเรื่องจิตนี้ ความจริงจิตนี้ไม่เป็นอะไร มันเป็นประภัสสรของมันอยู่อย่างนั้น มันสงบอยู่แล้ว "ทีจิตไม่สงบทุกวันนี้เพราะจิตมันหลงอารมณ์" ตัวจิตแท้ ๆ นั้นไม่มีอะไร "เป็นธรรมชาติอยู่เฉย ๆ เท่านั้น" ที่สงบไม่สงบก็เป็นเพราะอารมณ์มาหลอกลวง

จิตที่ไม่ได้ฝึกก็ไม่มีความฉลาด มันก็โง่ อารมณ์ก็มาหลอกลวงไปให้เป็นสุข เป็นทุกข์ ดีใจ เสียใจ "จิตของคนตามธรรมชาตินั้น ไม่มีความดีใจ เสียใจ ที่มีความดีใจเสียใจนั้นไม่ใช่จิต" แต่เป็นอารมณ์ที่มาหลอกลวง จิตก็หลงอารมณ์โดยไม่รู้ตัว

แล้วก็เป็นสุขเป็นทุกข์ไปตามอารมณ์ เพราะยังไม่ได้ฝึก ยังไม่ฉลาด แล้วเราก็นึกว่า จิตเราเป็นทุกข์ นึกว่าจิตเราสบาย ความจริงมันหลงอารมณ์ พูดถึงจิตของเราแล้ว มันมีความสงบอยู่เฉย ๆ มีความสงบยิ่ง "เหมือนกับใบไม้ที่ไม่มีลมพัดก็อยู่เฉย ๆ ถ้ามีลมมาพัดก็กวัดแก่วงเป็นเพราะลมมาพัดและก็เป็นเพราะอารมณ์ มันหลงอารมณ์"

ถ้าจิตไม่หลงอารมณ์แล้ว จิตก็ไม่กวัดแกว่ง ถ้ารู้เท่าทันอารมณ์แล้วมันก็เฉย "เรียกว่าปกติของจิตเป็นอย่างนั้น" ที่เราปฏิบัติกันอยู่ทุกวันนี้ก็เพื่อให้เห็นจิตเดิม "เราคิดว่าจิตเป็นสุข จิตเป็นทุกข์ แต่ความจริงจิตไม่ได้สร้างสุขสร้างทุกข์ อารมณ์มาหลอกลวงต่างหาก มันจึงหลงอารมณ์" ฉะนั้นจึงต้องฝึกจิตให้ฉลาดขึ้น ให้รู้จักอารมณ์ ไม่ให้เป็นไปตามอารมณ์ จิตก็สงบ .. "

หลวงปู่ชา สุภัทโท





"คนที่ไม่มีโรคทางกาย
นับว่าประเสริฐ
แต่คนที่ไม่มีโรคทางใจ คือกิเลส
ประเสริฐยิ่งกว่า"

-:- หลวงปู่แหวน สุจิณโณ -:-




คนพูดมาก ไม่สำรวมปากของตน
เป็นผลร้ายถ่ายกรรม
สร้างเข็ญก่อเวรใส่ตนเอง
คนพูดน้อย ระวังตนย่อมปลอดภัย
ทำอะไรไม่ผิดพลาด ทำน้อยได้ผลมาก
ควรนับถือว่าเป็น “ คนดี ”.
สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (อ้วน ติสฺโส)




“...จะได้รู้ว่า ธรรมทั้งหลายเหล่านั้น จะเป็นภายในก็ตาม ภายนอกก็ตาม ธรรมในธรรมก็ตาม ก็จะมีแต่ความเกิดขึ้นและเสื่อมไป ความดับไป หาเป็นสาระแก่นสารมิได้ เพราะธรรมทั้งหลายเหล่านั้นเป็นสังขตธรรมทั้งสิ้น...”
โอวาทธรรมคำสอน..
องค์ท่านพ่อลี ธมฺมธโร





"...โกรธ แล้วหายโกรธเองเป็นเรื่องธรรมดา ทุกสิ่งเมื่อเกิดแล้วต้องดับ ไม่เป็นการบริหารจิตแต่อย่างใด

แต่โกรธ แล้วหายโกรธเพราะคิดให้อภัย เป็นการบริหารจิตโดยตรง จะเป็นการยกระดับของจิตให้สูงขึ้น ดีขึ้น มีค่าขึ้น..."

พระโอวาทธรรมคำสอน..
องค์สมเด็จพระญาณสังวร (เจริญ สุวัฑฺฒโน)
สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก
พระองค์ที่ ๑๙ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์





ผู้ชี้ทาง
“...บอกก็ไม่ทำนะบางคน แล้วจะให้ท่านทำยังไงหละ ถ้าเทียบอย่างหนึ่ง ก็คล้ายกับเด็กทารก เอาข้าวให้กิน เอานมให้กิน เอาใส่ปากแล้วแต่ไม่กิน ไม่กลืนลง เอาใส่ในปากแล้ว อมไว้เฉย ๆ ไม่กลืนลง ไม่กิน มันก็ไม่อิ่มหละ
นี้ธรรมะของพระพุทธเจ้าก็เหมือนกัน มีเต็มบริบูรณ์หมด สิ่งดีก็เห็นแล้ว สิ่งไม่ดีก็เห็นอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับตัวเองที่เฝ้าอยู่นั้น ไม่ยอมปฏิบัติเอา พระพุทธเจ้า พระองค์เป็นเพียงผู้ชี้ทาง เป็นมัคคุเทศก์ ว่าหนทางนี้ ไปนั้นไปนี้นะ ท่านไม่ได้แบ่งมรรคแบ่งผลให้ใครนะ ผู้จะได้อยู่ที่การกระทำเอา ต้องพิจารณาอย่างนั้น นี้หละ...”
โอวาทธรรมคำสอน..
องค์หลวงปู่ศรี มหาวีโร
- เทศนา เรื่อง สอนตามหลักธรรมชาติ



"...ในนรก สวรรค์ พรหมโลก มีจริง บาปอกุศลและบุญกุศลมีจริง และนิพพานก็มีจริง อย่าประมาทในชีวิตที่เกิดมาเป็นมนุษย์เป็นโอกาสดีที่สุดแล้ว..."
โอวาทธรรมคำสอน..
องค์หลวงปู่จาม มหาปุญโญ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 5 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO