นวรัตน์ดอทคอม

"ถ้าไม่อยากทุกข์
ก็อย่าเผลอใจให้สุขมาก"
-:- พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล -:-



"เมื่อทำบาปอย่างหนึ่งได้แล้ว
มันก็ทำบาปอย่างอื่นได้หมดนั่นแหล่ะ"
-:- หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ -:-



"เมื่อเจอสุข ก็อย่าลิงโลด
เมื่อเจอทุกข์ ก็อย่าคร่ำครวญ
หากวางใจให้เป็น
โชคหรือเคราะห์ สุขหรือทุกข์
ก็สามารถเป็นคุณแก่เราได้"
-:- พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล -:-



บันทึกครูบากล้วย..
พระวีระศักดิ์ ธีรภัทโท..
#เด็กวัดป่ามดงาน..
เรื่อง “ ทางลัดพิเศษ ท่านพระอาจารย์จันทร์เรียน คุณวโร ”..
หลังกลับจากจำพรรษาที่วัดพุทธรัตนาราม เมืองแคลเลอร์ รัฐเท๊กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา (๒๕๓๔) แล้ว หลวงปู่ชอบท่านบอกเราจะไปเยี่ยมหมู่คณะเพื่อมอบมีดพับกับนาฬิกาให้กับ..
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด หลวงปู่ถิร ฐิตธัมโม วัดทิพยรัตน์นิมิต หลวงพ่อลี กุสลธโล วัดป่าภูผาแดง พระอาจารย์จันทร์เรียน คุณวโร วัดถ้ำสหาย..
หลวงปู่ชอบท่านไปเยี่ยมหลวงตามหาบัวที่วัดป่าบ้านตาดก่อน จากนั้นองค์ท่านก็มาเยี่ยมหลวงปู่ถิรที่วัดบ้านจิกในเมืองอุดร..
ออกจากวัดบ้านจิกหลวงปู่ชอบท่านก็เยี่ยมหลวงพ่อลีที่วัดป่าภูผาแดง องค์ท่านมาพักสรงน้ำอยู่ที่นี่พร้อมให้พระเณรที่วัดป่าผาแดง และ หลวงพ่อลี กุสลธโร นวดเส้นถวาย..
หลวงพ่อลีผาแดงท่านกราบเรียนหลวงปู่ชอบว่า “ มื่อนี่(วันนี้) ข้าน้อยนิมนต์พ่อแม่ครูจารย์พักเมตตาหมู่เทพเทวาดญาติโยมอยู่ภูผาแดงเน๊าะ หลวงปู่ชอบท่านบอกกับหลวงพ่อลีว่า “ มื่อนี่(วันนี้) เฮาบ่ได้นอนสิกลับ(จะกลับ)โคกมน ออกจากนี่เฮากะสิเข้าไปเยี่ยมท่านเรียนอยู่ถ้ำสหาย เฮาถ่า(เราคอย)ท่านเรียนทำกิจภายในโปรดพวกทิพย์เขาก่อนแล้วเฮากะสิเข้าไปถ้ำสหาย ”..
ระหว่างที่หลวงปู่ชอบให้พระเณรวัดป่าภูผาแดงนวดเส้นถวายองค์ท่านอยู่นั้นหลวงพ่อลี กุสลธโล ท่านก็ชวนเราผู้บันทึก(ครูบากล้วย)มาดูรถของโยมโด่ง (อินทรจักร ศกุลตนาค) ที่ขับรถพาหลวงปู่ชอบมาที่ผาแดง หลวงพ่อลีท่านถามหาผ้าครองกับบาตรของหลวงปู่ชอบ เรากราบเรียนท่านว่าหลวงปู่ชอบท่านไม่ให้เอามาด้วย พวกกระผมก็เลยไม่ได้เอามาด้วยขอรับ..
หลวงพ่อลีผาแดงท่านก็บ่นให้พวกเราว่า “ พวกท่านนี่เป็นอุปัฏฐากจั่งใด๋ ครูบาอาจารย์ไปทางใด๋กะคือบ่พากันจัดบริขารผ้าครองให้เพิ่น ”..
เราก็กราบเรียนหลวงพ่อลีว่า ข้าน้อยถามพ่อแม่ครูบาอาจารย์ท่านแล้วว่าวันนี้จะเอาบริขารบาตรผ้าครองไปด้วยไหม ท่านก็บอกว่าบ่ต้องเอาไป ท่านว่าเราจะเยี่ยม อาจารย์มหาบัวบ้านตาด อาจารย์ถิรวัดบ้านจิก อาจารย์ลีผาแดง และ ท่านอาจารย์จันทร์เรียน แล้วก็จะกลับบ้านโคกมนในคืนนี้..
หลวงพ่อลีผาแดงท่านว่า “ อือ.! พ่อแม่ครูจารย์(หลวงปู่ชอบ)เพิ่นสิไปหาลูกฮักลูกแพงเพิ่น ท่านเรียนถ้ำสหายนั่น คักเน๊าะ ”..
หลวงพ่อลีท่านบอกให้โยมไปเอาตั่งอยู่โรงน้ำร้อนมานั่งคุยกันที่ข้างศาลาวัดผาแดง หลวงพ่อลีท่านว่า “ เฮานี่อยู่ปฏิบัติกับพ่อแม่ครูจารย์ชอบก่อนพวกท่านสิเกิดอีกเด้ ก่อนพ่อแม่ครูอาจารย์เพิ่นสร้างวัดสัมมานุสรณ์ขึ้นมา เรากับอาจารย์เพียร (หลวงพ่อเพียร วิริโย) พากันไปคอยเพิ่นอยู่ภูผาดินใกล้บ้านโคกมนทางไปผาน้อย พ่อแม่ครูจารย์เพิ่นบอกเฮาไปบ้านกกกอก (บ้านกกกอก ต.หนองงิ้ว อ.วังสะพุง จ.เลย) เรากะไปอยู่นั่นจนเห็นผลในเจ้าของ ”..
หลวงพ่อลี กุสลธโล ท่านว่านิสัยในการปฏิบัติของท่านนั้น ท่านมักจะพิจารณาธรรมภายในเป็นหลัก เรื่องอะไรภายนอกจิตอย่างเช่นทิพย์เทพเทวดานี้ท่านว่าเราจะไม่ค่อยเอาจิตตนเองไปดูอะไรกับพวกนี้มากนัก หลวงพ่อลีท่านกล่าวถึงนิสัยในการปฏิบัติของท่านพระอาจารย์จันทร์เรียน คุณวโร วัดถ้ำสหาย ให้พวกเราฟังสมัยที่พวกท่านเคยปฏิบัติด้วยกันมา..
หลวงพ่อลีผาแดงท่านว่า “ ท่านเรียนนี่เวลาภาวนาพอจิตลงแล้วกะสิมักไปเลาะหาเบิ่ง(ไปเลาะหาดู)อันนั่น อันนี่ เลาะเบิ่งกุฏิกุตั่งเฮือนชานบ้านช่องผู้อื่นจนพอใจเจ้าของแล้วถึงจะมาพิจารณาธรรมภายในเจ้าของ ท่านเรียนนี่มีนิสัยในการปฏิบัติคือพ่อแม่ครูจารย์ชอบเพิ่นคัก พิสดารโลดโผนคือกัน ”..
หลวงพ่อลีว่าตอนนั้นท่านกับหลวงพ่อบัวคำ มหาวีโร พระอาจารย์จันทร์เรียน คุณวโร พากันไปพักภาวนาอยู่ที่ภูเขาแถวเขตอำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี ท่านว่าภูเขาลูกนี้จะอยู่ห่างจากหมู่บ้านที่ไปบิณฑบาตประมาณสามกิโลเมตร ภูเขาลูกนี้มีทางขึ้นลงเพียงทางเดียวนอกนั้นจะเป็นหน้าผาป่าไม้ทั้งหมด..
ตอนพักอยู่ด้วยกันที่เขาลูกนี้หลวงพ่อลีว่ามีวันหนึ่งพระอาจารย์จันทร์เรียนท่านภาวนาดี พอท่านถอนจิตออกมาอีกทีก็เป็นเวลาเกือบจะเจ็ดโมงเช้าแล้ว พระอาจารย์จันทร์เรียนท่านเอาบริขารตนเองลงมาที่ศาลาเพื่อจะไปบิณฑบาต แต่ว่าในเช้าวันนั้นหลวงพ่อลีกับหลวงพ่อบัวคำท่านพากันเดินลงเขาออกไปบิณฑบาตก่อนแล้ว..
หลวงพ่อลี “ พวกเรารอออกไปบิณฑบาตจนถึงหกโมงครึ่งกะยังบ่เห็นท่านเรียนเอาบาตรเจ้าของลงมาศาลา เราว่า วันนี้สงสัยท่านเรียนจะอดข้าวภาวนาบ้อ ท่านเรียนมักอดข้าวภาวนา พวกเราก็เลยพากันไปบิณฑบาตก่อน ”..
หลวงพ่อลีว่าท่านเดินลงเขาเพื่อจะไปบิณฑบาตในหมู่บ้านใช้เวลาครึ่งชั่วโมง พอไปถึงทางจะเข้าหมู่บ้านท่านเห็นพระอาจารย์จันทร์เรียนยืนสะพายบาตรรอพวกท่านอยู่ก่อนแล้ว หลวงพ่อลีท่านจึงถามพระอาจารย์จันทร์เรียนว่า “ ท่านเรียนมาทางใด คือมาฮอด(มาถึง)ไวกว่าหมู่แท้ ”..
หลวงพ่อลี “ ท่านเรียนบอกเราว่ามาทางลัด เราว่า อ้าว.! มันสิมีทางลงทางลัดภูมาบิณฑบาตทางใดอีกล่ะ ท่านเรียนว่าทางลัดอยู่ใกล้กับศาลานั่นล่ะอาจารย์ เรากะว่าคิดทางลัดลงภูอยู่ข้างศาลานี่มันอยู่ม่องใด๋ว่ะ(มันอยู่ที่ไหนว่ะ) ”..
หลวงพ่อลีว่าตอนนั้นท่านก็ไม่ได้ซักเรื่อง “ ทางลัดพิเศษ ” กับท่านพระอาจารย์จันทร์เรียนอะไรมากนักเพราะได้เวลาบิณฑบาตกันแล้ว หลังบิณฑบาตเสร็จหลวงพ่อลีว่าท่านก็พากันเดินขึ้นเขากันมาตามปรกติ หลังฉันข้าวแล้วหลวงพ่อลีก็ให้พระอาจารย์จันทร์เรียนพาท่านไปดูทางลัดลงเขาตรงที่ว่านี้..
หลวงพ่อลี “ ทางลัดที่ท่านเรียนว่ามานี่มันบ่มีดอก เราไปเบิ่งแล้ว(เราไปดูแล้ว)มันเป็นหน้าผาจะฮีตนี่แหล่ว เราถามว่าทางลัดนี่มันเป็นแบบใดกันแน่ ท่านเรียนบอกพอเจ้าของเอาบาตรมาศาลาหมู่กะพากันออกไปบิณฑบาตแล้ว ท่านเรียนไปยืนอยู่หน้าผา ปรากฏว่ามันเป็นทางออดหลอดคือกับสะพานยื่นเข้ามา ท่านเรียนกะเลยเดินตามสะพานนั่นลงมาจากภูเขาไปรอพวกเราบิณฑบาต ”..
หลวงพ่อลีท่านก็เล่าไป ยิ้มไป “ ทางลัดของท่านเรียนนี่มันล่ะเป็นทางจอกหลอกแจกแหลกบ่คือทางไปบิณฑบาตของหมู่เขา ”..
เหตุการณ์นี้ พระอาจารย์จันทร์เรียน คุณวโร เคยเล่าให้ฟังว่า ท่านว่าตอนนั้นพอเราออกจากภาวนาก็เป็นเวลาหกโมงกว่าแล้ว ท่านเอาบาตรบริขารลงมาที่ศาลาก็ไม่พบกับครูบาอาจารย์ซักองค์เพราะลงไปบิณฑบาตกันหมดแล้ว ท่านสะพายบาตรไปยืนอยู่หน้าผามองไปทางหมู่บ้านที่จะไปบิณฑบาต ท่านยืนรำพึงในใจถ้ามี “ ทางลัด ” เราก็จะไปบิณฑบาตทันกับครูบาอาจารย์อยู่ดอก..
พอท่านรำพึงในจิตแบบนี้แล้วปรากฏมีเสียงผู้ชายพูดขึ้นมาว่า “ นิมนต์อาจารย์ไปทางนี้ ” พอสิ้นเสียงนี้ก็ปรากฏเป็นสะพานลอยเคลื่อนเข้ามาหาท่าน พระอาจารย์จันทร์เรียนท่านก็เดินไปตามทางที่ว่านี้เพียงแค่อึดใจเดียวท่านก็ไปยืนอยู่หน้าทางเข้าหมู่บ้านที่พวกท่านจะพากันไปบิณฑบาต..
หลังจากพักภาวนาอยู่ที่ภูเขาบ้านผือแล้ว หลวงพ่อลีว่าออกจากนั้นท่านก็กลับลงมาอยู่ที่วัดป่าบ้านตาดกับองค์ท่านหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน หลวงปู่ลีท่านเล่าเรื่องไปภาวนาอยู่ที่บ้านผือให้หลวงตามหาบัวฟัง ท่านเล่าเรื่อง “ ทางลัดพิเศษ ” ของพระอาจารย์จันทร์เรียนให้องค์ท่านหลวงตามหาบัวฟัง..
หลวงพ่อลีว่าเรื่อง “ ทางลัดพิเศษ ” ของพระอาจารย์จันทร์เรียนนี้ได้ขยายออกไปเพราะ หลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท (วัดป่าภูริทัตปฏิปทาราม จ.ปทุมธานี) กับ หลวงพ่อฟัก สันติธัมโม (วัดเขาน้อยสามฝาน จ.จันทบุรี) มาที่วัดป่าบ้านตาด หลวงตามหาบัวท่านเล่าเรื่อง “ ทางลัดพิเศษ ” ของพระอาจารย์จันทร์เรียนให้หลวงปู่เจี๊ยะกับหลวงพ่อฟักฟัง หลวงปู่เจี๊ยะท่านสนใจในเรื่องนี้จึงมาถามเอารายละเอียดจากหลวงพ่อลี หลวงพ่อลีท่านก็เล่าเรื่องนี้ให้กับหลวงปู่เจี๊ยะฟัง..
หลวงพ่อลี “ พอเฮาว่าให้ฟัง อาจารย์เจี๊ยะเพิ่นว่า พระรุ่นใหม่ในประเทศไทยนี้ยังมีอยู่หรือว่ะ เราจะไปหาท่านจันทร์เรียนเอง ”..
หลวงพ่อลี กุสลธโล วัดป่าภูผาแดงหนองวัวซอท่านว่า จากนั้นท่านอาจารย์เจี๊ยะ(หลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท) ก็ไปวัดถ้ำสหายเพื่อถามไถ่ใจธรรมต่อกันกับท่านเรียน (ท่านพระอาจารย์จันทร์เรียน คุณวโร)..




ถาม : เรานำอาหารไปวางหน้าพระพุทธรูป ไหว้พระพุทธรูปในห้องพระที่บ้าน หลังจากไหว้เสร็จแล้ว เราสามารถนำอาหารมารับประทานต่อได้หรือไม่ จะเป็นบาปหรือไม่ เพราะเราได้ถวายอาหารแด่พระพุทธเจ้าแล้ว
พระอาจารย์ : ไม่เป็นบาป แต่ไม่ได้ประโยชน์อะไร อย่าไปเสียเวลา กินเลยดีกว่า ทำอาหารเสร็จร้อนๆเราก็กินเลย อย่าเอาไปวางหน้าพระพุทธรูปแล้วรอให้อาหารเย็นก็ไปเอามากิน
ถ้าจะบูชาพระพุทธเจ้า ต้องบูชาด้วยการปฏิบัติบูชา ปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ส่วนอาหารที่นำไปวางหน้าพระพุทธรูป พระพุทธรูปกินไม่ได้ พระพุทธเจ้ากินไม่ได้ ไม่เกิดประโยชน์อันใด
ช่วง ถาม-ตอบ คำถาม ระดับชาวบ้าน
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ธรรมะบนเขา ณ จุลศาลา เขตปฏิบัติธรรมเขาชีโอน
วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร ชลบุรี
วันที่ ๑๘ มีนาคม ๒๕๖๑



"..เขาไม่ดีของเขาก็พออยู่แล้ว เรายังไปปรุงว่าเขาไม่ดีอีกเราก็เป็นคนไม่ดีอีกคนหนึ่ง ให้ย้อนกลับอย่างนี้ การชำระกิเลสต้องชำระที่ใจของเรา อย่าด่วนไปเห็นสิ่งใดว่าดีไม่ดีก่อนที่จิตใจที่ยังไม่ได้คิดตัวเองในเวลาที่ปรุงออกไป คือตัวนี้แลเป็นตัวภัยต่อเราเองเราก็ไม่รู้ ว่าคนนั้นไม่ดีคนนี้ไม่ดี ไอ้ตัวที่คิดดื้อด้านออกไปปรุงไม่ดีนี้ไม่คิด อันนี้มันเสียได้นะ ให้ดูตัวเอง.."
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
เมื่อวันที่ ๒๕ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๔๕