นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน พฤหัสฯ. 25 เม.ย. 2024 1:22 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ 14 มี.ค. 2018 4:48 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4539
สมัยนั้น สาคลราชธานีได้ว่างเปล่าจากสมณะพราหมณ์ และคฤหบดี
ที่เป็นปราชญ์ถึงสิบสองปี เพราะพระเจ้ามิลินท์ได้ทรงสดับว่าในที่ใดมีสมณะ
พราหมณ์หรือคฤบดีที่เป็นปราชญ์, ก็เสด็จพระราชดำเนินไป, ตรัสถามปัญหา
กับหมู่ปราชญ์ในที่นั้น; หมู่ปราชญ์ทั้งปวงนั้นไม่สามารถจะวิสัชนาปัญหา
ถวายให้ทรงยินดีได้, ต่างคนก็หลีกหนีไปในที่ใดที่หนึ่ง, ผู้ที่ไม่หลีกไปสู่ทิศอื่น
ต่างคนก็อยู่นิ่ง ๆ. ส่วนภิกษุทั้งหลายไปสู่ประเทศหิมพานต์เสียโดยมาก.
สมัยนั้น พระอรหันต์เจ้าร้อยโกฏิ (?) อาศัยอยู่ที่พื้นถ้ำรักขิตคุหา ณ
เขาหิมพานต์. ในกาลนั้น พระอัสสคุตตเถรเจ้าได้สดับพระวาจาแห่งพระเจ้า
มิลินท์ด้วยทิพยโสต (คือ หูที่ได้ยินเสียงไกลได้ดุจหูเทวดา) แล้ว, จึงนัดให้
ภิกษุสงฆ์ประชุมกัน ณ ยอดเขายุคันธรแล้ว, ถามภิกษุทั้งหลายว่า "อาวุโส, มี
ภิกษุองค์ไดสามารถจะสังสนทนากับพระเจ้ามิลินท์ นำความสงสัยของเธอ
เสียได้บ้างหรือไม่ ?" เมื่อพระเถรเจ้ากล่าวถามอย่างนี้แล้ว พระอรหันต์เจ้า
ร้อยโกฏินั้นก็พากันนิ่งอยู่. พระเถรเจ้าถามอย่างนั้นถึงสองครั้ง สามครั้ง ต่าง
องค์ก็นิ่งเสียเหมือนอย่างนั้น.
พระเถรเจ้าจึงกล่าวว่า "อาวุโส, ในดาวดึงสพิภพพิมานชื่อเกตุมดีมีอยู่
ข้างปราจีนทิศ (ตะวันออก) แห่งไพชยันตปราสาท, เทพบุตรชื่อมหาเสนได้
อาศัยอยู่ในทิพยพิมานนั้น, เธอสามารถจะสังสนทนากับพระเจ้ามิลินท์นำ
ความสงสัยของเธอเสียได้."
ลำดับนั้น พระอรหันต์เจ้าร้อยโกฏินั้น จึงหายพระองค์จากเขายุคันธร
ไปปรากฏขึ้นในดาวดึงสพิภพ.
ท้าวศักรินทรเทวราช ได้ทอดพระเนตรเห็นภิกษุทั้งหลายนั้นมาอยู่แต่
ไกล, จึงเสด็จเข้าไปใกล้, ทรงถวายอภิวาทพระอัสสคุตตเถรเจ้าแล้ว, ประทับ
ยืน ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง เป็นการแสดงความเคารพแล้ว, ตรัสถามว่า "พระ
ภิกษุสงฆ์พากันมาถึงที่นี่เป็นหมู่ใหญ่. ข้าพเจ้าได้ถวายตัวเป็นอารามิกบุรุษ
(คนกระทำกิจธุระในพระอาราม) ของพระภิกษุสงฆ์ไว้แล้ว. ท่านจะประสงค์
ให้ข้าพเจ้ากระทำกิจอะไรหรือ ?"
พระเถรเจ้าจึงถวายพระพรว่า "ดูก่อนมหาราช, ในชมพูทวีปมีพระเจ้า
แผ่นดินในสาคลราชธานีพระองค์หนึ่ง ทรงพระนามว่าพระเจ้ามิลินท์, เป็นคน
ช่างตรัสซักถามด้วยข้อความในลัทธินั้น ๆ, อันใคร ๆ จะโต้ตอบครอบงำให้
ชำนะได้โดยยาก; เขากล่าวยกว่าเป็นยอดของเดียรถีย์เจ้าลัทธิเป็นอันมาก.
เธอเสด็จเข้าไปหาภิกษุสงฆ์แล้ว, ตรัสถามปัญหาด้วยวาทะปรารภทิฏฐิ
นั้น ๆ, เบียดเบียนภิกษุสงฆ์ให้ลำบาก."
ท้าวศักรินทรเทวราช ตรัสบอกพระเถรเจ้าว่า "ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า,
พระเจ้ามิลินท์นั้นจุติไปเกิดในมนุษยโลกจากที่นี้เอง. เทพบุตรชื่อมหาเสนซึ่ง
อยู่ในพิมานชื่อเกตุมดีนั่นแน่ สามารถจะสังสนทนากับพระเจ้ามิลินท์นั้น นำ
ความสงสัยของเธอเสียได้. เราจงมาพากันไปอ้อนวอนขอให้เธอไปเกิดใน
มนุษยโลกเถิด." ครั้นตรัสอย่างนี้แล้ว, เสด็จตามพระภิกษุสงฆ์ไปถึงเกตุมดี
พิมานแล้ว, ทรงสวมกอดมหาเสนเทพบุตรแล้ว, ตรัสว่า "แน่ะเจ้าผู้นิรทุกข์,
พระภิกษุสงฆ์ท่านอ้อนวอนขอให้เจ้าลงไปเกิดในมนุษยโลก."
มหาเสนเทพบุตรทูลว่า "ข้าพระองค์ไม่พอใจมนุษยโลกที่มีการงาน
มากนัก, มนุษยโลกนั้นเข้มงวดนัก. ข้าพระองค์จะเกิดสืบ ๆ ไปในเทวโลกนี้
เท่านั้น กว่าจะปรินิพพาน."
ท้าวศักรินทรเทวราชตรัสอ้อนวอนถึงสองครั้ง สามครั้ง; เธอก็มิได้ทูล
รับเหมือนดังนั้น.
พระอัสสคุตตเถรเจ้าจึงกล่าวกะมหาเสนเทพบุตรว่า "ดูก่อนท่านผู้
นิรทุกข์, เราทั้งหลายได้เลือกตรวจดูตลอดทั่วมนุษยโลก ทั้งเทวโลก; นอกจาก
ท่านแล้วไม่เห็นใครอื่น ที่สามารถจะทำลายล้างทิฏฐิของพระเจ้ามิลินท์แล้ว
ยกย่องพระศาสนาไว้ได้. ภิกษุสงฆ์จึงได้อ้อนวอนท่าน. ขอท่านผู้สัตบุรุษ จง
ยอมไปเกิดในมนุษยโลกแล้ว, ยกย่องพระศาสนาของพระทศพลเจ้าไว้เถิด."
เมื่อพระเถรเจ้ากล่าวอ้อนวอนอย่างนี้แล้ว; มหาเสนเทพบุตรทราบว่าเธอผู้
เดียวเท่านั้น จักสามารถทำลายล้างทิฏฐิของพระเจ้ามิลินท์แล้ว, ยกย่อง
พระศาสนาไว้ได้; จึงมีใจยินดีชื่นบาน, ได้ถวายปฏิญาณรับว่าจะลงไปเกิดใน
มนุษยโลก.
ครั้นภิกษุทั้งหลายนั้น จัดกิจที่จะต้องทำนั้นในเทวโลกเสร็จแล้ว, จึง
อันตรธานจากดาวดึงสพิภพ มาปรากฏ ณ พื้นถ้ำรักขิตคูหาที่เขาหิมพานต์
แล้ว; พระอัสสคุตตเถรเจ้าจึงถามพระภิกษุสงฆ์ว่า "อาวุโส, ในภิกษุสงฆ์หมู่นี้
มีภิกษุองค์ใดไม่ได้มาประชุมบ้าง."
ภิกษุองค์หนึ่งเรียนพระเถรเจ้าว่า "ภิกษุที่ไม่ได้มาประชุมมีอยู่ คือ พระ
โรหณะผู้มีอายุไปสู่เขาหิมพานต์ เข้านิโรธสมาบัติได้เจ็ดวันเข้าวันนี้แล้ว. ขอ
พระเถรเจ้าจงใช้ทูตไปเรียกเธอมาเถิด."
ขณะนั้นพระโรหณะผู้มีอายุออกจากนิโรธสมาบัติแล้ว, ทราบว่าพระ
สงฆ์ให้หาท่าน, จึงอันตรธานจากเขาหิมพานต์, มาปรากฏข้างหน้าแห่งพระ
อรหันต์เจ้าร้อยโกฏิ ณ พื้นถ้ำรักขิตคูหา.
พระอัสสคุตตเถรเจ้าจึงมีวาจาถามว่า "ดูก่อนโรหณะผู้มีอายุ, เหตุไฉน
เมื่อพระพุทธศาสนาทรุดโทรมลงถึงเพียงนี้, ท่านจึงไม่ช่วยดูแลกิจที่สงฆ์จะ
ต้องทำ ?"
ท่านเรียนตอบว่า "ข้าแต่พระเถรเจ้า, ข้อนั้นเป็นเพราะข้าพเจ้าไม่ได้
มนสิการทำในใจ."
จึงพระเถรเจ้าปรับโทษว่า "ถ้าอย่างนั้น ท่านจงทำทัณฑกรรมรับปรับ
โทษเสียเถิด."
ท่านเรียนถามว่า "ข้าแต่พระเถรเจ้า ข้าพเจ้าจะต้องทำทัณฑกรรม
อะไร ?"
พระเถรเจ้าจึงบังคับว่า "มีบ้านพราหมณ์อยู่ข้างเขาหิมพานต์แห่งหนึ่ง
ชื่อกชังคลคาม. มีพราหมณ์ผู้หนึ่ง ชื่อโสณุตตระอาศัยอยู่ในบ้านนั้น. บุตรของ
โสณุตตรพราหมณ์นั้น จักเกิดขึ้นคนหนึ่ง คือ ทารกชื่อนาคเสน. ท่านจงไป
บิณฑบาตที่ตระกูลนั้น ให้ครบเจ็ดปีกับสิบเดือนแล้ว, จงนำเอาทารกชื่อ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Bing [Bot] และ บุคคลทั่วไป 4 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO