นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน เสาร์ 27 เม.ย. 2024 5:06 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: ยิ่งมียิ่งไม่ว่าง
โพสต์โพสต์แล้ว: อาทิตย์ 28 ม.ค. 2018 7:57 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4540
"จงช่วยกันสอนธรรม
อย่าช่วยกันเสกของขลัง"
-:- หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ -:-



ยิ่งมียิ่งไม่ว่าง
"...การมีสิ่งเสพสิ่งบริโภคมากมาย แม้จะช่วยให้ชีวิตสะดวกสบายขึ้น แต่ก็ทำให้เรามีเวลาว่างน้อยลง เพราะเสียเวลาไม่ใช่น้อยไปกับสิ่งเหล่านี้ ทุกวันนี้เราเสียเวลาไปกับโทรทัศน์ เครื่องเล่นดีวีดี หรือเอ็มพี ๓ ไปวันละหลายชั่วโมง ไม่นับเวลาที่หมดไปกับอินเตอร์เน็ตและโทรศัพท์มือถือ
แต่นั่นยังเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเวลาที่เสียไปกับการหาเงินเพื่อครอบครอง และรักษาทรัพย์สมบัติอีกมากมาย เช่น บ้านและรถยนต์ สมบัติเหล่านี้ทำให้มาตรฐานการครองชีพสูงขึ้นและสบายขึ้นก็จริง แต่ก็ต้องแลกด้วยเวลาและอะไรต่ออะไรอีกมากมายที่สำคัญต่อชีวิต เช่น สุขภาพและความสัมพันธ์กับผู้อื่น
ใช่หรือไม่ว่ายิ่งมีทรัพย์มาก เวลาว่างก็ยิ่งเหลือน้อยลง ?
แต่หากลองมีทรัพย์ให้น้อยลง หรือใช้ชีวิตให้เรียบง่ายกว่าเดิม จะพบว่าเรามีเวลาว่างมากขึ้น และสามารถทำหลายต่อหลายอย่างที่มีความสำคัญต่อชีวิต เช่น ออกกำลังกาย ทำสมาธิภาวนา มีเวลาอยู่กับครอบครัว ดื่มด่ำกับธรรมชาติรอบตัว
กล่าวโดยสรุปคือ ได้ชื่นชมกับชีวิตมากขึ้น..."
โอวาทธรรมคำสอน..
พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล




"...บัณฑิตไม่มีความเพ่งโทษผู้อื่น บัณฑิตจะเพ่งโทษตนเอง การเพ่งโทษตนเองนั้นเป็นการฝึกตนเองอย่างหนึ่งที่จักเกิดผลจริง
การเพ่งโทษผู้อื่นเป็นวิสัยของผู้ไม่ใช่บัณฑิต ผู้ที่เพ่งแต่โทษผู้อื่น ไม่เพ่งโทษตนเอง ย่อมไม่เห็นโทษของตนเอง ย่อมไม่เห็นความบกพร่องที่จะต้องแก้ไขให้ดีขึ้น ย่อมไม่รู้ว่ามีโทษเพียงไรในแง่ใด ไม่มีโอกาสจะแก้ไขตนเอง แต่จะมุ่งไปแก้ผู้อื่น ซึ่งจะไม่เป็นประโยชน์แก่ตนอย่างใด
ผู้อื่นนั้นไม่ใช่ว่าจะยอมให้แก้ เพราะถ้าเป็นผู้อื่นที่เป็นบัณฑิต ก็ย่อมแก้ตนเองอยู่แล้ว ฝึกตนเองอยู่แล้ว ส่วนผู้ที่ไม่เป็นบัณฑิตก็ย่อมไม่สนใจที่จะแก้ตนเองฝึกตนเองอยู่แล้ว ผู้อื่นจะไปแก้จึงเป็นไปได้ยาก
ทุกคนจะดีหรือชั่วสำคัญที่ตนเอง ตนเองมีความดีพอจะยอมรับความไม่ถูกต้องไม่ดีงามของตน ย่อมยินดีฝึกตน ย่อมยินดีแก้ไขตน ย่อมมีโอกาสเป็นคนดียิ่งขึ้น..."
พระโอวาทธรรมคำสอน..
องค์สมเด็จพระญาณสังวร (เจริญ สุวัฑฺฒโน)
สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
พระองค์ที่ ๑๙ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์




"...วิธีการบรรเทาทุกข์อีกอย่าง คือการใช้ธรรมโอสถ อาศัยปรับปรุงตัวเอง ควรทำใจของตนให้น้อมไปในอารมณ์ที่ดีเป็นบุญเป็นกุศล ตั้งมั่นอยู่ในความดี อยู่บนรากฐานของศีล..."
โอวาทธรรมคำสอน..
องค์ท่านพ่อลี ธัมมธโร
วัดอโศการาม อ.เมือง จ.สมุทรปราการ



"...สิ่งใดเป็นไปเพื่อความขัดขวางตัดรอนความดี และขัดขวางจิตใจไม่ให้ความสะดวกเพื่อประพฤติความดี เมื่ออนุโลมตามแล้วยิ่งกำเริบรังควานใหญ่ เหมือนคนไข้ชอบอาหารแสลงแก่โรค เมื่อรับประทานลงไปยิ่งยังให้โรคกำเริบรุนแรงฉะนั้น สิ่งนั้นเรียกว่า มาร
มารนี้ท่านจำแนกไว้มี ๕ คือ กิเลสมาร ขันธมาร มัจจุมาร เทวปุตตมาร และอภิสังขารมาร มารเหล่านี้ท่านก็ให้นามว่าธรรมเหมือนกัน แต่เป็นธรรมฝ่ายชั่ว และเป็นคู่แข่งขันกับธรรมฝ่ายดี ผู้ปฏิบัติเพื่อธรรมฝ่ายดี จึงต้องรบกับศัตรูเหล่านี้ให้ได้ชัยชนะ..."
โอวาทธรรมคำสอน..
องค์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 2 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO