นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน เสาร์ 20 เม.ย. 2024 2:04 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: สมาธิเป็นยอดบุญ
โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร 24 ต.ค. 2017 4:55 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4533
การแลกบุญด้วยเงิน

โยม ; หลวงปู่เจ้าขา ทำไมศาสนาพุทธถึงมีแต่ให้ทาน เดี๋ยวก็ถวาย เดี๋ยวก็ถวาย นี่อย่างวันนี้ก็ถวายเทียน ถวายผ้าอาบน้ำ ถวายผ้าป่า กฐิน มีแต่ถวายเต็มไปหมดแสดงว่าจะได้บุญมาต้องเสียเงินเสียทองสิเจ้าค่ะ

หลวงปู่ ; อือ บุญเป็นชื่อของความสุข ทำแล้วทุกข์อย่าทำ

โยม ; โยมก็ไม่ได้ทุกข์ แค่สงสัยว่าทำไม ศาสนามีแต่การให้ทาน

หลวงปู่ ; การทำบุญในพระศาสนาหน่ะมีหลายแบบ มีหลายระดับ ระดับทาน ระดับศีล ระดับภาวนา คนใจยังไม่สูงก็มัววุ่นอยู่กับทานอย่างเดียว คนใจสูงมาอีกหน่อยก็ทำบุญเรื่องศีล เมื่อใจถึงระดับแล้วเขาจะทำบุญด้วยการภาวนา เพราะทานกำจัดกิเลสอย่างหยาบ ศีลกำจัดกิเลสอย่างกลาง ภาวนากำจัดกิเลสอย่างละเอียด บางคนทำบุญแล้วไม่รู้เรื่องบุญก็มัวแต่หาว่ามีแต่ทานแต่ทาน คนบ้าทานก็ทำทานเอาหน้า ทำทานเอาตรา ทำทานเพื่อโฆษณา แท้จริงแล้วจุดประสงค์เพื่อละตัวเรา เพื่อละของเรา อาศัยสิ่งของเพื่อละความเห็นแก่ตัว ละความถือตัวถือตน บางคนทำบุญทำทานไม่เป็นให้แล้วยังถือว่าเป็นเราเป็นของเรา บางคนทานแล้วประสงค์นั่น อธิษฐานนี่ วุ่นวายไปหมด อันนี้ให้ทานเอาตัณหา ให้ทานเอาโลก ให้ทานเอากิเลส ทานที่แท้จริงต้องทานเพื่อละเพื่อทิ้ง เอาของมาทานให้หลวงปู่แล้วมาให้หลวงปู่เสกนั้นเป่านี่ อธิษฐานเอานั้นเอานี่ เหมือนหลวงปู่จะบันดาลให้ได้ คนที่เอาเอาข้าวให้หมากินเขายังได้อานิสงค์มากว่าคนพวกนี้ เพราะเขาให้ทานเพื่อละ ให้ทานเพื่ออนุเคราะห์สัตว์ตกยาก เขาให้ทานโดยไม่ความเป็นตัวเป็นตน ไม่อธิฐานเอานั้นเอานี่จากหมา ไม่ต้องบอกหมาว่า ต้องฉันของโยม ของหนู ของฉัน นั้นคนพวกนั้นเขาทานเพื่อละเพื่อวาง คนที่วางตัววางตน ก็ไม่มีตัวไม่มีตน คนไม่มีตัวไม่มีตนมันจะทุกข์มาจากไหน เพราะมีตัว อะไรก็ของตัว ได้ตัวก็ได้ เสียตัวก็เสีย กระทบอะไรตัวก็กระทบ มันจึงทุกข์จึงยาก แต่ละตัวละตนเสียแล้วจะทุกข์กับอะไร ถ้าคุณเข้าใจอย่างนี้หลวงปู่เรียกคนเหล่านั้นว่าเขาทำทานเพื่อพึ่งพา ให้ทานเพื่อละ เพื่อวาง เขาจะไม่ทุกข์กับการให้ทาน เขาเป็นนักทานที่แท้จริง เข้าใจนะ

ธรรมะจากพระญาณวิสาลเถร (หา สุภโร)






"บุญนี้ ต้องทำบ่อยๆ สะสมทีละเล็กทีละน้อย
ทำจนเป็นนิสัย บุญจากการทำสมาธินี้
เป็นยอดบุญ พยายามทนทำไปเถอะ
พอถึงที่สุดแล้ว มันจะมีพลังบัลดาลให้เรา
พบแต่สิ่งที่ดีงาม แล้วมันก็จะเป็นกำลังใจให้เรา
แก้ปัญหาชีวิต ผ่านพ้นวิกฤติไปได้"

-:- หลวงพ่อสนอง กตปุญโญ -:-





เวทนา สุข-ทุกข์-เฉยๆ เกิดขึ้น
เพราะ มีเหตุปัจจัย
เมื่อเหตุปัจจัยไม่มี เวทนาก็หายไป
สัญญา สังขาร วิญญาณ ก็เสื่อมสูญไปหมด
ในผลที่สุด ... ก็ไม่มีสิ่งใด ที่แน่นอนถาวร
เห็นขันธ์ ๕ เป็นของไม่แน่นอนถาวร ถึงจะวางได้
"วาง" นั้นคือ ตัวอนัตตา

หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี






ไม่ต้องเอาหน้า เอาเกียรติ ไม่ต้องเอาชื่อเอาเสียง
เอาเฉพาะใจของตนเอง ตั้งศรัทธาแน่วแน่
เฉพาะบุญกุศลที่ตนทำเอง
นั่นล่ะ เป็นอานิสงส์มาก กุศลมาก ตรงนี้แหละ

หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี





"นกกระยางกินปลา"

อย่าไปลังเลสงสัยว่า คำบริกรรมนี้จะถูกกับจริต
นิสัยของเราหรือไม่หนอ ... ถ้าจิตตั้งมั่นแน่วแน่
ในคำบริกรรม ที่ตนภาวนาอยู่นั้นแล้ว เป็นใช้ได้ทั้งนั้น
เพราะภาวนา ก็เพื่อ ต้องการทำจิต
ให้แน่วแน่เท่านั้น ส่วนนอกนั้น มันเป็นตาม
บุญวาสนาของแต่ละบุคคล

ครั้งพุทธกาล มีพระรูปหนึ่ง ไปภาวนา
อยู่ใกล้สระน้ำแห่งหนึ่ง เห็นนกกระยางตัวหนึ่ง
โฉบปลากินเป็นอาหาร ... ท่านเลยถือเอาเป็น
คำบริกรรมภาวนา จนได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์

นกกระยางกินปลา ไม่เคยเห็นในกัมมัฏฐาน
บทใด แต่ท่านเอามาภาวนาจนสำเร็จ
นี้ เป็นตัวอย่าง!

หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 5 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO