นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน ศุกร์ 03 พ.ค. 2024 8:34 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: ความไม่สงบ
โพสต์โพสต์แล้ว: เสาร์ 22 ก.ค. 2017 9:48 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4547
...ใจของพวกเรา ตอนนี้มัน
"ไม่เป็นกลาง" เป็น อคติ
มันจะกลิ้งไป
แล้วแต่จะ "สัมผัส" อะไร
.
...บางทีก็ไปทาง..รัก
บางทีก็ไปทาง..ชัง
บางทีก็ไปทาง..กลัว
บางทีก็ไปทาง..หลง
ทำให้มี "ความไม่สงบ"
.
...ทำให้ใจต้องดิ้น
เวลาเจอของรัก..ก็จะดีใจเข้าหา
เวลาเจอของชัง..ก็จะดิ้นหนี
.
...เจอของชังก็เหมือนกับ..
ไส้เดือนเจอน้ำร้อน มันก็จะหนี
ใจของเราจึง ไม่มีความสุข
"เพราะมันไม่นิ่ง มันไม่สงบ"
.
...เพราะมันยัง "ละ"
ความรัก ความชัง
ความกลัว ความหลง ไม่ได้.
....................................................
.
คัดลอกการสนทนาธรรม
ธรรมะบนเขา 21/7/2559
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี






เรียนมา เรียนกันมาจนถึงแบบนี้แล้ว เอาซิ วิชาไหน ตัดสินใจให้ดี คือรู้มันให้ชัดๆ ว่าวิชาไหนก็แล้วแต่ แค่เรียนอยู่เท่านั้น จะให้ความผาสุก ให้สิ่งเหล่านี้กลายเป็นความสุขความเจริญจริงๆจังๆในหัวจิตหัวใจ ไม่มีซักวิชาเดียว

เนี่ย เรียนเอาเป็นเอาตาย โถ่ กวาดด๊อกเตอร์สิบใบ ไม่พ้นทุกข์เลย หวังจริงๆนะ คนเรา หัวใจหัวใจเรา ทำไมถึงมีความหวัง ก็มันไม่สบายอ่ะ อยู่แค่นี้มันไม่สบาย เป็นเด็กมันไม่สบายเต็มที่ มาเป็นผู้ใหญ่แล้วก็ไม่สบายเต็มที่ เป็นนักศึกษา เป็นอาจารย์ เป็นอะไร ก็ยังไม่เห็นสบายเต็มที่ ทำงานได้เงินแค่นี้แล้วจะสบายเต็มที่ แล้วเห็นซักคนนึงไหม มีตัวอย่างซักคนนึงไหม สบายเต็มที่ สบายเหลือเกิน ไม่มีเลย

ดูให้เห็นความจริงเหล่านี้ ดูแล้วดูเล่าจนตัวเองก็เถียงตัวเองไม่ได้นะ เนี่ยจุดสำคัญ ตัวเองแย้งตัวเองไม่ได้แล้ว ไม่มีอะไรสำคัญยิ่งกว่าได้ประพฤติธรรม นั่นดูซิ ไม่มีอะไรสำคัญยิ่งกว่าจะปฏิบัติขัดเกลาหัวใจเราให้มันสิ้นสุดซักทีเหอะ ความถูกบังคับแบบนี้ ถูกบังคับโดยหลักธรรมชาติเมื่อเกิดมาแล้วจะต้องเป็นทุกข์

พระอาจารย์วันชัย วิจิตฺโต





ตกสวรรค์มาเกิด

“ เพิ่นครูอาจารย์มั่นมาอยู่บ้านห้วยทราย มีหมาแดงตัวหนึ่งเป็นหมาตัวผู้หลงมาอยู่อาศัยกับพระเณรในวัด เลยให้มันเป็นหมาวัดเป็นข้อยอัญญาหมาวัด หมาแดงหลังอานหางม้วน เชื่อฟังพระเณร ไม่เห่าไม่ร้องรบกวน ไม่สนใจหมาตัวเมียชอบอยู่สงบ เวลาพระเณรบิณฑบาตก็เดินตาม ไม่รังแกสัตว์ตัวอื่นทั้งในและนอกวัด

...ทีนี้เวลาเพิ่นครูอาจารย์มั่นจะลงไปอยู่อำนาจเจริญ หัวตะพาน พอมันรู้ว่าเพิ่นจะไปจากแล้ว มันก็อาลัยรักคอยติดตามเพิ่นครูอาจารย์มั่นทุกหนทุกแห่ง หมอบเฝ้าอยู่ไม่ให้คาดสายตาเพิ่นครูอาจารย์มั่นก็ชอบพูดสอนมันหลายอันหลายอย่างอยู่เสมอๆ เราเป็นเด็กอยู่ก็ไม่ได้ใส่ใจในคำที่เพิ่นสอนหมาแดงตัวนั้นว่าเพิ่นพูดสอนอะไรมันบ้าง ที่แปลกคือ วันพระมันไม่ยอมกินอาหารหลังเที่ยง พระเณรก็จะเอาน้ำให้มันแจะกิน น่าแปลกมาก วันที่จะเดินทาง มันไม่ยอมห่างเพิ่นครูอาจารย์มั่นเลย คนใหญ่เขาก็ไล่ให้มันกลับ แต่เพิ่นครูอาจารย์มั่นก็ว่า

“ ปล่อยมันๆ ให้มันไปด้วย มันอยากไปด้วย มันตกสวรรค์มาเกิดมันจะไปสวรรค์อีก”

ก็เลยปล่อยให้มันเดินตาม ทีนี้พอรู้ว่ามันมาจากสวรรค์ พระเณรผู้คนก็ยิ่งสนใจมันเป็นพิเศษ เดินทางไกลหลายวัน มันเหนื่อยก็เลยอุ้มมันขึ้นนั่งบนเกวียนข้างๆ กับคนขับเกวียน ตามันจ้องมองเพิ่นครูอาจารย์มั่น มิให้ขาดหายไปได้ นี่หมาตัวนี้มันฉลาดใกล้มนุษย์จริงๆ มันเคยเกิดเป็นข้ารับใช้ของเพิ่นครูอาจารย์มั่นมาก่อน ”

ธรรมะประวัติหลวงปู่จาม มหาปุญโญ





จากหนังสือ หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม
นึกถึงบุญไม่ออก

ผู้ถาม :- "บางทีมันเพี้ยนไป นึกถึงบุญไม่ออกครับ"

หลวงพ่อ :- "เป็นธรรมดา บางครั้งอารมณ์มันมีอย่างนี้จริงๆ

เหมือนกันทุกคนนะ... เหมือนกัน ไม่ใช่เฉพาะบุคคล

บางครั้งมันจะนึกถึงบุญไม่ออกก็มี

ฉะนั้นพระพุทธเจ้าจึงสอนเจริญพระกรรมฐาน ฝึกจิตให้ชินไง ใช่ไหม...

ฝึกจิตให้ชิน คือ จับอันดับแรก "พระพุทธเจ้า" ต้องเอาก่อน

ให้อารมณ์มันชิน คำว่า "ฌาน" ก็คือจะได้ไม่ลืม

ถ้าเราปล่อยเละละเดี๋ยวมันก็เผลอ พอบาปเข้าสิงปั๊บมันจะตัด เราลืมเลย

ทีนี้วิธีที่ท่านสอนแบบนี้กันบาปเข้าแทรก วิธีฝึกกรรมฐานเขาฝึกให้ชิน

กันบาปเข้าแทรกเวลาที่เราจะตาย บาปมันจะแทรกไม่ได้

ทำบุญอย่างอื่นหนักขนาดไหนก็ตาม แต่จิตมันยังไม่แน่นอนนัก

เราจะตายบาปเข้าแทรกได้ เราจะลงนรกได้

ถึงบอกว่าทำจิตให้เป็นฌาน ทำให้ทรงตัว คำว่า ฌาน ก็คือ อารมณ์ชิน

มันนึกได้เรื่อยๆใช่ไหม การนึกถึงพระพุทธเจ้าได้เรื่อยๆ น่ะ คือ ฌาน"







ถ้าสงสัยเรื่องผีเทวดา ก็จงหัดขยันทำสมาธิ

ถ้าสงสัยก็จงหัด ขยันทำสมาธิ ตัดความชั่วทางใจที่อยากสนใจเรื่องของชาวบ้าน ใครเขาจะดี จะชั่วช่างเขา ถ้าเป็นคนที่เนื่องกับเราก็ตักเตือนโดยธรรม เมื่อเขาไม่ฟังก็ตัดหางปล่อย ไม่สนใจกับเขาต่อไป ไม่ข่มขู่ใคร ไม่อวดว่าเราดีกว่าใคร สนใจแต่รักษาอารมณ์ของเราเป็นสำคัญ อารมณ์ที่จะรักษาคือไม่มีอารมณ์คิดฆ่าใครทำร้ายใคร ไม่ลักเล็กขโมยน้อยใคร ไม่แย่งความรักหรือขโมยรักลูกใคร เมียใคร ผัวใคร ญาติใคร หลานใคร และคนในปกครองใคร ไม่โกหกมดเท็จใคร ไม่ย้อมใจด้วยน้ำเมาแม้แต่หยดเดียวก็ไม่เอา

ต่อไปก็ตัดอารมณ์อยากเสียชั่วคราว คือ อยากเป็นผัวใคร เป็นเมียใคร แม้ชั่วขณะก็ไม่อยาก ไม่อยากฆ่าใคร กลั่นแกล้งใคร มีอารมณ์จับอยู่ที่ลมหายใจเข้าออก ให้รู้ลมหายใจเข้าออกจริงๆวันละ๑๐นาทีไม่ต้องมาก ไม่ปล่อยอารมณ์เคลิบเคลิ้มเมื่อนั่งจับ คือ กำหนดรู้ลมหายใจเข้าออก ไม่สงสัยผลที่รู้ลมหายใจเข้าออกว่าจะไม่เป็นผล ให้รู้จักฝึก

ต่อไป ก็รักษาอารมณ์ใจให้สดชื่นด้วยความเมตตาปราณี อยากสงเคราะห์คนและสัตว์ที่มีทุกข์ มีอารมณ์สดชื่น ไม่คิดว่าใครเป็นศัตรูกับเรา ไม่ริษยาใคร เมื่อเขาได้รับรางวัลจากใครก็ช่าง หรือจากผลงานของเขาเองก็ช่าง วางอารมณ์เฉยไม่ซ้ำเติมเมื่อคนอื่นถึงความวิบัติ หัดไว้เท่านี้ทุกวัน. ใช้เวลารักษาอารมณ์ อย่างนี้เพียงวันละ๑๐นาทีเมื่อพ้นแล้วอยากอะไรก็ตามไม่ห้าม

เวลารักษาอารมณ์จงละมันจริงๆเพียงวันละ๑๐นาทีถ้าทำได้เรื่องผีเรื่องเทวดาเรื่องเล็กเหลือเกิน รู้ได้กระทั่งเราตายไปใหน เมื่อก่อนเกิดมาจากใหน ไม่มีอะไรยากเลย ทำได้มั๊ยจ๊ะ ถ้าทำได้ก็รู้เองได้

จากหนังสือประวัติหลวงพ่อปาน หน้า ๗๕








“เพราะตนเองทำไว้
ทำอย่างไรก็ให้ผลอย่างนั้น
นั่นแหละ ทำบาปเอง ย่อมเศร้าหมองเอง
ไม่ทำบาปเอง ย่อมหมดจดเอง

ความหมดจด และความเศร้าหมอง
เป็นของเฉพาะตน คนอื่นยังคนอื่น
ให้หมดจดและเศร้าหมองหาได้ไม่

ฉะนั้น บุญก็ดี บาปก็ดี
ตนของตนเองหรอก เป็นผู้กระทำสะสมไว้
และให้ผลเป็นทุกข์แน่นอน”

-:- หลวงปู่จันทา ถาวโร -:-





"จงรักตัวเองให้มาก
และใส่ใจในการทำความดี อย่างเต็มที่
เพราะการเกิดเป็นมนุษย์อีกที
ไม่ใช่ของง่าย "

-:- หลวงปู่อว้าน เขมโก -:-





“เราต้องไม่ดับทุกข์ที่วัด ที่ป่า ที่บ้าน ที่ภูเขา
เราต้องดับทุกข์ ที่เหตุของความทุกข์ นั่นเอง”
-:- ท่านพุทธทาสภิกขุ -:-






"ความซับซ้อนของกรรม
แตกต่างกับความซับซ้อน ของตัวหนังสือ
ตรงที่ ตัวหนังสือนั้น เมื่อเขียนทับกันมากๆ
ก็ย่อมไม่มีทางรู้ว่า เขียนเรื่องดี
หรือเรื่องไม่ดีอย่างไร

แต่กรรมนั้น แม้ทำซับซ้อนมากเพียงไร
ก็มีทางรู้ว่า ทำกรรมดีไว้ มากน้อยเพียงไร
หรือกรรมไม่ดีไว้ มากน้อยเพียงไร
โดยมีผลที่ปรากฏขึ้นของกรรมนั้นเอง
เป็นเครื่องช่วยแสดงให้เห็น"

-:- สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ -:-






"...ความหวังนั้น คือความต้องการอะไรสักอย่างหนึ่ง แล้วมันยังไม่ได้ แล้วก็หวังอยู่เรื่อย นี่มันเป็นอย่างไรบ้าง มันสบายดี หรือว่ามันรบกวน

คนเป็นโรคประสาทกัน ก็เพราะความหวังนั้นเอง ความหวังทรมานจิตใจ ไม่ประสบความสำเร็จตามความหวัง นานเข้ามันก็เป็นโรคประสาท มันเป็นมากถึงอย่างนั้น..."

โอวาทธรรมคำสอน..
องค์ท่านพุทธทาสภิกขุ





"...ขึ้นชื่อว่าบาปกรรม ไม่ควรดูหมิ่นว่าเล็กน้อย เปรียบเสมือนภาชนะที่เขาเปิดทิ้งไว้กลางแจ้ง เมื่อฝนตก น้ำฝนหยดเดียวไม่ทำให้ภาชนะเต็มก็จริงอยู่ แต่เมื่อฝนตกบ่อยๆ ภาชนะนั้นย่อมเต็มแน่ๆ ฉันใด ผู้ทำบาปอยู่แม้ทีละน้อยๆ ย่อมทำกองบาปให้ใหญ่โตขึ้นตามลำดับได้ฉันนั้น..."
โอวาทธรรมคำสอน..
องค์หลวงปู่ชอบ ฐานสโม





"...บอกให้หยุดคิดหยุดนึก
ก็กลับไปคิด ที่จะหยุดคิดเสียอีกเล่า!

แล้วอาการหยุด จะอุบัติขึ้นได้อย่างไร

จงกำจัดอวิชชาแห่งการหยุดคิดหยุดนึกเสียให้สิ้น
เลิกล้มความคิดที่จะหยุดคิดเสียก็สิ้นเรื่อง..."

โอวาทธรรมคำสอน..
องค์หลวงปู่ดูลย์ อตุโล





"งานสาธารณประโยชน์ มันเป็น ปรมัตถบารมี อย่างสูงสุด อันนี้จะทำให้เร็วที่สุด ทำให้เร่งรัดพวกเราให้เร็วที่สุด ท่านบอกว่าให้คุณบอกลูกหลานไว้ จะได้รู้ว่าเป็นจุดที่มีกำลังแรงให้เข้าถึงได้เร็วที่สุด เป็นการบั่นทอนไอ้กฎของกรรมต่างๆ ที่มันคอยกั้นขวางเรา งานนี้มันเป็นเมตตากฎของกรรมมันก็ดันไม่อยู่"
จากหนังสือ "หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษ เล่ม ๓"
โดย พระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 8 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO