นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน เสาร์ 04 พ.ค. 2024 5:41 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: สัญญาคือความจำ
โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร 06 มิ.ย. 2017 4:55 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4548
สัญญาเป็นความจำ ปัญญาเป็นความรู้เท่าทัน ผู้ที่เรียนศึกษามากๆ นั้นนะ มันเป็นด้วยสัญญา ไม่ใช่ปัญญา สัญญาเป็นความจำ ปัญญาเป็นความรู้เท่าทัน มันไม่เหมือนกัน มันต่างกัน บางคนจำสัญญาเป็นปัญญา ถ้าปัญญาแล้ว ไม่สุขกับใคร ไม่ทุกข์กับใคร ไม่เดือดร้อนกับใคร ไม่เป็นทุกข์เป็นร้อน... กับจิตที่มันสงบหรือไม่สงบ ถ้าสัญญาไม่ใช่อย่างนั้นนะ มันเกิดความยึดมั่นถือมั่น เป็นทุกข์เป็นร้อน ไปตามอารมณ์ทั้งหลายเหล่านั้น ความเห็นตามสัญญา กับความเห็นด้วยปัญญา ต่างกันอยู่มากราวฟ้ากับดิน
ความเห็นด้วยสัญญา พาให้ผู้เห็นมีอารมณ์มาก มักเสกสรรตัวว่ามีความรู้มาก ทั้งที่กำลังหลงมาก จึงมีทิฏฐิมานะมาก ไม่ยอมลงให้ใครง่ายๆ...
ส่วนความเห็นด้วยปัญญาเป็นความเห็นซึ่งพร้อม...ที่จะถอดถอน ความสำคัญมั่นหมายต่างๆ อันเป็นตัวกิเลสทิฏฐิมานะน้อยใหญ่ออกไปโดยลำดับที่ปัญญาหยั่งถึง ถ้าปัญญาหยั่งลงโดยทั่วถึงจริงๆ กิเลสทั้งมวลก็พังทลายไปหมด

โอวาทธรรม...หลวงปู่มั่น และ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน



ในทุกๆ วันของชีวิต เรามีโอกาสเจอ "โชคดี" 2 แบบ โชคดีแบบที่ 1 คือ เราได้พบคนดีๆ ได้เจอเรื่องราวดีๆ ทำให้เราได้ "สุขใจ"
โชคดีแบบที่ 2 คือ เราได้พบคนไม่ดี ได้เจอเรื่องราวที่ไม่ดี ทำให้เราได้ "เรียนรู้"
บางวันเราก็เจอโชคดีแบบที่ 1 บางวันเราก็เจอโชคดีแบบที่ 2 แต่ส่วนใหญ่เราจะเจอโชคดีทั้ง 2 แบบ ผสมกันไป
ถ้าคิดได้แบบนี้ ไม่ว่าเราจะเจอคนแบบไหน จะเจอเรื่องราวอะไร ไม่ว่าดีหรือไม่ดี เราก็ถือว่าเป็นโชคดีของเราในทุกเช้าวันใหม่ ถ้าเราลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อม "ลมหายใจ" ก็ถือว่าเราโชคดีที่สุดแล้ว ดังนั้น ถ้ามีใครมาทำไม่ดีกับเรา หรือมีเรื่องราวไม่ดีเข้ามากระทบ เราก็แค่ "ปรับมุมมอง" เสียใหม่ มองว่าเป็นโชคดีที่เราได้ "เรียนรู้" เราก็จะมีความสุข
ดังสุภาษิตจีนที่ว่า "เราไม่สามารถเปลี่ยนทิศทางลมได้ แต่เราสามารถปรับใบเรือได้"

โอวาทธรรม - พระไพศาล วิสาโล -






“วัฏฏะมันหมุนไปแล้วกลับมาเป็นอยู่เช่นนี้ หาต้นหาปลายมิได้ จึงพากันมากำหนดต้นกับปลาย แต่ต้นอยู่ไหนปลายก็อยู่ตรงนั้นโลกเป็นอยู่เช่นนี้ คือ ดับไม่มอด เกิดแล้วตาย ตายแล้วเกิดแต่ธรรมนั้น ดับได้สนิท ดับได้ดีไม่กลับมาอีก..

” โอวาทธรรมหลวงปู่จาม มหาปุญฺโญ






"ชาติหน้ามีจริง ภพชาติมีอยู่จริง นะลูกนะ ต้องมาเกิด มาตาย ไม่มีจบสิ้นนะ
บุญไม่มี ศีลไม่มี สมาธิไม่มี เกิดเป็นคนไม่ได้เลย ศีล สมาธิ นี้ต้องมีนะ ต้องทำให้เกิดในใจเราขาดไม่ได้เลยนะลูก ศีล สมาธิ นี้แหล่ะ ลูกเอ๋ย กลับมาเกิดเป็นคนได้ เป็นนางฟ้า เทวดาได้ ถ้าไม่มีแล้วไปเกิดเป็นปลา เป็นวัว เป็นควาย
เป็นไก่ ให้เขาฆ่า หาที่จบไม่ได้เลยนะ "

โอวาทธรรมคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม






" กบก็คือกบ "

" สังขารกับจิตไม่ใช่ตัวเดียวกัน"

หลวงพ่อกบ ว้ดเขาสาริกา จ.ลพบุรี






“...นิพพานนั้นเป็นเรื่องละเอียด
ต้องใช้ปัญญาเอามากๆ
ไม่ใช่ของที่จะถึงด้วยแรงอยาก

ถ้าเป็นของที่จะถึงด้วยแรงอยาก
พวกเราคงจะตรัสรู้กันหมดแล้วทั้งโลก...”

โอวาทธรรมคำสอน..
องค์ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก







"...การดับโลก ๓ นั้น ท่านขีณาสวะเจ้าทั้งหลาย มิได้เหาะขึ้นไปกามโลก รูปโลก อรูปโลกเลย คงอยู่กับที่นั่นเอง

แม้พระบรมศาสดาของเราก็เช่นเดียวกัน พระองค์ประทับนั่งอยู่ ณ ควงไม้โพธิพฤกษ์แห่งเดียวกัน เมื่อจะดับโลก ๓ ก็มิได้เหาะขึ้นไปในโลก ๓ คงดับอยู่ที่จิต ที่จิตนั้นเองเป็นโลก ๓ ฉะนั้น ท่านผู้ต้องการดับโลก ๓ พึงดับที่จิตของตน..."

โองวาทธรรมคำสอน..
องค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต





"...เรือที่นายช่างต่อดีแล้วอย่างเข้มแข็ง เมื่อถูกคลื่นกระทบไม่เสียหายฉันใด จิตของบุคคลใดเมื่อฝึกฝนให้ดีแล้ว คลื่นของกิเลสกระทบเข้า ย่อมไม่หวั่นไหวก็ฉันนั้น

อธิบายว่า เมื่อบุคคลใดฝึกจิตนี้ให้มั่นอยู่ในศีล ในสมาธิ อยู่ในปัญญาเต็มที่แล้ว ย่อมไม่หวั่นไหวต่อโลกธรรม ๘ ประการ ฉันนั้น

คือเมื่อมีลาภ มียศ มีสรรเสริญ และมีความสุขกาย สบายใจ ก็ไม่เพลิดเพลินเมามัวในลาภเป็นต้น เมื่อลาภเสื่อมยศเสื่อม ถูกนินทา ถูกทุกข์ครอบงำกายและจิต ก็ไม่หวั่นไหว คือไม่เศร้าโศกเสียใจ

ทั้งนี้ เพราะปัญญาเห็นแจ้งในความจริงว่า สิ่งเหล่านี้เป็นของไม่เที่ยงแท้แน่นอนอะไรเลย มีเกิดขึ้นแล้วแปรปรวนแตกดับไปเป็นธรรมดา เหมือนกับเรือที่นายช่างต่อดีแล้ว ย่อมไม่หวั่นไหวต่อคลื่น ฉันนั้น..."

โอวาทธรรมคำสอน..
พระสุธรรมคณาจารย์ (หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ)
วัดอรัญญบรรพต จ.หนองคาย







"การทำผิด เป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์
ถ้าค้นพบความผิด แล้วแก้ไข
และตั้งใจไม่ทำอีกเป็นซ้ำสอง
น่ายกย่องนับถือยิ่งนัก"

-:-หลวงปู่แหวน สุจิณโณ-:-







"ทำสมาธิถูกทาง ไม่หนีโลก ไม่หนีปัญหา"

ผู้ที่มีจิตเป็นสมาธิที่ถูกต้องนี่
สมมุติว่ามีครอบครัวจะต้องรักครอบครัวของตัวเองมากขึ้น
หนักเข้าความรักมันจะเปลี่ยน เปลี่ยนจากความรักอย่างสามัญธรรมดา
กลายเป็นความเมตตาปรานี ในเมื่อไปเผชิญหน้ากับงานที่ยุ่งๆ
เมื่อก่อนรู้สึกว่ายุ่ง แต่เมื่อปฏิบัติแล้ว ได้สมาธิแล้ว งานมันจะไม่ยุ่ง

พอประสบปัญหาเข้าปุ๊บ
จิตมันจะปฏิวัติตัวพิจารณาหาทางแก้ไขปัญหาต่างๆ
ซึ่งมันจะเป็นไปเองโดยอัตโนมัติ
ทีนี้บางทีพอเราหยิบปัญหาอะไรขึ้นมา
เรามีแบบแผนตำรายกขึ้นมาอ่าน พออ่านจบปั๊บ
จิตมันวูบวาบลงไปปัญหาที่เราข้องใจจะแก้ได้ทันที
อันนี้คือสมาธิที่สัมพันธ์กับชีวิตประจำวัน

แต่สมาธิอันใดที่ไม่สนใจกับเรื่องชีวิตประจำวัน
หนีไปอยู่ที่หนึ่งต่างหากของโลกแล้ว
สมาธิอันนี้ทำให้โลกเสื่อม และ
ไม่เป็นไปเพื่อทางตรัสรู้ มรรค ผล นิพพานด้วย

"พระอาจารย์พุธ ฐานิโย"
วัดป่าสาลวัน จ.นครราชสีมา


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 4 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO