นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน เสาร์ 04 พ.ค. 2024 5:00 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์โพสต์แล้ว: อาทิตย์ 28 พ.ค. 2017 8:32 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4548
"เห็นไหมนั่น...
องค์นี้ตายไป องค์นั้นตายไป
คนนี้ตายไป คนนั้นตายไป
แล้วเราจะอยู่ค้ำฟ้าได้เหรอ"

-:- หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน -:-




มนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย
อันเป็นของมีชีวิตที่อยู่ในโลกนี้
เจ้ากำหนดรู้ความเป็นไปของตนเอง
กันว่าเป็นเช่นไร เนื้ออยู่บนเขียง
รอแต่จะให้มีดสับเพื่อความป่นปี้ ฉันใด
ชีวิตของมนุษย์สัตว์ก็ขึ้นเขียง
รอความเจ็บป่วย ทุกข์โศก แก่ชรา แตกดับ ตายไป
สับตนเองอยู่ตลอดเวลาอย่างนั้นเหมือนกัน
ผู้ฉลาดควรพาตนออกไปจากเขียงนั้นเสีย.
พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (สิริจนฺโท จันทร์)




“สงสารมนุษย์ที่มัวเพลิดเพลินกับเงาไม่เข้าเรื่องราวกับเด็กอมมือ ตายแล้วก็จะล่มจมกัน ที่น่าเสียดายและสงสารมากแต่ช่วยอะไรไม่ได้ พากันทำตัวเหมือนสัตว์ที่เขาขังไว้ต้มแกงเป็นอาหาร ยังมัวเพลินกันอยู่ ดูซิ สัตว์ที่เขากำลังจูงไปฆ่ามันรู้ตัวเมื่อไร ยังเพลินกัดหญ้าไปตามทางถ้ามันรู้จะไม่เพลินกัดหญ้าเป็นอันขาด นอกจากมันจะไล่ขวิดไล่ชนคนที่จูงมันพุงทะลุไปในเวลานั้นเท่านั้น คนที่เชื่อธรรมที่ให้ความปลอดภัยไร้ทุกข์แก่สัตว์โลก ก็เป็นคนประเภทสัตว์ที่รู้ตัวว่าเขากำลังจูงไปฆ่านั่นเอง จะไม่ประมาทนอนใจ รีดไถกอบโกยกันแบบสัตว์กัดกินหญ้าตามทางในเวลาที่เขาจูงไปฆ่า จะงดสิ่งเลวร้ายมหาภัยแก่ตนและผู้อื่นทันทีไม่ชักช้า ก้มหน้าทำแต่ความดีงามสุจริตยุติธรรมต่อกันถ่ายเดียวโลกก็สงบร่มเย็นเพราะต่างเห็นใจกัน..”
โอวาทธรรมหลวงปู่ขาว อนาลโย






คำว่า.. ว่าง

"...คำว่า ว่าง นี้ ในภาษาคน ก็หมายถึง ไม่มีอะไรเลย คำว่า ว่าง ในภาษาธรรมนั้น หมายถึง มีครบหมดทุกอย่าง แต่ไม่มีการยึดถือ ว่าเป็นตัวเป็นตน

เมื่อไม่มีการยึดถือ ว่าเป็นตัวเป็นตน ก็เท่ากับว่าง สิ่งทั้งปวงที่ไม่ถูกยึดถือว่าเป็นตัวเป็นตนนั้น เราก็จึงเรียกว่ามัน ว่าง

ฉะนั้น โลกนี้ทั้งโลก ทั้งสัตว์ ทั้งคน ทั้งอะไรทั้งหมดที่มีอยู่ในโลกนี้ ก็เรียกว่าว่าง เพราะไม่มีความเป็นตัวเป็นตนที่แท้จริง..."

โอวาทธรรมคำสอน..
องค์ท่านพุทธทาสภิกขุ






"...เรื่องสติจึงยกให้เป็นอันดับหนึ่ง ในการประกอบความเพียร จะเป็นที่ธรรมดาก็ตาม เป็นเวลาที่เดินจงกลมนั่งสมาธิก็ตาม สตินี้เป็นสำคัญมากที่เดียว ถ้าขาดสติเมื่อไร ก็ขาดความเพียร ถ้าสติติดแนบกันอยู่ และความเพียรก็ก้าวเดิน นี่สำคัญให้จำเอาไว้ทุกคน

ตั้งสติไม่ใช่ตั้งธรรมดานะ ผู้ที่จะเร่งรัดให้ถึงมรรคถึงผลจริง ๆ สติกับจิตนี่ไม่จากกันละ ขาดเมื่อไรก็เป็นว่าขาดความพากความเพียร เข้าสู่ความสงบไม่ค่อยฟุ้งซ่านรำคาญ ตั้งสติจับตลอดเวลาก็สงบไปเรื่อยๆ ต่อจากนั้นสติก็เป็นสมาธิ มีความสงบเย็นภายในตัวเอง แต่ไม่ลดละทางด้านสติ ให้จับติด ๆ ตลอดเวลา แล้วจิตใจก็ค่อยสงบเข้าไป ๆ ต่อไปจิตก็เป็นสมาธิ คือความแน่นหนามั่นคง ของจิต..."

โอวาทธรรมคำสอน..
องค์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน






ผีใหญ่ (มหิทธิกาเปรต)

"...คนเรานั้น เข้าใจผิดกันไปใหญ่โต เห็นพระมีฤทธิ์นิด ๆ หน่อย ๆ เสกพระขลังยิงไม่เข้าฟันไม่ออก ก็นึกว่าท่านต้องสำเร็จเป็นพระอรหันต์กันไปโน่นแล้ว พวกเรียกคาถามนต์ไสยศาสตร์นี้ ตายไป ไม่ได้ไปเกิดเป็นเทวดาอะไรหรอก แต่ต้องไปเกิดเป็นผีใหญ่(มหิทธิกาเปรต)หมด

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกจิดัง ๆ ที่เล่นมนต์ไสยศาสตร์ที่มีชื่อเสียงมาก ๆ นั้น ตายแล้วไปเป็นผีใหญ่แทบทั้งสิ้น ก็บรรดามนต์ขลังหรือเครื่องรางที่อาจารย์ไสยศาสตร์นี้ทำไว้มันขลัง เพราะพวกอาจารย์ไสยศาสตร์ ที่ตายไปเป็นผีใหญ่มหิทธิการเปรตนี้ เขาก็มีฤทธิ์เหมือนกัน เมื่อคนที่มีของขลังที่ทำเอาไว้มีอันตราย เขาก็จะส่งฤทธิ์มาช่วยให้เหนียวบ้าง คงกระพันบ้างไปตามเรื่อง นั่นเอง

เป็นพระเป็นสงฆ์ วิชชาของพระพุทธเจ้ามีดีๆกลับไม่เรียน กลับไปเรียนมนต์ไสยศาสตร์ ตอนภาวนามนต์ไสยศาสตร์ แม้จิตจากสว่างไสว รู้ตื่นเบิกบาน รู้เห็นอะไรมากได้หลายอย่างก็จริง แต่ครั้นเวลาจะตาย แม้จะภาวนามนต์ไสยศาสตร์จนจิตสว่างก็ตาม (จิตดีน่าจะไปที่ดีๆ) พอจิตขาดปุ๊บ กว่าจะรู้ตัวอีกที ก็กลายเป็นผีใหญ่ไปแล้ว เพราะมนต์ไสยศาสตร์มันกดทับไว้ ไม่ได้ไปสวรรค์นิพพานอะไรหรอก

มีลูกสอนลูก มีหลานสอนหลานว่า เมื่อได้บวชมาเป็นพระเป็นสงฆ์แล้ว อย่าไปเรียนมนต์ไสยศาสตร์เน้อ มันจะกลายไปเป็นผีใหญ่หมดเน้อ..."

โอวาทธรรมคำสอน..
องค์หลวงพ่อพุธ ฐานิโย





“...ถ้าหากใครเขาด่าเราว่า “ไอ้หัวหงอก” ให้เราลองนั่งชั่งใจ ของเราว่า “เราโกรธเขาไหม” ถ้าเรายังโกรธอยู่ ก็หมายความว่า เรายังรับรู้การด่าของเขาอยู่

นั้นหมายถึง เราเอาจิตออกมารับคำด่า เรายังอดทนไม่ได้ เรายังโกรธ หมายถึง เรายังไม่ถึงหรือยังไม่ได้พุทโธอย่างแท้จริงนั้นเอง...”

โอวาทธรรมคำสอน..
องค์หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม






"...สติเป็นแก่นของธรรม แก่นของธรรมแท้อยู่ที่สติ ให้พากัน หัดทำให้ดี ครั้นมีสติแก่กล้าดีแล้ว ทำก็ไม่พลาด คิดก็ไม่พลาด

กุศลธรรมทั้งหลายจะเกิดขึ้น เมื่อบุคคลอยู่กับสติแล้ว สติเป็นใหญ่ สติมีกำลังดีแล้ว จิตมันรวม เพราะสติคุ้มครองจิต..."

โอวาทธรรมคำสอน..
องค์หลวงปู่ขาว อนาลโย


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 3 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO