นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน เสาร์ 04 พ.ค. 2024 2:09 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: รีบเร่งภายใน
โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร 23 พ.ค. 2017 7:23 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4548
...เทศนาธรรม...
“ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น”

..ฉะนั้น เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่น ไม่ใช่เรื่องเล็ก จะต้องพยายามทำ ถึงแม้ว่าจะมีกิจการงานอะไรต่าง ๆ ที่เป็นทางนอก หรือทางไหนก็ตามหรอก ส่วนภายในเราอย่าไปลืม รีบเร่งภายใน เพราะคิดได้ทำได้ ถึงแม้ทำงานทำการอยู่ก็ทำได้ ฉันอยู่ก็ทำได้ ไปบิณฑบาตอยู่ก็ทำได้ อยู่ยังไงก็ทำได้หมด แต่มันขึ้นอยู่กับผู้ฉลาด ผู้หมั่น ผู้ขยัน ผู้สนใจ ผู้เอื้อเฟื้อ ผู้เอาใจใส่ ถ้าหากเราไม่มีสิ่งเหล่านี้ ปล่อยไปตามยถากรรม ไม่รู้ไปเสพเอาอารมณ์อันไหนต่ออันไหนมาบ้าง มัวเมามืดมิดไปหมด จึงไม่รู้จักเรื่อง คล้าย ๆ กับเด็กน้อยกำลังซน ไปเล่นขี้ตม ขี้ฝุ่น เล่นดินดำสกปรกมา มาแล้วก็ต้องอาบน้ำอาบท่าให้ไม่หยุดหย่อน หมดสบู่ล้างตัวไปเท่าไหร่ กว่าจะสะอาดสะอ้าน อันนี้ฉันใดก็ดี เรื่องของจิต ถ้าหากปล่อยไปแล้ว มันจะไปหาสิ่งไม่ดีมาทับถมตัวเองโดยไม่รู้สึกตัว..

หลวงปู่ศรี มหาวีโร
เทศนา เรื่อง เร่งสติอย่าลดละ






นักภาวนาต้องหาสถานที่ปฏิบัติที่ดี

คนที่จะหลุดพ้นได้ ส่วนใหญ่หลุดพ้นด้วยการอยู่คนเดียว
อยู่ตามลำพัง ไม่ได้หลุดพ้นด้วยการอยู่ร่วมกัน ต้องปลีกวิเวก
ต้องอยู่ตามลำพัง จึงอย่าไปกลัวกับการปลีกวิเวกอยู่ตามลำพัง
เป็นการอยู่ที่ดีที่สุดของนักปฏิบัติ

นักปฎิบัติจริงๆแล้วไม่ต้องคบกับใครก็ได้ นอกจากครูบาอาจารย์ ที่เราต้องพึ่งพาอาศัย ให้การอบรมสั่งสอน ให้ความรู้

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ธรรมะบนเขา ณ จุลศาลา เขตปฏิบัติธรรมเขาชีโอน
วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร ชลบุรี






"นั่งเพื่อให้เกิดปัญญา"

ถาม : การนั่งกำหนดสมาธิแล้วเกิดเวทนาปวดแก่กล้าจนทนไม่ได้ แล้วต้องขยับร่างกายเพื่อให้เลือดมันลง คลาย ถือว่าถูกทางไหมครับ

พระอาจารย์ : ผิดทาง ถ้าต้องการนั่งเพื่อให้เกิดธรรมะ ก็ต้องปล่อยให้ร่างกายมันตายไป ให้มันเจ็บไป คือเรานั่งเพื่อมาปล่อยวางร่างกาย ตอนนี้เรายึดติดกับร่างกาย แล้วพอร่างกายเป็นอะไร มันก็ทำให้เราทุกข์กัน ถ้าเรานั่งแล้วปล่อยให้มันตายได้ปล่อยให้มันเจ็บได้โดยที่เราไม่ทุกข์ ต่อไปเราก็จะไม่ทุกข์กับร่างกาย นี่เรานั่งสมาธิเรานั่งเพื่อให้เกิดปัญญา เพื่อให้เห็นว่าร่างกายนี้ไม่ใช่ตัวเราของเรา ไม่ให้เราไปยึดไปติดกับร่างกาย ไม่ให้ไปยึดไปติดกับความเจ็บของร่างกาย มันเจ็บก็ปล่อยให้มันเจ็บไป มันตายก็ปล่อยให้มันตายไป ถ้าปล่อยได้ใจจะไม่ทุกข์ แล้วหลังจากนั้นรับรองได้ จะไม่กลัวเจ็บไม่กลัวตายไปจนวันตาย ก็อยู่อย่างสบาย มียากินก็ได้ไม่มีกินก็ได้ รักษาก็ได้ไม่รักษาก็ได้ เพราะรู้ว่ายังไงก็ตายอยู่ดี รักษายังไงเดี๋ยวก็ตายอยู่ดี เจ็บก็ทนได้ไม่เดือดร้อนกับความเจ็บ ถ้าไปขยับแสดงว่า เดือดร้อน ทนไม่ไหว.

สนทนาธรรมมะบนเขา
วันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๖๐
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต







"ความกังวลใจ คือ ศัตรูของชีวิต
อดีตคือ ความฝัน
อนาคตคือ ความไม่แน่นอน
ปัจจุบันเท่านั้น ที่เราจะแก้ไขได้
ไม่มีใครสร้างความเดือดร้อนให้แก่เราได้
นอกจากตัวเราเอง"

-:-หลวงปู่จันทร์ กุสโล-:-






"กาลเวลามันล่วงไป ผ่านไป
แต่มันมิได้ล่วงไปเปล่า
มันเอาอายุวัยของเราไปด้วย

ดังนั้นอย่าประมาท เรื่องกาลเวลา
ให้เเสวงหาสาระ คือ บุญกุศลไว้เสมอๆ
อย่าให้ชีวิตล่วงไปเปล่าประโยชน์"

-:-หลวงปู่สิม พุทธาจาโร-:-





"เปลือก กระพี้ แก่น"การตกแต่งภายนอกนั้นมันก็เป็นภัย ดังที่เราก็รู้กัน ขโมยมันเห็นมันก็ฆ่าเอา เครื่องประดับภายนอกเป็นภัย ฉะนั้น พระพุทธเจ้าก็จึงให้เอา“ธรรมเป็นเครื่องประดับ” “ศีลเป็นเครื่องประดับ”วันนี้จะได้นำธรรมะในข้อต้น คือว่า ศีลนั้น ธรรมนั้น มันมีตั้งสามชั้น “เปลือกของศีลเปลือกของธรรม” แล้วก็ “กระพี้ของศีลของธรรม” “แก่นของศีลของธรรม”บุคคลที่ยินดีในการบูชาดอกไม้ธูปเทียน บูชาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ครูบาอาจารย์
เป็นที่ระลึกเป็นที่พึ่ง ท่านก็เปรียบเหมือน “เอาเปลือกไม้มาสร้างบ้าน” สร้างเรือนเป็นที่อยู่ ธรรมดาเปลือกไม้นั่นน่ะมันไม่ทนถาวรปลวกก็กินมอดก็กินทั้งไม่มั่นคง ฉะนั้นผู้อยู่ติดอยู่แค่ “อามิส”จึงช่วยศาสนา บำรุงศาสนาให้ดีให้สืบไปไม่ได้ เปรียบเหมือนเอาเปลือกไม้มาทำบ้าน สร้างบ้านอยู่นั่นน่ะ
ทีนี้ บุคคลที่มารักษาศีล หรือว่าที่ท่านเปรียบเหมือน“เอากระพี้หรือว่ามอก* หรือกระพี้มาสร้างบ้าน”ไม้ที่ไม่มีแก่น เป็นกระพี้นั่นน่ะมาสร้างบ้านอยู่ มันก็ไม่ทนปลวกก็กินได้ ตัวมอดตัวอะไรกินไม่พัง ไม่ทนลมมาก็หักง่ายหักเร็ว
แต่ว่าโบราณว่า “เสาไม้มอก ตอกไม้รวก”อันนี้คนที่มารักษาศีลแล้วภาวนา ปฏิบัติบูชาจนจิตตั้งมั่น แก่นสารมั่นคงก็เปรียบเหมือน “เอาแก่นไม้มาสร้างบ้าน”แก่นนั้นน่ะมันมั่นคงถาวร ปลวกก็ไม่กิน มั่นคง อันนี้ฉะนั้นจึงว่า บางคนสามจำพวกนี้จึงไปไม่เหมือนกัน ถือพุทธเหมือนกันแต่ไปไม่เหมือนกัน ดีไม่เหมือนกันฉะนั้นคติโบราณท่านจึงกล่าวว่า คนสามบ้านกินน้ำบ่อเดียว เพิ่นว่า
“คนสามบ้านกินน้ำบ่อเดียวเทียวทางเดียวแต่ไม่เหยียบรอยกัน” คือบางคนก็ได้พุทธแต่เปลือกๆ บางคนก็ได้พุทธแค่กระพี้ บางคนก็ได้พุทธถึงแก่น คือ จิตเป็นสมาธิจนถึงวิมุตติธรรมคำว่า “วิมุตติธรรม” นั่นคือว่า “จิตพ้น”จิตพ้นจากความยึดความถือในรูปในนามนี้แหละ จิตหลุดพ้น
*มอก แปลว่า เปลือกนอก

"พระอาจารย์จันทร์ศรี จันททีโป"
วัดโพธิสมภรณ์ อ.เมือง จ.อุดรธานี






"..จงอย่าได้ประมาทในชีวิตของตนเพราะเราไม่รู้ว่าความตายนั้นจะมาถึงตัวเราเมื่อไรไม่มีผู้ใดพยากรณ์ได้ถูกเราพยากรณ์ได้แต่วันเกิด อันบิดามารดาเป็นผู้บอกให้เท่านั้นฉะนั้น จึงขอรีบสร้างคุณงามความดีของตนให้เกิดขึ้นในทวารทั้ง ๓ เสีย คือว่า กายทวาร วจีทวาร และ มโนทวาร จะทำจะพูดจะคิดสิ่งใด ก็จง ทำ พูด คิด แต่ในทางที่จะเป็นประโยชน์ตนและผู้อื่นเถิด "
............
โอวาทธรรมหลวงปู่กงมา จิรปุญโญ





ถึงไม่มีใครดับกิเลส กิเลสเค้าก็ดับเอง
เหมือนไฟกองหนึ่ง แม้จะกองใหญ่ขนาดไหน แม้ไม่มีใครดับ แต่ขอเพียง "ไม่เติมเชื้อไฟ" เมื่อไฟหมดเชื้อ ไฟก็ดับเองโดยธรรมชาติ นักปฏิบัติฯ ทั้งหลาย ก็เปรียบเสมือนผู้นั่งดูกองไฟ ไฟเป็นของร้อน แต่จะไม่ร้อนเพราะไฟ หากเพียงแต่นั่งดู ไม่กระโดดเข้าไปในกองไฟ เราจะกระโดดเข้าไปในกองไฟทำไมล่ะ ?
โทสะเกิด โมโหไอ้โทสะนี้มากเลย หงุดหงิด อึดอัด ไม่ชอบ อยากกำจัด!
การกระโดดลงไปในกองไฟ ถือว่าโดนอวิชชาคลุมจิตเรียบร้อยแล้ว หลงทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ ลองอดทนดูนะ!
เมื่ออดทนดู จนเห็นไฟดับไปต่อหน้าต่อตา ความรู้สึกใหม่จะเกิดขึ้นมาว่า ...
อ๋อ! ถึงไม่มีใครดับไฟ ถึงไม่มีใครดับกิเลส กิเลสเค้าก็ดับเองโดยธรรมชาติ
มันเป็นอย่างนี้นี่เอง!!!
.....
พระอาจารย์นวลจันทร์ กิตติปัญโญ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 8 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO