นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน เสาร์ 04 พ.ค. 2024 6:36 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: มีศีลแล้วปฏิบัติ
โพสต์โพสต์แล้ว: ศุกร์ 12 พ.ค. 2017 5:03 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4548
"อยู่ที่ไหน อยู่อย่างไร
จะบังคับให้ไม่มีศัตรูเป็นได้ยาก
การชนะศัตรู ด้วยการต่อสู้
มักจะเป็นการก่อเวร
เรื่องต่างๆ จึงไม่จบสิ้น

มีวิธีเดียว ที่จะชนะศัตรูทั้งปวง
นั่นคือ การเปลี่ยนความรู้สึก
ว่าเราเป็นศัตรู กับผู้ปองร้ายเรา
ถ้าเราไม่ยอมมองใครเป็นศัตรู
เราก็กลายเป็นคนไม่มีศัตรูทันที

แล้วดำเนินชีวิตด้วยความรอบคอบ
และระวังตัว แต่ไม่เศร้าหมองใจ
ท่ามกลางผู้ที่ทำให้ชีวิตท้าทายมากขึ้น"

-:- พระอาจารย์ชยสาโร ภิกขุ -:-






"เขาสิเชื่อความดีที่เฮาเฮ็ด
หลายกว่าคำเว้าที่เฮาสอน"
(เขาจะเชื่อในสิ่งที่เราทำ
มากกว่าจะเชื่อในสิ่งที่เราพูด)

-:-หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล-:-






ปีนี้ได้เปิดแล้วพระไตรปิฎกใน พระไตรปิฎกนอก เป็นยังไง ไม่มีใครพูด แต่หลวงตาบัวคนเดียวนี้พูด พูดอย่างอาจหาญเสียด้วย ไม่ได้พูดแบบลูบ ๆ คลำ ๆ มาพูด ถอดออกมาพูดจริง ๆ นี่ พระไตรปิฎกในคืออะไร พระพุทธเจ้าพระอรหันต์ท่านตรัสรู้ ท่านตรัสรู้พระไตรปิฎกในซึ่งเป็นเนื้อแท้ธรรมแท้ท่านออกมา เรียกพระไตรปิฎกใน พระไตรปิฎกนอกเราไปจดจารึกที่เป็นคำบอกคำสอนของท่านออกมานี้ก็เป็นคัมภีร์ เช่นอย่างพระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก อย่างนี้ ออกมาจากความจริงคือพระไตรปิฎกในของท่านนั่นเอง เรียกว่าพระไตรปิฎกนอก พระไตรปิฎกใน

พระไตรปิฎกในคือผู้สิ้นกิเลสแล้วเป็นผู้ทรงธรรมล้วน ๆ ไว้ บริสุทธิ์เต็มที่ พระไตรปิฎกนอกเป็นคนที่มีกิเลสไปจดจารึกออกมา จึงเรียกพระไตรปิฎกนอก เอ้า แยกเข้าไปอีก พระไตรปิฎกตาบอด พระไตรปิฎกตาดี นั่นเอาอีกนะ พระไตรปิฎกตาดี คือผู้ท่านสว่างกระจ่างแจ้ง ทรงธรรมที่บริสุทธิ์พุทโธเต็มดวงเต็มที่ไว้ คือพระพุทธเจ้าพระอรหันต์ท่าน นี่พระไตรปิฎกตาดี สว่างกระจ่างแจ้งไปหมด ออกจากหัวใจของท่านจ้าไปหมดครอบโลกธาตุ นี่เรียกพระไตรปิฎกตาดี

พระไตรปิฎกตาบอด เราเรียนเท่าไรก็เรียน ฟาดจนจบพระไตรปิฎกก็ได้แต่ชื่อได้แต่นาม ได้แต่ความจำ ได้แต่ตำรับตำรา ไม่ได้ความจริงอย่างท่านมา ก็เรียกว่าผู้ไปจดจารึกหรือเป็นคนประเภทนั้นก็ตาม แล้วผู้ที่ไปเรียนตามนั้นก็เป็นคนตาบอด คำว่าบอดนี้คือหมายความว่ากิเลสครอบงำหัวใจ ใจยังมืดมิดปิดตาอยู่ แม้จะเรียนอรรถเรียนธรรมก็มีแต่ชื่อแต่นามของอรรถของธรรม แต่ใจยังบอดอยู่ เพราะฉะนั้นจึงเรียกว่าพระไตรปิฎกตาบอด พระไตรปิฎกตาดี เข้าใจไหม

พ่อแม่ครูอาจารย์หลวงปู่ใหญ่พระมหาบัว ญาณสัมปันโน
เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๒๕ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๔๑





"บางเรื่อง รู้แล้วมันทุกข์
อย่ารู้เสียดีกว่า
ทุกวันนี้ มันมีแต่ประเภท
รู้ไปหมด แต่มันอดไม่ได้
รู้ไปทั่ว แต่เอาตัวไม่รอด"

-:-หลวงปู่หา สุภโร-:-







เริ่มละจากนี้ไปถึงวันกฐินจะเยอะละคน วันที่ ๒๗ ก็จะมากนะ คือนัดกัน ในทางพระก็พระเป็นหัวหน้า ๆ ออกมาจากสำนักต่าง ๆ ในป่าในเขา ออกมาจากนั้นมาช่วยกัน ส่วนมากก็สายหลวงปู่มั่นละมา มาทุกซอกทุกมุม วันนั้นวันที่ ๒๗ จะมาทุกซอกทุกมุม ในป่าในเขาออกมาหมด…พระ อยู่ที่ไหนในป่าในเขาส่วนมากเป็นสายหลวงปู่มั่นทั้งนั้น คือเป็นอาจารย์รองลำดับ

พอพูดอย่างนี้ก็ทำให้อดคิดไม่ได้เหมือนกันนะ ผู้ที่เคยอยู่เคยเห็นเคยเกี่ยวข้องกับท่านมา ได้รู้ได้เห็นท่านนี้รู้สึกหลวงตาบัวจะเป็นองค์สุดท้ายแล้วแหละ นอกนั้นก็เป็นสายติดสายต่อกันออกไป ผู้ที่อยู่กับต้นลำจริง ๆ แต่เป็นแบบทัพพีอยู่กับแกงนะ เข้าใจไหมทัพพีอยู่กับแกง ทัพพีไม่รู้รสรู้ชาติของแกงแหละ ก็คือหลวงตาบัวนี่แหละ อยู่กับท่านดูเหมือนเป็นองค์สุดท้ายแหละ คิดดูที่ไหนไม่มีแล้ว ตกลงเราเอาหัวค้ำฟ้า ยังเหลืออยู่องค์เดียว

สำหรับหลวงปู่มั่นนี้ ชื่อเสียงท่าน คุณธรรมที่เลิศเลอของท่าน จะออกตอนหลังท่านมรณภาพไปแล้ว ตอนที่เราเขียนประวัติท่าน แต่ก่อนท่านอยู่ในป่าในเขาทั้งนั้น เรียกว่าสมัยปัจจุบันนี้หลวงปู่มั่นเป็นองค์ที่หนึ่งเลยละ พูดถึงว่าทรงอริยประเพณีของพระพุทธเจ้า ของสาวกทั้งหลายมาได้ด้วยปฏิปทา ทั้งความรู้ความเห็นภายในใจ มีหลวงปู่มั่นที่เด่นมากที่สุด

แต่ท่านเด่นอยู่ในป่าในเขา ท่านไม่ค่อยออกมาเกี่ยวข้องกับประชาชนนัก พระเณรบรรดาลูกศิษย์ลูกหาที่มาเป็นครูบาอาจารย์สอน เช่นอย่างหลวงปู่ฝั้น หลวงปู่ขาว หลวงปู่แหวน เหล่านี้ อยู่กับท่านในป่าทั้งนั้น บรรดาลูกศิษย์ลูกหาที่มาเป็นครูเป็นอาจารย์นี้ ไปศึกษากับท่านอยู่ในป่าในเขา กระจายกันออกมา สำหรับองค์ท่านเองไม่ได้ออกมาเลย อยู่ในป่าในเขาล้วน ๆ เลย

พอพูดเรื่องอรรถเรื่องธรรมนี้ เราพูดไม่มีคำว่าอิ่มพอ พูดถึงเรื่องหลวงปู่มั่นนะ คุณธรรมคุณสมบัติทุกอย่างพร้อมหมดเลย ไม่มีอะไรตกเรี่ยเสียหาย เรื่องหลักธรรมหลักวินัยท่านเก็บหอมรอมริบได้หมด เพราะเราก็เรียนแล้วเราถึงไปนี่ ท่านแสดงออกมาแง่ใดมุมใดอยู่ในคัมภีร์ใดก็รู้ทันที ๆ เพราะเราก็เรียนไปแล้วนี่ เป็นแต่เพียงว่าได้แต่ตัวหนังสือ ไม่ได้ธรรมเหมือนท่านนั่นซิ ท่านได้ทั้งธรรมได้ทั้งเรื่องราวต่าง ๆ ท่านได้หมด ท่านทรงไว้หมดเลย สมบูรณ์เต็มที่ในสมัยปัจจุบันนี้ หลวงปู่มั่นเป็นองค์ที่เด่นที่สุด ที่เราไปรู้ไปเห็นกับท่าน ก็อยู่กับท่านมา ๘ ปี นี่วันนี้ก็เปิดเรื่อง ๘ ปีอีกทีหนึ่ง อยู่กับหลวงปู่มั่นนะ

ดูทุกแง่ทุกมุม เราดูจริง ๆ เพราะเราตั้งใจไปศึกษากับท่านจริง ๆ ท่านจะพูดทีเล่นทีจริงในฐานะลูกศิษย์กับอาจารย์ เท่ากับพ่อแม่กับลูก บางทีท่านก็มีพูดทีเล่นทีจริงเหมือนกันกับเรา กับพ่อกับลูกนี้แหละ แต่เราไม่ได้ว่าทีเล่นทีจริง มันเอาเป็นจริงทั้งนั้นเลย ท่านจะพูดแง่ไหนท่านมีคติธรรมออกมาทุกแง่ ถึงแม้จะเป็นข้อตลกอย่างนี้ท่านก็มีคติธรรมออกมา มีธรรมแทรกออกมา ไม่ได้เป็นแบบโลก ถึงกิริยาท่านจะใช้แบบโลกเป็นบางครั้งบางคราว มีอะไรกับลูกศิษย์ลูกหาซึ่งเป็นเหมือนลูกของท่าน ลูกในครัวเรือน ท่านจะพูดหนักเบาตลกบ้างอะไรก็มี แต่มีแต่เรื่องธรรมแทรกออกมา ๆ เราคอยจับตลอด

อู๊ย นี่ก็แปลกเหมือนกัน จิตนี้มันเหมือนเทปจริง ๆ ท่านพูดแง่ใดมุมใดมันจับได้หมดเลย เพราะตั้งใจจริง ๆ อย่างท่านพูดกิริยาท่าทางทุกอย่างพร้อมหมด พูดถึงเรื่องธรรมภายในใจเวลาท่านเทศน์นี้ ต้องขออภัยพูดกันตามความจริง มาเล่าให้พี่น้องทั้งหลายฟังว่า ผลของการฟังธรรมที่พระพุทธเจ้าแสดงในครั้งพุทธกาลว่า เวลาแสดงธรรมจบลง บรรดาประชาชน เทวบุตรเทวดาสำเร็จมรรคผลนิพพานเป็นจำนวนมาก ๆ

แต่ก่อนเราก็เห็นในตำรา แต่ยังไม่ได้คิดอะไรมากนัก เวลาไปปฏิบัติเฉพาะอย่างยิ่งเข้าไปอยู่กับหลวงปู่มั่นนี่ซิ เวลาท่านเทศน์เหมือนกับ..เราไม่เห็นก็ตามแต่เรื่องราวทั้งหมด เนื้อธรรมนี้ออกมาจากตำรา ๆ ทั้งนั้น เป็นอันเดียวกัน ๆ ท่านถอดออกมาจากนี้ ออกนี้เลย ๆ ไม่ได้ออกทางไหนนะ จึงเรียกว่าคัมภีร์ใน เรียกว่าพระไตรปิฎกใน

พ่อแม่ครูอาจารย์หลวงปู่ใหญ่พระมหาบัว ญาณสัมปันโน
เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๒๕ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๔๑







ต้องฝืนใจ

“...การที่จะนำจิตใจไปสู่ธรรมะมันไม่ยอมไปง่าย ๆ นะ ตั้งแต่ฝึกหัดวัวใส่ล้อใส่เกวียน ฝึกหัดม้าให้วิ่งแบบนั้นแบบนี้ ก็ยังทำง่ายกว่าคนนะ ความจริง ฝึกหัดช้างให้รู้จักภาษาคน ว่าอันไหนจะยกขาซ้าย ขาขวาขึ้น หรือให้หมอบลง หรือจะให้ไปไหน ก็ยังพอได้ ถามเขาแล้วพวกควาญช้าง เขาคล้องได้ตัวหนึ่งที่ภูเก้า ปีที่ไปอยู่นั้น เขาว่าฝึกสามเดือนพอใช้ได้แล้วว่าอย่างนั้น

คนเรากี่ปีก็ไม่ได้นะ บางคนตายทิ้งเฉย ๆ หลายภพหลายชาติ ไม่ว่าแต่ปีหละ พันปีก็ยังไม่ได้อยู่นะบางคน คือทำตามใจจึงไปยาก ถ้าฝืนอย่างเดียว โอ๊ย!ไปได้ง่ายหละ นี้วิธีการประพฤติปฏิบัติ ที่จะนำจิตใจเข้าสู่ธรรม ต้องฝืนกระแสของใจ...”

โอวาทธรรมคำสอน..
องค์หลวงปู่ศรี มหาวีโร







“...ธรรมะ เป็นอาวุธสำคัญที่กิเลสหวั่นไหวเกรงกลัว เพราะรู้ทันกลอุบายของมัน ผู้ปฏิบัติจะมีความอิ่มแห่งธรรมเหมือนอิ่มอาหาร จะเข้าใจกันเอง ไม่ต้องถาม เพราะธรรมเป็นของอิ่มพอ แต่กิเลสมันไม่เคยมีความอิ่ม มันหิวกระหายอยู่เป็นนิจ

คนเราถ้ามีกิเลสเต็มตัวแล้ว มันก็เหมือนหมูเราดี ๆ นี่เอง กินแล้วนอน ๆ จนอ้วนพี เขาก็นำไปขึ้นเขียงสับบั่นเท่านั้น ฉะนั้นผู้ปฏิบัติธรรม เขาจึงไม่เลี้ยงกิเลส เขาทำลายกิเลสทั้งนั้น พระอริยเจ้าทั้งหลายในอดีต ที่ผ่านมาท่านรู้ทันกิเลสเมื่อกิเลสโผนมา ธรรมะโผนไป กิเลสโหดร้าย ธรรมะโหดดี

อยากรบต้องออกแนวรบ นักปฏิบัติคือนักรบ เป็นต้องเป็น ตายต้องตาย จึงจะเอากิเลสอยู่ กิเลสมีเท่าไหร่ ธรรมต้องมีเท่านั้น...”

โอวาทธรรมคำสอน..
องค์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน






การทำความเพียร
เมื่อสมาธิเกิดมีขึ้นแล้ว
จะไม่มีความหวั่นไหว
ไม่มีความเกียจคร้านต่อการงาน
ทั้งทางโลกทั้งทางธรรม
จากนั้นก็เป็นปัญญาที่จะมาเป็นกำลัง
เมื่อปัญญาเกิดขึ้นแล้ว รู้จักใช้ให้เป็นประโยชน์
จะเรียนทางโลกก็สำเร็จ จะทำทางธรรมก็สำเร็จ.
….
หลวงปู่ขาว อนาลโย





ภาวนา พุทโธ พุทโธ
ยืน เดิน นั่ง นอน
รับประทาน ดื่ม ทำ พูด คิด
พุทโธอยู่ตลอดเวลาได้ไม่ต้องเลือก
ขออภัย แม้แต่เข้าห้องน้ำก็ยังภาวนาพุทโธได้
ไม่เป็นบาปเป็นกรรมอะไรทั้งสิ้น
ภาวนาจนกระทั่งจิตมันสงบสว่างลงไปลุกเป็นไฟขึ้นมาโน่น

หลวงพ่อพุธ ฐานิโย





...ไม่มีศีล
มันจะมีเวลามาปฏิบัติได้อย่างไร
ใช่ไหม
.
...ไม่มีศีลเดี๋ยวเย็นนี้ก็กินข้าวเย็น
ไปกินเหล้าไปกินเลี้ยงกัน
ไปดูหนังฟังเพลงกัน แล้วมันจะ
เอาเวลามาปฏิบัติตอนไหนล่ะ
.
...มันก็ต้องมีศีลก่อน
เพื่อจะได้เอาเวลามาปฏิบัติได้
พอมีศีลแล้ว ก็ต้องเจริญสติต่อ
นั่งสมาธิต่อ แล้วก็เจริญปัญญาต่อ
นี่มันเป็นขั้นๆไป
.................................
.
คัดลอกการสนทนาธรรม
ธรรมะบนเขา 9/5/2560
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Bing [Bot] และ บุคคลทั่วไป 6 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO