หลายเดือนก่อน ผมได้มีโอกาสเจอกับ
พี่ต่อที่บ้านแถวบางแสน พี่ต่อได้ให้รูปและหนังสือของพระสงฆ์รูปหนึ่ง ทั้งยังแนะนำอีกว่า
"รูปหลวงปู่แฟ้บ วัดป่าดงหวาย จ.สกลนคร พี่รับกับมือท่านเลยนะ เอาไปใส่กรอบบูชาให้ดี ท่านเป็นพระอรหันต์องค์หนึ่ง" ตัวผมเองในตอนนั้นไม่รู้จักหลวงปู่แฟ้บเลย แต่เมื่อเห็นรูปท่านก็รู้สึกเคารพและศรัทธาอย่างแปลกประหลาด
ครั้นพอกลับมาถึงบ้าน ผมได้อ่านหนังสือประวัติท่านและดาวโหลดเสียงธรรมที่ท่านเทศน์ไว้ในอินเตอร์เนต ยิ่งฟังยิ่งตอกหมุดความเลื่อมใสมากขึ้นไปอีก บางครั้งผมฟังเทศน์ท่าน คิดถึงท่านจนน้ำตาเอ่อขึ้นมาก็มี
หลังเสร็จจากงานกฐินองค์
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี ผมจึงได้เดินทางไปวัดป่าดงหวายพร้อมกับจีวรที่ผมซื้อมาจากแถว
วัดอโศการาม โดยตั้งใจถวายหลวงปู่โดยเฉพาะ เมื่อมาถึงวัดแล้ว หลวงปู่ท่านงดรับแขกและเข้าเยี่ยมเนื่องจากท่านอาพาธหนัก แต่ผมยังโชคดีที่ได้เข้าไปที่กุฎิโดยความช่วยเหลือของพระที่วัดรูปหนึ่ง
ภาพแรกในชีวิตของผมเห็นหลวงปู่นั้น ท่านดูอ่อนแรง ผอมและชราภาพมาก ท่านต้องใช้ถังออกซิเจนในการช่วยหายใจ ข้างกายท่านมีแพทย์และพยาบาล ตลอดจนลูกศิษย์เต็มไปหมด ท่านหายใจแรงจนหน้าอกท่านกระเพื่อมอย่างน่าตกใจ ผมก้มลงกราบท่าน พระที่นำผมเข้ามานำจีวรและพวงมาลัยไปประเคนให้หลวงปู่ โดยผมมองอยู่ห่างๆ ผมรีบกราบลาท่านและเดินออกมาทันที ก่อนกลับก็ร่วมทำบุญกฐินซึ่งจะจัดในวันรุ่งขึ้นในเต้นท์จัดงานด้านหน้า
เมื่อผมกลับถึงกรุงเทพแล้ว ใจคิดถึงท่านอย่างมากจะเรียกว่าคิดถึงทั้งวันทั้งคืนก็ไม่เกินไปนัก โทรหาพระที่วัด ก็ได้รับคำตอบชวนใจหายว่าหลวงปู่ท่านอยู่โรงพยาบาลแล้ว ห้องไอซียูและท่านก็ไม่รู้สึกตัวด้วย
เช้าวันที่
2 พย. 2553 ผมไปทำงานตามปกติ พอได้เวลาเบรค โทรไปถามพระอีกที ท่านตอบเสียงสั่นเครือสั้นๆว่า
"เพิ่นมรณแล้ว จะทำการรดน้ำศพในวันนี้" ได้ยินแบบนี้ ใจผมไม่อยากอยู่ทำงานอีก จึงรีบเดินทางโดยเครื่องบินเพื่อไปกราบขอขมาหลวงปู่เป็นครั้งสุดท้าย
มาถึงวัดช่วงบ่าย 4 โมง ภาพที่เห็นคือท่านนอนแน่นิ่ง มือห้อยลงมา ไม่สามารถทักทายหรือรับไทยธรรมเพื่อเป็นบุญอันประเสริฐของสัตว์โลกได้อีกต่อไป นาทีนั้นนึกถึงคำสอนของ
หลวงปู่สิม วัดถ้ำผาปล่อง จ.เชียงใหม่ ที่ท่านพูดถึงความตายว่า
"อย่าได้ประมาทในความตาย เราจะตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้ สิ่งที่เป็นของเราจริงๆนั้นคือ บุญและบาปเท่านั้น "หลังจากขอขมาและรดน้ำศพองค์หลวงปู่แล้ว ผมก็เดินไปที่กุฏิหลวงปู่ ทุกอย่างว่างเปล่าไม่มีองค์ท่านให้สนทนาหรือเป็นเนื้อนาบุญให้กับเราอีกต่อไป
หลวงปู่จากพวกเราไปแล้ว
พี่ต่อบอกว่า ผมยังมีบุญที่ทันได้กราบและทำบุญกับหลวงปู่ผู้ซึ่งเป็นพระอรหันต์องค์หนึ่งเพราะท่านจะไม่กลับมาในโลกนี้อีกตลอดอนันตกาล เฉกเช่น
องค์หลวงตามหาบัว ...กรรมอันใดที่ลูกได้ล่วงเกินแด่องค์หลวงปู่ ทั้งกาย วาใจ ใจ ทั้งเจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี ขอองค์หลวงปู่จงโปรดอโหสิกรรมให้แก่ลูกผู้โง่เขลาเบาปัญญาด้วยเถิด....