bon เขียน:
อาจารรรรรรรรย์
ที่วัดท่านพ่อเปลี่ยนชื่ออย่างเป็นทางการแล้วครับ
มัชฌิมาวาส
เห็นท่านพ่อว่าหลวงตาบัวท่านเทศน์ไว้
ท่านพ่อเลยให้เปลี่ยน
เรอะ... !
โอ้โห หลวงตามหาบัวนี่มีคุณานุคุณแก่ท่านพ่ออย่างแรงเลยนะนี่ ท่านพ่อเคารพเทิดทูนอย่างสุดจิตสุดใจทีเดียว เพราะชื่อวัดนั่นมีมาหลาย ๆ สิบปีแล้ว แถมตั้งโดยพระผู้ใหญ่สายตรง แต่พอหลวงตาทักท้วงเท่านั้น ท่านพ่อก็ถึงกับยอมเปลี่ยนชื่อวัด
ยอมใจเลยครับ
เพราะเปลี่ยนชื่อวัดไม่ใช่ของง่ายเหมือนเปลี่ยนชื่อคนที่อำเภอหรือเทศบาลเมื่อไหร่ ยิ่งปัจจุบันแล้วคนทำงานเกี่ยวกับศาสนาแท้ ๆ แต่ไม่เคยมีศาสนาอยู่ในหัวเลย ผู้ยิ่งใหญ่จึงบัญญัติว่าการตั้งชื่อวัดในทุกวันนี้ต้องตั้งให้พ้องกับชื่อหมู่บ้านหรือตำบลที่วัดตั้งอยู่ นัยว่าเพื่อให้เกิดความรักความสามัคคีกันระหว่างบ้านกับวัด ทำให้ประชาชนรักวัด อยากเข้าวัด ดูแลวัด
อพิโธ่ คิดได้ราวกับสมองอยู่เบื้องล่าง
อย่างเช่นวัดป่าอัมพวันของท่านพระอาจารย์จันดี เมื่อไปขอตั้งชื่อวัดว่า "วัดป่าอัมพวัน" เหตุเพราะตรงนั้นล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยต้นมะม่วง เป็นป่ามะม่วงดี ๆ นี่เอง ในสมัยพุทธกาลก็มีวัดอัมพวัน เพราะที่ตรงนั้นก็มีแต่ต้นมะม่วง เนื่องจากมะม่วงนั้นภาษามคธเรียกว่า "อัมพวัน"
แต่ผู้ใหญ่(สมองเล็ก)ในกรมการศาสนาก็ปฏิเสธอย่างแรง ทักท้วงหัวชนฝาไม่อนุญาตให้ใช้ชื่อดังกล่าว บังคับว่าต้องตั้งชื่อว่า "วัดบ้านห้วยดินดำ" เพื่อให้สอดคล้องสามัคคีกับชื่อหมู่บ้านเดิม
เฮ้อ ศาสนาพุทธจงเจริญ
ตกลงคนละแวกวัดแต่ละแห่งทั่วโลกดินแดนนี่ เขาจะเข้าวัดทำบุญฟังธรรมกันก็ต่อเมื่อชื่อวัดมันตรงกับชื่อหมู่บ้านงั้นหรือ ?
งั้นถ้ามีคนสร้างวัดขึ้นใหม่ในเมืองกรุง ก็ต้องให้ชื่อว่า "วัดป่าแลนด์แอนเฮ้าส์" แล้วล่ะเหวย คนเมืองกรุงมันถึงจะยอมเข้าวัดฟังธรรม
สรุปว่าที่ได้ชื่อ "วัดป่าอัมพวัน" สมปรารถนาโดยเฉียดตายเส้นยาแดงผ่าแปดกับไอ้ชื่อ "วัดบ้านห้วยดินดำ" นั้นก็โดยใช้....
เส้น
เชื่อว่าจาก "วัดป่ามัชฌิมวาส" ไปสู่ "วัดป่ามัชฌิมาวาส" นั้นก็คงทำนองเดียวกัน
คุณชินเคยพูดกับผมว่า "เมืองไทยต้องใช้เส้น อะไร ๆ ก็ใช้เส้นถึงจะสะดวก แม้แต่เข้าวัดกราบพระก็ยังต้องใช้เส้น แปลกที่สุดในโลก..."
ผมล่ะอายคนจีนจริง ๆ ...