นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน จันทร์ 07 ต.ค. 2024 2:51 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 19 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 23 ก.พ. 2012 4:45 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 5:09 pm
โพสต์: 1368
เรียนถามอาจารย์รณธรรมเรื่องการห้อยประคำของพระสงฆ์ครับ เพราะเป็นเรื่องที่สงสัยอยากทราบครับว่า
1. มีข้อห้ามหรือบัญญัติในวินัยสงฆ์หรือไม่ว่า ห้ามห้อยประำคำ หรือห้อยประคำได้
2. ทำไมพ่อแม่ครูบาอาจารย์บางองค์ห้อยบางองค์ไม่มี เช่น พระสงฆ์ทางเหนือมักห้อยประคำแต่ก็ไม่ทุกรูป เช่น ครูบาศรีวิชัย, หลวงปู่ตื้อก็ห้อยประคำ เป็นต้น
3. การห้อยประคำของพระสงฆ์นั้นท่านเอาไว้เพื่อนับประคำในการภาวนา หรือเพื่อการใด
4. โดยตัวของลูกประคำเองแล้ว เราให้ความเคารพในฐานที่แทนคุณพระพุทธ (56) คุณพระธรรม (38) คุณพระสงฆ์ (14) หรือไม่ หรือก็แค่ลูกประคำ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 23 ก.พ. 2012 11:01 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร 25 พ.ย. 2008 4:49 pm
โพสต์: 210
ครูบาธรรมชัยที่เป็นรูป Profile ของพี่จิ้งจกก็ห้อยประคำนะครับ....

_________________
ร้านข่วงสิงห์ : ร้านพระคุณภาพสำหรับทุกคน
http://www.web-pra.com/Shop/kuangsingha

หรือกดไลท์ ใน Facebook ได้ที่

https://www.facebook.com/kuangsingha/likes

เข้าชมร้านข่วงสิงห์ใน Facebook

ได้ที่ https://www.facebook.com/kuangsingha


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 23 ก.พ. 2012 11:53 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 6:00 am
โพสต์: 6586
1. มีข้อห้ามหรือบัญญัติในวินัยสงฆ์หรือไม่ว่า ห้ามห้อยประคำ หรือห้อยประคำได้ ?

ตอบ พระวินัยบัญญัติว่า ภิกษุห้ามตกแต่งประดับประดาร่างกายด้วยเครื่องประดับทุกประเภท แต่ลูกประคำไม่ถือว่าเป็นเครื่องประดับครับ เพราะถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ในการภาวนาโดยเฉพาะจึงถือว่าเป็นเครื่องมือช่วยภาวนาประคองจิตครับ ไม่ใช่เครื่องประดับแต่อย่างใด จึงไม่ผิดพระวินัยครับ

ส่วนเรื่องจะอนุญาตให้ห้อยประคำได้ก็ไม่เคยปรากฏมีครับ เรียกว่าไม่ได้ทรงห้ามและไม่ได้ทรงอนุญาตแต่อย่างใด


2. ทำไมพ่อแม่ครูบาอาจารย์บางองค์ห้อยบางองค์ไม่มี เช่น พระสงฆ์ทางเหนือมักห้อยประคำแต่ก็ไม่ทุกรูป เช่น ครูบาศรีวิชัย, หลวงปู่ตื้อก็ห้อยประคำ เป็นต้น ?

ตอบ การใช้ลูกประคำเป็นเรื่องจริตนิสัยเฉพาะองค์ครับ ใช่ว่าทุกท่านจะชอบใช้หรือไม่ชอบใช้ เช่นเดียวกับการภาวนาแบบพุทโธ บางท่านบางองค์ก็ถูกจริต แต่บางท่านบางองค์ก็ไม่ถูกจริต ภาวนาแล้วจิตไม่รวม จิตขัดข้อง ก็ต้องลำดับเรื่องราวของการภาวนากันใหม่ ไล่กันเรื่อยไปโดยใช้จิตตรวจสอบเอาเองจนพบวิธีที่ถูกอัธยาศัยตนเอง การภาวนาก็จะเป็นไปโดยราบรื่น จึงเกิดแบบแผนในการปฏิบัติพระกรรมฐานมากมายหลายแนวถึง 40 กอง

ครูบาพรหมา พรหมจักโก วัดพระพุทธบาทตากผ้า อ.ป่าซาง จ.ลำพูน ก็เป็นมหาสมณะอีกองค์หนึ่งที่เจริญภาวนาโดยการใช้ลูกประคำ ซึ่งท่านจะตกประคำในแต่ละครั้งกระทั่งครบสูตรเต็มบริบูรณ์โดยเริ่มตั้งแต่หายใจเข้าว่า พุท หายใจออกว่า โธ แล้วตกลูกประคำไป 1 เม็ด ดังนี้เรื่อยไปจนครบ 108 เม็ด แล้วหายใจเข้าว่า ธัม หายใจออกว่า โม แล้วตกลูกประคำไป 1 เม็ด ดังนี้เรื่อยไปจนครบ 108 เม็ด จากนั้นก็เป็น สังโฆ, อนิจจัง, ทุกขัง และอนัตตา คำละ 108 เม็ด ครบแล้วจึงแผ่เมตตา นี่เรียกว่าการภาวนาด้วยการนับประคำ หรือตกลูกประคำ ดังนั้น ท่านจึงนิยมนำสวมคอไว้ตลอดเพื่อว่าเวลาจะใช้ภาวนาเมื่อใดก็หยิบฉวยได้ทันใดไม่ต้องยุ่งยากในการหา ทั้งยั้งถือเป็นของสิริมงคลเพราะใช้ในการเจริญภาวนา อันครูบาพรหมานั้นท่านนับประคำภาวนาจนบรรลุธรรมขั้นสูงสุดคือ "อรหัตผล" อัฐิท่านแปรเป็นพระธาตุอย่างสวยงามมาก มีหลากหลายสีสัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ ทรงเสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทานเพลิงสรีระครูบาพรหมาด้วยพระองค์เอง ซึ่งแม้ไฟจะรุนแรงเพียงใด จีวรท่านก็ไม่ไหม้ไฟเป็นส่วนมาก และลูกประคำของท่านก็ไม่ไหม้ไฟเช่นกัน เป็นแต่ด้ายเล็ก ๆ ทนร้อนไม่ไหวก็ขาดไป ทว่าลูกประคำไม้ไม่ถูกไฟผลาญเลยทั้ง ๆ ที่ประคำเส้นนี้ท่านเพิ่งนับได้ไม่กี่ปี เนื่องจากเส้นเก่าที่นับมานานกว่าครึ่งชีวิตท่านได้คล้องพระศอสวมให้กับเจ้าฟ้าชายฯ ไปด้วยมือท่านเอง

ส่วนหลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม นั้นท่านไม่เคยใช้ประคำในการนับภาวนาเลย ท่านเจริญภาวนาในแบบที่ท่านพระอาจารย์ใหญ่มั่น ภูริทัตโต ดำเนินมาโดยตลอด เป็นแต่เพียงเวลามีศิษย์ขอถ่ายรูป ท่านก็จะรีบไปหยิบประคำมาสวมคอแล้วนั่งหรือยอมให้บันทึกภาพโดยดุษฎี เมื่อฉายภาพเสร็จเรียบร้อยแล้วท่านก็จะถอดประคำเส้นเอกนั้นออก แม้ทุกวันนี้ก็หาผู้อธิบายไม่ได้ว่าท่านทำเช่นนั้นเพราะเหตุอะไร เพียงท่านเมตตายินยอมให้บันทึกภาพก็ดีใจโขแล้ว

สำหรับมหาสมณะที่ไม่นิยมการนับประคำก็มีอยู่ เช่น หลวงพ่อชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง เมื่อครั้งออกวิเวกเดินธุดงค์ท่านเคยนำลูกไม้จำนวน 108 ลูกมานับภาวนาโดยการหายใจเข้าพุทหายใจออกโธแล้วทิ้งลูกไม้นั้นลงกระป๋อง 1 เม็ดคล้าย ๆ การนับลูกประคำนั่นเอง จนอยู่มาวันหนึ่งมีฝูงลิงมาป้วนเปี้ยนบนต้นไม้ใหญ่ใกล้กับที่พักท่าน ฝูงลิงเหล่านั้นพากันเก็บลูกไม้มาถือแล้วทิ้งลงมาจากต้นไม้ทีละเม็ด ทีละเม็ด เมื่อหลวงพ่อชาเห็นเช่นนั้นท่านก็เกิดธรรมสังเวชขึ้นในจิตใจว่าเรานี้ช่างไม่ต่างจากลิง คิดจะหาความสงบด้วยการเก็บลูกไม้มาหยอดกระป๋องเหมือนกับลิงพวกนี้เอง แล้วหากวันหนึ่งเราไม่มีลูกไม้พวกนี้เราจะภาวนาได้อย่างไร.... พอธรรมสังเวชเกิดดังนี้หลวงพ่อชาก็ล้มเลิกวิธีภาวนาโดยการใช้เครื่องมือ แล้วมาจับลมหายใจล้วน ๆ ในแบบเดียวกับที่พระพุทธองค์เคยทรงกระทำมาแต่ครั้งเยาว์วัย

แล้วหลวงพ่อชาก็อัฐิเป็นพระธาตุเช่นกัน...


3. การห้อยประคำของพระสงฆ์นั้นท่านเอาไว้เพื่อนับประคำในการภาวนา หรือเพื่อการใด ?

ตอบ ภาวนาครับ


4. โดยตัวของลูกประคำเองแล้ว เราให้ความเคารพในฐานที่แทนคุณพระพุทธ (56) คุณพระธรรม (38) คุณพระสงฆ์ (14) หรือไม่ หรือก็แค่ลูกประคำ ?

ตอบ ถ้าเรามองพระเครื่องว่ามีราคาเราก็จะเห็นพระเครื่องเป็นแค่สินค้า แต่ถ้าเรามองพระเครื่องว่าเป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้าผู้เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย พระเครื่องนั้นก็จะเป็นอุทเทสิกเจดีย์ที่เป็นมหามงคลยิ่ง เป็นรูปที่ควรแก่การเคารพกราบไหว้ครับ

_________________
ถ้าเราไม่อยากได้อะไรจากใคร ก็จะไม่มีอะไรให้หมางใจกัน


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: ศุกร์ 24 ก.พ. 2012 12:56 am 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 5:09 pm
โพสต์: 1368
ขอบพระคุณอาจารย์รณธรรมในคำตอบที่ได้ให้มาครับ เพราะตัวผมเองทุกวันนี้สวดมนต์ และหลังจากสวดมนต์เสร็จจะนำลูกประคำมาภาวนาร่วมโดยจะสวดว่า "อรหังพุทโธ อิติปิโสภควา นะมามิหัง" และชักลูกประคำทีละเม็ดในแต่ละจบ จนครบ 108 จบ จากนั้นจะสวดแผ่เมตตาก่อนนั่งสมาธิโดยภาวนา "พุทโธ" แล้วก็สวดแผ่เมตตาอีกครั้งเมื่อนั่งสมาธิเสร็จครับ

มาวันนี้เกิดนึกสงสัยขึ้นมาว่า แล้วพ่อแม่ครูบาอาจารย์ทั้งหลายท่านปฏิบัติอย่างไรกับลูกประคำท่านทำอะไรมากกว่าที่เราทำอยู่หรือไม่ ถ้ามีก็จะได้ปฏิบัติตามต่อไปครับ

ถามเพิ่มเติมครับ คือ ผมได้ไปอ่านบางบทความในเว็บและพบว่า หลวงพ่ออุตตมะท่านจะให้ภาวนาว่า "นะโมพุทธายะ ยะธาพุทโมนะ มะอะอุ อุอะมะ" แล้วก็ชักประคำ 1 เม็ด เป็นจำนวน 3 รอบ เมื่อเสร็จแล้วจึงแผ่เมตตา ไม่ทราบว่า วิธีการที่ผมไปค้นเจอมาในอินเตอร์เน็ตนี้ถูกต้องหรือไม่อย่างไรครับ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: ศุกร์ 24 ก.พ. 2012 2:35 am 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 6:00 am
โพสต์: 6586
ผมไม่ทราบว่าหลวงพ่ออุตตมะ อุตตมรัมโภ จะเคยสอนใครอย่างไร ไม่บังอาจไปชี้ชัดจำกัดความว่าท่านต้องสอนอย่างนั้นอย่างนี้เช่นเดียวกับที่สอนผมจึงถูก จึงจะแปลว่าเขาพูดถูก

ท่านสอนผมอย่างหนึ่ง อาจสอนเขาอีกอย่างหนึ่ง

ท่านสอนเขาอย่างหนึ่ง อาจสอนผมอีกอย่างหนึ่ง


....ก็เป็นได้...


หลวงพ่ออุตตมะสอนผมว่า ให้นำประคำมาจบเหนือหัวสักการะพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เสียก่อน แล้วจึงค่อยนับไปทีละเม็ด โดยจะว่าพุทโธ แล้วนับก็ได้ หายใจเข้าพุท หายใจออกโธ แล้วนับก็ได้ ตามแต่เราจะได้รับความสะดวกทางใจ... นี่คือสิ่งที่หลวงพ่อสอนในบางครั้ง

แต่บางครั้งท่านก็จะสอนว่า

ให้นำประคำมาจบเหนือหัวสักการะพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เสียก่อน ระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้าทั้งห้าพระองค์และพระมหาฤๅษีทั้งสามผู้ให้กำเนิดประคำ ๑๐๘ แล้วบริกรรมว่า นะ โม พุท ธา ยะ ยะ ธา พุท โม นะ มะ อะ อุ อุ อะ มะ โดยเมื่อท่องจบหนึ่งคำก็ให้นับประคำไปหนึ่งเม็ด... ท่องจบหนึ่งคำก็นับประคำไปหนึ่งเม็ด... เรื่อยไปดังนี้จนครบ ๕ รอบ สังเกตดูเถิดว่าแต่ละรอบคาถา เม็ดประคำกับคาถาจะไม่จบลงตัวพอดี แต่เมื่อเรานับด้วยวิธีการนี้จนครบ ๕ รอบ คำสุดท้ายจะจบลงที่ประคำเม็ดสุดท้ายพอดีโดยไม่ขาดไม่เกิน เว้นเสียแต่ว่าเราเสียสมาธิไปในระหว่างการภาวนาเราก็จะนับผิดทันที ลูกประคำจึงเป็นเครื่องมือการตรวจสอบสมาธิเราในอีกทางหนึ่งดังนี้แล

_________________
ถ้าเราไม่อยากได้อะไรจากใคร ก็จะไม่มีอะไรให้หมางใจกัน


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: ศุกร์ 24 ก.พ. 2012 2:43 am 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 5:09 pm
โพสต์: 1368
เรียนสอบถามเพิ่มเติมครับ

"....นะ โม พุท ธา ยะ ยะ ธา พุท โม นะ มะ อะ อุ อุ อะ มะ โดยเมื่อท่องจบหนึ่งคำก็ให้นับประคำไปหนึ่งเม็ด... ท่องจบหนึ่งคำก็นับประคำไปหนึ่งเม็ด..."
-----------------------
"นะ โม พุท ธา ยะ ยะ ธา พุท โม นะ มะ อะ อุ อุ อะ มะ" ทั้งหมดเป็น 1 คำ หรือว่า ทั้งหมดคือ แยกเป็นคำๆ ได้ 16 คำ ครับ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ 27 ก.พ. 2012 3:33 am 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 6:00 am
โพสต์: 6586
หนึ่งคำ หนึ่งเม็ดครับ

_________________
ถ้าเราไม่อยากได้อะไรจากใคร ก็จะไม่มีอะไรให้หมางใจกัน


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ 27 ก.พ. 2012 12:28 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 5:09 pm
โพสต์: 1368
ขอบพระคุณอาจารย์รณธรรมครับ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ 27 ก.พ. 2012 10:11 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 6:00 am
โพสต์: 6586
ด้วยความยินดีครับ :P

_________________
ถ้าเราไม่อยากได้อะไรจากใคร ก็จะไม่มีอะไรให้หมางใจกัน


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ 27 ก.พ. 2012 10:27 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ 27 มี.ค. 2010 1:50 pm
โพสต์: 598
:grt: :grt: :grt: ตอบคำถามได้กระจ่างแจ้ง ถึงใจเลยครับ ท่านอาจารย์รณธรรม


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร 28 ก.พ. 2012 5:19 am 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 6:00 am
โพสต์: 6586
ขอบพระคุณมากครับสำหรับกำลังใจ :D

_________________
ถ้าเราไม่อยากได้อะไรจากใคร ก็จะไม่มีอะไรให้หมางใจกัน


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: เสาร์ 10 มี.ค. 2012 12:24 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 27 มิ.ย. 2010 2:40 am
โพสต์: 66
:grt: อาจารย์ต่อของผมยอดเยี่ยมเสมอครับเข้ามาทุกครั้งก็ได้ความรู้ใหม่ๆทุกครั้งเลยครับ
เเม้เเต่คำคำนี้...ถ้าเราไม่อยากได้อะไรจากใคร ก็จะไม่มีอะไรให้หมางใจกัน ...ผมก็ยังเเอบเอาไปใช้เลยครับ
มันทำให้ความอยากได้ อยากมี อยากเป็น เเละ ความไม่อยากได้ ไม่อยากมี ไม่อยากเป็น ของผมค่อยเบาบางลงได้บ้างครับอาจารย์ ขอบคุณครับ :) :) :)


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: ศุกร์ 16 มี.ค. 2012 9:16 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 6:00 am
โพสต์: 6586
ขอบพระคุณมาก ๆ สำหรับกำลังใจครับผม

(นี่เอารูปแบบไ่ม่เคยตีพิมพ์ที่ไหนมาก่อนมาขอบพระคุณที่แรกนะเนี่ย... จุ๊ จุ๊ อย่าเอ็ดไป)




นิชคุณ.jpg


_________________
ถ้าเราไม่อยากได้อะไรจากใคร ก็จะไม่มีอะไรให้หมางใจกัน


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: เสาร์ 17 มี.ค. 2012 1:24 am 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 5:09 pm
โพสต์: 1368
ครับผม อาจารย์นิชคุณ เอ้ย อาจารย์รณธรรม :lol: :lol: :lol:


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: อาทิตย์ 18 มี.ค. 2012 1:56 am 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 6:00 am
โพสต์: 6586
ตาถึง ตาถึง


.gif


_________________
ถ้าเราไม่อยากได้อะไรจากใคร ก็จะไม่มีอะไรให้หมางใจกัน


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: ศุกร์ 23 มี.ค. 2012 12:03 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 27 มิ.ย. 2010 2:40 am
โพสต์: 66
:grt: :grt: :grt:


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: ศุกร์ 23 มี.ค. 2012 12:09 am 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 6:00 am
โพสต์: 6586
:lol: :lol: :lol:

_________________
ถ้าเราไม่อยากได้อะไรจากใคร ก็จะไม่มีอะไรให้หมางใจกัน


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: อาทิตย์ 01 ก.ค. 2012 10:09 am 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ 23 ก.ย. 2009 11:47 pm
โพสต์: 14
-ขอบพระคุณสำหรับความรู้ ทั้งผู้ถามและผู้ตอบครับ และขออนุญาตนำไปเผยแพร่ในเวบของชมรมฯครับ
http://www.nabia10.com/boardphpbb/viewforum.php?f=8


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: อาทิตย์ 01 ก.ค. 2012 5:42 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 6:00 am
โพสต์: 6586
ขออนุโมทนาด้วยความยินดีครับ :P

_________________
ถ้าเราไม่อยากได้อะไรจากใคร ก็จะไม่มีอะไรให้หมางใจกัน


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 19 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 2 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO