สืบเนื่องจากกระทู้มีเรื่องรบกวนครับ

คุณชายนายเอสซี่ · **โพสต์แล้ว:** อังคาร 16 ธ.ค. 2008 12:00 pm

คุณชายนายเอสซี่ ขอเปนคนที่ 19 นะคับ อนุโมทนาด้วยคับ :rbb:

UltraChai · **โพสต์แล้ว:** อังคาร 16 ธ.ค. 2008 6:33 pm

ขออนุโมทนาด้วยครับ

พัน · **โพสต์แล้ว:** พุธ 17 ธ.ค. 2008 8:08 am

ขออนุโมทนาด้วยคนครับ ขอรับด้วยหนึ่งคน

siri · **โพสต์แล้ว:** พุธ 17 ธ.ค. 2008 12:34 pm

ขอความกรุณาด้วย 1 องค์ นะ

JoJo · **โพสต์แล้ว:** พุธ 17 ธ.ค. 2008 6:07 pm

ขออนุโมทนาด้วยครับ และก็ขอบคุณมากๆครับสำหรับพระเครื่อง

โดยส่วนตัวก็นับถือ ท่านอาจารย์สมบูรณ์ อยู่แล้วครับ

bon · **โพสต์แล้ว:** พฤหัสฯ. 18 ธ.ค. 2008 9:48 pm

ไม่เห็นมีใครเอาเรื่องหลวงพ่อสมบูรณ์ที่อ.ต่อเคยเขียนมาลงซักทีผมเลยต้องโซโลแต่คงเป็นเรื่องท่านในส่วนที่ผมสัมผัสมาเอง-ได้ยินมาเอง คงไม่ใช่ที่อ.ต่อเขียน

bon · **โพสต์แล้ว:** พฤหัสฯ. 18 ธ.ค. 2008 10:01 pm

ในสมัยหลวงพ่อท่านยังรับนิมนต์มาที่เรือนไทยของคุณหญิงสุรีพันธุ์
มีครั้งหนึ่งพี่ชายคุณหญิงป่วยหนัก
คุณหญิงจึงได้อาราธนาพระที่นิมนต์มาที่เรือนไทยให้ทำน้ำมนต์เพื่อให้พี่ชายคุณหญิง
ซึ่งพระที่มามีหลายองค์แต่ทุกองค์ก็โบ้ยมาที่หลวงพ่อสมบูรณ์
คุณหญิงจึงจัดแจงเอาน้ำมนต์ที่หลวงปู่ชอบ-หลวงปู่หลุย ฯลฯ เคยเสกให้มาเทรวมกันที่บาตรลงหินหรือจะเรียกว่าขันน้ำมนต์ที่มีรูปร่างคล้ายบาตรแต่ทำจากโลหะที่เรียกว่าลงหินแล้วนำมาถวายหลวงพ่อ
หลวงพ่อนั่งเพ่งอยู่นาน ระหว่างนั้น ก็มีเสียงดังลั่นขึ้นทุกคนจึงพุ่งความสนใจไปที่ต้นเสียงนั่นก็คือบาตรน้ำมนต์ ทุกคนแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง
เพราะว่า บาตรแตก
มีรอยฉีกขาดยาวหลายนิ้วเกิดขึ้นบนบาตร จริงๆแล้วตัวโลหะลงหินนับว่าเป็นโลหะที่มีความเหนียวมากเพราะการขึ้นรูปใช้วิธีทุบไม่ใช่หล่อ
หลังนั้นจากคุณหญิงเอาน้ำมนต์ไปพี่ชาย แต่หลวงพ่อท่านก็บอกกับคนใกล้ชิดว่าสงสัยไม่รอด
แล้วก็จริงอีกไม่กี่วันพี่ชายคุณหญิงก็สิ้น

อู๊ด อู๊ด · **โพสต์แล้ว:** พฤหัสฯ. 18 ธ.ค. 2008 10:38 pm

อืม ได้แง่คิดหลาย ๆ มุมมองเลยครับ

bon · **โพสต์แล้ว:** พฤหัสฯ. 18 ธ.ค. 2008 11:10 pm

นั่นเป็นอายุไขของเขาที่หมดไปไม่อาจช่วยครับ หลวงพ่อมาบอกทีหลังว่าตอนภาวนาทำน้ำมนต์หลวงพ่อหาสายใยชีวิตพี่คุณหญิงไม่เจอแล้ว มันได้ขาดไปแล้ว ถ้ายังเหลืออยู่น่าจะพอช่วยได้
แต่ที่ท่านช่วยได้ก็มีครับ
ลูกศิษย์หลวงพ่อชื่อคุณ ก (ใช้นามสมุติเพราะจำชื่อไม่ได้)
ป่วยเป็นโรคร้ายแรง(จำชื่อโรคไม่ได้อีกแล้ว)
หมอบอกอยู่ได้อีกไม่นาน ลูกสาวจึงนิมนต์หลวงพ่อไปโปรด
เมื่อหลวงพ่อไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล หลวงพ่อจึงนั่งแผ่เมตตาให้คุณ ก ครู่ใหญ่แล้วจึงบอกกับเขาว่าไม่ตายหรอก
วันนั้นมีคนป่วยด้วยอาการเล็กน้อยมาโรงพยาบาลได้อยู่ห้องเดียวกับคุณ ก แถมยังมีชื่อเดียวกันอีกต่างหาก แต่อาการป่วยเพียงเล็กน้อยกลับเสียชีวิตในวันนั้นเลย และอาการของคุณ ก ก็กลับดีวันดีคืนจนหายเป็นปรกติ
ตอนผมถามเรื่องนี้กับท่าน ท่านกล่าวว่า ตอนไปโรงพยาบาลเราเห็นยมบาล เราเลยบอกว่านาย ก เป็นลูกศิษย์เราเขาเป็นคนดี แล้วเราก็ขอดูสมุดอายุไข ปรากฏว่าชื่อตรงแต่นามสกุลไม่ใช่ เราเลยบอกเขาไปว่ามาเอาผิดคน

bon · **โพสต์แล้ว:** พฤหัสฯ. 18 ธ.ค. 2008 11:20 pm

สมัยก่อนท่านเคยรับนิมนต์ไปภูบันไดม้า
ตัวภูเป็นเขาที่ลาดชันมากราว60-70องศา ทางขึ้นภูจึงจำเป็นต้องตัดเป็นถนนวนรอบเขา แต่ ถนนในยุคนั้นก็แคบจนรถไม่อาจขึ้นได้ ดังนั้นการขึ้นภูบันไดมาจึงมีทางเดียวคือเดินวนขึ้น
ในวันนั้นหลังจากรถของหลวงพ่อและคณะศิษย์จอด
หลวงพ่อและท่านพระอาจารย์...ได้เดินนำหน้าคณะขึ้นภู แต่ท่านทั้งสองกลับเดินขึ้นในแนวตั้ง ไม่ใช่เดินวนตามถนนรอบภู คณะนับสิบคนที่ตามมาได้แต่ตะลึง พอตั้งสติได้จึงให้ผู้ชายที่แข็งแรงที่สุดในกลุ่มเดินขึ้นภูแบบท่านบ้าง เป็นไปดังคาด 2 มือ 2 เท้า ยังขึ้นไปได้ไม่ถึง 2 เมตร
ทุกคนจึงรีบวิ่งขึ้นภูตามถนนรอบภู พอขึ้นไปถึงจะอ้าปากถามท่านถึงเหตุอัศจรรย์ที่เพิ่งพบเห็นท่านก็ยกมือขึ้นห้าม แล้วหันไปคุยกับพระอาจารย์... โดยไม่สนใจลูกศิษย์อีก

bon · **โพสต์แล้ว:** พฤหัสฯ. 18 ธ.ค. 2008 11:29 pm

เมื่อปีที่แล้วหลวงพ่อรับนิมนต์มาฉันบ้านผม
มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งมากราบท่านพร้อเล่าเรื่อง บ้านเช่าที่ไม่มีใครมาเช่าซักที เพราะใครมาเช่าก็อยู่ได้ไม่นานมีเหตุต้องพบเห็นสิ่งแปลกๆแล้วก็ต้องย้ายไป แม้จะลดค่าเช่าจากแสนสองมาเป็นแปดหมื่นแล้วก็ไม่มีคนเช่า
ผมจึงแนะนำให้เขานิมนต์หลวงพ่อไปแผ่เมตตาให้
และเขาก็นิมนต์ไปในวันนั้นเลย
หลวงพ่อก็นั่งภาวนาอยูในห้องบนชั้นสอง 10นาที
เมื่อลงมาจึงเรียนถามท่านว่าเป็นอย่างไรบ้าง
ท่านก็เล่าแต่ผมขอสรุปเพียงว่า ท่านขอให้เขาเมตตาเจ้าของบ้านด้วย
และแล้วเย็นวันนั้น ก็มีคนมาเช่า
มันจะบังเอิญไปรึเปล่าหนอ

bon · **โพสต์แล้ว:** พฤหัสฯ. 18 ธ.ค. 2008 11:42 pm

คราวหนึ่งเคยมีผู้หญิงคนหนึ่งเอาพระชินราชอินโดจีนมาถวายท่านพร้อมกล่าวว่า
เป็นสมบัติของคุณพ่อซึ่งคุณพ่อหวงมาก ก่อนสิ้นก็ถามหาแต่พระองค์นี้
พอท่านสิ้นลูกหลานคนไหนเอาพระองค์นี้ไปก็ต้องเจอการหลอกหลอนของคุณพ่อ
พอเห็นท่าไม่ไหวเลยมาถวายหลวงพ่อ
หลวงพ่อท่านก็รับไว้
และคืนนั้นเองขณะที่หลวงพ่อภาวนาอยู่
ท่านก็เห็นชายชราคนหนึ่งปรากฏขึ้น ทำท่ารำมวยจะต่อยกับท่าน
ท่านจึงเตือนไป แต่ไม่เป็นผลชายคนนี้ไม่ฟังจะต่อยท่านท่าเดียว
ท่านจึงกำหนดจิตเป็นหมัดชกตอบกลับไปปรากฏในนิมิตท่านเขาเลือดท่วมวิ่งหนีไป
และเช้าวันรุ่งขึ้นผู้หญิงคนเดิมก็มาถวายจังหันท่าน พร้อมกับเล่าว่า
เมื่อคืนฝันไม่ดีเลย ฝันว่า "คุณพ่อที่สิ้นไปแล้วมาหาแต่มาแบบโชกเลือด เลยมากราบ ทำบุญกับหลวงพ่อ"
และทุกวันนี้ทราบว่าหลวงพ่อได้ ดัด จน คนที่ได้รับพระไปไม่เจอการหลอกหลอนแล้ว
(สงสัยคงปล่อยวางได้แล้วจึงยกภพภูมิสูงขึ้นไปได้)

bon · **โพสต์แล้ว:** พฤหัสฯ. 18 ธ.ค. 2008 11:48 pm

ขอจบเรื่อเล่าหลวงพ่อแต่เพียงเท่านี้ที่จริงมีอีกหลายสิบเรื่อง
แต่กลัวท่านจะทราบแล้วจะโดนท่านเอ็ด
ดังนั้นขอความกรุณาอย่าเอาไปลงที่อื่นนะครับ
แล้วก็ถ้าใครไปกราบท่านอย่าถามท่านเรื่องพวกนี้นะครับ
เดี๋ยวผมโดนเอ็ด
:sck: