นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน ศุกร์ 29 มี.ค. 2024 12:12 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 11 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ 20 ม.ค. 2010 1:17 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. 18 ก.ย. 2008 2:30 pm
โพสต์: 33
หลายวันก่อนเกิดความสงสัยเรื่องนี้เลยเขียนเมล์ถามอาจารย์ต่อ เห็นว่าน่าจะเป็นเรื่องที่มีคนอื่นสนใจอยู่บ้างเลยขออนุญาติเอามาลงครับ

_____________________________________________________________

คำถาม

รบกวนไขข้อสงสัยผมหน่อยครับ คือเท่าที่ผมเคยทราบมาในหลักโหราศาสตร์ไทยเราจะให้ตำรามหาทักษาเป็นหลักในการพยากรณ์หรือแม้แต่จะใช้ในการตั้งชื่อหรือหาวันมงคลต่างๆ ซึ่งส่วนหนึ่งของตำรานั้นจะบอกว่าคนเกิดวันไหนไม่ควรทำงานมงคลในวันไหน อย่างคนเกิดวันพฤหัส จะไม่ควรทำงานมงคลในวันเสาร์ (เพราะเสาร์เป็นกาลกีณีของพฤหัส) ดังนั้นแล้วในการที่คนเกิดวันพฤหัสไปทำพิธีลงสักยันต์ในวันเสาร์5ที่จะมาถึงนี้จะถือเป็นกาลกีณีด้วยหรือไม่ หรือมีคติอื่นในการนำมาใช้กับเรื่องนี้

______________________________________________________________

คำตอบจากอาจารย์

ตำราที่ว่าด้วยศาสตร์ต่าง ๆ ในโลกนี้มีมากมาย บางศาสตร์ก็หนุนเนื่องซึ่งกันและกัน เช่น มนุษยศาสตร์กับสังคมศาสตร์ วิทยาศาสตร์กับแพทยศาสตร์ แต่บางศาสตร์ก็ไม่สามารถเอามาใช้ด้วยกันได้เลย เช่น วิทยาศาสตร์กับไสยศาสตร์

แต่ไสยศาสตร์กับโหราศาสตร์ เป็นศาสตร์ที่ต้องพึ่งพากันอยู่เสมอ เช่น เมื่อต้องการประกอบพิธีสำคัญบางอย่าง ก็ยังดูฤกษ์ยามมงคลเพื่อกำหนดเป็นวันประกอบการ เหตุที่ต้องทำดังนี้ เพราะต้องการอาศัย "อำนาจ" และ "พลังงาน" ของดวงดาวที่ทำมุมต่างรูปแบบกัน ก่อให้เกิด "พลังงาน" ที่ไม่ซ้ำแบบกัน อาทิ พลังร้อน พลังเย็น เป็นต้น ก็เอาพลังงานเหล่านั้นมาช่วยเสริมสิ่งที่จะทำขึ้นมา สมมุติว่าจะทำของขลังทางคงกระพันชาตรี มหาอุด มหาอำนาจ ก็จำเป็นต้องอาศัยพลังร้อน จึงควรหาฤกษ์ที่ดวงดาวทำองศากันแล้วเกิดเป็นพลังงานร้อนขึ้นมาส่งเสริม หากต้องการทำของทางเมตตา ก็หาฤกษ์ที่ดวงดาวทำองศากันแล้วเกิดเป็นพลังงานเย็น ดังนี้เป็นต้น

แต่เหนืออื่นใด ไม่ว่าจะศาสตร์ใดก็ไม่สำคัญไปกว่า "จิต"

ไม่ว่าพลังงานใด ก็ไม่เหนือไปกว่าพลังงานจาก "จิต"

พระพุทธศาสนา เป็น "ศาสตร์" ที่ว่าด้วยเรื่องของ "จิต" ล้วน ๆ เป็นการฝึกจิต พัฒนาจิต จนถึงขั้นสร้างพลังงานมหาศาลกระทั่งสามารถผลักตัวจิตเองให้พ้นออกไปจากแรงดึงดูดของโลกคือกิเลสทั้งหลายได้อย่างสิ้นเชิง เหตุนี้ผู้ฝึกตนอยู่ในพระศาสนาแต่ละท่านแต่ละองค์จึงมีอำนาจทางใจล้นเหลืออย่างที่ผู้ฝึกตนในศาสนาอื่นไม่มี

ทีนี้ถ้าถือเรื่อง "จิต" เป็นสำคัญ จะวันอะไรหรือวันไหน ๆ ก็ไม่มีผลอะไรกับ "จิต" แต่ถ้า "จิต" ไปจับเรื่องอื่นว่าเป็นสำคัญไปกว่า "จิต" ก็จะเกิดการยอมรับนับถือสิ่งภายนอกว่ายิ่งไปกว่าตัวเอง แล้วก็ลดการให้ความสำคัญกับตัวมันเอง เมื่อนั้นพลังงานทางใจก็จะลดลงไปเรื่อย ๆ ฉะนั้น ถ้าจะประกอบการสิ่งใดแล้วไม่ได้ฤกษ์ ไม่ได้อุปกรณ์ ไม่ได้มวลสารอย่างที่ "จิต" ไปยึดเกาะให้ความสำคัญมั่นหมาย "จิต" ก็จะหมดความเชื่อมั่น ท้อถอย ทำให้สร้างขลังอะไรไม่ออก

ทั้งที่สุดยอดของมวลสารและวันเวลาก็คือ "จิต" นั่นเอง

ทุกอย่างออกไปจากที่นี่ทั้งนั้น

อะไรเล่าที่ไปรู้จักว่า วันนั้น เวลานั้น มวลสารนั้นมันดี มันมีพลัง

ไม่ใช่ "จิต" หรอกหรือ ?

เพราะฉะนั้นครูบาอาจารย์ที่เป็นพระกัมมัฏฐานชนิดปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้นจึงไม่เคยให้ความสำคัญกับเรื่อง "มวลสาร" และ "ฤกษ์ยาม"

เพราะท่านรู้ว่า มันไม่สำคัญ

อันนี้ตอบโดยหลักธรรมชาติที่แท้จริงไปแล้ว


ต่อไปจะตอบแบบยึดมั่นถือมั่น

อันวันควรไม่ควรแก่การประกอบการสำคัญนั้นไม่ได้มีแค่วันกาลกิณี หากยังมีวันคู่มิตร-คู่ศัตรูอีกด้วย เดือนมิตร-เดือนศัตรู ปีนักษัตรมิตร-ปีนักษัตรศัตรู เมื่อเป็นอย่างนี้ เราจะหาฤกษ์ยามที่ดีแท้ถูกต้องอย่างไรได้ ถ้าจะชำระฤกษ์ให้บริสุทธิ์จริง ๆ ก็ยังมีข้อห้ามอีกมากมาย ทั้งวันฟู วันจม วันลอย วันธงไชย วันอธิบดี วันทักทิน วันกาลกรรณี วันวิปโยค แล้วยังมีทิศต่าง ๆ เข้ามาเกี่ยวข้องอีก หากจะทำให้ถูกถ้วนทุกขั้นตอนก็ตายพอดี ไม่ได้ประกอบพิธีอะไรหรอก คนเสกก็ตายก่อน คนหาฤกษ์ยามก็ตายก่อน

ดังนั้น คุณพ่อชุม ไชยคีรี จึงสอนพี่นักหนาว่า "ความสำคัญของนักไสยศาสตร์ที่ดีคือการฝึกจิตตนเองจนมีพลังงานที่แน่วแน่ นั่นคือการฝึกสมาธิและหมั่นท่องบ่นมนต์คาถาอย่าให้หลงลืม อีกทั้งระลึกถึงครูบาอาจารย์ให้แน่วแน่ มีความกตัญญูต่อครูบาอาจารย์ จงเชื่อครู สิ่งใดห้ามสิ่งใดทำก็จงประพฤติตามนั้น อย่านอกครู

เมื่อทำได้ดังนี้สรรพวัตถุที่เราสร้างขึ้นมาและปลุกเสกไว้จะไม่มีวันเสื่อมสูญหรือถูกคัดถอนได้ ส่วนเรื่องฤกษ์ยามวันเวลามงคลสำหรับประกอบพิธีให้ศึกษาไว้แต่พอประดับตัว เช่น ยามอัฐกาล เป็นต้น อย่าไปทุ่มเทลงลึกรายละเอียดเพราะจะเสียเวลาฝึกจิต หากอยากได้ฤกษ์ที่ดีจริง ๆ ก็ไปหาโหราจารย์เพราะนั่นเป็นหน้าที่ของเขา หน้าที่ของเราคือทำของขลัง"


พี่ไม่เคยลืม

แม้นักไสยศาสตร์ชั้นแนวหน้าของเมืองไทยอย่างท่านก็ยังไม่ให้ความสำคัญกับ "โหราศาสตร์" ว่าเป็นที่สุด แต่ท่านให้ความสำคัญกับ "จิต" ว่าเป็นที่สุดของทุกสิ่ง

ดังนั้น จะวันอะไรก็ไม่สำคัญดอก ขอให้คนทำเชื่อมั่น คนรับก็เชื่อมั่น

สิ่งมหัศจรรย์จะเกิดขึ้นทุกวัน.....


:grt: :grt: :grt:


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ 20 ม.ค. 2010 1:32 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 22 มิ.ย. 2009 10:19 am
โพสต์: 536
ยอดเยี่ยม กระเทียมโทนครับ

ขอบคุณคุณ Mann ที่แบ่งปันความรู้ และขอบคุณพี่ต่อด้วยครับสำหรับคำตอบ

_________________
085-8433717
https://www.facebook.com/BuMEvE


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ 20 ม.ค. 2010 6:14 pm 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ 08 พ.ย. 2008 5:10 pm
โพสต์: 340
อย่างที่ อ.ต่อ กล่าวมาถูกต้อง เรื่องวันเวลาที่ใช้ในไสยศาสตร์พ่อชุมสอนศิษย์ใช้เฉพาะ ยามอัฐกาลก็พอครับ อย่ามากความ มากตำรา จะพาไขว้เขว แต่ใช้ที่เราเรียนมา ที่เราลองทดสอบแล้ว เก็บเป็นประสพการณ์ แต่เมื่อเรามีบทเรียนที่มั่นใจแล้ว หากต้องประกอบพิธีใด โดยเฉพาะการเป็นเจ้าพิธี แล้วเห็นว่า ฤกษ์ยามที่เจ้าภาพกำหนดมา ไม่เป็นผลดี อย่ารับทำ เพราะถ้าเกิดไม่ได้ผล จะเสียถึงครูบาอาจารย์ได้ เรื่องฤกษ์ยาม เป็นหน้าที่โหรา ถ้าชวนให้จิตเขว หรือเราไม่เห็นดีด้วย ก็อย่าไปทำ เท่านั้นเองครับ
เคยไหม รอฤกษ์เดือนหน้า หลวงพ่อมรณภาพเดือนนี้ ผมเคยครับ ไม่ใช่ครั้งเดียวด้วย ถ้าผมเป็นคุณ ....สักโลด....

หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ ท่านไม่รอฤกษ์ ไม่มีบวงสรวง ไม่มีพิธี เสกเดี๋ยวนั้น ภายในครึ่งชั่วโมง ไม่มีวัตถุมงคลใด ที่จะทานทนไม่กระเด็นกระดอนโบยบินออกจากที่แม้แต่ครั้งเดียว อยู่ที่จิตผู้ทำ ดังที่ อ.ต่อ ว่ามาครับ ไม่ใช่ฤกษ์

ประโยชน์เป็นฤกษ์ของประโยชน์ ดวงดาวจักทำอะไรได้ ---พุทธพจน์


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ 20 ม.ค. 2010 10:13 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 6:00 am
โพสต์: 6586
ขอบคุณน้องบุ๋มที่ให้กำลังใจครับ

และขอบคุณคุณpoanที่กรุณาขยายความ ให้ได้ความรู้กว้างขวางเพิ่มขึ้นไปอีกครับผม :P

_________________
ถ้าเราไม่อยากได้อะไรจากใคร ก็จะไม่มีอะไรให้หมางใจกัน


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 21 ม.ค. 2010 12:09 am 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ 27 ธ.ค. 2008 11:11 pm
โพสต์: 331
:grt: คำตอบนี้ก็ตรงกับคุณพ่อประคองนะครับผมไปหาท่านทีไรท่านก้อถามว่าภาวนาไปถึงไหนแล้วละ ตัวฉันไปกราบท่านอาจารย์ฝั้น อาจาโรท่านก้อบอกว่า ..พุทโธ.. ตัวเดียวสำเร็จหมอทุกอย่างตำราที่เรียนมาเป็นตัวประกอบมนต์ที่มีมาก้อเป็นเครื่องประกอบให้มันสำเร็จไปเฉพาะทางถ้าจิตเราไม่ได้แล้วเสกอะไรๆๆๆมันก้อมไม่ขลังหรอก


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 21 ม.ค. 2010 1:12 am 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 6:00 am
โพสต์: 6586
ขอบคุณมากครับคุณjirayu2 :P

_________________
ถ้าเราไม่อยากได้อะไรจากใคร ก็จะไม่มีอะไรให้หมางใจกัน


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 21 ม.ค. 2010 1:43 am 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 11:16 pm
โพสต์: 1786
:P :P

เยี่ยมทุกกระทู้ครับ อ่านแล้วได้รับความรู้เพิ่มขึ้นเยอะเลย

ครั้งหนึ่งผมเคยเอาพระไปขอความเมตตาจากหลวงพ่อชำนาญช่วยเสกให้

ท่านหยิบพระขึ้นไปดูแล้วก็ไม่พูดอะไร

ระหว่างที่นั่งคุยกันไปเพลินๆ หลวงพ่อก็ใช้สองมือมาจับที่กล่องใส่พระ

นิ่งไปอึดใจแล้วผลักกล่องคืนกลับมาให้ผม

ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์นิ่งเงียบอย่าง งง งง

โดยส่วนตัว ผมเชื่อว่าหลวงพ่อเสกแน่นอน
ถึงจะไม่มีพิธีกรรม
ถึงจะไม่มีฤกษ์ยาม และ
ถึงแม้จะอึดใจเดียว
เพราะหลวงพ่อเคยบอกเสมอๆว่า

ใจสำคัญที่สุด”

เจ็บอะไร ยังไม่เท่าเจ็บใจเลยมึง”

ถามว่าพระชุดนี้มีประสบการณ์ไหม

ตอบว่า ไม่ทราบครับและก็ไม่ได้ติดตามผล

เพียงแต่ว่า.....

ออกจากวัดเห็นเพื่อนๆ แบบมือขอกันให้ตรึม
ผมถึงรู้ว่า

ถ้าไม่อยากเจ็บตัว ก็อย่าทำให้ใครเจ็บใจ”

ว่าแล้วก็หยิบแจกให้พวกๆ กันคนละองค์ สององค์.......

:wet: :wet:


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 21 ม.ค. 2010 1:45 am 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 11:16 pm
โพสต์: 1786
:ilu: :ilu:

ถามคุณอู๊ด อู๊ด บ้างดีก่า

เรียนคุณอู๊ดดี้ครับ

ผมมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่อง “เลิกยาม” ครับ คือตอนนี้ที่ทำงานผมไม่ค่อยเชื่อถือเรื่อง “ยาม
จึงได้ “เลิกจ้างยาม” ทำให้ผมต้องไปเป็นยามเฝ้าที่ทำงานแทน
แล้วอย่างนี้จะว่า “เลิกยาม” ไม่สำคัญได้อย่างไรครับ

รบกวนคุณอู๊ด อู๊ด ด้วยครับ

:smk: :smk:


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 21 ม.ค. 2010 1:49 am 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 6:00 am
โพสต์: 6586
เหวย ๆ re1.jpg


ชะชะ เหวย ๆ มีของดีแล้วไม่แบ่ง ส่งผอบโมรา เอ้ย พระหลวงพ่อชำนาญมาซะดีดี ถ้าไม่อยากเจ็บตัว

_________________
ถ้าเราไม่อยากได้อะไรจากใคร ก็จะไม่มีอะไรให้หมางใจกัน


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 21 ม.ค. 2010 2:37 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. 18 ก.ย. 2008 2:30 pm
โพสต์: 33
:pry:
เฝ้าแต่อธิฐานว่าจะมีอานิสงค์แผ่จากพี่ศิษย์กวงมาถึงบ้างไหม...

:shhy:


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: ศุกร์ 22 ม.ค. 2010 1:47 am 
ออฟไลน์
Administrator
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 08 ก.ย. 2008 11:37 am
โพสต์: 6391
ศิษย์กวง เขียน:
:ilu: :ilu:

ถามคุณอู๊ด อู๊ด บ้างดีก่า

เรียนคุณอู๊ดดี้ครับ

ผมมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่อง “เลิกยาม” ครับ คือตอนนี้ที่ทำงานผมไม่ค่อยเชื่อถือเรื่อง “ยาม
จึงได้ “เลิกจ้างยาม” ทำให้ผมต้องไปเป็นยามเฝ้าที่ทำงานแทน
แล้วอย่างนี้จะว่า “เลิกยาม” ไม่สำคัญได้อย่างไรครับ

รบกวนคุณอู๊ด อู๊ด ด้วยครับ

:smk: :smk:


ผมก็เคยเป็นยามอยู่พักนึงครับ ไม่ค่อยทราบเกี่ยวกับเรื่อง เลิกยาม เท่าไหร่ เพราะพออยู่ในชุดยามทีไร มันง่วงจนหลับยามทุกที :mrgreen: สงสัยจะเป็นอาถรรพ์ :lol: :lol:

_________________
089 969 9445 @ anytime
line ID navaraht


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 11 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 3 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO