นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน พุธ 17 เม.ย. 2024 4:18 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 22 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ 04 มี.ค. 2009 6:03 am 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 6:00 am
โพสต์: 6586
(จักรพันธุ์) re1.jpg


พระนารายณ์หรือพระวิษณุ เป็นเทวดาผู้ใหญ่ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในศาสนาพราหมณ์ หลายท่านอาจนึกว่าเป็นเรื่องแต่งหรือนิยาย แต่ในความเป็นจริงท่านผู้ปฏิบัติธรรมบำเพ็ญสมาธิในพระพุทธศาสนาทั้งฝ่ายบรรพชิตและฆราวาสต่างก็ได้เคยพบเจอกับพระนารายณ์มาแล้วหลายต่อหลายท่านด้วยกัน ซึ่งบางท่านก็เล่าถึงเหตุการณ์ที่ได้พบเจอ ว่าเพราะอะไร เพื่ออะไร ? แต่บางท่านก็เก็บงำเงียบด้วยกลัวคนจะหลงทางแล้วเข้าใจไปว่า นารายะ สรณัง คัจฉามิ ตามแบบคนไทย

แต่ความเป็นพระนารายณ์ก็มิได้ผิดไปจากไหน เพราะการจะเป็นเทวดาได้ก็รู้อยู่ว่าย่อมต้องสั่งสมคุณงามความดีมิใช่น้อยโดยเฉพาะเมื่อต้องขึ้นสู่เทวโลกชั้นสูงสุดคือ "ปรนิมมิตวสวัตตี"

แม้บางเรื่องอาจดูขัดหูคนไทยพุทธในเรื่องนารายณ์อวตาร แต่นั่นก็ควรรู้ว่าเป็นเรื่องที่ "ศังกราจารย์" พระอาจารย์เอกชาวอินเดียผู้นับถือพราหมณ์สุดโต่งแต่งขึ้น ยัดเยียดสิ่งต่าง ๆ เข้าสู่ประวัติของพระเป็นเจ้าเพื่อขยายวงแห่งความนับถือแล้วเปลี่ยนชื่อจากศาสนาพราหมณ์เป็น "ศาสนาฮินดู"
โบสถ์พราหมณ์ re2.jpg


ในแวดวงผู้เข้มขลังวิทยาคุณชาวพุทธ มองพระนารายณ์เป็นเทวะองค์หนึ่งที่สร้างคุณงามความดีไม่ต่างไปจากองค์อัมรินทราธิราชที่ก่อนเป็นพระอินทร์ก็เป็น "มฆะมานพ" ชวนพวกพ้องสั่งสมบารมีจนได้เกิดเป็นพระอินทร์ แล้วมีบทบาทมากมายในพุทธประวัติ

ในศาสนาพราหมณ์ก็มีพระอินทร์

ดังนั้น พระนารายณ์หรือพระอินทร์ก็เป็นเทพผู้สร้างความดีด้วยกันทั้งสิ้น เมื่อจะกราบไหว้บูชาก็บูชากันที่คุณงามความดีซึ่งนำไปสู่ความเป็นเทวะที่สำคัญยิ่งคือ หิริและโอตตัปปะ ความละอายต่อบาปและความเกรงกลัวต่อบาป หลวงพ่อกัสสปมุนีจึงให้ศิษย์จุดธูปบูชาเทพ 2 ดอก เพื่อแสดงความบูชาต่อคุณธรรมที่ทำให้เป็นเทพทั้ง 2 ข้อคือ "หิริโอตตัปปะ" ดังนี้ มิใช่จุดขึ้นเพื่อบูชาตัวเทพเอง

พระพรหมเป็นผู้สร้างรังสรรค์ พระนารายณ์เป็นผู้ป้องปราม และ พระศิวะ เป็นผู้ทำลาย

สามมหาเทพนี้เป็นใหญ่ในสวรรค์ เป็นเทพที่ได้รับการเคารพนับถือมากในอินเดียแล้วแพร่หลายมายังประเทศไทย ค่าที่คนไทยเป็นชาวพุทธและใจกว้าง จึงยอมรับนับถือในความเป็น "เทวะที่ดี" ของมหาเทพแห่งศาสนาพราหมณ์ได้โดยไม่ต้องทะเลาะกัน

แม้จะรับ...หากเมื่อเป็นชาวพุทธแล้วก็มีแต่พุทธัง ธัมมัง สังฆัง สรณังคัจฉามิ ไม่อาจรับใครมาเป็นสรณะที่พึ่งอันเกษมได้อีกต่อไป แต่ด้วยสติปัญญาอันชาญฉลาดผนวกกับโบราณาจารย์เป็นนักไสยศาสตร์ที่เก่งกล้าสามารถจึงผูกรูปพระนารายณ์เข้ากับพระคาถาแบบพุทธซึ่งเป็นพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ ได้อย่างแยบยลไม่ติดขัด และเมื่อปลุกเสกเรียกสูตรแล้วก็มีอภินิหารเป็นอัศจรรย์ เกิดเป็นวิชาใหม่ขึ้นมา

ทำให้แยกพุทธกับพราหมณ์ออกจากกันยากเย็นเหลือเกิน

re4.jpg



พระนารายณ์ จึงกลายเป็น "เครื่องราง" ชนิดหนึ่งของคนไทยมาแต่นั้น ครูบาอาจารย์ดึงเอาจุดเด่นของความเป็นพระนารายณ์มาใช้ คือความเมตตาปรารถนาให้ผู้อื่นเป็นสุข แต่ในขณะเดียวกันก็เด็ดขาด ไม่อ่อนข้อให้คนชั่ว หากใครถูกรังแกอย่างไม่เป็นธรรม ก็พร้อมจะลงมือปราบปรามได้อย่างฉับพลันทันทีเมื่อเห็นว่าผิดจริง ไม่รับสินบน ไม่เห็นแก่พวกพ้อง หากผิดเป็นอันว่าคนผู้นั้นต้องรับโทษ

นี่คืออุปนิสัยของมหาเทพองค์นี้

ภาพเขียนอินเดียสวยมาก re3.jpg



เครื่องรางซึ่งถือกำเนิดในนามของพระนารายณ์ จึงมีคุณวิเศษในทางแก้ไขสิ่งชั่วร้ายให้กลายเป็นดี ปราบคนร้าย คนพาล เทวบุตรมาร เทวธิดามาร และสยบภูตผีปีศาจ อำนาจมนตราอาถรรพณ์คุณไสย คุณผีและคุณคนอันเขากระทำมาก็ดี ลมเพลมพัดก็ดี ย่อมป้องกันแก้ไขได้ทั้งสิ้น และยังแก้เคราะห์สะเดาะห์เคราะห์ตามแนวทางลัทธิวิธีของพุทธตันตระได้อีกด้วย

รูปเคารพพระนารายณ์ จึงมิใช่รูปเคารพที่เป็นสรณะอันประเสริฐที่มีเป้าหมายไปทางพ้นจากทุกข์ หากเป็นรูปเคารพซึ่งเป็นที่พึ่งพิงในยามทุกข์ใจ ด้วยเหตุว่าเรื่องราวบางอย่างจะไปอ้อนวอนร้องขอพระรัตนตรัยอย่างไรได้ เช่น ผัวหน่าย เมียหนี แอบรักเขาอยากให้เขารัก ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ไปบนบานพระพุทธรูปหรือพระสงฆ์ได้หรือ พระวินัยบัญญัติชัดเจนว่า "ภิกษุชักสื่อให้ชายหญิงเป็นสามีภรรยากัน ภิกษุนั้นต้องอาบัติสังฆาทิเสส" ชักสื่อก็คือเป็นพ่อสื่อแม่ชักนั่นแล

เพราะฉะนั้น งานอันเกี่ยวกับโลกิยะก็ควรให้เป็นเรื่องของทวยเทพผู้ยังข้องแวะในกามเป็นผู้สงเคราะห์ ย่อมเห็นควรว่าเป็นหนทางที่ถูกมากกว่าจะเป็นพระรัตนไตร

พระนารายณ์ก็มีภรรยาเป็นโหล เรียกว่าทางเสน่หาเมตตามหานิยมก็ใช่เล่นเช่นกัน

เมื่อพระมหาวีรธรรม ธัมมวีโร คิดทำรูปเคารพแห่งพระนารายณ์ผู้เป็นเจ้า ท่านก็คิดทำขึ้นเพื่อเป็นเครื่องรางแบบหนึ่ง อุปมาเช่นรูปของหนุมาน นางกวัก กุมารทอง ราหู ฯลฯ ดังที่นิยมกันทั่วไปเช่นกัน เพียงแต่การสร้างเหรียญรูปเหมือนพระนารายณ์นั้นมีนัยยะแฝงเร้นเป็นธรรมะมากมายหลายประการมากกว่ารูปเคารพอย่างอื่น สุดแต่ผู้มีปัญญาจะพิจารณาเห็น ดังตัวอย่างที่ได้อธิบายไว้ในกระทู้ก่อนแล้ว
.jpg


การบวงสรวงที่จัดขึ้นอย่างถูกต้องและใหญ่โตสมเกียรติแห่งมหาเทพผู้เป็นใหญ่ในเทวโลก ณ บริเวณลานข้างพระอุโบสถวัดยานนาวา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2552 เชื่อว่าพระองค์ท่านต้องรับรู้และเสด็จลงมาร่วมพิธีพร้อมทั้งบันดาลด้วยอำนาจเทวฤทธิ์ให้ของในพิธีโดยเฉพาะรูปของพระองค์ท่านมีฤทธานุภาพ มีอำนาจ มีความศักดิ์สิทธิ์อย่างไม่ต้องสงสัย หลายสิ่งที่ปรากฏขึ้นในพิธีเป็นตัวบ่งชี้ได้เป็นอย่างดี

แม้ก่อนหน้าวันงานจะมีแดดร้อนเปรี้ยงจนใครต่อใครยังคิดว่าจะต้องไปผิวเกรียมอยู่หน้าเตาหลอมในพิธีแน่ ๆ หากเมื่อถึงก่อนวันงานเพียงหนึ่งวันกลับมีฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้ร่มเย็นไปทั่ว แต่วันเททองขณะที่พระมหาวีรธรรมออกไปธุระนอกวัดก็ยังได้พบกับฝนตกทั่วกรุง ทว่าเมื่อกลับมายังวัดยานนาวา ในบริเวณวัดและมณฑลพิธีนั้นไม่มีฝนแม้สักเม็ดเดียว มีแต่แดดร่มลมตกโชยพัดอยู่ตลอดเวลาคลายร้อนจากเตาหลอมอันระอุกรุ่นลงได้มากโข

และร่มอย่างนั้น เย็นอย่างนั้นอยู่จนค่ำมืดเสร็จพิธี

ใครจะว่าดีเปรสชั่นเข้าพอดี อะไร ๆ ก็พอดี ก็ว่าไปเถิด แต่ผมว่าเป็น "มงคลดี" ที่ใน "วันและเวลา" อย่างนั้นกลับเกิดเหตุการณ์ที่ "ดีกับเราทุกคน" อย่างนั้น...

นั่นแหละ ฤกษ์ดี

ความร่มเย็นใคร ๆ ก็ต้องการ พระเศรษฐีนวโกฏินำความชุ่มเย็นมาให้ เพราะน้ำคือชีวิต พระนารายณ์ปราบร้อนผ่อนเย็น สิ่งเหล่านี้คือนัยยะที่แฝงอยู่อย่างเป็นกำลังใจอันหนึ่งให้ผู้เลื่อมใสในสายทางนี้ หากจะเพียรอธิบายทุกสิ่งให้เป็นวิทยาศาสตร์เสียสิ้นก็ไม่ควรไปเททองหล่อพระ เช่าพระ และแขวนพระกันแล้ว

เพราะนั่นเป็นเรื่องที่วิทยาศาสตร์อธิบายไม่ได้ทั้งนั้น

รับรู้กันด้วยใจและประสบการณ์ตรง

แขวนคอ เงิน ด้านหน้า.jpg


แขวนคอ เงิน ด้านหลัง.jpg


เหรียญพระนารายณ์สิบกรมหาปราบถูกสร้างขึ้นอย่างบรรจง มีคนถามว่าทำไมต้องสิบกร ? ปกติพระนารายณ์มี 4 กร และทรงเทพศัสตราทั้ง 4 กร คือ ตรี คทา จักร สังข์ แต่เมื่อทรงอาวุธครบ 4 กรแล้วจะเอากรไหนมาประทานพรให้เรา จะเอากรไหนยื่นออกมาเพื่อรับการกราบไหว้บูชาจากเรา ?

10 กร แทน 10 ปาง

10 มือ ทำความดี 10 อย่าง

10 ครั้ง แห่งการก้าวลงจากบัลลังค์ สถานที่สถิตอันสูงสุดลงมาสู่ที่อันต่ำสุดเพื่อช่วยเหลือคนทุกข์

นี่คือน้ำใจ นี่คือเมตตา สองสิ่งดังกล่าวนี้มีอยู่ในพระพุทธศาสนาหรือไม่ ?

เทววิธี ย่อมต่างกับอริยวิธี


หากตำรวจต้องปราบคนชั่วด้วยปืน ด้วยกุญแจมือ ด้วยคุก ด้วยเรือนจำ พระอริยเจ้าก็ปราบคนชั่วด้วยธรรมะ ด้วยอภัย ด้วยเมตตา ด้วยเทศนา


เมื่อคุณได้พบกับคนชั่ว คุณเลือกที่จะปราบเขาด้วยคำด่าทอหรือการให้อภัย...

แขวนคอ นวะ ด้านหน้า.jpg


แขวนคอ นวะ ด้านหลัง.jpg



เหรียญนารายณ์สิบกรเป็นตัวแทนของการปราบสิ่งพาลทั้งด้วยความเด็ดขาดและความเมตตา อานุภาพที่สถิตอยู่ในเหรียญถึงพร้อมทุกทางอย่างที่คนบนโลกจะต้องการในการดำรงชีวิต เพราะเสกครอบคลุมไปหมด เป็นเหรียญมหาปราบที่ถูกแทรกด้วยโชคลาภและโภคทรัพย์เงินทองจากบารมีของพระนวโกฏิเศรษฐี

พิธีนี้ศักดิ์สิทธิ์จริง ๆ

แขวนคอ ตะกั่ว ด้านหน้า.jpg


แขวนคอ ตะกั่ว ด้านหลัง.jpg


รุ่นน้องผมคนหนึ่งได้รับอนุญาตจากพระมหาวีรธรรมให้นำบายศรีเทพกลับบ้านไปบูชาได้ เขากับภรรยาจึงตรงเข้าไปอุ้มทั้งพานมาจำนวน 1 คู่ เมื่อขับรถกลับถึงบ้านที่ศรีราชา และเปิดประตูรถเตรียมจะก้าวลงมา ก็ต้องชะงักอยู่กับที่ทั้งคู่แล้วมองหน้ากันเลิ่กลั่ก เพราะทันทีที่เปิดประตูกลิ่นธูปหอมตลบอบอวลก็โชยฉุนมาปะทะจมูกอย่างรุนแรง... แรงจนคิดว่า ณ ที่นั้นควรจะมีธูปปักอยู่เป็นกำ ๆ

แต่ก็ไม่มี

แม้จะวิ่งไปดูที่ศาลพระพรหมและพระภูมิว่ามีใครจุดธูปจำนวนมากมายขนาดนี้หรือไม่ ? ก็ไม่ปรากฏว่ามี กลิ่นธูปที่ตลบแรงนั้นอบอวลอ้อยอิ่งอยู่รอบบริเวณที่จอดรถนานหลายนาทีก็จางหายไป เขาอยู่ที่พักแห่งนี้มาหลายปีก็ไม่เคยมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นมาก่อนเลย

เมื่อได้สติก็โทรหาผมแล้วลงมือเล่าอย่างตื่นเต้น ผมบอกว่าไม่ใช่ภูตผีปีศาจมาหลอกหลอนดอก ก็เมื่อบายศรีเป็นตัวแทนของการบูชาเทพเทวาและท่านผู้ศักดิ์สิทธิ์ทั้งปวง เมื่อท่านลงมาจากข้างบนเพื่อร่วมงาน เพื่อแผ่เมตตาบารมี "พลังงาน" ของท่านเหล่านั้นก็จะติดอยู่กับสิ่งของเหล่านี้ด้วย ครูบาอาจารย์จึงสอนนักว่า เมื่อเสร็จพิธีแล้วของที่ไม่ได้ใช้ให้ลอยน้ำเสีย บายศรี ดอกไม้ ข้าวตอก ถั่วเขียว งา ฯลฯ ให้ลอยน้ำอย่าไปทิ้งขว้างที่ต่ำ

เพราะจะเป็นการไม่สมควร

ดังนั้นเมื่อเราเชิญบายศรีที่มี "พลัง" ของท่านผู้ทรงคุณธรรมสูงประทับอยู่กลับไป ผู้น้อยทั้งหลายซึ่งอยู่ต่ำกว่าท่านผู้ศักดิ์สิทธิ์เบื้องบนและอาศัยอยู่ในบริเวณนั้นร่วมกันกับเรา อาจเป็นเจ้าที่ เป็นภุมมเทวดา เป็นผีบ้านผีเรือนได้ทั้งนั้น ก็พากันมาต้อนรับบูชาซึ่งบายศรีมหามงคลที่เรานำมาด้วย แล้วพวกเขาก็ "แสดง" ให้เราได้รับรู้ด้วยการสัมผัสทาง "ฆานประสาท"

อยากถามเขาเหมือนกันว่าหากได้สัมผัสทาง "ฆานประทาท" แล้วไม่เป็นที่พอใจ แสดงว่าอยากจะได้ทาง "จักษุประสาท" อย่างนั้นหรือ ?

ทั้งสองคนเมื่อรับรู้อย่างนี้แล้วก็ดีใจว่าได้ของดีมาเข้าเรือนเพื่อบูชาเป็นสิริมงคล
ด้านหน้า.jpg


ด้านหลัง.jpg


เมื่อนำรูปเคารพพระนารายณ์เข้าเรือนแล้ว ให้จุดธูป 5 ดอกกลางแจ้งบอกกล่าวภูมิเจ้าที่เสียก่อนเป็นการแสดงความเคารพ เพราะเราไม่อาจรู้ได้ว่าเขาเกรงกลัวองค์พระวิษณุเจ้าแค่ไหน เดี๋ยวเขาจะว่าเราว่าเอาของทรงอานุภาพมาข่มเขาหรืออย่างไร ? เป็นที่ผิดใจกันไปเปล่า ๆ บอกผู้รักษาเรือนที่อาศัยอยู่ก่อนเป็นการดี
ขยาย ด้านหน้า.jpg


จากนั้นให้จุดธูปอีก 16 ดอกกลางแจ้ง อัญเชิญพระนารายณ์ผู้เป็นเจ้าเป็นใหญ่ให้เสด็จลงมายังเคหะสถานแห่งนี้ บอกชื่อนามสกุลของเราและคนในบ้านเราให้พระองค์รับรู้ เพื่อขอความคุ้มครองจากพระองค์

จากนั้นให้เข้าห้องพระหรือจุดที่จะตั้งจะวางรูปเคารพพระนารายณ์ จุดเทียนขาว 1 คู่ ขึ้นธูป 9 ดอก กล่าวคำบูชาพระรัตนตรัยเสียก่อนแล้วจึงว่า นะโม 3 จบ แล้วสวดคาถาบูชาองค์พระนารายณ์ดังนี้

- โอม นารายะ นะมะ ฯ. (9 จบ)

- โอม สัพพะอุปาทะ สัพพะทุกขะ สัพพะโสกะ สัพพะโรคะ วินาสายะ สัพพะศัตรู ปะมุจจะติ ฯ. (3 จบ)

- โอม นารายะณะเทวะตา สะทารักขันตุ ฯ. (3 จบ)


แต่ถ้าจะพกเหรียญนารายณ์สิบกรมหาปราบติดตัวไปข้างนอก ให้อาราธนาด้วยคาถาข้างบนให้เรียบร้อยเสียก่อนแล้วจึงสวดบทห้ามอาวุธ ห้ามภัย ปิดอันตราย ต่อท้ายดังนี้

- สัทถาธะนุง อากัฑฒิตุง ทัตวา วิสัชเชตุง นาทาสิ ฯ. (3 จบ)

ทำได้ดังนี้เป็นมหาแคล้วมหาคลาด ป้องกันอันตรายภูตผีปีศาจได้สารพัด เป็นมหากันดีนักแล


สำหรับผู้ที่ประสงค์จะถวายเครื่องสังเวยเป็นเทวตาพลี ของถวายนิยมใช้อาหารเจหรืออาหารมังสวิรัติที่ไม่เข้าเนื้อสัตว์ ผลไม้เป็นมะพร้าวอ่อนและสิ่งอื่น ๆ ตามที่เห็นสมควร ไม่ประสงค์สุรา โปรดดอกไม้สีเหลืองทั้งปวง อาทิ กุหลาบเหลือง ดาวเรือง เป็นต้น
ด้านหน้า.jpg


ด้านหลัง.jpg


หากได้บูชาเหรียญบาตรน้ำมนต์นารายณ์สิบกรมาแล้ว ก็ควรหาภาชนะสะอาดใส่น้ำสะอาด แล้วกระทำพิธีสวดบูชาดังกล่าวข้างต้น จึงอัญเชิญเหรียญน้ำมนต์ลงไปในภาชนะนั้น ก่อนวางลงก้นภาชนะให้เอาเหรียญวนรอบ ๆ ขันช้า ๆ 3 รอบ แต่ละรอบให้ภาวนาว่า โอม นารายะณะ เทวะตา สะทารักขันตุ ฯ.
ด้านหน้า.jpg


ด้านหลัง.jpg


เมื่อวางเหรียญลงก้นขันแล้วจึงอธิษฐานเอาตามประสงค์ เมื่อธูปหมดดอกพึงทราบว่าน้ำสะอาดนั้นได้กลายเป็นน้ำเทพมนต์อันศักดิ์สิทธิ์แล้ว ด้วยอานุภาพของพระรัตนตรัย ครูบาอาจารย์ที่ปลุกเสกเหรียญ และเทวานุภาพขององค์พระวิษณุเจ้า แม้ปรารถนาสิ่งใดหากไม่เกินอำนาจกรรมย่อมสมดังมโนปรารถนาทุกประการ
ขยาย ด้านหน้า.jpg


ขอให้ท่านที่ได้บูชาเหรียญนารายณ์สิบกรมหาปราบนี้มา ได้โปรดทำตามนี้ก็จักเห็นอานุภาพของพระเป็นเจ้าที่เอ็นดูมนุษยโลกดุจบิดาเอ็นดูบุตรพระองค์นี้ และประสบแต่ความสุขความเจริญ ปราศจากภยันตรายนานาประการ รุ่งเรืองอยู่ด้วยโภคสมบัติทั้งหลายตลอดกาลนาน

_________________
ถ้าเราไม่อยากได้อะไรจากใคร ก็จะไม่มีอะไรให้หมางใจกัน


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ 04 มี.ค. 2009 7:05 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร 16 ก.ย. 2008 11:16 am
โพสต์: 94
ขอบพระคุณหลายๆครับ สำหรับข้อมูลที่ดีมีประโยชน์ เหมือนได้กลับมาอ่านคอลัมน์ "นานาสาระกับพระเครื่อง" อีกครั้ง


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ 04 มี.ค. 2009 7:11 am 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 6:00 am
โพสต์: 6586
ขอบพระคุณครับคุณถั่วพู

ภาษิตจีนมีว่า "คนอยู่กระบี่อยู่ คนตายกระบี่ตาย"


ภาษิตผมมีว่า "คนอยู่คอลัมน์อยู่ คนตายคอลัมน์อยู่(ไหน ?)" :lol: :lol: :lol:



ทุกวันนี้จะหาของตัวเองอ่านก็ยังยากเลยอ่ะ :lol:

_________________
ถ้าเราไม่อยากได้อะไรจากใคร ก็จะไม่มีอะไรให้หมางใจกัน


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ 04 มี.ค. 2009 7:50 am 
ออฟไลน์
Administrator
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 08 ก.ย. 2008 11:37 am
โพสต์: 6391
หัวกระทู้จั่วเพียงว่า วิธีบูชา "เหรียญนารายณ์สิบกรมหาปราบ" วัดยานนาวา แต่เข้ามาอ่านแล้ว เนื้อหาแน่นปึ๊ก รายละเอียดครบครัน เหนือคำบรรยายจริง ๆ เบื้องหลังการโพสกระทู้ นอกจากความตั้งใจดีที่จะมอบความรู้ความเข้าใจให้กับผู้อ่านแล้ว ยังต้องอาศัยองค์ความรู้ ประสบการณ์ ความเพียร ความอดทน ที่มาหล่อหลอมร่วมกัน และ ตกผลึกกลายมาเป็นความรู้ผ่านตัวอักษร ให้คนอ่านได้รับรู้สาระดีดี


ขอบคุณครับ





ว่าแล้วไปเก็บเหรียญเพิ่มดีก่าาาาาาา :mrgreen:

_________________
089 969 9445 @ anytime
line ID navaraht


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ 04 มี.ค. 2009 7:55 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร 16 ก.ย. 2008 11:16 am
โพสต์: 94
พี่รณธรรมครับ คงต้องหาอาสาสมัครไปช่วยจัดบ้านให้แล้วล่ะครับ เผื่อจะได้เจอต้นฉบับ :mrgreen: :mrgreen: :mrgreen:


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ 04 มี.ค. 2009 8:04 am 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 6:00 am
โพสต์: 6586
เอ่อ คงไม่รบกวนหรอกครับ เพราะผมเป็นคนช่วยเหลือตัวเองมาตั้งแต่เด็กน่ะ :lol: :lol: :lol:

_________________
ถ้าเราไม่อยากได้อะไรจากใคร ก็จะไม่มีอะไรให้หมางใจกัน


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ 04 มี.ค. 2009 8:57 am 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 8:36 pm
โพสต์: 969
ขอบคุณพี่ต่อครับ

_________________
ดีใดไม่มีโทษ ดีนั้นคือดีเลิศ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ 04 มี.ค. 2009 10:24 am 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 5:09 pm
โพสต์: 1368
ชอบเหรียญนี้ครับออกแบบยันต์อลังการดีครับ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ 04 มี.ค. 2009 10:30 am 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 08 ก.ย. 2008 10:41 am
โพสต์: 1599
เป็นเรื่องราวที่ส่งเสริมความรู้ และส่งเสริมความอยากได้ดีแท้ๆ

ว่าจะหยุดแค่เหรียญเดียวแล้วนา...

ขอบพระคุณฮะ

คุณอารณธรรมฮะ เรื่องค้นหรือรื้ออะไรในบ้านคุณอารณธรรมเนี่ย เด็กลึกลับขออาสาฮะ

เพราะเด็กลึกลับถือภาษิตว่า

"ถ้าข้าไม่ลงนรก แล้วใครจะลงนรก"

คริ คริ คริ

เด็กลึกลับศึกษามาแล้วฮะ ว่าต้องไปตกที่ โรรุวนรก มีกำแพงเหล็ก 4 ด้าน ไฟลุกโชน จนหาเปลวไม่ได้ ยิ่งลึกมาก ก็ยิ่งร้อนมากขึ้นไปเรื่อยๆ
ตรงกลางขุมจะมีดอกบัวเหล็ก กลีบเหล็กถูกเผาไฟจนแดงโชน กระแสแห่งไฟพุ่งออกจากกลีบตลอดเวลา ไม่มีนายนิริยบาล สัตว์นรกจะถูกกรรมทำให้ต้องเอาหัวมุดลงไปในดอกบัว มือและขาก็จะจุ่มลงไปเช่นกัน กลีบบัวจะงับเข้ามาหนีบขาไว้ถึงข้อเท้า หนีบมือไว้ถึงข้อมือ ส่วนหัวจะหนีบไปถึงคาง เพื่อให้ไฟนั้นเผาอยู่ตลอดเวลา

คริ คริ คริ อยู่แค่ 4000 ปีนรกเองฮะ

_________________
ชาตินี้ไม่จริง ชาติไหนก็ไม่จริง


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ 04 มี.ค. 2009 8:30 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร 09 ก.ย. 2008 11:02 pm
โพสต์: 360
คุณเด็กลึกลับอธิษฐานขอขนาดนั้นเลยหรือครับ

_________________
Yesterday is history
Tomorrow is a mystery
And Today is a gift...
Thats why they call it the Present


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ 04 มี.ค. 2009 9:56 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 6:00 am
โพสต์: 6586
.gif


_________________
ถ้าเราไม่อยากได้อะไรจากใคร ก็จะไม่มีอะไรให้หมางใจกัน


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ 04 มี.ค. 2009 11:10 pm 
ออฟไลน์
Administrator
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 08 ก.ย. 2008 11:37 am
โพสต์: 6391
กร๊าาาาาาาก ๆ ๆ


ว่าแต่คุณ monny ลั๊น ลา นาน ๆ มาที คิดถึงจัง สอบเสร็จแวะมา ลั๊น ลา บ่อย ๆ นะครับ :D

_________________
089 969 9445 @ anytime
line ID navaraht


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 05 มี.ค. 2009 1:08 am 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 9:48 am
โพสต์: 937
ขอบคุณมากมายครับ :lcky: อ่านแล้วคิดถึง"นานาสาระกับพระเครื่อง"จังเลย อืม...ผมว่าน่าจะมีกระทู้ "นานาสาระกับพระเครื่อง" เพิ่มมาอีกนะครับไว้ลงเรื่องราวเกี่ยวกับกระทู้นี้โดยเฉพาะให้เป็นหมวดหมู่อ่านง่าย ส่วนกระทู้บทความก็ลงเรื่องราวต่างๆ....ดีไหมครับ...อย่างน้อยก็มีไว้ให้อาจารย์รณฯละเลงเต็มที่งัยหล่ะคร๊าบ

_________________
อันความสุขทางใจนั้นหายาก คนส่วนมากไม่ชอบแสวงหา
หวังแต่สุขเพื่อสนุกเพียงหูตา มันจึงพาชักจูงให้ยุ่งใจ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 05 มี.ค. 2009 3:06 am 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 10:40 am
โพสต์: 369
:grt: :grt: :grt:

ยังคงยอดเยี่ยมเหมือนเดิมครับ สำหรับบทความดีๆแบบนี้ มิเสียแรงเป็นแฟนพันธุ์แท้!!!!

page5_blog_entry38_1.jpg



ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 05 มี.ค. 2009 4:08 am 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 6:00 am
โพสต์: 6586
nongmai เขียน:
ขอบคุณมากมายครับ :lcky: อ่านแล้วคิดถึง"นานาสาระกับพระเครื่อง"จังเลย อืม...ผมว่าน่าจะมีกระทู้ "นานาสาระกับพระเครื่อง" เพิ่มมาอีกนะครับไว้ลงเรื่องราวเกี่ยวกับกระทู้นี้โดยเฉพาะให้เป็นหมวดหมู่อ่านง่าย ส่วนกระทู้บทความก็ลงเรื่องราวต่างๆ....ดีไหมครับ...อย่างน้อยก็มีไว้ให้อาจารย์รณฯละเลงเต็มที่งัยหล่ะคร๊าบ



เอ่อ...คุณnongmaiคร้าบบ ถ้าจะเปลี่ยนจาก "ละเลงเต็มที่" เป็น "บรรเลงให้เต็มที่" อย่างนี้ จะทำให้ผมดูดีมีสกุลมากกว่าไม๊คร้าบบ... :roll:

_________________
ถ้าเราไม่อยากได้อะไรจากใคร ก็จะไม่มีอะไรให้หมางใจกัน


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 05 มี.ค. 2009 4:10 am 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 6:00 am
โพสต์: 6586
ขอบคุณมากครับคุณbecknui ว่าแต่นั่นใช่คุณปัญญากับคุณbecknuiหรือครับนั่น ... :lol: :lol: :lol:

_________________
ถ้าเราไม่อยากได้อะไรจากใคร ก็จะไม่มีอะไรให้หมางใจกัน


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 05 มี.ค. 2009 12:29 pm 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 29 ก.ย. 2008 12:53 pm
โพสต์: 754
:grt: เยี่ยมครับ

_________________
.........ถ้าเจ้าได้ทุกอย่างอย่างที่คิด
ชั่วชีวิตจะเอาของกองที่ไหน
จะได้บ้างเสียบ้างจะเป็นไร
ช่างหัวใครช่างหัวมันเท่านั้นเอง ..........


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 05 มี.ค. 2009 1:45 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 08 ก.ย. 2008 10:44 pm
โพสต์: 99
images2.jpg

ยอดครับ!


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 05 มี.ค. 2009 3:31 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 08 ก.ย. 2008 10:41 am
โพสต์: 1599
หนูบอกแล้ว

ว่าพี่เค้า "แรง"

_________________
ชาตินี้ไม่จริง ชาติไหนก็ไม่จริง


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: ศุกร์ 06 มี.ค. 2009 1:05 am 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 6:00 am
โพสต์: 6586
.gif


_________________
ถ้าเราไม่อยากได้อะไรจากใคร ก็จะไม่มีอะไรให้หมางใจกัน


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 22 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 3 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO