ได้รับฟอร์เวิร์ดเมลล์จาก
พี่รณธรรม เกี่ยวกับเรื่องของ
"ครุฑ" เห็นว่ามีประโยชน์และได้ความรู้ดี จึงคัดมาลงให้พี่น้องนวรัตน์ได้อ่านกัน ขอขอบคุณทั้งคนถามและคนตอบมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
1 ครุฑมีจริงเหมือนพญานาคไหม ถ้ามีจริง แล้วทั้งสองเป็นเทพหรือป่าว เป็นเทพแบบใด ?
ตอบ
ครุฑมีอยู่จริงเหมือนนาค เช่นเดียวกับเงาที่มีอยู่จริงเมื่อปรากฏวัตถุ ทั้งสองเผ่าพันธุ์ดังกล่าวเป็น "กึ่งสัตว์กึ่งเทพ" เรียกว่าเสวยทั้งผลบุญและผลบาปที่ตนได้กระทำมาเมื่อครั้งที่อยู่ในภพภูมิก่อน ก็คือกุศลจำพวก "อุเปกขาสันตีรณอกุศลวิบาก" แปลว่า บุญที่มีบาปพัวพัน
แต่หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี วัดหินหมากเป้ง เคยปรารภว่า
"นาคเป็นเทวดาจำพวกหนึ่ง"
จำพวกหนึ่งดังว่า ก็คือจำพวกที่มีบุญแต่ก็มีบาปพัวพัน ไม่ใช่บุญที่บริสุทธิ์ทั้งหมด
ดังนั้น ทั้งครุฑและนาคจึงสามารถจำแลงรูปเป็นมนุษย์ก็ได้ เป็นเทพก็ได้ เป็นพรหมก็ได้ เป็นสัตว์ก็ได้ เป็นอะไร ๆ ก็ได้ทั้งนั้นตามแต่ตนปรารถนา เพราะมีกัมมวิปากฤทธิ์โดยชาติกำเนิด เช่นเดียวกับนกที่มีฤทธิ์เหาะไปในอากาศได้ฉั้นนั้น
นาคมีศรัทธาในพระพุทธศาสนามาก กระทั่งว่าอุตสาหะจำแลงกายมาเป็นมนุษย์ธรรมดาเพื่อออกบวช ครั้นบวชแล้วไปพักนอนกับเพื่อนพระ พอจิตหลับก็เผลอสติที่เคยกำหนดรูปให้เป็นมนุษย์ เพศภาวะจึงกลับคืนสู่ธรรมชาติดั้งเดิม คือกลายเป็นงูใหญ่ ทำเอาเพื่อนภิกษุร้องโวยวายหนีไปเข้าเฝ้าพระศาสดา ฝ่ายนาคก็ตกใจตื่นแล้วนิรมิตรูปขันธ์ให้เป็นมนุษย์ดังเดิม พระพุทธองค์ก็ตรัสให้เข้าเฝ้าแล้วสอนว่าบวชไม่ได้หรอก แต่ไม่ใช่เพราะใจดำ หากเพราะธรรมชาติของสัตว์โลกประเภทนี้ไม่ว่าจะปฏิบัติธรรมอย่างไรก็ไม่สามารถบรรลุธรรมได้เลย เพราะไม่ใช่เทพสมบูรณ์แต่เป็นกึ่งเทพกึ่งดิรัจฉาน นาคหนุ่มนั้นก็เสียใจ จึงขอแค่ฝากชื่อฝากนามไว้ในพระศาสนาให้คงอยู่เป็นอนุสรณ์ โดยให้เรียกบุรุษที่เข้ามาอุปสมบทก่อนเป็นพระสงฆ์ว่า
"นาค"
ถึงกระนั้นก็ยังเป็นพระวินัยว่า อุปัชฌาย์ กรรมวาจาจารย์ อนุสาวนาจารย์ จะต้องถามอันตรายิกธรรมกับนาคผู้มาบวชว่า "มนุสโสสิ" แปลว่า เธอเป็นมนุษย์หรือ ? 2 ครุฑมีเมืองอยู่แบบพญานาคไหม ?
ตอบ
ไม่เป็นเมือง โดยวิบากกรรมของครุฑแล้วมีวิมานที่สวยงามอยู่บนยอดไม้ชื่อว่า "ฉิมพลี" หรือ "ต้นงิ้ว" นั่นเอง อยู่อีกฟากหนึ่งของเกษียรสมุทรหรือทะเลน้ำนมในแดนปลายของสวรรค์ชั้นแรกซึ่งก็คือ จาตุมหาราชิกาภูมิ
เกษียรสมุทรนี้กว้างใหญ่ไพศาลนัก ขนาดว่าเทวดา คนธรรพ์ ฤๅษีบางจำพวกก็ยังจะเหาะข้ามไม่พ้น มีแต่พญาครุฑที่ทรงกำลังกล้าผวาปีกใหญ่โบกโบยข้ามไปได้โดยสะดวกดายตามลำพัง 3 แล้วครุฑกับพญานาค จริงๆ แล้วเป็นปฏิปักษ์กันหรือเปล่า ถ้าเป็น ๆ ชนิดเจอกันต้องฆ่ากินกันเลยหรือ สมมติถ้าเป็นเทพ ก็เท่ากับว่าหมดอายุขัยเพราะถูกฆ่าได้ เลยสงสัยว่าเทพก็ถูกฆ่าตายได้โดยไม่ต้องรอหมดอายุขัยอย่างนั้นหรือ ?
ตอบ
หนูกับแมวไม่ถูกกันโดยไม่ต้องรอใครเสี้ยมสอนฉันใด นาคกับครุฑก็ไม่ถูกกันโดยธรรมชาติดุจเดียวกันฉันนั้น การฆ่ากันจะไปอัศจรรย์อะไรครุฑกับนาค แม้คนไทยกันเองก็ยังฆ่ากันเพียงเพราะความเห็นไม่ตรงกัน เพื่อนกันไปกินเหล้าด้วยกันก็ยังต่อยปากกันคาวงเหล้า อยู่ต่อหน้าพูดภาษาคนเหมือนกันแท้ ๆ ยังพูดไม่เข้าใจ จะเข้าใจเรื่องบนหัวในสรวงสวรรค์อย่างไรได้
เรื่องสัตวโลก(สัด-ตะ-วะ-โลก)ฆ่ากันไม่ว่าจะประเภทใดก็ฆ่าแกงกันได้ทั้งนั้น เพราะยังตกอยู่ในกิเลสสามกองได้แก่ โลภ โกรธ หลง ทั้งหมดทั้งสิ้น ผู้ไม่ฆ่าใครแต่ยังถูกเขาฆ่าได้ก็มีเพียงพระอริยบุคคลสี่จำพวกคือ พระโสดาบัน พระสกิทาคามี พระอนาคามี และพระอรหันต์เท่านั้น
ส่วนผู้ที่ไม่ฆ่าใครและไม่มีใครฆ่าได้ไม่ว่าจะเพียรพยายามอย่างไร ก็มีแต่พระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์เท่านั้น เพราะนั่นคือพุทธบารมีของพระองค์เอง เป็นธรรมชาติบริสุทธิ์อย่างหนึ่งของท่านผู้สั่งสมกำลังมามาก ไม่มีใครประหารผู้เป็นพระพุทธเจ้าได้เลย
เป็นเช่นนั้นเอง 4 อาจารย์ต่้อไม่ค่อยพูดถึงเรื่องครุฑ พูดแต่เรื่องนาคบ่อย ๆ เพราะไม่ศรัทธาในคุณธรรมของพญาครุฑเหรอ แต่ถ้าไม่ดี ไฉนจึงนำมาใช้ในระบบของราชการ หรือเกี่ยวข้องกับพระเจ้าแผ่นดิน ถ้าว่าพญานาคมีคุณธรรมดีกว่า ก็น่าจะเปลี่ยนตราของระบบราชการใหม่เป็นตราพญานาคแทน เห็นด้วยไหม ?
ตอบ
ไม่เห็นด้วยเลย เพราะตราราชการหรือตราธงรถพระที่นั่งซึ่งจำหลักเป็นรูปครุฑนั้น เหตุเพราะอาศัยประเพณีความศรัทธาดั้งเดิมตามศาสนาพราหมณ์ที่เข้ามาในสยามประเทศว่าพระมหากษัตริย์ทุก ๆ พระองค์คือสมมุติเทพ เป็นเทพเจ้าที่อวตารลงมาเพื่อช่วยคนตกทุกข์ได้ยาก เทพเจ้าในศาสนาพราหมณ์ที่อวตารได้มีเพียงพระองค์เดียว
คือ พระนารายณ์
ตามเทวกำเนิด ระบุว่าพระนารายณ์กับครุฑเคยรณยุทธ์ต่อสู้กันถึง 7 วัน 7 คืนก็ยังไม่มีผู้ใดแพ้ชนะ เกิดการสมานฉันท์ทำข้อตกลงกันว่า เมื่อยามครุฑเข้าที่พักผ่อนพระนารายณ์ต้องนอนต่ำกว่า ดังนั้น วิมานของครุฑจึงอยู่บนยอดไม้ฉิมพลี แต่พระนารายณ์ต้องไปนอนบนหลังพญาอนันตนาคราชในสะดือทะเล
แต่เมื่อใดที่พระนารายณ์จะเสด็จไปกรณียกิจ ณ ที่แห่งใด ครุฑต้องมาเป็นพาหนะให้เสมอไป
จึงเกิดเป็นรูปนารายณ์ทรงสุบรรณ หรือนารายณ์ทรงครุฑนั่นแล
และเมื่อเชื่อกันว่าพระมหากษัตริย์คือปางหนึ่งของพระนารายณ์ ก็จำเป็นต้องใช้รูปครุฑเป็นสัญลักษณ์ในการ "ขับเคลื่อน" ดังนั้น รถยนต์พระที่นั่งซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จประทับจึงจำเป็นต้องมีธงครุฑปักอยู่เสมอไปและเรียกครุฑสัญลักษณ์นี้ว่า
พระครุฑพ่าห์
คำว่า พ่าห์ แปลว่า ผู้แบก หรือ ผู้ถือ ซึ่งมีรากศัพท์มาจากคำว่า พาหะ อันหมายความถึง ครุฑผู้เป็นพาหนะให้พระนารายณ์ หรือผู้ดำรงสภาวะเป็นนารายณ์อวตารนั่นเอง
ซึ่งก็คือ "ในหลวง" ของเรา
แล้วอย่างนี้จะให้เปลี่ยนได้หรือ ?
ส่วนนาค ก็ใช้เป็นสัญลักษณ์ของกรมชลประทานแล้วไง ซึ่งถือว่าเป็นหน่วยงานหนึ่งที่เป็น "ราชการ" คำว่าราชการก็คือ การงานของพระราชา เป็นหน่วยงานที่ทำงานแทนพระราชา ข้าราชการก็คือผู้รับใช้สนองงานของพระราชานั่นแล เข้าใจนะ
เรื่องของพญาครุฑที่ไม่พูดถึง เพราะครุฑไม่ค่อยมีศรัทธาในพระพุทธศาสนา หรือให้เรียกว่าไม่มีเลยจะถูกต้องกว่า พวกครุฑไม่ต่างจากคนเมาที่พูดว่าจะรักษาศีลให้ได้ขณะกำลังเมาจัด
พระพุทธองค์ทรงฝากพระพุทธศาสนากับพวกกายทิพย์ให้ช่วยดูแล ประกอบด้วยท้าวสักกะเทวราชหรือพระอินทร์ หมู่เทพทั้งปวงและเหล่านาคทุกตระกูล ไม่ทรงฝากกับพวกพรหม เหตุเพราะสุขเกินไปอยู่แต่ในฌานไม่นิยมลงมาคลุกคลีกับมนุษย์ ไม่ฝากฝังกับยักษ์และครุฑ เพราะเป็นพวกโหตะภัย ดุร้าย ไม่เจริญเมตตาจิตสม่ำเสมอเหมือนกายทิพย์จำพวกอื่น จึงดูแลมนุษย์และพระพุทธศาสนาไม่ได้
และนี่คือสาเหตุว่า ทำไมจึงไม่มีความจำเป็นต้องพูดถึงครุฑ
เหมือนคนที่เห็นโทษของสุรา ก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องมานั่งหาข้อดีและพรรณนาถึงความดีของสุรา 5 ครูบาอาจารย์สายปฏิบัติ ผมไม่เคยได้ยินองค์ไหนกล่าวถึงครุฑ ไฉนจึงเป็นเช่นนั้น ?
ตอบ
สามารถย้อนไปศึกษาได้ที่ข้อ 4
ุ6 วัตถุมงคลเกี่ยวกับครุฑที่ดัง ๆ มีไหม ใครเป็นคนปลุกเสก ?
ตอบ
มีครับ ในอดีตคือหลวงปู่เส็ง จันทรังสี วัดบางนา อ.สามโคก จ.ปทุมธานี
ขลังขนาดที่ว่าเหยียบไปบนหลังงูเห่าในทุ่งนา งูเห่ายังได้แต่กระหวัดรัดขาแต่อ้าปากกัดไม่ได้ก็แล้วกัน เอาเชือกผูกครุฑที่ปลายไม้ไปแหย่งู งูยังอ่อนเปียกเหมือนโดนเชือกกล้วยนอนนิ่ง หนีก็ไม่ได้ สู้ก็ไม่ไหว เป็นเหตุให้ครุฑของหลวงปู่เส็งเป็นที่นิยมมาก จึงราคาแพงและมีของปลอมเยอะพอ ๆ กับเหรียญสลึงที่ไม่มีใครต้องการแต่จะได้เกือบทุกทีที่เข้าเซเว่น 7 ผู้แขวนครุฑ หรือผู้ที่ได้วัตถุมงคลครุฑมาบูชา มีข้อห้ามอะไรเป็นพิเศษไหม ?
ตอบ
ที่ถามมาทั้งหมดนี้คงไปดูดวงมาแล้วและหมอดูกำชับให้หาครุฑมาบูชาจะได้ช่วยให้ดีขึ้น และตอนนี้ก็ได้มาแล้วอย่างนั้นใช่ไหม ?
ไม่ว่าคุณจะตอบอย่างไร ก็ขอบอกว่าครุฑไม่ใช่ผู้ที่จะไปฝากผีฝากไข้ไว้ได้ หากเราจะไม่เอาธรรมะล้วน ๆ ในการแก้ไขปัญหาและดำเนินวิถีชีวิตของเรา แต่มีประสงค์จะพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่น ๆ
ก็จะขอแนะนำว่าให้พึ่งพาสิ่งที่อยู่ในขอบเขตของพระพุทธศาสนา อย่าให้ออกไปไกล เช่น
- พระอริยสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีประพฤติชอบ ทำบุญด้วยแล้วบุญส่งผลมหาศาล รวดเร็วและมากมายยิ่งกว่าสมมุติสงฆ์ทั่วไป...
- พระสงฆ์ที่แก่กล้าในวิทยาคุณ อันสามารถใช้อำนาจจิตที่ฝึกฝนมาในการช่วยเหลือสงเคราะห์สงหาเราได้โดยวิธีการต่าง ๆ อันเป็นวิชาการ อาทิ อาบน้ำมนต์ ลงกระหม่อม เป่ากระหม่อม ลงทอง ฯลฯ
หรือแม้แต่พึ่งพาเทพดาผู้มีฤทธิ์โดยกำเนิดและเป็นเทวดาผู้มีสัมมาทิฏฐิ เช่น เทพบุตรที่รักษาองค์หลวงพ่อพระแก้วมรกต, พระสยามเทวาธิราช เป็นต้น
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ก็ยังขอยืนยันว่าทุกขณะในชีวิตของเราที่เคลื่อนไหวอยู่นี้ มีกรรมเป็นผู้ให้ผล มีกรรมเป็นแดนเกิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย ทุกวันนี้ไม่ว่าสุขหรือทุกข์ก็เป็นเพราะ "กรรม" เท่านั้นที่บันดาล เรายังไม่ตายก็เพราะกรรมมันยังเลี้ยงไว้
แต่มาตรึกตรองให้ดี ๆ อย่างลึกซึ้ง ก็จะพบว่าหลายเรื่องในชีวิตเราจะเป็นเพราะกรรมในอดีตส่งผลมาทั้งหมดก็หาไม่ หากเป็นจิตใจของเราเองต่างหากที่ดิ้นรนเกินความสามารถที่เรามี เราปรารถนาไปสารพัดสุดแต่จิตดวงนี้จะปรุงไป เมื่อไม่ได้อย่างที่ตั้งไว้ก็ทุกข์เอาหนักหนา ส่วนว่าจะทุกข์มากมายสาหัสเพียงไรก็ขึ้นอยู่กับ "ความยึดถือ" ว่าตนตั้งไว้เหนียวแน่นแค่ไหน ?
บางครั้งนึก ๆ แล้วก็เหมือนง่ายที่จะละ
บางครั้งไม่คิดอย่างสุขุมอะไรก็เหมือนยากที่จะวาง
จึงพอมองออกว่าที่สุข ๆ หรือทุกข์ ๆ อยู่นี้ก็ขึ้นกับ "คิด" ตัวเดียว นอกเหนือจากนี้ไม่มีเลย
ขนาดว่าเรื่องขี้กลาก ผมเคยโวยวายว่าใครเป็นคือคนที่ไม่สะอาด ทำตัวสกปรก อ้นมันยังหันมาบอกว่า ใครบอก คิดดูสิว่ามีใครเป็นขี้กลากบ้าง มีน้อยคนนักที่จะได้เป็น ไม่ใช่ได้มาง่าย ๆ นะ มีเงินเป็นล้าน ๆ ก็หาซื้อไม่ได้....
อืมม....จริงของมัน
มันอยู่ที่ "คิด" ตัวเดียวเท่านั้น...เท่านั้นจริง ๆ ...
เข้าสู่ระบบ 
สมัครสมาชิก
FAQ 
