นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน อังคาร 23 เม.ย. 2024 6:00 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ 14 เม.ย. 2010 12:05 am 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 08 ก.ย. 2008 10:41 am
โพสต์: 1599
พระครูสวัสดิ์ธรรมพินิต(ใย สุวัฑฒิโก)
วัดมะขาม ต.มะขาม อ.มะขาม จ.จันทบุรี

โดยรณธรรม ธาราพันธุ์


เมืองจันท์มีพระที่ได้รับคำยกย่องเป็น "ท่านพ่อ" อยู่ไม่กี่องค์ ที่รู้จักกันทั่วไปแม้มรณภาพไปนานแล้วคือ "ท่านพ่อลี ธัมมธโร" ซึ่งท่านได้ไปสร้างวัดที่เมืองจันท์นามว่า "วัดป่าคลองกุ้ง" ก็ด้วยข้อวัตรที่เคร่งครัด ปฏิปทาที่น่าเลื่อมใส และด้วยจิตตานุภาพที่เข้มขลัง คนจันท์จึงไม่เคอะเขินที่จะเรียกท่านว่า

"ท่านพ่อลี"

ก็ท่านพ่อลีนี้แหละทำให้ชาวไทยได้รู้จักกันว่าคนตะวันออกลงนับถือใครสุดใจ ก็ยกย่องเป็น "ท่านพ่อ" ซึ่งคล้ายคลึงกับคนใต้ หากนับถือใครจริง ๆ เขาจะถวายนามเป็น "พ่อท่าน" เช่น "พ่อท่านคล้าย" "พ่อท่านคลิ้ง" ฯลฯ

บางทีผมก็หลง ๆ ไปเหมือนกัน

เช่นเดียวกับคนเหนือ เคารพกันจริงเรียกเป็น "ครูบา" เช่น"ครูบาศรีวิชัย" "ครูบาพรหมา" ฯลฯ ส่วนภาคอีสานนับถือสุด ๆ ก็ว่า "ญาท่าน" หรือ "ญาพ่อ" หรือ "ญาคู" (ไม่ใช่ยาคูลท์นะ) แต่ภาคอีสานถ้าเรียกพระบวชใหม่ เขาเรียก ครูบา ฉะนั้นพระบวชใหม่ภาคอีสานหากไปเที่ยวเหนือกับญาติโยมทางอีสาน แล้วโยมเรียก "ครูบา..ครูบา" คนเหนือคงงงพิลึก

โอ้ เก่งจัง หน้ายังเดะ เดะ อยู่เลย

วันนี้ คนจันท์มีพระที่ได้รับสมัญญาว่าท่านพ่ออยู่สององค์ ที่ขึ้นชื่อลือชาคือ ท่านพ่อสมชาย ฐิตวิริโย วัดเขาสุกิม ต.เขาบายศรี อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ถ้าให้บรรยายสรรพคุณของท่านพ่อสมชาย

เกรงจะเอาทุเรียนไปขายสวนทุเรียน

กวนเก็บใส่ตู้เย็นไว้ก่อนดีกว่า

แต่องค์นี้เชื่อแน่ว่า เอาทุเรียนไปขายสวนมะพร้าว

ท่านพ่อใย สุวัฑฒิโก แห่งวัดมะขาม คนแดนมะขามถือท่านเป็นดุจเทพเจ้าแห่งอำเภอเลยทีเดียว คุณธรรมทั้งด้านการบริหารงานปกครองพระเณรและญาติโยม ยกให้ท่านเป็นหนึ่ง ด้านจิตตภาวนาก็ยกท่านเป็นหนึ่งได้อีกเช่นกัน

เมื่อปี พ.ศ. 2534 ท่านพ่อใยอายุครบ 89 ปี ทางคณะกรรมการวัดมะขามได้จัดสร้างวัตถุมงคลขึ้นมาใหม่อีกรุ่นมีทั้งรูปเหมือนบูชา ขนาดหน้าตัก 9 นิ้ว และ 5 นิ้ว มีทั้งพิมพ์นั่ง พิมพ์ยืน รวมถึงพระเครื่องมากมาย

โดยท่านพ่อปลุกเสกแบบบินเดี่ยวในพระอุโบสถ ในงานนี้ไม่มีใครทราบล่วงหน้า พระราชสิงหคณาจารย์ หรือ หลวงพ่อแพ เขมังกโร วัดพิกุลทอง ต.พิกุลทอง อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี ก็เข้ามากราบเยี่ยมท่านพ่อถึงที่พัก ทั้งที่ท่านทั้งสององค์ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลย ก่อนที่หลวงพ่อแพกำลังคุกเข่าจะก้มกราบนั่นเอง ท่านพ่อก็ลุกขึ้นคุกเข่าเช่นกัน ทันทีที่หลวงพ่อแพก้มกราบ ท่านพ่อก็กราบตอบ เลยกลายเป็นกราบคารวะใส่กัน เมื่อกราบเสร็จแล้วต่างองค์ต่างมองหน้าแล้วยิ้มน้อย ๆ อย่าง รู้กัน

เมื่อทักทายจนเป็นที่พอใจแล้ว หลวงพ่อแพ ก็เข้าไปในโบสถ์ขึ้นนั่งบนธรรมาสนซึ่งปูอาสนะอยู่แล้ว จากนั้นก็เริ่มอธิษฐานจิตปลุกเสกวัตถุมงคลทั้งหมดที่อยู่ในนั้น

น่าอัศจรรย์ไหมล่ะ

ไม่เคยรู้จักกัน ไม่เคยพบกัน แต่มาเยี่ยมกันโดยไม่ต้องนิมนต์ หลวงพ่อแพอ่อนพรรษากว่าพ่อท่านใย 3 พรรษา แต่เหตุไฉนท่านพ่อจึงต้องกราบหลวงพ่อแพในทันที อย่างนี้น่าจะเป็นเรื่อง...

...ของบุญบารมีกระมัง !

ท่านพ่อใยสร้างเหรียญรุ่นแรกเมื่อปี พ.ศ.2516 มีทั้งหมด 3 ชนิด คือเหรียญรูปเหมือนเสมาครึ่งองค์ เหรียญทรงกลมครึ่งองค์ และแหนบรูปท่านครึ่งองค์ทั้งหมดในปัจจุบันเป็นของหายากไปเสียแล้ว

วัตถุมงคลอีกอย่างหนึ่งที่ไม่ต้องอ้างกาลเวลาเพราะนับรุ่นไม่ได้นั่นคือ จุกยาฉุน จุกยาฉุนคือ ยาเส้นที่ท่านพ่อมักจะเอามาสีฟันแล้วเหน็บเอาไว้ที่ริมฝีปากบน นัยว่าทำให้ฟันทน แข็งแรง และปากหอม เป็นของแก้เหงาปากแทนหมากได้เป็นอย่างดี และของสิ่งนี้แหละที่สร้างชื่อเสียงให้กับท่านเป็นอย่างมาก

เพราะเมื่อยาจืดแล้วท่านตั้งท่าจะคายทิ้ง คนก็ตั้งท่าขอทันทีเหมือนกัน ครั้นเอาไว้แล้วก็เอาไปเลี่ยมแขวนกันด้วยถือว่าเป็นของขลังจากท่าน

ซึ่งมันก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ

หลายคนถูกยิงไม่เข้า ถูกแทงถูกฟันไม่เข้า หมากัดไม่เข้า งูฉกแต่อ้าปากไม่ขึ้น เรื่องเหล่านี้มีพบเห็นบ่อย ๆ ในแถบอำเภอมะขาม จนข่าวขลังของ จุกยาฉุน แพร่หลายไปทั่ว ใครมาต่างก็ปรารถนาสิ่งนี้เป็นลำดับแรก กระทั่งกลายเป็นสัญญลักษณ์ของท่านไป ดุจเดียจกับพ่อหลวงสงฆ์ จันทสโร วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย ที่มีจุกยาฉุนและน้ำปลาเป็นเอกลักษณ์

ปัจจุบันนี้ท่านพ่อใยไม่สามารถจะมอบจุกยาฉุนให้กับผู้มีศรัทธาได้อีกต่อไป เพราะท่านอาพาธด้วยโรคเกี่ยวกับสมองคล้ายกับหลวงพ่อชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง แม้ท่านพ่อจะพูดไม่ได้ เดินเหินไม่ได้ก็ตาม แต่จิตของท่านหาได้ป่วยตามร่างกายไม่ จิต ท่านตื่นอยู่เสมอ รับรู้การไปมาของศิษย์ รับฟังถ้อยคำได้เป็นอย่างดี

เพียงโต้ตอบด้วยคำพูดไม่ได้เท่านั้น

คราวหนึ่งคุณอภิรักษ์ จุฬาศินนท์ กับผมได้ขึ้นไปกราบนมัสการท่านที่วัดมะขาม เมื่อคุณอภิรักษ์ได้เห็นรูปหล่อขนาดบูชา 5 นิ้วของท่านพ่อ ซึ่งสร้างในปี พ.ศ. 2527 อันเป็นรูปหล่อที่สวยงามและพิธีดีเยี่ยมรุ่นหนึ่งก็เกิดอยากจะเช่าไว้บูชา ตามประสาของคนมีน้ำใจคุณอภิรักษ์ก็โทรศัพท์หาอาจารย์เบิ้มเพื่อสอบถามว่าจะเอารูปหล่อท่านพ่อไหม ?

อาจารย์เบิ้มตอบกลับมาว่าเอา คุณอภิรักษ์จึงเลือกรูปหล่อขึ้นมา 2 องค์และโดยที่ผมไม่ทราบ คุณอภิรักษ์ได้จดจำตำหนิรูปหล่อไว้แล้วในใจเพื่อแยกแยะว่าองค์ไหนของเขา องค์ไหนของอาจารย์เบิ้ม ผมเองก็เช่าด้วยองค์หนึ่ง

เมื่อเอารูปหล่อทั้งหมดไปถวายให้ท่านพ่อประสิทธิ์ประสาทให้ ท่านก็เอามือจับรูปหล่อทั้งหมดไว้นานพอสมควร แล้วท่านก็ยกขึ้นองค์หนึ่งยื่นมาข้างหน้า คุณอภิรักษ์ก็กรากเข้าไปรับรูปหล่อนั้นทันที ด้วยเข้าใจว่าเป็นองค์ของคุณอภิรักษ์เอง

แต่ท่านไม่ปล่อย

ประคองกันอยู่นานก็ไม่ปล่อยให้สักที คงถือค้างอยู่อย่างนั้น จนลูกศิษย์ท่านบอกกับผมว่า

คุณรับจากท่านพ่อสิ

ผมจึงยื่นสองมือเข้าไปรับ คราวนี้ท่านปล่อยอย่างง่ายดาย จากนั้นท่านก็หยิบขึ้นมาอีกองค์แล้วทำแบบเดิม คุณอภิรักษ์ก็เข้าไปรับ

ปรากฏว่าปล่อยทันที !

หยิบมาอีกองค์ยื่นให้คุณอภิรักษ์ ท่านก็ปล่อยให้โดยดีอีกเช่นกัน เหตุนี้สร้างความสงสัยให้กับคณะเราอย่างมากว่า ทำไมท่านทำอย่างนั้น ? แต่แล้วความสงสัยก็มอดมลายกลายเป็นความศรัทธาอย่างถึงขีด เมื่อก้มลงพิจารณารูปหล่อตรงหน้าของตน

เพราะรูปเหมือนแต่ละองค์ที่รับมานั้น คือ องค์ที่ทุกคนได้เลือกสรรไว้ในใจทั้งสิ้น

องค์แรกที่คุณอภิรักษ์เข้าไปรับแล้วท่านไม่ให้คือของผม องค์ที่สองที่ท่านให้คุณอภิรักษ์เป็นของคุณอภิรักษ์เอง และองค์ที่สามที่ยื่นให้เป็นของอาจารย์เบิ้ม

อย่างนี้น่าจะเรียกว่ารู้วาระจิตใช่หรือไม่ ?

ไม่ว่าจะวิจารณ์ไปเช่นไร ผลก็คือความเคารพศรัทธาในท่านพ่อใยเกิดขึ้นมาแล้วอย่างไม่ต้องสงสัย จากเดิมที่มีอยู่ 90 เปอร์เซ็นต์ คงเป็น 100 เต็มในวันนั้นเอง

ทุกวันนี้เครื่องมงคลของท่านพ่อซึ่งมีอานุภาพ พอจะคุ้มให้ท่านทั้งหลายได้อย่างแน่นอนยังคงมีตกค้างอยู่ที่วัด ท่านพ่อเองแม้จะพูดคุยไม่ได้ แต่ท่านยังคงทรงสังขารวัย 95 ปีให้เราได้เคารพ กราบไหว้บูชาอยู่ที่วัดเช่นกัน

22_16_77_2.jpg


22_16_77_1.jpg



หากท่านมีเวลาขอเชิญไปเที่ยวภาคตะวันออกแล้วเลยไปเยี่ยมท่านพ่อที่วัดมะขาม เมื่อไปถึงตัวอำเภอมะขามแล้ว ถามใคร ๆ ก็รู้จักกันทั้งนั้น วัตถุมงคลที่มีอยู่ก็ราคาไม่แพงแต่พุทธคุณเยี่ยมยอด

อย่ามัวไปตามกระแสนิยม เพี้ยง ๆ พ้วง ๆ ที่กลวงข้างในเสียจนลืมของดีของแท้อย่างนี้นะครับ เดี๋ยวจะหาว่าหล่อไม่เตือน

ตีพิมพ์เมื่อ วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2540

_________________
ชาตินี้ไม่จริง ชาติไหนก็ไม่จริง


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ 14 เม.ย. 2010 11:37 am 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 24 พ.ย. 2008 4:51 pm
โพสต์: 613
ขอบคุณครับ :grt: :grt: :grt:

_________________
"ความทุกข์มันเข้ามาได้เพราะเราไม่ภาวนา เมื่อภาวนาแล้ว มันก็หมดลง"


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 15 เม.ย. 2010 12:28 pm 
ออฟไลน์
Administrator
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 08 ก.ย. 2008 11:37 am
โพสต์: 6391
ขอบคุณมากครับ สำหรับความรู้ :D

_________________
089 969 9445 @ anytime
line ID navaraht


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 15 เม.ย. 2010 1:39 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 6:00 am
โพสต์: 6586
ขอบคุณมากครับที่กรุณาพิมพ์มาลงให้ได้อ่านกัน :P

_________________
ถ้าเราไม่อยากได้อะไรจากใคร ก็จะไม่มีอะไรให้หมางใจกัน


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 2 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO