พุธ 10 ก.พ. 2010 6:35 pm
		
			
			อภินิหารพระผงรุ่นแรก หลวงพ่อเพชร วัดแจ้ง ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี
โดย...รณธรรม ธาราพันธุ์หลวงพ่อเพชร เป็นพระนามของพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์องค์หนึ่งในจังหวัดปราจีนบุรี เหตุที่ได้รับการขนานนามเช่นนั้น เพราะพระเนตรทั้งสองข้างถูกบรรจุเพชรแท้น้ำงามขนาดใหญ่เท่าแววตาดำเอาไว้เป็นพุทธบูชา ชาวบ้านจึงเรียกชื่อกันไปตามจุดเด่นที่ได้เห็นในองค์พระ	
หลวงพ่อเพชร เป็นพระพุทธรูปที่ถูกขุดพบบริเวณทุ่งร้างใกล้ชายแดนไทย-กัมพูชา และได้อัญเชิญท่านเข้าประดิษฐานเป็นมิ่งขวัญแก่วัดแจ้ง  อันเป็นวัดที่
เจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) สร้างถวายไว้เพื่อบูชาพระพุทธศาสนา
		
			
 
			- หลวงพ่อเพชร วัดแจ้ง  ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี
 
			- วัดแจ้ง 01.jpg (9.74 KiB) เปิดดู 8656 ครั้ง
 
		
		 นับแต่หลวงพ่อได้ที่ประทับเป็นกิจจะลักษณะ ท่านก็เริ่มแสดงกฤษดาภินิหารช่วยเหลือผู้คนซึ่งทุกข์ร้อนเข้ามาบนบานศาลกล่าว ส่วนใหญ่มักพบความสำเร็จตามปรารถนาทั่วกัน ในแต่ละวันจึงมีศรัทธาประชาชนหลั่งไหลเข้านมัสการหลวงพ่อเพชรอย่างไม่ขาดสาย	
พระราชสังวรญาณ (พุธ ฐานิโย) แห่งวัดป่าสาลวัน อ.เมือง จ.นครราชสีมา เคยบอกกับผมว่า 
“พระพุทธรูปทั้งหลายที่มีอภินิหาร มีความศักดิ์สิทธิ์ได้นั้นเป็นด้วยอำนาจของเทวดาที่รักษาอยู่ และยิ่งคนไปกราบไหว้มากเท่าไร เทวดาก็ยิ่งมากันมากและศักดิ์สิทธิ์มากขึ้นเท่านั้น”	ผมถึง 
‘บางอ้อ’ ตอนนี้เอง	
ท่านยังบอกอีกว่า 
“บรรดาพระพุทธรูปทั้งหลาย ซึ่งเป็นองค์แทนพระบรมศาสดานั้นย่อมมีเทวดาเข้ารักษาดูแลทุก ๆ องค์”	ผมจึงเรียนถามว่า 
“แล้วถ้าเป็นพระพุทธรูปตามร้านสังฆภัณฑ์ที่ไม่มีการปลุกเสกทั้งองค์ใหญ่องค์น้อยล่ะครับ”	ท่านยิ้มแล้วตอบช้าชัดถ้อยชัดคำ
“มีเทวดาทุกองค์ แม้แต่พระพุทธรูปที่เขาพิมพ์ลงหนังสือพิมพ์ ก็ยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์เข้าไปคุ้มครองรักษา”	ความรู้ใหม่ที่สมควรเชื่อ เพราะผู้พูดเป็นองค์อุปัชฌาย์ เป็นผู้ทรงศีลบริสุทธิ์ เป็นผู้ปฏิบัติธรรมระดับสูง เป็นพ่อแม่ครูอาจารย์ของเรา และเป็นที่เราโง่เขลาไม่มีตาในจะรู้เห็นได้อย่างท่านนี้ ควรเชื่ออยู่
แต่ใจตัวดื้อมันก็ไม่อยากเชื่อเอาเสียเลย เพราะมันขัด ๆหูพิกล
ถ้าพระพุทธรูปมีเทวดาเข้ารักษาทุกองค์ ไม่ศักดิ์สิทธิ์กันไปหมดหรือไร เราก็กราบไหว้บนบานได้ทั่ว ไม่ต้องเจาะจงองค์นั้นองค์นี้ ได้แต่คิดหรอกน่ะ ไม่กล้าเถียงหรอก	จนได้เจอกับตัวเอง...	
บ้านผมเป็นหอพักหญิงล้วน ตึกมีทั้งหมด 3 ชั้น แต่ละชั้นจะมีห้องน้ำรวมชุดใหญ่อยู่ใกล้บันไดขึ้น-ลง บริการของเราอย่างหนึ่งที่มีให้คือ ตัดกระดาษหนังสือพิมพ์รายวันไปเรียงร้อยไว้ให้สาว  ๆ... ขออภัยใช้ห่อผ้าอนามัยครับ โดยหน้าที่นี้จะเป็นของคนรับใช้ในบ้านทำทุกวัน
ค่าที่เป็นหอพักหญิง ผมจึงไม่เคยเหยียบย่างขึ้นไปชั้น 2 และ 3 เลย หากไม่มีกิจจำเป็นหนักหนา เช่น ซ่อมหลอดไฟ, ท่อประปา ฯลฯ
บ่ายวันหนึ่ง ขณะที่ผมนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องชั้นล่าง ผมแว่วเสียงคนเรียกชื่อแผ่วเบาที่ทำให้ผมขนลุกคือ ผมไม่ได้ยินด้วยหู แต่มันเหมือนดังอยู่ในหัวผม ดังอยู่ในความคิดที่ไม่ได้คิดว่า
“ต่อ...ต่อ...ขึ้นไปข้างบนหน่อย”ผมพยายามแยกแยะว่าเสียงเรียกนั้นเป็นจิตไร้สำนึกซึ่งบงการไม่ได้หลอกเอา หรืออะไรบางอย่างที่เป็นของจริงกำลังหลอก ขณะที่ใช้สติวินิจฉัยอย่างเข้มข้นอยู่นั้น เสียงพูดซึ่งเหมือนกู่จากที่ไกลก็แว่วขึ้นมาอีกด้วยประโยคใหม่ว่า
“ขึ้นไปข้างบน...ขึ้นไปข้างบน”ถึงตอนนี้ผมมั่นใจแล้วว่าผมไม่ได้คิดเองพูดเอง ผมจึงลุกออกจากห้องในทันที ไม่ใช่อยากทำตามสั่งนั่นดอก แต่ลงแบบนี้อยู่คนเดียวมันดีเสียเมื่อไร
ผมจึงออกมายืนหันซ้ายหันขวาแบบไม่รู้ทางไปอยู่หน้าห้อง จู่ ๆ ก็รู้สึกเลื่อนลอยอย่างไรไม่รู้สาเหตุ ความเป็นดังว่าผมคงไม่อาจบรรยายให้ทราบได้เพียงจะย้ำว่ารู้สึกใจลอยไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเอง แต่ผมรู้สึกตัวตลอดเวลาว่าคิดอะไรและกำลังจะทำอะไร
ผมก้าวเท้าขึ้นบันไดหอพักไปเรื่อย ๆ อย่างไม่รู้ที่หมาย ขาพาเลี้ยวขวาตรงเข้าห้องน้ำไปเลย ผมตกใจ เฮ้ย! มาทำอะไร ถ้าสาว ๆ ออกจากห้องน้ำมาเจอผม คงย้ายหอกันหมด คิดจะหันหลังกลับ มือเจ้ากรรมก็เอื้อมไปกระตุกกระดาษหนังสือพิมพ์ห่อผ้าอนามัยออกทีละแผ่น...ทีละแผ่น...
สาบานได้ว่าทุกแผ่นที่กระชากหลุดออกมา ผมถามตัวเองอยู่ในใจว่า “กูทำอะไรอยู่ว่ะนี่”  ฉีกหนังสือพิมพ์ออกราว 4-5 แผ่นได้ ครั้นแผ่นสุดท้ายถูกกระชากลง ผมก็ตะลึงสุดขีด สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเป็นแค่กระดาษอาบมันอย่างดี เป็นภาพสีธรรมชาติ ขนาด 10x13 นิ้วก็จริง แต่รูปที่ทำให้ผมเข่าอ่อนคือ...
หลวงพ่อสุโขทัยไตรมิตร!!
		
			
 
			- หลวงพ่อสุโขทัยไตรมิตร (หลวงพ่อทองคำ) วัดไตรมิตรวิทยาราม เขตสัมพันธ์วงศ์ กรุงเทพมหานคร
 
			- วัดไตรมิตร 03.jpg (35.14 KiB) เปิดดู 8655 ครั้ง
 
		
		 พระพุทธรูปทองคำบริสุทธิ์ทั้งองค์ขนาดมหึมาทรงสุโขทัยที่เหลืออยู่ลำพังพระองค์เดียวในประเทศไทย แห่งวัดไตรมิตรวิทยาราม
อนิจจา! พระพุทธรูปแห่งประวัติศาสตร์ชาติไทย ถูกนำมาขึ้นเขียงรอสับยำอย่างนี้ละหรือ ที่สำคัญดันมาเกิดเรื่องเลวร้ายแบบนี้ในบ้านผมเอง คำว่า ‘มือสั่น’ เป็นอย่างไรผมได้รู้วันนั้นแหละ
ผมดึงภาพท่านออกมาอย่างเร็วแล้วก็ช้อคเป็นคำรบสอง เมื่อกระดาษข้างหลังรูปหลวงพ่อมีแต่รูปพระ...พระ...พระ...แล้วก็พระ โธ่! จะไม่ให้พระได้อย่างไร ก็คนใช้มันดันตัดเอาหนังสือพระเครื่องฉบับเก่าของผมมาหมดเลย
เวรกรรมผมหอบเอารูปพระปึกใหญ่แทบจะเหาะลงมา ถ้าไม่ใช่ต้องระงับโทสะถึงที่สุดคงบ้านแตก ผมเทศน์อยู่เป็นชั่วโมง สงสัยว่าเขาทำลงคนได้อย่างไร ตอนตัดมันคิดอะไรอยู่ (วะ) ไม่ใช่จะทับถมกันนะ แต่ไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมชีวิตเป็นได้แค่คนรับใช้ ขนาดพระมันยังไม่รู้จักน่ะคุณ
เมื่อเมฆหมอก (แห่งความซวย) พัดผ่านไปแล้ว ผมก็มาตรึกตรองดูว่าใครหรืออะไรที่เรียกผมให้ขึ้นไปทันเวลา ก่อนที่นักศึกษาสาวจะไม่ดูตาม้าตาเรือดึงกระดาษไปห่อ...โอ้! ไม่อยากคิด ทั้งคนห่อ คนตัดให้ห่อ และผู้ทำกิจการจนมีการห่อ คงวอดไปตาม ๆ กัน
นรกร้อน ๆ นั่นแลผมเลยได้เข้าที่สวดมนต์ภาวนาขอให้อโหสิกรรม และขอบพระคุณใครก็ได้ที่อาจรวมเรียกว่า 
‘สิ่งศักดิ์สิทธิ์’ ซึ่งยื่นมือเขามาช่วยเหลือครอบครัวผม และยังทำให้ผมเกิดความเชื่อแบบไม่ลังเลอีกแล้ว ในคำของพระอุปัชฌาย์ที่ว่า
“แม้รูปในหนังสือพิมพ์ ก็มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์เข้าไปรักษา”	
		
			
 
			- พระผงผสมว่าน รุ่นแรก ปีพ.ศ.2512 หลวงพ่อเพชร วัดแจ้ง ปราจีนบุรี (ด้านหน้า-ด้านหลัง)
 
			- วัดแจ้ง รุ่น 1.jpg (31.09 KiB) เปิดดู 8546 ครั้ง
 
		
		 คุณ ส. บางคล้า นักเขียนลือนามแห่งนิตยสาร 
‘นะโม’ ได้เคยสัมภาษณ์ 
คุณโกวิท วัฒนกุล ดาราชื่อดังซึ่งประสบกับอภินิหารของหลวงพ่อเพชร แห่งวัดแจ้ง จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเรื่องนี้มีความเหมือนกับเรื่องของผมในแง่ที่ว่า 
‘ไร้รูป แต่ลงมือได้’ ผมจึงขออนุญาตนำมาถ่ายทอดเพื่อเทิดกิตติคุณในหลวงพ่อเพชรอีกครั้ง
คุณ ส. - “เคยได้พบอภินิหารอะไรไหมครับเกี่ยวกับพระที่แขวน”	
คุณโกวิท - “มีครับ เป็น
หลวงพ่อเพชร วัดแจ้ง ปราจีนบุรี นั่นเห็นมาสามหนซ้อน ๆเลย เป็นของที่พ่อตาถอดออกจากคอให้ผมเลย”	
คุณ ส. - “อุบัติเหตุที่ว่าน่ะ แบบไหนครับเล่าให้ฟังสักนิดซิ”	
คุณโกวิท - “ขับรถชนกัน เชื่อมั๊ยของเค้านี่ขาดสองท่อนเลย ของผมแค่หัวบิ่นเท่านั้นเอง ตอนไปถ่ายหนังเรื่อง 7 พระกาฬ ที่สระบุรี พุ่งใส่กันเลย ของเขาขาดสองท่อน รถผมพุ่งเข้าเสียบกลางไม่เป็นอะไรเลย จะชนสุนัขก็เคย เรื่องมันประหลาดมาก กลางคืนผมเห็นสุนัขตัวใหญ่มาก ตอนแรกเห็นนึกว่าควาย แต่พอเข้าไปใกล้ถึงได้เห็นว่าเป็นเจ้าตูบ ไม่รู้ว่าอะไรทำให้เห็นอย่างนั้น ผมตกใจมากเลยหักหลบลงไปข้างทาง แต่ก็ไม่เป็นไรอีก”	
คุณ ส. - “มีอีกไหมครับ เรื่องตื่นเต้นอย่างนี้”	
คุณโกวิท - “มีครับ ผมว่าหลวงพ่อเพชร ทั้งนั้นแหละ”	
คุณ ส. - “ที่ไหนครับ”	
คุณโกวิท - “ตอนไปถ่ายเรื่องกระท่อมนกบินหลาที่ จ.นครศรีธรรมราช นั่งรถไฟเลยทีเดียว ฉากรถไฟ ผมต้องกระโดดเกาะรถไฟ วันนั้นเขาขอรถไฟได้แล้ว แต่ปรากฏว่ารถไฟเบี้ยวไม่ให้ถ่าย แต่งานทุกอย่างเขาเตรียมไว้แล้ว ก็ต้องถ่าย เอาเป็นว่าเล่นกับของจริงเลย รถไฟวิ่งมาผู้กำกับเขาก็ให้ผมกระโดดเกาะ ปรากฏว่าผมพลาดมือจับไม่ติด หล่นตุ้บลงไป พอดีเลย มันลงไปตรงช่องบันไดรถไฟ หัวผมติดพื้นรางเลย ถ้าโผล่มานิดเดียวเท่านั้นหัวขาดไปเลย ทุกคนร้องกันลั่นสถานีคิดว่า ยังไงผมก็ต้องตายแน่”	
คุณ ส. - “ตอนนั้นรู้สึกอย่างไรบ้าง”	
คุณโกวิท - “เออ! มันแปลกนะครับ ตอนนั้นผมมีความรู้สึกว่ามือใครก็ไม่รู้มากดหัวผมไว้ ผมกระดกหัวไม่ขึ้น ถ้าขึ้นมาก็...ป่านนี้ไม่มีโกวิทแล้ว รถไฟมันยาวตั้ง 15 โบกี้ ผมว่านี่แหละ อภินิหารหลวงพ่อเพชร ที่พ่อตาให้มา”
เป็นอย่างไรครับ เรื่องคุณโกวิท วัฒนกุล พอจะยืนยันถึงความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อเพชรได้ไหม ที่คุณโกวิทแขวนอยู่นั้นเป็นรุ่นแรก แต่ที่วัดสร้างใหม่เขาก็มีพิธีดีและเป็นรูปหลวงพ่อเหมือนกันความศักดิ์สิทธิ์เชื่อว่าไม่แตกต่างกันเลย ใครศรัทธาเชิญที่วัดแจ้งโดยตรง คงสมหวังกันทุกคนนี่คือพระที่คุ้มภัยได้แน่นอนองค์หนึ่งครับบทความนี้ได้ตีพิมพ์เมื่อ วันที่ 1 มิถุนายน 2542