นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน พฤหัสฯ. 25 เม.ย. 2024 1:32 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: เนื่องด้วยหลวงตา
โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ 10 ก.พ. 2010 6:19 pm 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร 16 ก.ย. 2008 11:16 am
โพสต์: 94
เนื่องด้วยหลวงตา
โดย...รณธรรม ธาราพันธุ์


ในปัจจุบันเป็นที่ยอมรับกันไปทั่วว่าหลวงตามหาบัว วัดป่าบ้านตาด เป็นหลักชัยที่มั่นคงแข็งแรงที่สุดแล้วในสายพระกัมมัฎฐาน ดังคำรับรองของท่านพระอาจารย์ใหญ่มั่น ภูริทัตโต ที่ว่า

“สิ้นเราแล้ว เอาท่านมหาเป็นที่พึ่งของหมู่คณะต่อไป”
สมจริงทุกประการ
03.jpg


ธรรมะของหลวงตามหาบัวเป็นธรรมที่ตรงต่อธรรมโดยแท้จริง ไม่เคยเคลือบแฝงความตลบหลังลวงโลกดังเช่นที่ภิกษุหลายรูปทำกัน ไม่เคยเทศน์ด่าคนโน้น จิกคนนี้ออกทางสื่อต่าง ๆ ไม่เคยเทศน์เสียดสีใครให้สะใจคนฟัง และไม่เคยเทศน์เหยียบย่ำทำลายคนอื่นเพื่อยกตนขึ้นให้สูง

ธรรมะของท่านจี้ลงที่ใจคนฟังล้วน ๆ ไม่สะเปะสะปะไปไหน กำหนดลงให้คนผู้ฟังโดยเคารพทั้งหลายนั้นได้นำธรรมที่ท่านแลกมาด้วยชีวิตไปพิจารณาแก้ไขข้อบกพร่องที่ตนมี จะได้เป็นผลประโยชน์แก่ตน แก่คนรอบข้าง และสังคม

สำคัญที่สุดคือ “ดัด” ตัวเองนั่นเอง

เมื่อท่านเชิดชูบูชาธรรมโดยสุดส่วนของหัวใจ ท่านจึงให้ความสำคัญต่ออรรถธรรมที่ท่านถ่ายทอดเพื่อเป็นคติแบบอย่างแก่สัตวโลกเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นหนังสือธรรมะ และเทปแสดงธรรมของท่านทั้งหลายทั้งปวงจึงไม่เคยนำมาแปรรูปเป็นเม็ดเงินให้กับวัดป่าบ้านตาด แต่แปรรูปเป็น ‘ธรรมทาน’ อันยิ่งใหญ่ เพื่อยกชูดวงใจของสัตว์ทั้งสิ้นที่ ‘โอปนยิโก’ คือ น้อมเอาธรรมของท่านมาปฏิบัติ

ท่าน ‘ให้’ อย่างไม่เลือกชั้นวรรณะ ฐานันดร ยศ ศักดิ์ เพศ วัย ตลอดชีวิตของท่านมีแต่ให้อย่างเมตตาในทุกผู้คนที่ถูกไฟกิเลสเผาลนชนิดดับไม่เป็น ในเมื่อไฟนี้เกิดขึ้นที่ ‘ใจ’ ท่านจึงให้ความสำคัญต่อการอบรม ‘ใจ’ ดวงนี้เป็นที่สุด ดังท่านกล่าวว่า

“เราเห็นคุณค่าของการอ่านหนังสือทางด้านธรรมะเป็นสำคัญ อ่านทางโลกมันมีฉากหน้าฉากหลัง สุดท้ายก็ฉากหลังนั่นแหละทำลาย ฉากหน้าเป็นเครื่องล่อหูล่อตาล่อใจไปหน่อย ๆ ฉากหลังนี้สำคัญ แทงเข้าไปเลย เสียมากต่อมาก แต่เมื่อไม่มีใครคิดทางเรื่องเสียแล้วก็ มันจะเสียขนาดไหนก็ไม่สน มีแต่บืนหน้าไปเรื่อย ๆ ความฉิบหายก็ไปเรื่อย ๆ เหมือนไฟลามทุ่ง

ส่วนที่เป็นสาธารณะประโยชน์ก็มีไม่ได้ปฏิเสธ แต่ผู้ที่อ่านส่วนมากมักอ่านด้วยความเพลิดเพลินละซิ ไม่ได้อ่านเพื่อสารประโยชน์อะไรนักนะ ยิ่งเป็นเด็กหนุ่มเด็กสาวด้วยแล้วคึกคะนองนี้ โอ๊ย เป็นบ้าไปเลยเทียว บ้าสด ๆ ร้อน ๆ ยิ่งเห็นโป๊ ๆ เป๊ ๆ ด้วยแล้ว ยิ่งไปใหญ่เลยนะ ลืมนุ่งซิ่นนุ่งผ้านั่นแหละ วิ่งเป็นบ้าเหมือนหมา นี่ละอำนาจของกามตัณหามันใช่เล่นเมื่อไร มันเคยทำลายโลกมามากต่อมากแล้ว อันไหนก็ไม่รุนแรงเหมือนอันนี้ อันนี้รุนแรงมาก ไม่ว่าสัตว์ว่าคน ถ้าอันนี้ลงได้บีบหัวใจแล้วอยู่ไม่ได้ ต้องดิ้นเทียว

ท่านจึงให้มีน้ำ คือ ธรรมะ อ่านธรรมะ ฟังธรรมะ อบรมธรรม เพื่อดับไฟในใจ เพราะสิ่งที่ทำให้เพลิดเพลินนั้นเป็นสิ่งที่มีพิษภัยและความโศกเศร้าแฝงอยู่ในนั้น จึงนำธรรมะเข้าไปชะล้างในจุดนั้น เปิดออกเพื่อเห็นโทษของมัน ถ้ามีแต่สิ่งเหล่านี้ถึงจะมีโทษขนาดไหนก็ไม่ได้เห็นโทษ เพราะไม่สนใจดูโทษ พอธรรมะส่องเข้าไปปั๊ป ก็เห็นโทษของมันมากน้อย เห็นเรื่อย ๆ เห็นหลายครั้งหลายหนก็มีกำลังมากและปราบกันได้ ๆ อย่างน้อยก็อยู่ด้วยความสงบเย็นใจ ไม่ปีนรั้วปีนลูกกรงอย่างเขาว่า

เราเห็นอย่างนั้นแหละจึงได้พิมพ์หนังสือออกแจก แรกก็ทางวัดพิมพ์แจกก่อน ทีนี้ต่อมาบรรดาลูกศิษย์ลูกหาก็พิมพ์ เลยพิมพ์กันเป็นเนื้อเป็นหนังจริง ๆ ทางวัดก็เป็นอันว่าปล่อย เป็นแต่เพียงว่ารับแจกให้ ทำออกมาแล้วก็แจกประชาชนญาติโยม เพราะเราเห็นคุณค่าของการอ่านหนังสือธรรมะนี้มากอย่างฝังใจ นี้หลวงตาบัวได้บวชมาแต่หนุ่มฟ้อจนกระทั่งป่านนี้ก็เพราะได้อ่านหนังสือ ให้ลูกหลานทั้งหลายเอาไปเป็นคติ...”

ดังที่ท่านกล่าวมาทั้งหมดนี้คือความจริงที่ได้เห็นได้ฟังกันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันอย่างยากจะปฏิเสธ ทั้งผู้ใหญ่และเด็กตกต่ำทำชั่วกันมากก็เพราะราคะตัณหา ยังเพิ่มยาบ้ายาอีเสริมความขาดสติให้หน้าหนาเข้าไปอีก...

ก็ป่วยการจะฉุดลาก

อย่างที่เรียนให้ทราบแล้วว่า หลวงตามหาบัวไม่เคยจำหน่ายเทปธรรมะและหนังสือธรรมะ ด้วยเหตุผลที่ว่า ธรรมะเป็นของสูงค่าเกินกว่าจะมาตีราคาเป็นเงินเป็นทอง ท่านจึงไม่ให้มีการจำหน่ายรวมไปถึงไม่ให้ผู้ใดกระทำตนเป็นนายหน้าเอาไปพิมพ์เพื่อการค้าในทุก ๆ ทาง แม้แต่หนังสือโลกทิพย์เขียนจดหมายไปขออนุญาตพิมพ์เทศน์ของท่านลงบ้างเป็นครั้งคราว ท่านยังไม่อนุญาต

เพราะโลกทิพย์ก็เป็นหนังสือที่เริ่มด้วย ‘ขาย’ เช่นกัน
03.jpg


หลวงตามหาบัวท่านจึงเขียนชี้แจงเอาไว้ในหนังสือธรรมะทุกเล่มของท่านว่า

“ถ้าท่านผู้ใดประสงค์จะพิมพ์แจกเป็นธรรมทาน ท่านผู้นั้นกรุณาพิมพ์ได้ตามประสงค์โดยไม่ต้องขออนุญาตแต่อย่างใด นอกจากพิมพ์เพื่อจำหน่ายจึงขอสงวนลิขสิทธิ์ เพราะผู้แสดงไม่ต้องการอะไรยิ่งกว่าใจที่เป็นสมบัติล้ำค่ากว่าสมบัติใด ๆ ในโลก”

นี่เป็นเหตุผลที่ควรยกใส่เกล้า หากผู้นั้นพอจะมีความเคารพใน ‘ธรรม’ หรือความเคารพใน ‘ท่าน’ อยู่บ้าง เว้นเสียแต่ผู้หูหนวกตาบอดก็ต้องยกให้เป็นเรื่องบุญ-กรรม

หูหนวกตาบอด แต่สอดรู้

วันนี้ก็มีคนกล้าในสิ่งที่ไม่ควรกล้า ทำหนังสือออกมาตบตาชาวโลกให้ชื่อว่า ‘เพชรน้ำหนึ่งหลวงตาบัว’ บอกเล่าไว้หน้าปกว่า ‘ธรรมาวุธหลวงตาบัว พร้อมประวัติวัตถุมงคลพระสมเด็จชานหมาก’ ราคาเล่มละ 65 บาท

เงินนิดหน่อยแลกนรกเยอะ ๆ

หน้าปกมีรูปพระสมเด็จคู่กับหลวงตาบัว เปิดมาเป็นรูปหลวงปู่มั่นและพระประธานในศาลาวัดป่าบ้านตาด ซึ่งทั้งหมดถ่ายก็อปปี้เอามาจากหนังสือธรรมะของท่านโดยไม่ต้องลงทุนไปวัดให้เมื่อยตุ้ม เปิดมาอีกเป็นรูปพระสมเด็จสองพิมพ์ เปิดไปอีกเป็นเทศน์ของท่านล้วน ๆ ที่ขโมยเอาไปจากหนังสือ ‘หลักของใจ’ และ ‘ปฏิปทาพระธุดงค์กรรมฐานฯ’ จนจบหน้าสุดท้าย

ไม่ปรากฏประวัติวัตถุมงคลแม้สักน้อย

ก็จะปรากฏอะไร ? ของขี้โม้อย่างนี้จะหาประวัติโม้มาจากไหน ? ในเมื่อหลวงตาไม่มีพระเครื่องแล้ว จะเอาประวัติมาจากใครได้ นอกจากโม้เองซึ่งก็คงโม้ไม่ออก จึงหลอกเอาสด ๆ ร้อน ๆ ใส่ปากแล้วไม่อร่อยยังปากพองอีก

ถ้าอยากอ่านธรรมะของท่าน ขอจากใครที่เคยไปกราบก็ได้ ลองติดต่อที่โรงพิมพ์ก็ได้ครับ ฟรีทั้งนั้น ไอ้แบบขโมยมาขายนี่ไม่เข้าท่า หนำซ้ำยังโกหกเรื่องพระเครื่องอีก ทำผิดวัตถุประสงค์ของทางวัดและคณะศิษย์ทั้งหมดอย่างไม่น่าให้อภัย

การกระทำที่ปราศจากสัมมาคารวะอย่างนี้ หากคณะศิษย์กลุ่มหนึ่งกลุ่มใดคิดฟ้องร้อง ก็จะทำได้อย่างไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆ เพราะวัตถุประสงค์ทางวัดก็บอกแจ้งชัดอยู่แล้ว จะติดก็ตรงที่หนังสือเล่มนี้ไม่ระบุชื่อคนเขียน ไม่มีชื่อสำนักพิมพ์

ป้องกันตัวไว้พร้อมสรรพ

บุคคลที่คิดหาผลประโยชน์ใส่ตนอย่างไม่คำนึงถึงคนอื่นยังมีอีกมาก ผมคงไม่สามารถเตือนภัยไปยังพี่น้องชาวพุทธทั้งหลายได้ทั่ว คงจะป่าวร้องกันอยู่แค่กลุ่มเราเล็ก ๆ แต่ก็ยังดีนะ ดีกว่าบอกใครไม่ทัน เตือนใครไม่ได้ ใครที่คิดจะฝากเตือนกันต่อ ๆ ไป ผมก็ขออนุโมทนาไว้ด้วย เพราะเท่ากับว่าเราไม่สนับสนุนมหาโจรให้มีกำลังกล้าไปปล้นฆ่าคนอื่น ๆ ประการหนึ่ง และไม่ทำให้คนอื่นถูกปิดหูปิดตาเที่ยววิ่งแสวงหาพระปลอมมาแขวนให้หนักคออีกประการหนึ่ง เสียเงินก็เสียแล้วภายหลังอาจเสียชีวิตได้อีก เพราะพระไม่มีพุทธคุณ

ผมเบื่อคนชั่วพวกนี้จังเลย

ถ้าใครคิดว่ารู้ดีเรื่องพระสมเด็จนี้ หรือใครเป็นคนสร้าง จะนั่งยันยืนยันว่าหลวงตาอธิษฐานจิตให้จริง โปรดติดต่อมาที่ผมด้วย แล้วผมจะชวนไปวัดป่าบ้านตาด ให้หลวงตาเบิ๊ดกระโหลกผมที่โง่นัก ไม่รู้จักของดีวิเศษเช่นนี้ แต่ถ้าโดนรุมเหยียบ....

โทษกันไม่ได้นะ...เอ้อ...


บทความนี้ได้ตีพิมพ์เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2541


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
 หัวข้อกระทู้: Re: เนื่องด้วยหลวงตา
โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ 10 ก.พ. 2010 9:17 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 08 ก.ย. 2008 10:41 am
โพสต์: 1599
จำได้เลาๆว่า เคยซื้อเล่มนี้มาด้วยฮ

แต่ซื้อมือสอง ราคา 10 บาท

แล้วไม่มีพระมาด้วยนะฮะ

แต่ตอนซื้อไม่ได้หวังพระหรอกฮะ แต่เห็นเป็นหนังสือที่มีหลวงตา

เลยซื้อมาอ่ะฮะ

เด็กลึกลับ ไม่ได้ทำอะไรผิดใช่ไหมฮะ

คริ คริ คริ

_________________
ชาตินี้ไม่จริง ชาติไหนก็ไม่จริง


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 3 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO