นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน อังคาร 07 พ.ค. 2024 8:58 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์โพสต์แล้ว: อาทิตย์ 26 ต.ค. 2008 2:02 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 5:09 pm
โพสต์: 1368
หลวงปู่นิยม กนฺตจาโร วัดตะเคียนเตี้ย ตอน “วันนี้ยอ พรุ่งนี้ด่า ไม่ใช่ขี้ข้า ขี้ปากของใคร”
โดย ศิษย์กวง จาก
http://www.oknation.net/blog/sitthi/2008/03/19/entry-1
01.jpg

ผมและกลุ่มเพื่อนร่วมอุดมการณ์เดียวกันเคยได้ยินมานานแล้วว่าที่จังหวัดชลบุรี มีพระเกจิอาจารย์ท่านหนึ่งที่เชี่ยวชาญทางด้านการสร้างวัตถุมงคล พวกพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง มีประสบการณ์ในท้องถิ่นค่อนข้างมากดังนั้นเมื่อพวกเรามีเวลาว่างตรงกันจึงไม่รอช้าละครับที่จะรีบไปกราบนมัสการท่าน ท่านชื่อหลวงปู่นิยม กนตจาโร เจ้าอาวาสวัดนาลิกวนาราม(ตะเคียนเตี้ย) อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หรือที่ชาวบ้านท้องถิ่นแถวนั้นเรียกท่านว่า หลวงปู่แกะ วัดตะเคียนเตี้ยครับ จากถนนสุขุมวิท ก่อนถึงเมืองพัทยา เลี้ยวซ้ายเข้าตลาดโรงโป๊ะ ไปทางบ้านตะเคียนเตี้ยประมาณซัก 10 กม.ถึงที่ตั้งของวัดครับ ที่นั่นหลวงปู่แกะ ท่านรอพวกเราอยู่ครับ
02.jpg

03.jpg

04.jpg

หลวงปู่นิยมหรือหลวงปู่แกะ ท่านเป็นพระมีเมตตา ใจดี รูปร่างสันทัด ผิวค่อนข้างคล้ำและพูดเหน่อๆ สำเนียงแบบที่เรียกว่าชาวเล คุยสนุกแฝงไปด้วยข้อคิดตลอดเวลา ชอบศึกษาและอ่านหนังสือธรรมมะ ดังนั้นเวลาที่ท่านเล่าเรื่องราวต่างๆให้พวกเราฟัง จึงมักมีตัวอย่างประกอบเสมอ ในวันที่พวกเราไปกราบท่านเป็นจังหวะที่ท่านมีสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง(ป่วยเป็นโรคเบาหวาน) แต่ก็ยังยิ้มแย้มแจ่มใส และพูดคุยกับพวกเราอย่างอารมณ์ดี ผิดคาดกับที่พวกเราคิดว่าท่านต้องดุเพราะเห็นท่านสักยันต์เต็มตัวเลย นอกจากนี้ท่านยังเป็นที่รักและเคารพของคนในท้องถิ่นบ้านตะเคียนเตี้ยและละแวกใกล้เคียงอย่างมาก สังเกตจากขณะที่ท่านพูดคุยกับพวกเรา จะมีญาติโยมเข้ามากราบท่านและถวายสังฆ์ทานอยู่บ่อยๆหรือไม่ก็มาขอให้ดูฤกษ์ ดูยามให้ บ้างก็มาขอพระจากท่าน(แต่ท่านไม่ดูหมอนะครับ)
05.jpg

06.jpg

07.jpg

จากข้อมูลเบื้องต้น สายสืบรายงานว่าหลวงปู่นิยมท่านมีชื่อเสียงด้านการสักยันต์และการหุงสีผึ้ง เมตตาค้าขาย ชาวบ้านแถวตลาดโรงโป๊ะเป็นพยานได้ครับ แต่ปัจจุบันหลวงปู่อายุมากแล้ว(70 ปี)และได้เลิกสักยันต์มานานมาก สาเหตุเกิดจากวัยรุ่นที่ได้รับการสักยันต์มักจะชอบคะนอง นึกว่าตัวเองมีของดีทำให้ไปมีเรื่องมีราว ท่านจึงได้ยุติบทบาททางด้านนี้ไป คงไว้เพียงแต่การสร้างพระเครื่อง ตะกรุดและสีผึ้งเท่านั้นครับ มูลเหตุจูงใจที่ทำให้ท่านสนใจเรื่องสักเสกเลขยันต์นั้นเกิดจาก

“ช่วงนั้นอาตมายังเด็กๆ ประมาณซัก 7-8 ขวบ ก็ไปเที่ยวงานวัดที่วัดบางละมุง เห็นลูกศิษย์ของตากันมีเรื่องตีกับกลุ่มลูกศิษย์ของอาจารย์เปา บุญสังข์ หนังดีทั้งคู่กินกันไม่ลง ก็เลยรู้สึกชอบเลยสักยันต์เก็บมาเรื่อยๆ และมาสนใจจริงจังช่วงที่เป็นทหารเรือ”

**(สมัยก่อนเขตสัตหีบมีพระเกจิอาจารย์และฆราวาสที่มีชื่อเสียงคือ หลวงปู่อี๋ วัดสัตหีบที่ทำปลัดขิกว่ายน้ำทะเลได้ เสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พระบิดาของทหารเรือ และตากัน โจรสลัดแห่งอ่าวไทย)
08.jpg

09.jpg

“สมัยเป็นทหารเรือ อาตมาก็ดั้นด้นไปแสวงหาอาจารย์เพื่อขอเรียนวิชา ก็พอจะได้มาบ้าง เช่นหลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส องค์นี้เรียนค่อนข้างนาน หลวงพ่อเริ่ม ปรโม วัดจุกกระเฌอ หลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า ส่วนมากจะเป็นวิชาการลงตะกรุด ก็ได้มาอย่างละนิด อย่างละหน่อย ถ้าอย่างเรียนเยอะๆเลยนี่ส่วนมากจะเป็นฆราวาส เช่นโยมคุณตาสืบ ก็เรียนทางทำน้ำมนต์ โยมคุณตาสืบท่านเก่งมาก ชาวบ้านแถวนี้เรียกท่านว่าตาสืบเทวดา ใครโดนของ ผีเข้า เจอตาสืบเป็นเสร็จหมด แกเอาซะอยู่หมัด (ยิ้ม) แล้วก็มีอาจารย์เต็ม ตัวอาจารย์เต็มนี่เดิมทีแกเป็นคนระยอง เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อวงศ์ วัดบ้านค่าย อาตมาก็ได้วิชาด้านมหาอุด เรื่องนี้มันมีเหตุ (ยิ้ม) เห็นเวลาที่ไปเบา สังเกตดูเห็นแกชอบขมุบขมิบปาก ถามไถ่ดูก็ไม่ยอมบอกว่าทำอะไร อาตมาก็เวียนพยายามไปหาแก ขี่รถจักรยานไปซื้อของให้แกบ้าง จนในที่สุดแกก็คงรำคาญมั้งเลยให้มา(ยิ้ม) เออ........เรียกว่าอะไรนะ ดูสิแก่แล้วชักจะลืมๆ อ้อ..แกเรียกว่าวิชา “เร่งเบา” (หัวเราะ) เขาเอาไว้เวลาไปธุระเบา ให้ภาวนาอย่าขาด แกเคยท้าให้ชาวบ้านแถวนี้ลองยิงต้นไม้ที่แกไปฉีรดไว้ ปรากฏว่าไม่ออก(ยิ้ม) แล้วก็ไปเรียนกับอาจารย์เปา บุญสังข์ เป็นพวกการสักยันต์ ก็ลูกศิษย์ของอาจารย์เปานี่แหละที่แทงกันกับลูกศิษย์ของตากัน”
10.jpg

11.jpg

12.jpg

จากอดีตที่ท่านเคยรับราชการเป็นทหารเรือนี่แหละครับ ทำให้หลวงปู่นิยมท่านโปรดปรานทหารเป็นพิเศษ โดยเฉพาะทหารเรือ ท่านบอกว่าช่วงชีวิตที่เป็นทหาร เป็นช่วงที่โลดโผนมากมีความประทับใจหลายอย่าง

สิ่งที่ยืนยันคำพูดของท่านก็คือ ท่านได้เมตตาพูดถึงเนื้อหาในบทเพลงของทหารเรือให้พวกเราฟัง ท่านบอกว่าไม่จำเป็นต้องเป็นทหารหรอก คนทุกคนก็ใช้บทนี้สอนใจตัวเองได้

“เกิดมาทั้งที มันก็มีอยู่แต่ทุกข์ภัย
วันนี้เคราะห์ดี รุ่งขึ้นพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร
ดีเคยพบ ชั่วเคยเห็น จนเคยเป็น มีเคยได้
อนาคตเราไม่รู้ ถึงเราไม่รู้ ก็ต้องเดินไป
กลัวไปไย มันก็ล่วงไปตามเวลา
ไม่ตายวันนี้ ก็คงไปซี้ เอาวันข้างหน้า
วันนี้ยอ พรุ่งนี้ด่า ไม่ใช่ขี้ข้า ขี้ปากของใคร”
13.jpg

หลังจากฟังท่านพูดจบ ผมมีความรู้สึกอิ่มเอิบใจอย่างบอกไม่ถูก ลองนั่งพิจารณาดู เออ....หลวงปู่นิยม นี่ท่านเป็นของจริงนะ เราดูแต่ภายนอกเห็นท่านตัวดำๆ สักยันต์เต็มตัวไปหมด ไม่เว้นแม้แต่บนฝ่ามือ(หลวงปู่บอกพวกเราว่า เป็นยันต์จับมือสาวครับ) เลยพาลคิดไปไกลเลยว่า นี่แหละครับที่มันเป็นวิถีชีวิตของคนไทย โดยเฉพาะคนไทยในชนบท วัดและสมภารจะต้องเป็นที่พึ่งของชาวบ้านได้ทุกเรื่องตั้งแต่เกิดจนตาย ดังนั้นตัวของสมภารจะต้องมีความสามารถและมีความรู้ในเกือบจะทุกๆเรื่อง ที่สำคัญจะต้องปลูกศรัทธาให้กับชาวบ้านได้ ไม่อย่างนั้นจะไม่สามารถรวมจิตรวมใจของชาวบ้านได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตบ้านตะเคียนเตี้ย ที่เป็นเมืองชายขอบซึ่งในสมัยโบราณเรามักจะเรียกบ้านเมืองที่อยู่ห่างไกลแหล่งเจริญว่า “ไกลปืนเที่ยง” ด้วยแล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึงใหญ่ เจ็บไข้ได้ป่วยก็ต้องมาวัด สมภารเจ้าวัดก็ต้องรักษา ลูกหลานเกิดมาก็ต้องมาให้ท่านโกนผมไฟ ตัดจุก โตขึ้นมาหน่อยอายุครบบวชก็ต้องมาให้ท่านบวชให้ ดังนั้นถ้าท่านมาที่วัดนี้อย่าแปลกใจเลยถ้าได้เห็นชาวบ้านแถวนี้สักยันต์กันตัวดำ เต็มไปหมด แล้วตะโกนร้องเรียกกันว่าไอ้ทิด ไอ้ทิด
14.jpg

15.jpg

อย่างไรก็แล้วแต่ถึงพระเครื่องหรือเครื่องรางของขลังที่หลวงปู่นิยมทำออกมาจะมีประสบการณ์มากมาย แต่ท่านก็บอกกับพวกผมว่า อย่าไปมุ่งมั่นกับมันมาก ท่านบอกว่ามันเป็นเรื่องของความเชื่อ ความศรัทธา เมื่อใครมีความเชื่อมั่นหรือศรัทธาแล้ว วัตถุมงคลเหล่านี้ก็จะเป็นสิริมงคลสำหรับชีวิต เช่นเดียวกันถ้าคนเราเชื่อมันในพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าแล้ว ก็ทำให้เกิดความขลังได้เหมือนกัน อีกอย่างหนึ่งมันเป็นเรื่องของกุศโลบาย เพื่อชักจูงให้คนมาเข้าวัด ถึงเขาจะไม่ได้ตั้งใจมาทำบุญแต่เมื่อมารับพระจากท่าน หากไม่ค่อยมีแขกท่านมักจะให้พวกเขาเหล่านั้นสมาทานศีลห้า (พวกผมก็โดนด้วยครับ) เพื่อที่ว่าอย่างน้อยพวกคนเหล่านั้นก็ยังได้ชื่อว่ามีศีลมีธรรมติดตัวกลับออกไปบ้าง และท่านก็กล่าวเน้นด้วยท่าทางขึงขังว่า หากใครประพฤติดี ทำดี มันก็เป็นการส่งเสริม คุ้มครองตัวเองได้ แต่ตราบใดก็แล้วแต่หากมีของแต่ประพฤติตัวที่ผิดทำนองครองธรรมสวรรค์ก็ช่วยไม่ได้(คำนี้ก็เข้าท่า) ดังนั้นหลวงปู่นิยมท่านจึงรู้สึกเฉยๆ กับการที่จะได้รับฟังคำบอกเล่าจากคนนั้นคนนี้ว่า ไปโดนยิงมาไม่เข้า ยิงไม่ออก รถคว่ำไม่เป็นอะไร หลวงปู่ก็จะตอบไปว่า “สาธุ คุณพระคุ้มครอง”หรือว่าใช้ตะกรุดท่านโดนยิงซะทะลุ เจ็บบ้าง คาที่บ้าง หลวงปู่ก็จะบอกว่า “สาธุ กรรมของมัน”
16.jpg


“เราเองยังต้องตาย ก็ดีที่มันไปสบายก่อน ใครจะไปทนไหวเขาให้ขี่รถมอเตอร์ไซด์กันอย่างเรียบร้อย นี่พวกเล่นนอนขับ ร่อนไปร่อนมา มันรอดมาหลายครั้งก็บุญของมันแล้ว ประมาทเมื่อไหร่ หายนะมาเยือนเมื่อนั้น” (สาธุ / อันนี้ผมพูดเอง)

นอกจากนี้ท่านยังได้กล่าวถึงเรื่องของการปลุกเสกวัตถุมงคลต่างๆ ตามที่ท่านได้ศึกษามาว่า “ทุกอย่างขึ้นอยู่กับ จิตและภาวนา” โดยหลวงปู่นิยม ท่านได้อธิบายยกตัวอย่างให้พวกเราได้ฟัง

“อาตมาเคยอ่านหนังสือเรื่องหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยอง ท่านเห็นพระองค์อื่นเขาทำปลักขิกดิ้นได้ ท่านจึงไปถามหลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ หลวงพ่ออี๋ท่านก็ว่าทุกอย่างขึ้นอยู่ที่ใจ ท่านไปถามหลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก หลวงพ่อเหลือท่านก็ว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับใจเหมือนกัน ท่านจึงกลับมาลองพยายามทำดู ซึ่งต่อมาท่านก็ทำได้”

“สำหรับเรื่องของการภาวนา อาตมาเคยอ่านหนังสือเรื่องที่หลวงปู่จวน กุลเชฏโฐ ได้ไปทำธุระที่ไหนสักแห่งจำไม่ได้ ในช่วงเวลานั้นเขตพื้นที่วัดของท่านเป็นพื้นที่สีแดง มีผกค. กลับจากธุระก็ต้องเดินเท้าเข้าวัด พระเณร ที่ไปกลับท่านเกิดความกลัวว่าจะเกิดอันตรายเนื่องจากขณะนั้นใกล้ค่ำแล้ว หลวงปู่จวน ท่านเลยบอกให้พระเณรเหล่านั้นเดินตามหลังท่านอย่าแตกแถวและให้คอยภาวนา “พุทโธ” “พุทโธ” ไว้ตลอดเวลา จนในที่สุดท่านก็กลับถึงวัดได้อย่างปลอดภัย พอตอนเช้ามีนายทหารมาบอกท่านว่าพวกเขาไปรอรับท่านที่ชายป่าตั้งแต่ตอนเย็นจนถึงเช้าไม่พบท่าน จึงเข้ามาดูที่วัด เห็นท่านปลอดภัยดี จึงได้เดินทางกลับ นี่แหละประโยชน์ของภาวนา”
17.jpg

หลังจากหลวงปู่นิยม ท่านอธิบายเสร็จ เพื่อนผมท่านหนึ่งได้เอ่ยถามหลวงปู่ว่า

“หลวงปู่ครับ ทำไมพวกพระถึงชอบสอนคนว่าให้ทำความดีตายไปแล้วจะได้ไปสวรรค์”

หลวงปู่นิยม ท่านอธิบายด้วยแววตาที่มีรอยยิ้มครับ

“ธรรมมะที่พระพุทธเจ้าสอนมีเยอะแยะมากมาย อาตมาเองยังศึกษาไม่รู้จักจบ มีอยู่หลายชั้น ตั้งแต่อนุบาล ชั้นกลาง และชั้นสูงสุด แต่การสอนจะต้องพิจารณาว่าจะหยิบตรงไหนมาสอนให้เหมาะกับคนและระยะเวลา บางคนไม่มีพื้นฐานมาเลยก็ต้องสอนระดับเบื้องต้นและค่อยๆ ยกระดับของจิตขึ้นไปเรื่อยๆ พวกโยมล่ะจิตระดับไหนกัน อาตมาจะได้สอนถูก กิเลสจับกันขนาดไหน ไหนลองบอกอาตมาซิ”(ยิ้ม)... (โธ่...หลวงปู่ใครล่ะครับจะกล้าไปบอกว่าตัวเองมีมากขนาดไหน ฮ่า.ฮ่า.….ตกลงเรื่องคำถามนี้ขอโล๊ะทิ้งครับ)

พวกเราสนทนากับท่านมาเป็นเวลาพอสมควรครับ สลับกับบางช่วงของเวลาจะมีญาติโยม ขึ้นมาทำบุญกับท่านและนั่งคุยแจมกับพวกเราอย่างเป็นกันเอง รู้สึกอบอุ่นดีครับ ก่อนจะกราบลาท่านกลับเจ้าเพื่อนตัวดีคนหนึ่งเอ่ยปากขอให้ท่านช่วยลงยันต์และสอนคาถาจับมือสาวให้หน่อย หลวงปู่ท่านหัวเราะถามย้อนว่าจะเอาจริงเหรอ
18.jpg

“อาตมาได้วิชานี้มาจากวัดวังหว้า แต่ก็ไม่เคยใช้เพราะมาบวชเป็นพระก่อน จะไปจับมือผู้หญิงที่ไหนได้ เลยไม่รู้ว่าจะได้ผลหรือเปล่า แต่ที่เห็นแน่ๆคือ มีคนได้วิชานี้ไปสองคน เพื่อนอาตมาบวชเป็นพระและมรณภาพไปแล้ว ก็ไม่เคยใช้ อีกคนคืออาตมาเองได้มาแล้วก็บวชไม่สึก พวกโยมจะเอามั๊ยล่ะ มันเป็นวิชาที่ค่อนข้างมีอาถรรพ์นะไม่ตายก็ต้องบวช”(หัวเราะ) พวกเรา.....แป่ว..!!

ครับ หลวงปู่นิยม ท่านเป็นพระเมตตา ไม่ว่าญาติโยมจะอยู่ในสถานะภาพใด ท่านก็เมตตาให้พบทั้งหมดและท่านเป็นพระที่เราเข้าพบง่าย ไม่มีเลขาหน้าห้องคอยจัดฉาก ไปเมื่อไหร่หากท่านอยู่ก็ได้พบ ไม่ต้องนัดเพราะไม่มีบัตรคิว ไม่มีค่าพานครู ของที่ญาติโยมมาถวายท่านหากเยอะมากพอสมควรก็ขึ้นรถไปมอบให้แก่โรงเรียนยากจนหรือทหารชายแดน ผมว่าหลวงปู่ท่านเป็นพระของประชาชนแท้ๆเลยครับ
19.jpg

20.jpg


วันนั้นพวกเราออกจากวัดด้วยความประทับใจ ขับรถไปได้สักพัก ผมได้ยินเสียงเพื่อนๆ ฮึมฮัม..ฮึมฮัม....ออกมาเป็นเสียงเพลงเบาๆ และกระหึ่มขึ้นพร้อมกันเลยครับ

“อนาคตเราไม่รู้ ถึงเราไม่รู้ ก็ต้องเดินไป
กลัวไปไย มันก็ล่วงไปตามเวลา
ไม่ตายวันนี้ ก็คงไปซี้ เอาวันข้างหน้า
วันนี้ยอ พรุ่งนี้ด่า ไม่ใช่ขี้ข้า ขี้ปากของใคร”


ปล.จนถึงตอนนี้ยังไม่รู้เลยครับ ว่าเพลงนี้ชื่อเพลงอะไรและร้องยังไงต่อ เพื่อนๆ คนไหนที่ทราบช่วยอนุเคราะห์บอกพวกผมที่นะครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ.....
21.jpg

ภาพสถานที่สำคัญภายในวัดตะเคียนเตี้ย
22.jpg

23.jpg

24.jpg

25.jpg

26.jpg

27.jpg

ขอขอบคุณ คุณพรชนก สุขพงษ์ไทย ที่เอื้อเฟื้อกล้องและภาพสวยๆ เพื่อนต่อ สำหรับคำแนะนำที่มีคุณค่า และที่ลืมไม่ได้คุณสมบูรณ์ ร้านนายฮ้อ สระบุรี ผู้ชักชวนให้ผมมาเขียนและเป็นกำลังใจมาตลอด อนุโมทนาครับ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ 27 ต.ค. 2008 2:45 am 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 6:00 am
โพสต์: 6586
มีเรื่องดี ๆ อย่างนี้มาประดับสมองอยู่เรื่อย ๆ เพราะคุณศิษย์กวงและคุณจิ้งจกแท้ ๆ เทียว

ขอบพระคุณแบบนันสต๊อปด้วยนะครับ :lol: :lol:

_________________
ถ้าเราไม่อยากได้อะไรจากใคร ก็จะไม่มีอะไรให้หมางใจกัน


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ 27 ต.ค. 2008 12:15 pm 
ออฟไลน์
Administrator
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 08 ก.ย. 2008 11:37 am
โพสต์: 6391
ขอบคุณทั้งผู้เขียน และ ผู้ลากครับ :mrgreen:

_________________
089 969 9445 @ anytime
line ID navaraht


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร 28 ต.ค. 2008 8:44 am 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 08 ก.ย. 2008 12:00 pm
โพสต์: 488
ขอบคุณทั้งผู้เขียน ผู้ลาก และ ผู้อ่านค่ะ :mrgreen:


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 4 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO