นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน เสาร์ 27 เม.ย. 2024 12:35 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 5 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ 22 ต.ค. 2008 7:30 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 5:09 pm
โพสต์: 1368
หลวงพ่อสาคร มนูญโญ วัดหนองกรับ ตอนบูรพาไม่สิ้นแสง
โดย ศิษย์กวง จาก
http://www.oknation.net/blog/sitthi/2008/03/06/entry-1
01.jpg

ผมได้มีโอกาสตามคณะศรัทธาของคุณสมศักดิ์ ศักดิ์วิเศษชัยกุลและคุณเปิ้ล ร้านเบญจพร ไปเยี่ยมท่าน “พระครูมนูญธรรมวัตร” หรือท่านหลวงพ่อสาคร มนูญโญ เจ้าอาวาสวัดหนองกรับ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ศิษย์เอกหลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เพราะทราบว่าท่านประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ขณะเดินทางไปร่วมงานพุทธาภิเษก ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เหตุการณ์เกิดขึ้นประมาณปลายปี 2550 หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้นำท่านส่งโรงพยาบาล ทราบในเบื้องต้นว่ากระดูกซี่โครงหัก แต่น่าประหลาดใจเนื่องจากตามร่างกายของหลวงพ่อไม่ปรากฏบาดแผลหรือมีเลือดตกยางออกแต่อย่างใด ท่านพระครูวรวงศ์วิวัฒน์(อาจารย์เต็ก) เจ้าอาวาสวัดชุมแสง อ.วังจันทร์ จ.ระยอง ลูกศิษย์ที่ติดตามท่านไปด้วย ก็หัวปูดหัวโน แต่ไม่ยักกะแตก เรียกว่าเหนียวทั้งอาจารย์และลูกศิษย์ คงปล่อยให้คนขับรถหัวแตกอยู่คนเดียว(ฮา) ปัจจุบันท่านได้กลับมาพักรักษาตัวที่วัด และยังคงไปๆมาๆ ระหว่างวัดกับโรงพยาบาลอยู่อย่างสม่ำเสมอ (ขอย้ำว่าสม่ำเสมอ หากท่านใดจะไปเยี่ยมที่วัดกรุณาโทรเช็กสอบก่อนนะครับ จะได้ไม่เสียเวลา)
02.jpg

ผลจากการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุในครั้งนั้น ทำให้ท่านไม่สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวก ขนาดที่ท่านบอกกับพวกเราว่า เมื่อก่อนเดินทางไปไหนมาไหนสบายมากตอนนี้เดินไปเข้าห้องน้ำแล้วไม่อยากเดินกลับเลย

ในวันที่เราไปขอเข้าเยี่ยมท่าน ได้รับความอนุเคราะห์ด้วยดีจากบรรดาลูกศิษย์ของท่าน เช่นคุณโยธิน เจ้าหน้าที่ประจำตู้พระของวัด ช่วยนำพวกเราไปเข้านมัสการหลวงพ่อซึ่งขณะนั้นท่านตื่นจากจำวัดพอดี พอพวกเราโผล่หน้าเข้าไปในห้อง ท่านยิ้มให้และทักทายเราด้วยความเมตตา
03.jpg

“สวัสดี สวัสดี เข้ามาก่อน ไม่ได้เจอกันตั้งนาน เออ..นานเท่าไหร่แล้วนะ พวกโยมสบายดีมั๊ยละ แล้วโยมแก้วตาล่ะเป็นยังงัยบ้าง(คุณแก้วตา พี่สาวของคุณเปิ้ล เบญจพร ซึ่งเกือบจะทุกครั้งที่หลวงพ่อสาครมีกิจนิมนต์ หากต้องผ่านมาที่ร้านคุณแก้วตา ตลาดท่าสะอ้าน บางประกง จะต้องแวะเยี่ยมครอบครัวของคุณแก้วตาและคุณพรต เสมอ

สันนิษฐานตามความเห็นของผม น่าจะรู้จักกันมานาน-ขออภัยนอกเรื่องไปหน่อย)”


....ได้ยินท่านทักทายแบบนี้เล่นเอาบรรดาญาติธรรมชุดนี้ยิ้มไม่หุบ..................
04.jpg

05.jpg

สำหรับหลวงพ่อสาครองค์นี้ เป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่าท่านเป็นผู้ที่ได้สืบทอดวิทยายุทธมาจากหลวงปู่ทิม โดยที่หลวงพ่อท่านมากินนอนและปรนนิบัติรับใช้หลวงปู่ทิม ตั้งแต่อายุประมาณ 15 ขวบ และก็เป็นเรื่องเล่าที่บอกต่อกันมาตลอดว่า

เมื่อครั้งที่หลวงปู่ทิม ยังมีชีวิตอยู่ ลูกศิษย์หลวงปู่ทิม หลายท่านได้ถามหลวงปู่ทิมว่า “หลวงปู่ครับ เมื่อสิ้นหลวงปู่แล้วพวกผมจะพึ่งพระรูปใดได้บ้าง” หลวงปู่ทิมท่านได้ชี้ไปที่พระหนุ่มรูปหนึ่งซึ่งกำลังปรนนิบัติหลวงปู่อยู่ด้วย แล้วท่านพูดว่า “โน่น...ท่านสาคร เขาเรียนของนี่ไว้เยอะ” และมีเพื่อนรุ่นพี่ผมอยู่กลุ่มหนึ่งเล่าให้ฟังว่าในวันที่หลวงปู่ทิมท่านมรณภาพว่า ลูกศิษย์หลายคนต่างทยอยเอาของที่มาให้ท่านปลุกเสก เกิดการวุ่นวาย หลวงพ่อสาคร เมื่อมาถึงได้ก้มลงกราบศพหลวงปู่ทิมแล้วเดินออกไปทันที โดยไม่ยอมแตะต้องของทุกอย่างภายในกุฎิแล้วเดินทางกลับวัดหนองกรับทันที

นอกจากหลวงปู่ทิมแล้ว ท่านยังมีอาจารย์อีกหลายท่าน เป็นทั้งฆราวาสและเป็นทั้งพระซึ่งในเรื่องเกี่ยวกับอาจารย์ของท่านนั้น หลวงพ่อสาครท่านเมตตาเล่าให้พวกเราฟังว่า

“เราเรียนกับอาจารย์หลายท่านฆราวาส ก็มีเป็นพระก็มี เช่น หลวงพ่อหิน วัดหนองสนม หลวงปู่โสม วัดบ้านช่อง

หลวงพ่ออาคม วัดดาวนิมิตร กับหลวงพ่อคูณ ยังเคยไปเรียนเลย(หัวเราะ)

หลวงปู่ทิม สมัยก่อนท่านยังไม่ค่อยมีชื่อ มีทั้งพระ ทั้งฆราวาสหลายคนมาขอเรียนกับท่าน ท่านก็เมตตาสอนให้กับทุกคน แต่ใครจะได้อะไรกันบ้างเราไม่รู้ วิชาของท่านมีเยอะมาก จัดวางไว้เป็นเล่มๆซ้อนกันตั้งหลายชั้น ท่านสอนเราวันละวิชา เขียนผ้ายันต์วันละบท ๆ แรกๆ ก็ยังจำได้ หลังๆ ชักจำไม่ไหวแฮะ เลยแอบเข้าไปในห้องท่าน จุดธูปบอกครูบาอาจารย์ ขอยืมตำรับตำราไปคัดลอกไว้ก่อนเถอะ เวลาท่านสอนจะได้เข้าใจอย่างรวดเร็ว แต่ท่านก็รู้นะ ไม่ใช่ว่าท่านรู้ด้วยญาณหรอก ท่านรู้เพราะเราสัพเพร่าหยิบแล้ววางไม่ตรง ไม่ถูกที่ เรื่องความมีระเบียบวินัยนี่ หลวงปู่ทิม ท่านมีมากพอท่านจับได้ว่าเรามาแอบจด ท่านก็ไม่ว่าอะไรบอกว่าสมัยท่านเรียนท่านก็ใช้วิธีนี้เหมือนกัน(หัวเราะ) สำหรับหลวงพ่ออาคมท่านก็เก่ง เป็นพระที่ขยันมาก ตะกรุดของท่านท่านจะทำเองทั้งหมด ลงแผ่นตะกรุดเอง ถักเชือกเอง ทาสีตะกรุดเอง ท่านเป็นพระที่นอนดึกตื่นเช้า เราไปนอนในกฏิท่าน ช่วงสักตีสี่ตีห้า ได้ยินเสียงกุกกักใจไม่ดี นึกว่าโดนลองของ ย่องไปดูเห็นท่านนั่งจารตะกรุดอยู่องค์เดียว ท่านทำอย่างนี้เป็นประจำทุกวัน”
06.jpg

07.jpg

นอกเหนือจากความชำนาญในเรื่องของคาถาอาคมแล้ว หลวงพ่อสาครท่านยังมีฝีมือในเชิงช่างและการออกแบบก่อสร้าง ชนิดที่เรียกว่าสถาปนิกมาเห็นยังต้องทึ่ง ย้อนหลังกลับไปประมาณซัก 3-4 ปีผมเคยมากราบท่านครั้งหนึ่งแล้ว คราวนั้นวัดหนองกรับยังมีการก่อสร้างถาวรวัตถุค้างคาอยู่หลายแห่ง เช่นองค์หลวงพ่อพระสังกระจาย หรือ พิพิธภัณฑ์ยันต์ จะว่าไปแล้ว ณ ขณะนั้นพิพิธภัณฑ์ยังคงเป็นเพียงจินตนาการและความตั้งใจของหลวงพ่ออยู่ในแผ่นกระดาษพิมพ์เขียวเท่านั้น
08.jpg

09.jpg

10.jpg

11.jpg

12.jpg

13.jpg

มาในวันนี้จินตนาการและความตั้งใจของหลวงพ่อได้สำเร็จเป็นรูปธรรมให้เห็นและสัมผัสจับต้องได้ โดยตัวพิพิธภัณฑ์ถูกก่อสร้างเป็นอาคาร 3 ชั้น ชั้นล่างถูกตกแต่งสำหรับใช้เก็บสะสมของเก่าของวัดตลอดจนเป็นที่ต้อนรับบรรดาญาติโยมที่เดินทางมาเยี่ยม มาทำบุญที่วัด ในส่วนของชั้นสองเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ยันต์ โดยนำยันต์ที่หลวงพ่อได้เรียนมาจากหลวงปู่ทิมและอาจารย์อื่นๆ มาปั้นเป็นลายยันต์ติดตามผนัง โดยเราสามารถเห็นยันต์ต่างๆ ได้ทุกซอก ทุกมุม ของตัวตึก สำหรับชั้น 3 (ขออภัยในวันนั้นไม่ได้ขึ้นไป เพราะประตูปิด) ถามพี่โยธินทราบว่าใช้เป็นที่เก็บวัตถุมงคลของวัด เรียกว่าใครอยากศึกษาเรื่องการเขียนยันต์ มาที่นี่รับรองได้ว่าไม่ผิดหวัง (อลังการงานสร้าง ขอบอก) หลวงพ่อท่านบอกว่าเสียดายที่สุขภาพท่านไม่เอื้ออำนวย ไม่งั้นท่านจะพาพวกเราชมและจะอธิบายให้ฟัง

เล่ามาถึงตรงนี้หลายท่านอาจสงสัยว่าพระเก่าอาคมขลังขนาดนี้ ทำไมต้องประสบอุบัติเหตุ ทำไมไม่รู้ตัวล่วงหน้า

ทำไมแก้ไขไม่ได้ ทำไมต้องบาดเจ็บ หรืออีกหลายคำว่าทำไม ในเรื่องนี้หลวงพ่อสาครท่านได้เมตตาอธิบายว่า

“ทุกอย่างเป็นเรื่องของกรรม อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับเราอาจเป็นวิบากกรรมในชาติที่แล้วก็ได้ เพราะฉะนั้นพวกโยมควรจะสร้างกรรมดีๆให้กับตัวเองในชาตินี้ให้เยอะๆ วิชาอาคมหรืออักขระเลขยันต์ต่างๆ ที่พวกโยมเห็นมันเป็นเรื่องของความเชื่อ เป็นส่วนประกอบชักนำให้เราสู่ศาสนา แต่จะใช้เพื่อการพ้นทุกข์ กันความตาย คงไม่ได้แน่ เราว่าธรรมะ ศีล ดีกว่าทุกอย่าง เชื่อเราซิ ใครจะไปช่วยพวกโยมได้ เรายังต้องเจ็บ หลวงปู่ทิมท่านยังต้องมรณภาพ ทุกคนหนีวิบากกรรมไม่พ้นหรอก ทำความดีไว้เยอะๆเถอะ ดีเอง”

จบประโยคนี้ทุกคนร้องอ้าว....แล้วบรรดาเครื่องรางของขลัง ประเภทพระเครื่องห้อยคอ หรือตะกรุดคาดเอว จะเอาไปไหนละครับ

“ใช้เป็นพุทธานุสติ ให้มีการระลึกถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ นึกถึงคุณงามความดี คุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ ถึงสิ่งเหล่านี้เราจะมองไม่เห็น แต่กรณีฉุกเฉินมันก็ช่วยให้เราสามารถรอดแคล้วคลาดจากอันตรายต่างๆ ไปได้ จากเรื่องที่หนักก็ให้เป็นเบา ในทางกลับกันพวกที่ได้เครื่องรางของขลังไปแล้วคิดว่าตัวเองต้องแน่ ต้องเหนียวคงกระพัน ทำให้เกิดความประมาทกับตัวเอง ไปมีเรื่องมีราวกับคนอื่นมักจะไม่รอด โดยเฉพาะพวกที่เล่นทางไสยศาสตร์เชื่อกันว่า ในแต่ละวันมีเวลาเปิด เวลาปิด สังเกตดูคนโบราณมักจะถูกสอนให้เสกข้าวกิน เพื่อเป็นการป้องกัน ตอกย้ำให้ไม่ประมาท เรายังเคยเห็นคนแขวนหลวงปู่ทิมโดนสอยร่วงเลย ดันไปด่าแม่ตัวเอง แม่ตัวเองยังไม่รักแล้วจะไปเหลืออะไร พวกโยมแขวนพระของเราแล้วต้องรักษาศีลธรรมให้ขึ้นใจด้วยนะ ฉุกละหุกคุณของพระพุทธเจ้าจะได้ช่วยบรรเทาได้บ้าง (ยิ้ม)”
14.jpg

15.jpg

หลังจากที่ได้สนทนากับท่านหลวงพ่อสาคร พอสมควรแก่เวลาพวกเราจึงได้กราบลาท่าน เพื่อให้ท่านได้พักผ่อน แล้วก็เหมือนเดิมครับ แวะที่ตู้พระของวัดพร้อมกับบูชาวัตถุมงคลกันพอสมควร(ตามสไตล์ของแต่ละคน) โดยทุกคนลงความเห็นว่า “เพื่อเป็นพุทธานุสติ กรณีฉุกเฉิน ฉุกละหุกจะได้ช่วยบรรเทา” เฮ้อ...ซะอย่างนั้น
16.jpg

17.jpg

ครับ เราทุกคนล้วนแล้วแต่ตกอยู่ในวิบากกรรมกันทุกคน การจะบรรเทากรรมลงไปได้จึงขึ้นอยู่กับว่าใครจะมีสติ มีความเข้มแข็งและก้าวไปในธรรมได้ไกลแค่ไหน ไม่ต้องปฏิบัติจนถึงกับขั้นหลุดพ้นหรอกครับ มันจะเหนือสติปัญญาคนอย่างเราไป เอาแค่กรณีฉุกเฉิน ฉุกละหุกแล้วช่วยบรรเทาได้ก็พอแล้วครับ

ประมวลภาพ ยันต์ต่างๆ ภายในพิพิธภัณฑ์
18.jpg

19.jpg

20.jpg

21.jpg

22.jpg

23.jpg

ขอขอบคุณ คุณพรชนก สุขพงษ์ไทย ร้านเบญจพร เอื้อเฟื้อภาพและการเดินทางไปวัด เพื่อนต่อ สำหรับคำแนะนำ คุณสมบูรณ์ ร้านนายอ้อ สระบุรี สำหรับข้อคิดและกำลังใจที่มีให้เสมอและหวังว่าจะมีให้ตลอดไป


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ 22 ต.ค. 2008 10:53 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 11:16 pm
โพสต์: 1786
:P
ขอบพระคุณมากครับพี่จิ้งจก..
ผมไม่ได้อ่านสิ่งที่ตัวเองเขียนมานานแล้ว
กลับมานั่งอ่านวันนี้ ความรู้สึกแปลกๆพิกล
ได้อีกบรรยากาศครับ...อีกอย่าง
อ่านแล้วคิดถึงหลวงพ่อสาคร
คงต้องชีพจรลงเท้าอีกแล้วเรา :roll: :roll:


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 23 ต.ค. 2008 10:21 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 6:00 am
โพสต์: 6586
ชอบเรื่องนี้มากเหมือนกันครับคุณศิษย์กวง เป็นเรื่องที่เขียนแล้วได้อารมณ์ร่วมดีมาก ๆ อีกเรื่องหนึ่งทีเดียว ผมชอบมาก ไปกราบหลวงพ่อเมื่อไรนัดกันบ้างนะครับ เผื่อจะขอเกาะล้อไปด้วยน่ะ... :lol:

_________________
ถ้าเราไม่อยากได้อะไรจากใคร ก็จะไม่มีอะไรให้หมางใจกัน


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร 28 ต.ค. 2008 11:09 am 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 08 ก.ย. 2008 12:00 pm
โพสต์: 488
อ่านแล้วอยากไปกราบหลวงพ่อค่ะ

พิพิธภัณฑ์ยันต์ สวยงามและดูขลังมาก ๆ อยากไปเห็นของจริงค่ะ

ไปไหน ไปด้วย ช่วย 6 บาท แต่ไม่ขอ เกาะล้อ หนูขอกระโปรงหลัง เพราะหนูกัวเวียนหัว :mrgreen:


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: ศุกร์ 02 ม.ค. 2009 7:54 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ 27 ธ.ค. 2008 11:11 pm
โพสต์: 331
:icry: คิดถึงหลวงพ่อจัง


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 5 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 3 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO