โยมเหรียญ ลูกศิษย์ท่านหนึ่งของหลวงพ่อสมภพ เตชปุญโญ เคยเล่าให้ผมฟังว่า มีอยู่ครั้งหนึ่งโยมเหรียญ ได้รับรูปหลวงพ่อสมภพ ขนาดห้อยคอจากหลวงพ่อ ด้วยความที่ไม่ได้คิดอะไรมากจึงได้นำรูปนั้นใส่ไว้ในซองบุหรี่
ระหว่างเดินกลับบ้านเกิดอยากลองปืน จึงได้ขยำซองบุหรีเขวี่ยงออกไป พร้อมกับใช้ปืนยิงไปที่ซองบุหรี่ซองนั้น
แต่อนิจจาปืนกระบอกดังกล่าวยิงเท่าไหร่ก็ยิงไม่ออก ด้วยความประหลาดใจแกจึงได้กระโดดข้ามท้องร่องและหยิบซองบุหรี่ขึ้นมาดู
จึงพบว่าซองบุหรี่ซองนั้นมีรูปหลวงพ่อสมภพอยู่ในซอง โยมเหรียญจึงกลับมาขอขมาหลวงพ่อด้วยว่าตนเองไม่มีเจตนาจะลองของ..
หลวงพ่อบอกว่า
“
รูปดังกล่าวท่านยังไม่ได้ปลุกเสกเลย แต่ที่ปืนยิงไม่ออกน่าจะมาจากครูบาอาจารย์ของหลวงพ่อท่านแผ่บารมีมาให้....”
......
นี่คือส่วนหนึ่งของความขลัง ที่เกิดจากความไม่ได้ตั้งใจของผู้ลองครูบาอาจารย์ของหลวงพ่อมีท่านใดบ้าง....
“
ลูกจะขออัญเชิญดวงวิญาณหลวงปู่เผือก หลวงพ่อจำปา หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ปู่เปี่ยม พ่อครูฤษีนารอด ฤษีนารายณ์ ฤษีตาวัว ฤษีตาไฟ ฤษีกลัยโกฏ ฤษีแสงอาทิตย์ ฯลฯ..”
.....
นี่คือส่วนหนึ่งของครูบาอาจารย์ ที่กล่าวอ้างยังไม่หมด...
โยมกู้เกียรติ ลูกศิษย์หลวงพ่ออีกท่านหนึ่ง รื้อฟื้นความหลังของมนต์ขลังความเหนียวว่า...
สมัยที่วัดสาลีโข เริ่มพัฒนา ยามว่างจากการปฏิบัติกิจของสงฆ์ หลวงพ่อมักจะนั่งสั่งสอนพวกลูกศิษย์ มีอยู่วันหนึ่งระหว่างที่ท่านนั่งสอนระเบียบวินัย การปฏิบัติตัวให้ถูกต้อง
เด็กๆตัวน้อยหลายคนได้มาวิ่งเล่นและส่งเสียงกันดังสนั่นตามประสา หลวงพ่อท่านจึงดุ แต่เสียงดุของท่านมันก็ไม่ได้ทำให้เสียงเจี้ยวจ้าวของเด็กลดลงเลย
ด้วยความที่ต้องการจะยุติศึกระหว่างเสียงพระกับเสียงเด็ก หลวงพ่อจึงได้หยิบเอามีดดายหญ้าออกไปและตั้งท่าจะฟันไปที่เด็กน้อย
ได้ผลครับ เสียงหัวเราะเปลี่ยนเป็นเสียงร้องไห้ด้วยความหวาดกลัวทันที หลวงพ่อจึงได้โยนมีดดายหญ้าอันนั้นลงบนพื้น และใช้เท้าข้างหนึ่งเหยียบบริเวณด้าม
ฝ่าเท้าอีกข้างหนึ่งของท่าน ถูไปถูมาบนใบมีด
เล่ากันว่าเหตุการณ์ครั้งนั้นเรียกเสียงหัวเราะของเด็กๆ กลับคืนมาได้อย่างฉับพลัน.....
....
นี่คือความเหนียวเฉพาะตัวของหลวงพ่อ ที่ห้ามลอกเลียนแบบ...
สมัยที่ผมเข้ามาเรียนในกรุงเทพใหม่ๆ วัดราชนัดดาคือแหล่งสถิตของเซียนพระหลายระดับ ขณะเดียวกันมันก็เป็นแหล่งฟอกเงินของเด็กอย่างพวกเรา....
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในสนามมวยราชดำเนิน...
เซียนมวยท่านหนึ่งพกเหรียญหลวงพ่อสมภพไว้ในกระเป๋าเสื้อ ในขณะที่มวยบนเวทีกำลังชกกันอย่างเมามัน ทันใดนั้นยมทูตกระบอกสั้นได้ลั่นไกมาที่เซียนท่านนี้
แชะ แชะ แชะ แชะ เมื่อเห็นว่าปืนไม่สามารถทำอะไรเซียนมวยท่านนั้นได้ ยมทูตผู้นั้นจึงได้อาศัยความชุลมุนหายตัวไปอย่างละม่อม
จากเหตุการณ์วันนั้นเหรียญของหลวงพ่อสมภพ จึงได้ถูกกว้านซื้อหมดไปจากตลาดพระวัดราชนัดดา โดยเซียนมวยท่านนั้น
ทุกสภาพ ทุกเหรียญ ในราคา ๔๐๐ บาท....
เท่าจำนวนแชะ.....สูงกว่าราคาท้องตลาดขณะนั้นคือ ๑๐๐ บาท..
ถูกซะที่ไหน เพราะกางเกงขายาวโดม่อนยังตัวแค่พันกว่าๆ เท่านั้น.....
เหรียญรูปหลวงพ่อสาลีโข ลักษณะรูปอาร์ม ด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อสาลีโขครึ่งองค์ สวมลูกประคำเอียงข้าง
ด้านหลังลงยันต์พระปถมัง (พระเจ้าห้าพระองค์) ด้านขวาของยันต์เป็น นะ คุ้ม ด้านซ้าย เป็น นะ ปิด นะ ป้อง
ใต้ฐานมีอักขระ ๕ ตัว คือ อุ อะ มะ อิ ติ ทับด้วยอนันตาสูญเปล่า
สร้างด้วยเนื้อทองแดงเถื่อนจำนวน ๕,๐๐๐ เหรียญ เนื้อเงินบริสุทธิ์ จำนวน ๑๕๐ เหรียญ
ปลุกเสกในวันมหานักขัตฤกษ์เสาร์ห้า (ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๕) ตรงกับวันที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๑๒.......
และเหรียญนี้คือเหรียญที่ฉุดเซียนมวยท่านนี้จากเอื้อมมือของยมฑูตในวันนั้นครับ
เข้าสู่ระบบ 
สมัครสมาชิก
FAQ 
