Switch to full style
พระพุทธพจน์ - พุทธภาษิต พระธรรมเทศนา และ ธรรมะจากครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
ตอบกระทู้

จงเตือนตนด้วยตนเอง

อังคาร 13 ก.ย. 2016 8:09 am

จงเตือนตนด้วยตนเอง นั่นแหละจะเป็นที่พึ่งของตัว

ถ้าหากเราหรือว่าจะเป็นลูกศิษย์ หรือลูกหลานเรา

คิดอยากจะทำอะไรอย่างหนึ่งขึ้นมา นี่ต้องมองข้างหน้าข้างหลัง

แม่เราไม่อยู่พอเราไม่อยู่ ครูบาอาจารย์เราไม่มี

ไม่มีใครเห็นเรา เอ้อ! เลยทำไปทันที

นี่คือคนที่ไม่ดีแล้ว ไม่มีใครเห็นเราก็ทำ

"คือตัวเราไม่ใช่คนหรือ?"

ถ้าเรามีสติอยู่จะเป็นอย่างไร มันก็เป็นธรรมทั้งนั้นแหละ

ครูไม่อยู่ก็แอบทำ พ่อแม่ไม่อยู่ก็แอบทำ

นึกว่าเราปลอดภัยเสียแล้ว

ที่จริงโง่ที่สุดในโลก

ไปคิด กลัวคนจะเห็นเรา หรือเราต้องทำไม่ให้คนอื่นเห็น

เราก็ข้ามคนไปคนหนึ่งแล้ว

"คือตัวเราไม่ใช่คนหรือ?"

นี่ไม่เห็นได้หรือ ถ้ารู้ธรรมะแล้วไม่มีโกหกได้หรอก”

หลวงพ่อชา สุภัทโท





วันหนึ่งโยมผู้หญิงไปกราบหลวงพ่อ เขาเศร้าโศกเสียใจมาก เพราะลูกชายอายุเพียง ๑๘ ปี เสียชีวิตอย่างกระทันหันในต่างประเทศ

หลวงพ่อปลอบใจว่า

“การเสียลูกไปมันเป็นเรื่องใหญ่ของคน เป็นเรื่องใหญ่ที่สุด อันนี้เป็นเพราะอะไร มันก็คล้ายกับโยมนั่งหลับตาอยู่เฉย ๆ งูเลื้อยเข้ามาตรงนี้โยมก็ไม่เห็น ถ้าโยมไม่เห็น โยมก็ยังไม่กลัว ถ้ามันมาถึงนี้แล้วโยมเห็น โยมก็กลัวอย่างเต็มที่ โดดหนีเลยทีเดียว นี่คือจิตของโยมที่รักลูกนี่นะ แหม เอามาไว้เมืองนอกก็รัก อยู่ที่บ้านก็รัก อยู่ที่ไหนก็รัก มีแต่รักอย่างเดียวเลยนะ ความรู้เท่าไม่มี เมื่อหากว่ามาสูญเสียไปด้วยที่ว่าเรารักมันมากอย่างเดียว ไม่มีปัญญาพิจารณามัน ความสูญเสียเพราะรักนั้น มันเหมือนกับเราตายไปแล้วเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ เสียหายหมด จับอะไรก็ไม่ถูก

ทีนี้ถ้าหากว่าเราได้ทำกรรมฐาน ได้ฟังธรรมะ คล้าย ๆ กับเรานั่งอยู่นี่เห็นงูเห่ามันเลื้อยมาเท่านั้น มันเป็นอสรพิษก็จริง เราได้เตรียมตัวเราไม่กลัวมันก็ได้ บางทีเราไล่มันกลับไปก็ได้ เราไม่ไล่เราหลีกไปเสียก็ได้ ถึงมันมีพิษอยู่มันก็กัดเราไม่ได้ เมื่อมันไม่กัดเรา เราก็ไม่ได้รับพิษ

ถ้าเรารู้ว่า เออ! นี่ลูกเราก็จริงนะ จริงโดยสมมุตินะ นี่มันอาศัยภพชาติเกิดกับเรา ความดีความชั่วเป็นของเขาเองต่างหาก จะมีอายุยืนก็ของเขา จะมีอายุสั้นก็ของเขา เราอาศัยภพชาติให้เขามาเกิดเท่านั้น

ถ้าเราเห็นอย่างนี้เราไปนั่งที่ไหนเราก็คิดได้สบาย ที่เราจะเข้าไปละอย่างมากก็เห็นว่า

อือ! นี่มันเป็นของไม่แน่หรอก สมมุติว่าลูก เมื่อคิดถึงลูกเมื่อไร ความคิดถึงลูกเกิดขึ้นมาเมื่อไร เรียกว่าเป็นอนิจจัง มันไม่แน่ เมื่อรักมันวันนี้ พรุ่งนี้มันเกลียดก็ได้ มันเกลียดแล้วมันรักก็ได้ มันอยู่กับเราเดี๋ยวนี้ ปีหน้ามันจากเราไปก็ได้ ถ้าเราคิดอยู่อย่างนี้เรียกว่า เราภาวนาอยู่ นี่เป็นการภาวนาแล้ว ไม่ใช่ว่าเราจะไปนั่งหลับตาอย่างเดียวเป็นภาวนา เรามีความรู้อย่างนี้มันเป็นปัญญาแล้ว”

หลวงพ่อชา สุภัทโท
ตอบกระทู้