"..พระพุทธเจ้า มีมาเป็นตั้งล้านๆ พระองค์แล้ว เรามัวไปเป็นไส้เดือน กิ้งกือ อยู่ที่ไหนล่ะ ?
จิตนี้ เป็นผู้ไม่ตาย ท่องเที่ยวเกิดดับ ภพน้อยภพใหญ่ โอ๋ สัตว์นานาชนิดมีหมด ทั้งบกและน้ำ ยักษ์โขโมฬีเปรตผี นี่แหละ ... ชาติปางก่อน หลวงพ่อเสวยมาแล้ว
โลก คือ หมู่สัตว์ เมื่อมี กิเลส-กับ-กรรม ครองหัวใจอยู่ ต้องได้เสวยเป็นอย่างนี้ อย่าได้ประมาท ในการเจริญธรรม เพื่อได้เอาตนข้ามโอฆสงสาร ไปพระนิพพานเป็นที่แล้ว
อย่ามุ่งมั่นปั้นใจว่า ชาติหน้า-ภพหน้า จะดี อย่าได้ผัดวันประกันพรุ่งนะ ชีวิตสังขารได้มาแล้ว ทำคุณงามความดี ให้เกิดมีขึ้นแก่ตนนะ.."
หลวงปู่จันทา ถาวโร
ทำอะไรผิดพลาดนิด ๆ หน่อย ๆ ก็ไม่สบายใจเคยตัว เพราะความไม่สบายใจนี้แหละเป็นศัตรู เป็นมาร ทำให้ใจไม่สบาย ประสาทสมองไม่ปกติ เป็นเหตุให้ร่างกายผิดปกติ พลอยไม่สงบไม่สบายไปด้วย ทำให้สมองทึบไม่ปลอดโปร่ง เป็น habit ความเคยชินที่ไม่ดี เป็นอุปสรรคกีดกั้นขัดขวางสติปัญญาไม่ให้ปลอดโปร่งแจ่มใส.
โอวาทธรรม....ธมฺมวิตกฺโก ภิกฺขุ
ธรรมะก่อนนิทรา : สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช
จึงควรที่จะพิจารณาว่า สมาธิในพุทธศาสนานั้นเป็นสมาธิอีกลักษณะหนึ่ง และลักษณะอันใด อันเป็นลักษณะพิเศษแห่งสัมมาสมาธิในพุทธศาสนา โดยปริยายคือทางอันหนึ่งที่จะพึงเห็นได้ก็คือว่า จะต้องเป็นสมาธิที่ประกอบด้วยองค์มรรคอื่นๆ ในมรรคมีองค์ ๘ อันองค์มรรคอื่นๆ ในมรรคมีองค์ ๘ สนับสนุนสัมมาสมาธินี้ และสัมมาสมาธินี้ก็สนับสนุนองค์มรรคอื่นๆ ในมรรคมีองค์ ๘ นั้น กล่าวคือจะต้องประกอบด้วยความเห็นชอบความดำริชอบอันเป็นทางปัญญา จะต้องมีปัญญานำสมาธิและสมาธิก็จะต้องนำปัญญา สนับสนุนปัญญา จะต้องประกอบด้วยวาจาชอบ การงานชอบ อาชีพชอบ อันเป็นส่วนศีล จะต้องมีศีลหนุน และก็จะต้องหนุนศีล ต้องประกอบด้วยความเพียรชอบและสติชอบ จะต้องมีความเพียรชอบสติชอบสนับสนุน ทั้งก็สนับสนุนเพียรชอบสติชอบด้วย จึงเป็นอันว่าจะต้องประกอบกันเป็นมรรคมีองค์ ๘.
ปรัชญา คือ ความรู้แจ้ง ความรู้แจ้ง คือ จิตต้นกำเนิดดั้งเดิมซึ่งปราศจากรูป ถ้าเราสามารถทำความเข้าใจได้ว่า ผู้กระทำและสิ่งที่ถูกกระทำ คือ จิตและวัตถุเป็นของสิ่งหนึ่งสิ่งเดียวกันนั้นแหละ จะนำเราไปสู่ความเข้าใจอันลึกซึ้งและลึกลับเหนือคำพูด และโดยความเข้าใจอันนี้เอง พวกเราจะได้ลืมตาต่อสัจจธรรมที่แท้จริงโดยตัวเราเอง สัจจธรรมที่แท้จริงของเรานั้น ไม่ได้หายไปจากเราแม้ในขณะที่เรากำลังหลงผิดด้วยอวิชชา และไม่ได้รับกลับมาในขณะที่เรามีการตรัสรู้ มันเป็นธรรมชาติแห่ง ภูตตถตา ในธรรมชาตินี้ ไม่มีทั้งอวิชชา ไม่มีทั้งสัมมาทิฏฐิ มันเต็มอยู่ในความว่าง เป็นเนื้อหาอันแท้จริงของจิตหนึ่งนั้น เมื่อเป็นดังนั้นแล้ว อารมณ์ต่างๆ ที่จิตของเราได้สร้างขึ้น ทั้งฝ่ายนามธรรมและฝ่ายรูปธรรมจะเป็นสิ่งซึ่งอยู่นอกความว่างนั้นได้อย่างไร
โอวาทธรรม:หลวงปู่ดูลย์ อตุโล
|