Switch to full style
พระพุทธพจน์ - พุทธภาษิต พระธรรมเทศนา และ ธรรมะจากครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
ตอบกระทู้

ความประมาท

จันทร์ 07 ก.ย. 2015 4:24 am

หลวงปู่ชา สุภัทโท
----------------------------------------
ที่โยมเกิดมานี้ก็นานแล้วใช่ไหม ตาก็ได้ดูรูปสีแสงต่างๆ ตลอดหมดแล้วทิ้งอวัยวะทุกชิ้นทุกส่วน หูก็ได้ฟังเสียงอะไรทุกๆอย่างหมดแล้ว อะไรทุกอย่างก็ได้รับมามากๆทั้งนั้นแหละ และมันก็เท่านั้นแหละจะรับประทานอาหารที่อร่อย อร่อยมันก็เท่านั้น รับประทานสิ่งที่ไม่อร่อยมันก็เท่านั้น ตาจะดูรูปสวย สวยมันก็เท่านั้น หรือดูรูปที่ไม่สวยมันก็เท่านั้น หูได้ฟังเสียงที่ไพเราะไพเราะจับอกจับใจมันก็เท่านั้น จะได้ฟังเสียงที่ไม่ไพเราะมันก็เท่านั้นแหละ

เพราะฉะนั้นพระพุทธเจ้าท่านจึงบอกว่า ทั้งคนร่ำรวยทั้งคนยากจน ทั้งผู้ใหญ่ทั้งเด็ก ตลอดทั้งเดียรรัจฉานทั้งหมดด้วย ซึ่งเกิดขึ้นมาในสกลโลกอันนี้ มันไม่มีอะไรจะยั่งยืน จะต้องผลัดไป เปลี่ยนไปตามสภาวะของมัน

อันนี้เป็นสภาวะความจริง ที่เราจะแก้ไขอย่างไรๆเพื่อจะให้มันไม่เป็นอย่างนั้นไม่ได้ แต่ก็มีทางแก้ไขอยู่ว่าพระพุทธองค์ท่านให้พิจารณาสังขาร ร่างกายนี้ที่เดียวเท่านั้น ให้พิจารณาจิตใจนี้ด้วย ว่าทั้งสองอย่างนี้มันไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่เรา มันเป็นของสมมติ เช่นว่า บ้านของคุณยายนี้ก็เป็นของสมมติว่าเป็นของคุณยายเท่านั้น จะเอาติดตามไปที่ไหนก็ไม่ได้ สมบัติพัสถาน มันสมมติว่าเป็นของคุณยายเท่านั้น มันก็ตั้งอยู่เท่านั้น จะเอาไปที่ไหนก็ไม่ได้ ลูกหลานบุตรธิดาทั้งหลายทั้งปวงนั้นเขาสมมติว่าเป็นลูกเป็นหลานของคุณยาย มันก็เรื่องสมมติทั้งนั้น มันก็เป็นอยู่อย่างนั้นแหละ ไม่ใช่ว่าเป็นเราคนเดียว มันเป็นกันทั้งโลก ถึงแม้องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านก็เป็นอย่างนี้ พระอรหันต์สาวกทั้งปวงท่านก็เป็นอย่างนี้ แต่ท่านแปลกกว่าพวกเราทั้งหลาย แปลกอย่างไร คือท่านยอมรับ ยอมรับว่า สกลร่างกายนี้มันเป็นของมันอยู่อย่างนี้ จะเป็นอย่างอื่นไม่ได้ มันจะต้องเป็นอย่างนี้






หลวงปู่คำดี ปภาโส.
------------------------------------
ความประมาทเป็นหนทางแห่งความตาย. คำว่าตายในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าร่างกายตาย. หมายถึงจิตใจคนเราตาย. คือตายจากมรรคผลนิพพานต่างหาก.

ความไม่ประมาทเป็นหนทางแห่งความไม่ตาย. คือไม่ประมาทต่อการทำความดี. ได้แก่ ศีล สมาธิ ปัญญา. มีโอกาสจะได้ไปสวรรค์ พรหมโลก. หรือมรรคผลชั้นใดชั้นหนึ่ง ตลอดถึงพระนิพพานข้างหน้าแน่นอน. ช้าหรือเร็ว. แล้วแต่บุญบารมีหรือความพากเพียรของตนเอง.

ความไม่ประมาทคือเป็นผู้มีสติจดจ่ออยู่ที่กายและใจ. ทุกอิริยาบถทั้ง 4 คือ ยืนเดินนั่งนอน. ไม่มีการเผลอสติจากอิริยาบถทั้ง 4. จึงจัดว่าเป็นผู้ไม่ประมาท.

คำว่าประมาทนั้นคือ เป็นคนเลินเล่อเผลอสติ. นึกคิดออกไปนอกจากใจและกายของตนเอง ตามอารมณ์ของโลกเขา. คือ รูป เสียง กลิ่น รส โผฐฐัพพะ ธรรมารมณ์. เหล่านี้เป็นต้น. ท่านถือว่าเป็นผู้ประมาททั้งนั้น. ถึงมีร่างกายอยู่. ท่านก็เปรียบเหมือนคนที่ตายแล้ว. เอวัง.
ตอบกระทู้