Switch to full style
พระพุทธพจน์ - พุทธภาษิต พระธรรมเทศนา และ ธรรมะจากครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
ตอบกระทู้

เหตุ

จันทร์ 30 ส.ค. 2010 4:57 am

เวทนา สัญญา สังขาร เป็นเจตสิก

สังขารขันธ์ได้แก่เจตสิก ๕๐ ประเภท

อภิสังขาร หมายถึง เจตนาเจตสิก

อปุญญาภิสังขาร ได้แก่ เจตนาที่เกิดกับอกุศลจิต ๑๒

ปุญญาภิสังขาร ได้แก่ เจตนาที่เกิดกับกามาวจรกุศล ๘ รูปาวจรกุศล ๕

อเนญชาภิสังขาร ได้แก่ เจตนาที่เกิดกับอรูปาวจรกุศล ๔

พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย จตุกกนิบาต เล่มที่ ๓๕ - หน้าที่ ๓๖๓

๖. ปฐมกาลสูตร

(ว่าด้วยกาล ๔)

[๑๔๖] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย กาล ๔ นี้ กาล ๔ เป็นไฉน? คือ

กาเลน ธมฺมสฺสวน การฟังธรรมตามกาล

กาเลน ธมฺมสากจฺฉา การสนทนาธรรมตามกาล

กาเลน สมโถ สมถะตามกาล

กาเลน วิปสฺสนา วิปัสสนาตามกาล

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นี้แล กาล ๔.

จบปฐมกาลสูตรที่ ๖

อรรถกถาปฐมกาลสูตร

พึงทราบวินิจฉัยในปฐมกาลสูตรที่ ๖ ดังต่อไปนี้ :-

บทว่า กาลา คือกาลที่เหมาะที่ควร. บทว่า กาเลน ธมฺมสฺสวนได้แก่ การฟัง

ธรรมในเวลาที่เหมาะที่ควร. บทว่า ธมฺมสากจฺฉา ความว่า การสนทนาที่เป็นไปด้วย

อำนาจการถามและการตอบปัญหา.

จบอรรถกถาปฐมกาลสูตรที่ ๖.

--------------------------------------------------------------------------------

พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย จตุกกนิบาต เล่มที่ ๓๕ - หน้าที่ ๓๖๔ - ๓๖๕

๗. ทุติยกาลสูตร

(ว่าด้วยกาล ๔)

[๑๔๗] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย กาล ๔ นี้ อันบุคคลบำเพ็ญโดยชอบ ให้เป็น

ไปตามลำดับโดยชอบอยู่ ย่อมจะยังบุคคลให้ถึงความสิ้นอาสวะโดยลำดับ กาล ๔

เป็นไฉน? คือ การฟังธรรมตามกาล ๑ การสนทนาธรรมตามกาล ๑ สมถะตาม

กาล ๑ วิปัสสนาตามกาล ๑ นี้แลกาล ๔ อันบุคคลบำเพ็ญโดยชอบ ให้เป็นไปตาม

ลำดับโดยชอบอยู่ ย่อมจะยังบุคคลให้ถึงความสิ้นอาสวะโดยลำดับ

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนเมื่อฝนเม็ดหนาตกบนภูเขา น้ำไหลไป

ตามที่ลุ่ม ยังซอกเขาและลำรางทางน้ำให้เต็ม ซอกเขาและลำรางทางน้ำเต็มแล้ว

ย่อมยังหนองให้เต็ม หนองเต็มแล้ว ย่อมยังบึงให้เต็ม บึงเต็มแล้ว ย่อมยังคลองให้

เต็ม คลองเต็มแล้ว ย่อมยังแม่น้ำให้เต็ม แม่น้ำเต็มแล้ว ย่อมยังทะเลให้เต็ม

ฉันใด กาล ๔ นี้ เมื่อบุคคลบำเพ็ญโดยชอบ ให้เป็นไปตามลำดับโดยชอบอยู่

ย่อมยังบุคคลให้ถึงความสิ้นอาสวะโดยลำดับ ฉันนั้นแล.

จบทุติยกาลสูตรที่ ๗

อรรถกถาทุติยกาลสูตร

พึงทราบวินิจฉัยในทุติยกาลสูตรที่ ๗ ดังต่อไปนี้ :-

บทว่า กาลา นั่น เป็นชื่อแห่งกุศลธรรมที่เป็นไปด้วยอำนาจการฟังธรรม

เป็นต้นในกาลนั้น ๆ กาลเหล่านั้น จักแจ่มชัด และจักเป็นไป. บทว่า อาสวานํ ขยํ

ได้แก่ พระอรหัตต์.
จบอรรถกถาทุติยกาลสูตรที่ ๗.



เอาบุญมาฝากวันนี้ตั้งใจว่าจะถวายสังฆทาน
กรวดน้ำอุทิศบุญ เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน รักษาศีล อาราธนาศีล เจริญวิปัสสนา ปฏิบัติธรรม ถวายข้าวพระพุทธรูป
และสร้างบารมีครบทั้ง 10 อย่าง ขอให้อนุโมทนาบุญด้วย

ขอเชิญเป็นเจ้าภาพถวายพระประธานประดิษย์ฐานสาลาปฎิบัติธรรม
ติดต่อพระสุพิน อตฺตสนฺโต ด่วน
โทร 0856578676
ตอบกระทู้