Switch to full style
พระพุทธพจน์ - พุทธภาษิต พระธรรมเทศนา และ ธรรมะจากครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
ตอบกระทู้

ธรรมคติ

ศุกร์ 16 ต.ค. 2009 8:11 pm

ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺตเถร

ไม้ซกงก หกพันง่า

กะปอมก่าแล่นขึ้น มื้อละฮ้อย

กะปอมน้อยแล่นขึ้น มื้อละพัน

ตัวใด๋มาบ่ทัน แล่นขึ้นนำคู่มื้อๆ


แก้ให้ตกเน้อ แก้บ่ตกคาพกเจ้าไว้ แก้บ่ได้แขวนคอต่องแต่ง

แก้บ่พ้นคาก้นย่างยาย คาย่างยายเวียนตายเวียนเกิด

เวียนเอากำเนิดในภพทั้งสาม ภพทั้งสามเป็นเฮือนเจ้าอยู่


จากหนังสือ มุตโตทัย : แนวทางปฏิบัติให้ถึงความหลุดพ้น

พุทโธโลยี สำนักพิมพ์พระพุทธศาสนาประกาศ

Re: ธรรมคติ

ศุกร์ 16 ต.ค. 2009 8:14 pm

ข้าน้อยฯ ขอความกรุณา ท่านอาจารย์ต่อ ช่วยเมตตากรุณาขยายความ

ให้ข้าน้อยเกิดความกระจ่างแจ้งจางปาง ด้วยนะขอรับ

:idead:

Re: ธรรมคติ

ศุกร์ 16 ต.ค. 2009 9:45 pm

:lol: :lol:

Re: ธรรมคติ

ศุกร์ 16 ต.ค. 2009 10:46 pm

ที่จริงภาษาอีสานมีสำนวนที่คมคายลึกซึ้งอยู่ในตัวเองเยอะมากครับ หลากหลายด้วยชั้นเชิงของปราชญ์สมัยอดีต ยิ่งถูกกล่าวขึ้นด้วยหัวใจที่เป็นธรรมบริสุทธิ์ทั้งดวงอย่างพ่อแม่ครูอาจารย์มั่นแล้วยิ่งแหลมคมเข้าไปใหญ่ สติปัญญาอย่างลูกหิ่งห้อยแบบผมคงไม่สามารถบรรยายได้ลึกซึ้งถึงแก่นหรอกครับ

แต่จากที่เคยฟังหลวงตามหาบัวท่านเฉลย จากที่ได้ศึกษากับครูบาอาจารย์ผู้เป็นศิษย์ในองค์ท่านพระอาจารย์มั่นโดยตรงท่านเคยพูดให้ฟัง อาทิ หลวงปู่หลุย จันทสาโร ฯลฯ หลายองค์ก็หลายสำนวนอยู่ แต่เนื้อหาโดยรวมก็เหมือนกัน

ความหมายโดยประมาณเป็นดังนี้ครับ

ไม้ซกงก หกพันง่า...

หมายถึง กายของเราที่เปรียบเสมือนต้นไม้มี 6 กิ่งใหญ่ อันได้แก่อายตนะ 6 คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ เหยียดยื่นออกไปเหมือนกิ่งไม้เพื่อรับเอาอารมณ์ภายนอกเข้ามาสู่แก่นภายในคือใจ ประกอบด้วย รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ และธรรมารมณ์

กะปอมก่าแล่นขึ้น มื้อละฮ้อย...

กะปอมก่าภาษาอีสานแปลว่า กิ้งก่า แล่น แปลว่า วิ่ง มื้อแปลว่า วัน แต่ในที่นี้เป็นคำอุปมารวมความแล้วคือ กิเลสใหญ่อันได้แก่ โลภ โกรธ หลง หลั่งไหลเข้ามาสู่ใจวันหนึ่ง ๆ เป็นร้อย ๆ เรื่อง

กะปอมน้อยแล่นขึ้น มื้อละพัน...

กิเลสปลีกย่อยนานาประการวิ่งเข้ามาในใจวันละเป็นพัน ๆ เรื่อง

ตัวใด๋มาบ่ทัน แล่นขึ้นนำคู่มื้อๆ

ที่จริงประโยคนี้ ในหนังสือมุตโตทัยที่ผมรับมาจากมือหลวงปู่หลุย จันทสาโร ใช้คำว่า "ครั้นตัวมาบ่ทัน ขึ้นนำคู่มื้อ ๆ" หมายถึงว่า ครั้นตัวเราไม่ทันต่อกิเลสที่หลั่งไหลเข้ามาในจิตตามทวารทั้ง 6 กิเลสเหล่านั้นก็ขึ้นนำหน้าสติ นำหน้าธรรม คือแซงเข้ามาครองใจ แทนที่จะเป็นสติครองใจ ก็กลายเป็นกิเลสครองใจทุกวัน ๆ

และอันที่จริง ผมก็ยังไม่เข้าใจคำว่า "คู่มื้อ" เพราะภาษาอีสานหากจะแปลว่า "ทุกวัน" ต้องพูดว่า "สู่มื้อ" หรือจะเป็นคำโบราณเสียก็ไม่ทราบ เพราะตอนนั้นก็ไม่ทันได้กราบเรียนถามหลวงปู่หลุย เอาไว้ได้กราบครูบาอาจารย์องค์สำคัญจะได้เรียนถามมาขยายผลกันอีกครั้งครับ

สรุปความโดยรวมก็คือ เมื่อเราไม่ระวังรักษาจิตให้ดี กิเลสใหญ่น้อยทั้งหลายที่วิ่งเข้ามาทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ก็จะเข้ามาครอบงำเรา มามีอิทธิพลกับเรา ซึ่งในที่สุดก็ให้ผลเป็น "ทุกข์" แบบไม่มีข้อยกเว้น ดังนั้น เราควรมีสติกำกับใจอยู่ทุกเวลาด้วยการภาวนานั่นเอง

ส่วนสำนวนข้างล่างที่ว่า...

แก้ให้ตกเน้อ แก้บ่ตกคาพกเจ้าไว้ แก้บ่ได้แขวนคอต่องแต่ง

แก้บ่พ้นคาก้นย่างยาย คาย่างยายเวียนตายเวียนเกิด

เวียนเอากำเนิดในภพทั้งสาม ภพทั้งสามเป็นเฮือนเจ้าอยู่


ขออนุญาตยกเอาคำแสดงธรรมของท่านพระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ วัดเจติยาคิรีวิหาร (ภูทอก) อ.ศรีวิไล จ.หนองคาย มาลงโดยไม่ดัดแปลงดังนี้

"...ต้องแก้ให้ได้ เวลานี้มาผูกเอาไว้หมด แก้ไม่ได้ ไม่แก้กันเลย... ท่านอาจารย์ใหญ่มั่น ท่านเคยเทศน์ไว้ "แก้ให้ตกเดอ...ถ้าแก้ไม่ตกคาพกเจ้าไว้ แก้บ่ได้แขวนคอต่องแต่ง แก้บ่พ้นคาก้นย่างย้าย คาย่างย้ายเวียนตายเวียนเกิด เอากำเนิดในภพทั้งหลาย ภพทั้งสามเป็นเฮือนเจ้าอยู่" พกไว้ที่ไหนล่ะ พกไว้ที่จิตที่ใจ อารมณ์ต่าง ๆ ถ้าพกไว้ที่นี่มันก็แขวนคอต่องแต่ง และ "คาก้นย่างย้าย" ไปมาก็ลำบาก ห่วงนั้นห่วงนี่ "ย่างย้าย" แปลว่า พะรุงพะรัง

เชือกผูกคอ ปอผูกศอก ปลอกผูกขา เวียนตายเวียนเกิดเอากำเนิดทั้งสาม เกิดในกามภพ รูปภพ อรูปภพ ภพทั้งสามเลยเป็นเรือนให้อยู่ตลอดไป เกิดแล้วตาย ตายแล้วเกิด วนเวียนอยู่อย่างนี้ไปไหนไม่ได้ เพราะความห่วงเป็นเชือกผูกคอ ความรักเป็นเชือกผูกคอ ความชังเป็นเชือกผูกคอ ความหลงเป็นเชือกผูกคอ เป็นปอผูกศอก เป็นปลอกผูกขา ยุ่งอีนุงตุงนังไปหมด

มันก็ไปไหนไม่ได้ เราลองแก้ดูซี... ภาษิตมีว่า ผู้แบกโลกอยู่ต่ำ ผู้ค้ำโลกอยู่กลาง ผู้วางโลกอยู่สูง ผู้จูงโลกยุ่งรุงรัง

จะอยู่ต่ำ จะอยู่กลาง หรือจะอยู่สูง หรือจะยอมยุ่งรุงรังก็ใช้ปัญญาพิจารณาดู..."

Re: ธรรมคติ

ศุกร์ 16 ต.ค. 2009 11:16 pm

ขอบคุณครับจารย์ :grt: :grt:

Re: ธรรมคติ

เสาร์ 17 ต.ค. 2009 8:04 am

โอวววว :o ขอขอบพระคุณมากๆเลยครับอาจารย์

เป็นมงคลครับ ที่ พหูสูตร อย่างอาจารย์ต่อ

เมตตาขยายธรรมของพ่อแม่ครูอาจารย์ ให้กระจ่างยิ่งๆขึ้นในกระทู้ :grt:

Re: ธรรมคติ

เสาร์ 17 ต.ค. 2009 8:24 am

ขอบพระคุณมากครับ อาจารย์รณธรรม :grt:

Re: ธรรมคติ

เสาร์ 17 ต.ค. 2009 9:19 pm

ด้วยความยินดีครับ ขอบพระคุณทุกท่านเช่นกันครับ :P
ตอบกระทู้