Switch to full style
พระพุทธพจน์ - พุทธภาษิต พระธรรมเทศนา และ ธรรมะจากครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
ตอบกระทู้

หลงนิมิต

พฤหัสฯ. 16 ต.ค. 2008 2:38 pm

longnimit2.jpg
longnimit2.jpg (58.43 KiB) เปิดดู 1143 ครั้ง

ในช่วงปลายปี ๒๕๓๒ ก่อนที่หลวงปู่ดู่จะละสังขาร
มีประสบการณ์ที่ข้าพเจ้า*ไม่อาจลืม เพราะมันคืออุทาหรณ์ในการปฏิบัติธรรมอย่างสำคัญ ที่คอยเตือนไม่ให้เราเดินไปทางผิดทั้งที่คิดว่าถูก

เพื่อนของข้าพเจ้าคนหนึ่งเริ่มมาสนใจเรื่องปฏิบัติสมาธิภาวนา โดยเริ่มจากการอ่านตำรับตำรา และซักถามผู้รู้ต่าง ๆ เขาเป็นคนมุมานะ เอาจริงเอาจังมาก เขาเป็นคนมีนิตมากด้วยเช่นกัน เขาเริ่มมองเห็นวิญญาณตามข้างถนนเป็นเรื่องปรกติ เขานั่งสมาธิได้เป็นหลาย ๆ ชั่วโมง และมีครูบาอาจารย์มาสอนในทางนิมิต

เดิมทีข้าพเจ้ารู้สึกชื่นชมในความอุตสาหะของการปฏิบัติสมาธิภาวนาของเขา แต่ก็มาตั้งข้อสังเกตเมื่อตอนที่เห็นประสิทธิภาพในการทำงานของเขาลดลง เพราะดูเขาจะไม่อยู่กับปัจจุบัน แค่เขาหยิบเอกสารขึ้นมาอ่านไม่ถึงนาที จิตของเขาก็รวมดำดิ่งลงไป ไม่รับรู้โลกภายนอก...

ข้าพเจ้าเริ่มมั่นใจมากขึ้นว่าเขามาผิดทางแล้ว ตรงที่เขามากระซิบกับข้าพเจ้าว่าเขาบรรลุธรรมขั้น...แล้ว

ข้าพเจ้าตัดสินใจพาเขาไปหาหลวงปู่ดู่ ที่วัดสะแก
และที่นี้เอง ที่ข้าพเจ้าเห็นลีลาของหลวงปู่ในการแก้จิตของนักปฏิบัติที่จิตตกภวังค์แล้วไม่มีกำลังพอจะออกจากภวังค์ด้วยกำลังสติปัญญาของตนเอง

หลวงปู่ให้เขาไปนั่งสมาธิที่หอสวดมนต์ (สมัยนั้นยังไม่มีประตูกั้น) จากนั้นท่านก็สนทนากับญาติโยมไปตามปรกติ สักครู่ ท่านหันหน้าไปทางเพื่อนที่กำลังนั่งสมาธิอยู่ แล้วพูดตะโกนออกไปว่า...

"ถอนจิตขึ้นมา"

ข้าพเจ้าสังเกตเห็นเพื่อนคนนั้นขยับกายฮึดฮัดขึ้นทันที บ่งบอกว่าจิตถอนออกมารู้เนื้อรู้ตัวมากขึ้น เหตุการณ์เป็นดังนี้ประมาณ ๒-๓ เที่ยว

เพื่อนคนนี้ ก็กลับมาทำการทำงานได้ตามปรกติ เพราะมีกำลังจิตที่จะดึงจิตตัวเองออกจากภวังค์ได้ แต่แล้วเหตุการณ์เลวร้ายก็ได้เกิดขึ้น ภายหลังจากที่หลวงปู่มรณภาพในต้นปีถัดมา เพราะเขาหลงนิมิตและดำดิ่งกับสมาธิอย่างเก่าอีก เขาเชื่อมั่นว่าตนบรรลุธรรม แม้ไปบวชเป็นพระอยู่ในสำนักครูบาอาจารย์ชั้นผู้ใหญ่ในวงกรรมฐาน ก็ไม่แคล้วต้องเข้าโรงพยาบาล ภายหลังทำร้ายตัวเอง ตามเสียงนิมิตที่มาบอกว่าให้ฝึกขันติขั้นอุกฤษฎ์

เรื่องนี้จึงเป็นเครื่องเตือนใจข้าพเจ้าตลอดมา และบอกกับตัวเองเสมอ ๆ ว่า ปฏิบัติเพื่อละ มิใช่ปฏิบัติเพื่อเอา ซึ่งหลวงปู่ชา สุภัทโทก็เตือนลูกศิษย์ในเรื่องนี้เช่นกันว่า ปฏิบัติธรรมเพื่อละ ไม่ใช่เพื่อเอา เพื่อเป็น โสดา สกิทา ฯลฯ ไม่ต้องเป็นทั้งนั้น

เรื่องนี้ ทำให้ข้าพเจ้าหนักแน่นขึ้นกับคำสอนหลวงปู่ที่ว่า เขาวัดผลการปฏิบัติที่การละโลภ โกรธ หลง มิใช่การเห็นนิมิตนั่นนี่ การเห็นจะเป็นประโยชน์ก็ต่อเมื่อเชื่อมโยงมาสู่การปฏิบัติชำระกิเลสตนเอง หากมันจะเป็นอะไร (ตามอย่างทฤษฎี) มันก็จะเป็นไปเองตามสภาวะธรรม โดยที่เราไม่เสี่ยงเข้าไปยึดมั่นถือมั่นให้กิเลสอุปาทานเข้าครอบงำเราได้ง่าย ๆ

จึงขอบันทึกเรื่องนี้ไว้อีกเรื่องเพื่อเป็นอุทาหรณ์แก่คนรุ่นหลัง จะได้ไม่ติด "กับดัก" ในระหว่างทางของเส้นทางสายปฏิบัติ

อุทาหรณ์เรื่องนี้ ยังสอนให้รู้ว่าตัวเช็คอีกอย่างหนึ่งคือ จิตที่เป็นสมาธิที่จัดเป็นสัมมาสมาธิ ต้องมีภาวะรู้ ตื่น เบิก บาน มิใช่ซึมกระทือ หรือฟูจัด รวมทั้งต้องมีศีลเป็นบาทฐาน และมีปัญญาเป็นตัวต่อยอด มิใช่สมาธิเพื่อสมาธิ จนกลายเป็นความดำดิ่งที่เข้าไปสู่โลกส่วนตัว แล้วสุดท้ายก็หลงทาง ไม่รู้ทำไปเพื่ออะไร หรือหลงไปว่าตนวิเศษวิโสกว่าคนอื่นใด

*ลูกศิษย์ของหลวงปู่ดู่ท่านหนึ่ง

Re: หลงนิมิต

พฤหัสฯ. 16 ต.ค. 2008 9:46 pm

อนุโมทนาด้วยครับคุณเด็กลึกลับที่กรุณาใช้ความเพียรไปนำมาให้ทุกคนได้อ่านกัน ผมชอบเรื่องนี้มาก ๆ เลย โดนใจดี

ขอบคุณครับ

Re: หลงนิมิต

ศุกร์ 17 ต.ค. 2008 4:27 pm

เพื่อนผมคนหนึ่งก็คล้ายประมาณนี้เหมือนกัน นั่งๆ ก็จีบนิ้ว พูดออกมาเหมือนมีซิกเซ้นท์ วันดีคืนดี ก็บอกว่า กุมารที่ผมเลี้ยงไว้ไปเล่นงานลูกเขาจนไม่สบาย นี่ถ้าไม่ใช่เพื่อนกันละก็เตะไปแล้ว จะบ้าหรือ ตรูไม่มีกุมารทองเฟ้ย อันนี้ผิดชัวร์และไม่จริง เพราะถ้ามีญาณรู้จริงทำไมพูดผิด เห็นผิด หรือแม้กระทั่งเชื่อว่า ผมเชื่อเขา (ไม่รู้ว่า ผมแกล้งเชื่อเพื่อที่ว่า เขาจะได้ยอมคุยเรื่องที่เขาคิดออกมากับผมเพื่อที่จะได้ช่วยเขา) ทุกวันนี้ บ๊ายบายแล้วครับ ช่วยไม่ไหว มันไปซะแล้ว มีสาวกอีกต่างหาก และผมก็ได้เห็นคนที่เข้ามาร่วมก๊วน ร่วมกลุ่มกับเขามากมาย ตอนนี้ไม่รู้เป็นอย่างไรแล้วครับ

Re: หลงนิมิต

ศุกร์ 17 ต.ค. 2008 11:53 pm

วันนั้นเห็นนั่งคุยกันอยู่ที่ปากคลองสานครับ ไม่แน่ใจว่าเป็นกลุ่มเดียวกับเพื่อนคุณจิ้งจกหรือเปล่า :lol: :lol:

Re: หลงนิมิต

เสาร์ 18 ต.ค. 2008 12:02 am

รณธรรม ธาราพันธุ์ เขียน:วันนั้นเห็นนั่งคุยกันอยู่ที่ปากคลองสานครับ ไม่แน่ใจว่าเป็นกลุ่มเดียวกับเพื่อนคุณจิ้งจกหรือเปล่า :lol: :lol:



ถิ่นเก่าอู๊ดเลยฮะแถบนั้น หมอพึ่งให้หยุดยาได้สองสามวันแล้วฮะ :ugeek: :ugeek:
ตอบกระทู้