พระพุทธพจน์ - พุทธภาษิต พระธรรมเทศนา และ ธรรมะจากครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
ศุกร์ 26 ก.ย. 2025 1:08 pm
"..หลวงปู่มั่น.." "..ยืนยัน จิตของคนเราสามารถจับจองที่เกิดใหม่ได้ตั้งแต่ยังไม่ตาย!! หากไม่ระวังฝึกฝนจะนำพาไปสู่ที่ต่ำกว่าเดิมเสมอ #ตายแล้วไปไหน
“หลวงปู่มั่น” ยืนยัน จิตของคนเราสามารถไปจับจองที่เกิดใหม่ได้ตั้งแต่ยังไม่ตายได้จริง! หากไม่ระวังฝึกจิตจะนำพาไปสู่ที่ต่ำกว่าเดิมเสมอ#ตายแล้วไปไหน
เรื่อง "จิตไปจับจองที่เกิด ตั้งแต่ยังไม่ทันตาย"
(จากธรรมประวัติ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต)
ในสมัยบั้นปลายชีวิตของท่านพระอาจารย์มั่น มีอุบาสิกานุ่งขาวห่มขาวคนหนึ่งมีความเคารพเลื่อมใสในพระอาจารย์มั่นมาก มาเล่าเรื่องของตัวเองถวายท่านว่า ขณะอุบาสิกานุ่งขาวห่มขาวผู้นี้แกนั่งสมาธิภาวนาตลอดกลางคืนยามดึกสงัด พอจิตรวมสงบลงสนิทไม่แสดงกิริยาใดๆ สายใยยาวเหยียดออกนอกกายนอกใจไปสู่ภายนอก แกเกิดความสงสัยเป็นล้นพ้น จึงกำหนดจิตดูว่า กระแสจิตนี้มันไหลออกไปทำไม และจะไปเกี่ยวข้องกับอะไร
พอแกตามกระแสจิตอันละเอียดเป็นสายใยนั้นไปก็พบว่ากระแสจิตของแกไปเข้าที่ร่างของหลานสาวคนหนึ่งเพื่อจับจองที่เกิดในท้องหลานสาวซึ่งอยู่หมู่บ้านเดียวกัน แกรู้สึกตกใจมาก เพราะตัวเองยังไม่ตาย ทำไมจิตถึงส่งกระแสออกไปจับจองที่เกิดไว้แล้วเช่นนั้นจึงรีบย้อนจิตกลับมาที่เดิมและถอนจิตออกจากสมาธิทันที แกใจไม่ดีเลยนับแต่ขณะนั้นเป็นต้นมา
ในระยะเดียวกันก็ปรากฏว่าหลานสาวคนนั้นเริ่มตั้งครรภ์มาได้หนึ่งเดือนแล้วเช่นกัน พอตื่นเช้าวันหลังแกรีบมาวัด เล่าเรื่องนี้ถวายพระอาจารย์มั่นดังกล่าวแล้ว ขณะนั้นมีพระเณรหลายท่านนั่งฟังอยู่ด้วย ต่างก็งงไปตามๆ กัน พระอาจารย์มั่นนั่งหลับตาอยู่ประมาณ 2 นาที แล้วลืมตาขึ้น อธิบายปรากฏการณ์แปลกประหลาดนั้นให้อุบาสิกานุ่งขาวหุ่มขาวคนนั้นฟังว่า " เมื่อจิตรวมสงบลงคราวต่อไป ให้โยมตรวจดูกระแสจิตให้ดี ถ้าเห็นแกระแสจิตนั้นส่งออกไปภายนอกดังที่โยมว่านั้น ให้กำหนดจิตตัดกระแสจิตนั้นให้ขาดด้วยปัญญาจริงๆ ต่อไปกระแสจิตนั้นจะไม่ปรากฏ แต่โยมต้องกำหนดดูกระแสจิตนั้นด้วยดี และกำหนดตัดให้ขาดด้วยปัญญาจริงๆ อย่าทำเพียงแต่ว่าทำเท่านั้น เดี๋ยวเวลาตายโยมจะเกิดในท้องหลานสาวนะจะหาว่าอาตมาไม่บอก " นี่คือคำบอกของอาตมา จงทำให้ดี ถ้าโยมกำหนดตัดกระแสจิตนั้นไม่ขาด เวลาโยมตายต้องไปเกิดในท้องหลานสาวแน่ๆ ไม่ต้องสงสัย
พออุบาสิกาผู้นั้น ได้รับคำแนะนำจากพระอาจารย์มั่นแล้วก็กลับบ้านไป ราวสองวันแกก็กลับมาหาท่านอีกด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสมาก พอแกนั่งลงเท่านั้น พระอาจารย์มั่นก็ถามเป็นเชิงเล่นบ้างจริงบ้างทันทีว่า " เป็นยังไงโยมห้ามกระแสจิตตัวเองอยู่หรือเปล่าที่จะไปเกิดกับหลานสาวทั้งที่ตัวยังไม่ตายน่ะ " แกเรียนตอบทันทีว่าโยมตัดขาดแล้วคืนแรก พอจิตรวมสงบลงสนิทแล้วกำหนดดูก็เด่นชัดดังที่เคยเห็นมาแล้ว มันส่งกระแสไปอยู่ที่ท้องหลานสาว โยมก็กำหนัดตัดกระแสจิตพิลึกนั้นด้วยปัญญาดังหลวงพ่อบอกจนมันขาดกระเด็นไปเลย เมื่อคืนนี้โยมกำหนดดูอีกอย่างละเอียดเพื่อความแน่ใจไม่ปรากฏว่ามีอีกเลย มันหายเงียบไป วันนี้อยู่ไม่ได้ต้องรีบมาเล่าถวายให้หลวงพ่อฟัง
พระอาจารย์มั่นพูดว่า นี่แลความละเอียดของจิตคนเรา จะรู้เห็นได้จากการภาวนาสมาธิเท่านั้น วิธีอื่นไม่มีทางทราบได้ จิตของคนเรามันลึกลับยิ่งนัก เราจะไปรู้เห็นมันด้วยวิธีการคาดคิดนึกเดาเอาตามตำราไม่ได้ ต้องลงมือปฏิบัติจิตสมาธิจริงๆ ถึงจะรู้แจ้งเห็นจริง โยมเกือบเสียตัวให้กิเลสขับไสไปเกิดในท้องหลานสาวแบบไม่รู้สึกตัวแล้วไหมล่ะ แต่ยังดีที่ภาวนาสมาธิจนรู้เรื่องของจิตเสียก่อน แล้วรีบแก้ไขกันทันเหตุการณ์ ฝ่ายหลานสาวคนนั้น พอถูกคุณยายอุบาสิกาตัดกระแสจิตขาดจากความสืบต่อก็ปรากฏว่าหล่อนได้แท้งลูกในระยะเดียวกัน น่าประหลาดมหัศจรรย์จริงๆ
ปัญหาที่ว่า คนยังไม่ตาย ทำไมจึงเริ่มไปเกิดในท้องคนอื่นแล้วเช่นนี้ พระอาจารย์มั่นได้เฉลยปัญหานี้ให้พระเณรลูกศิษย์ทั้งหลายที่สงสัยเป็นล้นพ้นฟังว่า จิตเป็นแต่เพียงเริ่มต้นจับจองที่เกิดไว้เท่านั้น แต่ยังมิได้ไปเกิดเป็นตัวเป็นตนโดยสมบูรณ์ ถ้าคุณยายอุบาสิกาคนนั้นไม่รู้ทันปล่อยให้จิตเกาะเกี่ยวกับการเกิดในท้องหลานสาวจนทารกในครรภ์ปรากฏเป็นตัวเป็นตนสมบูรณ์ขึ้นมาเมื่อไร คุณยายคนนั้นจะตายทันที ต่อปัญหาที่ว่าการที่คุณยายคนนั้นตัดกระแสจิตตัวเอง จนหลานสาวแท้งลูก จะไม่เป็นการทำลายชีวิตมนุษย์ในครรภ์ล่ะหรือ?
พระอาจารย์มั่นตอบว่า จะเป็นการทำลายก็แต่เฉพาะกระแสจิตตัวเองเท่านั้น มิได้ตัดหัวคนที่เกิดเป็นตัวเป็นตนแล้วแต่อย่างใด เพราะจิตแท้ยังอยู่กับคุณยาย ส่วนกระแสจิตทีแกส่งไปยึดไว้ที่หลานสาวนั้น พอแกรู้สึกตัวก็รีบแก้ไขคือตัดกระแสจิตของตนเสีย มิให้ไปเกี่ยวข้องอีกต่อไป เรื่องก็ยุติกันไปเท่านั้น อีกอย่างก็คือทารกในครรภ์นั้นเพิ่งมีอายุได้ ๑ เดือนเท่านั้นเป็นเพียงแต่ก้อนเลือดยังไม่เป็นตัวตนแต่อย่างใด
สาเหตุที่คุณยายุอุบาสิกาเผลอไผลปล่อยให้แกระแสจิตส่งออกไปเกาะเกี่ยวกับหลานสาวนี้ คุณยายได้เล่าว่า แกรักหลานสาวคนนี้มากเสมอมา มีเมตตา ห่วงใย ได้ติดต่อเกี่ยวข้องกับหลานสาวคนนี้อยู่เสมอแต่มิได้คิดว่าจะมีสิ่งลึกลับคอยแอบขโมยไปก่อเหตุเช่นนั้นขึ้นมา ถึงกับจะต้องไปเกิดลูกของหลานสาวอีก ถ้าไม่ได้พระอาจารย์มั่นช่วยแก้ไขไว้ทันท่วงทีก็คงไม่พ้นไปเกิดในท้องหลานสาวแน่นอน พระอาจารย์มั่นว่า จิตนี้พิสดารเกินกว่าความรู้ความสามารถของคนธรรมดาจะตามรู้ตามรักษาโดยมิให้เป็นภัยแก่ตัวผู้เป็นเจ้าของดังที่คุณยายพูดไม่มีผิดถ้าแกไม่มีหลักใจทางสมาธิภาวนาอยู่บ้างแล้ว แกก็ไม่มีทางเดินของใจได้เลย ทั้งเวลาเป็นอยู่และเวลาตายไป
ฉะนั้นการทำภาวนาสมาธิจึงเป็นวิธีปฏิบัติต่อใจได้ดีและถูกทาง ยิ่งเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อด้วยแล้ว สติปัญญายิ่งมีความสำคัญมากในการตามรู้และรักษาจิตตลอดการต้านทานทุกขเวทนาไม่ให้มาทับจิต ในเวลาจวนตัวซึ่งเป็นเวลาเอาแพ้เอาชนะกันจริงๆ ถ้าพลาดท่าขณะนั้นก็เท่ากับพลาดไปอย่างน้อยภพหนึ่งชาติหนึ่ง เช่นไปเกิดเป็นสัตว์ชนิดใดก็ต้องเสียเวลานานเท่าชีวิตของสัตว์ในภพภูมินั้นๆ ขณะที่เสียเวลายังต้องเสวยกรรมในกำเนิดนั้นไปด้วย ถ้าจิตดีสติพอประคองตัวได้ อย่างน้อยก็มาเกิดเป็นมนุษย์มากกว่านั้นก็ไปเกิดในเทวสถานชมวิมานและเสวยทิพย์สมบัติอยู่นานปีถึงจะกลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีก ลามาเกิดเป็นมนุษย์ ก็ไม่ลืมศีลธรรมที่ตนเคยบำเพ็ญรักษามาตั้งแต่บุพเพชาติ ทำให้เพิ่มอำนาจวาสนาบุญญาภิสมภารขึ้นโดยลำดับ จนจิตมีกำลังแก่กล้าสามารถรักษาตัวได้
การตายก็เป็นเพียงการเปลี่ยนร่างจากต่ำขึ้นไปสูง จากสั้นไปหายาว จากหยาบไปหาละเอียดจากวัฏฏจักรไปเป็นวิวัฏฏจักร ดังพระพุทธเจ้าและสาวกท่านเปลี่ยนภพเปลี่ยนภูมิ เปลี่ยนเครื่องเสวยมาเป็นลำดับ สุดท้ายก็หมดสิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงให้เป็นอะไรต่อไปอีกเพราะจิตได้รับการอบรมไปทุกภพทุกชาติ จนฉลาดเหนือสิ่งใดๆ กลายเป็นนิพพานสมบัติขึ้นมาอย่างสมพระทัยและสมใจ ซึ่งล้วนไปจากการฝึกฝนอบรมจิตให้ดีไปโดยลำดับทั้งสิ้น. ด้วยเหตุนี้นักปราชญ์ทั้งหลาย จึงไม่ท้อถอยในการสร้างกุศล อันเป็นสวัสดีมงคลแก่ตนทุกเพศทุกวัยจนสุดวิสัยที่จ
ะทำได้ไม่เลือกกาล.."
ภูริทตฺธมฺโมวาท
พระครูวินัยธร
(หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต)
วัดป่าสุทธาวาส
ต.ตำบลธาตุเชิงชุม อ.เมือง
จ.สกลนคร
"..ธาตุมนุษย์เป็นธาตุตายตัว ไม่เป็นอื่นเหมือน นาค เทวดาทั้งหลายที่เปลี่ยนเป็นอื่นได้ มนุษย์ มีนิสัยภาวนาให้สำเร็จง่ายกว่าภพอื่น อคฺคํ ฐานํ มนุสฺเสสุ มคฺคํ สตฺต วิสุทฺธิยา มนุษย์มีปัญญาเฉียบแหลมคม คอยประดิษฐ์ กุศล อกุศล สำเร็จอกุศล...มหาอเวจีเป็นที่สุด ฝ่ายกุศล มีพระนิพพานให้สำเร็จได้ ภพอื่นไม่เลิศเหมือนมนุษย์ เพราะมีธาตุที่บกพร่อง ไม่เฉียบขาดเหมือนมนุษย์ ไม่มีปัญญากว้างขวางพิสดารเหมือนมนุษย์ มนุษย์ธาตุพอหยุดทุกอย่าง สวรรค์ไม่พอ อบายภูมิธาตุไม่พอ มนุษย์มีทุกข์ สมุทัย...ฝ่ายชั่ว ฝ่ายดี...กุศลมรรคแปด นิโรธ รวมเป็น ๔ อย่าง มนุษย์จึงทำอะไรสำเร็จ ดังนี้ ไม่อาภัพเหมือนภพอื่น.."
ภูริทตฺตธมฺโมวาท
พระครูวินัยธร
(หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต)
วัดป่าสุทธาวาส
ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง
จ.สกลนคร
เหตุที่หลวงพ่อสมบูรณ์ ปรารภไม่อยากรับนิมนต์เทศน์
"ถ้ามีแต่เทศน์พอแค่ได้เงินได้ทองไป หลวงพ่อก็ไม่อยากทำ ถ้าเทศน์มีคนปฏิบัติ นำปฏิบัติให้พวกเราได้อบรมอุปนิสัยปัจจัยจากครูบาอาจารย์ เอ้อแบบนั้นค่อยว่ากัน อันนี้ทุกวันนี้พอฟังๆ กันไปเฉยๆ ไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่"
ปรารภตอนหนึ่งของ #หลวงพ่อสมบูรณ์ กนฺตสีโล
"..โรคหัวใจที่ตัวใหญ่ๆ มีอยู่ ๓ ตัว คือ โลภ โกรธ หลง โรคนี้เปรียบเหมือนกับโรคมะเร็ง มันกินติดต่อลุกลามถึงคนอื่นด้วย เข้าใกล้ลูกติดลูก เข้าใกล้หลานติดหลาน เข้าใกล้เพื่อนติดเพื่อน เข้าใกล้ใครก็ติดคนนั้น ทำอันตรายทั้งแก่ตนและผู้อื่น โรคที่เล็กหน่อยรองลงมาก็มีอยู่ ๕ ตัว กามฉันทะ พยาปาทะ ถีนมิทธะ อุทธัจจกุกกุจจะ วิจิกิจฉา โรคนี้เปรียบเหมือนโรคขี้กลาก ใจมันหยิบๆ แยบๆ แลบไปโน่นมานี่ อยู่นิ่งไม่ได้ โรคนี้รักษายาก นายแพทย์ก็ไม่สามารถจะเยียวยาได้ นอกจากใช้ พุทธโอสถ.."
โอวาทธรรมคำสอน
พระสุทธิธรรมรังสีคัมภีรเมธาจารย์
(ท่านพ่อลี ธมฺมธโร)
วัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ
"ถ้าเรามีคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ไว้ที่ใจของเรา บริบูรณ์เต็มที่ เราจะไปอยู่โลกไหนก็ไปได้ เพราะเรามีที่พึ่งที่อาศัย ที่ไป ที่อยู่แล้ว เราจะไปจะอยู่ก็มีความสุข เราจะพึ่งอะไรก็พึ่งได้ เมื่อเรามีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ไว้ในใจของเราอย่างล้นฝั่งอยู่เสมอ ไม่บกพร่อง เราจะพึ่งโลกไหนก็ พึ่งได้โดยแท้ ไม่ต้องสงสัย
เมื่อพวกท่านทั้งหลาย ได้สดับในโอวาทานุศาสนีแล้ว ให้พากันกำหนดจดจำไว้ในใจ นำเอาไปปฏิบัติตาม อย่าพากันมีดวามประมาท ดังได้แสดงมาด้วยประการ ฉะนี้"
โอวาทธรรม หลวงปู่ฝั้น อาจาโร
วัดป่าอุดมสมพร อ.พรรณานิคม จ. สกลนคร
จิตที่มีเมตตา แล้วแผ่คลุมไปถึงสัตว์ทุกจําพวก เขาเห็นเป็นมิตรไปในที่ทุกสถาน สัตว์ที่เป็นศัตรูก็เป็นมิตร
ถ้าใครคิดอิจฉาในผู้ที่มีเมตตาเช่นนั้น ย่อมถึงความวินาศ เรื่องเหล่านี้ย่อมเห็นประจักษ์อยู่ทั่วไป"
- หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
#คนที่ทำอะไรไม่เหมือนที่โลกนิยม
ก็จะมีคนว่า..บ้า
โดยคนที่พูดไม่ได้เข้าใจโดยถ่องแท้ว่า อย่างไรจึงบ้า
อย่างไรจึงดี
"..ท่านบอกว่า.."
คนเราที่เกิดมานี้มีหน้าที่ สำคัญอย่างยิ่งที่พึงกระทำ คือ.
..การทำให้ ''..พ้นทุกข์'..'
ถ้าไม่ทำก็เท่ากับว่าไร้ประโยชน์ในการเกิดมา
ข้อธรรมบางส่วน..เรื่องบวชไม่สึก
เรื่องท่านเจ้าคุณนรรัตน์ฯปลงสังขาร
..เมื่อทำแผลให้ท่านเสร็จเรียบร้อย ท่านก็สวดมนต์อุทิศแผ่ส่วนกุศลถวายแก่พระมหากษัตริย์ในวงศ์จักรีทุกพระองค์ เสร็จแล้วท่านยังนั่งพูดกับผู้ที่ยังไม่กลับ มีทั้งพระและฆราวาสยังอยู่ในโบสถ์ ท่านยังพูดกับผมว่า..
"..หมอ อันความตายและความพลัดพรากจากกันนั้นเป็นธรรมดา และเป็นไปตามธรรมชาติเขาตายกัน นับแต่ครั้งปู่ย่าตายาย แต่โบราณกาลตลอดมา ถ้าเราพิจารณาให้ดีก็จะรู้ว่า การตายไม่ใช่เป็นสิ่งที่น่าสยดสยองอย่างคนส่วนมากคิด คนเราเกิดมาก็ต้องมีสังขารเป็นที่อาศัย สังขารก็มีเวลาอยู่อย่างจำกัด ย่อมจะมีเสื่อมมีทรุดโทรมเป็นไปตามกาลเวลา ความตายไม่ได้เป็นสิ่งที่หายไปไหน หากเป็นเพียงเปลี่ยนจากภพหนึ่งไปเกิดอีกภพหนึ่ง อุปมาเหมือนหมอกับอาตมาซึ่งอยู่ในเวลาปัจจุบันเดี๋ยวนี้กำลังสนทนา เวลาดับผ่านไปทุกวินาที ทุกชั่วโมง และหมอได้ทำแผลให้อาตมา ประเดี๋ยวหมอก็จะต้องกลับไปบ้าน และอาตมาก็กลับไปกุฏิ และทุกคนก็พากันกลับไปที่อยู่ของตน
นี่ก็เป็นเรื่องหนึ่งที่เราต้องจากกัน เราได้พลัดพรากกัน แต่เรายังมีชีวิต มีสังขารร่างกาย เมื่อเราไปแล้ว แต่ที่นี่ ที่เราได้มาร่วมสนทนา ก็จะว่างเปล่า ไม่มีหมอ ไม่มีอาตมา และไม่มีใคร เพราะต่างแยกกันไป รู้ว่าเรายังมีชีวิตอยู่ทุกคน อาตมาก็อยู่กุฏิหลังจากที่ได้นั่งสนทนากัน แต่เวลานั้นก็ได้ผ่านดับไป ตามโมงยาม เวลาไม่กลับมาอีก เป็นอดีต หมอก็เช่นเดียวกัน ก็ต้องนึกว่าวันนี้ ได้ไปทำแผลให้อาตมา และได้สนทนากันในโบสถ์ทีวัดเทพศิรินทราวาส แต่เวลานั้นได้ผ่านไปเป็นอดีต ไม่กลับมาใหม่ เราก็มีแต่ความทรงจำเหลือไว้เท่านั้น แต่เราก็คิดถึงกันได้ทางใจ การตายก็เหมือนกัน เป็นการจากไป ไม่ได้สูญไปไหน ยังคงอยู่ หากแต่เปลี่ยนสภาวะปัจจุบันนี้ ไปอยู่อีกสภาวะหนึ่ง ซึ่งยากที่จะอธิบายให้เข้าใจได้ง่าย ๆ และเราก็ยังสามารถระลึกถึงกันได้ อย่าเข้าใจว่าสูญสิ้นไป ความตายความเกิดนั้น มีอยู่ตลอดเวลา.."
ผมได้พิจารณาดูแล้ว คำพูดของท่านนั้น รู้สึกว่าท่านกำลังจะเบื่อสังขารที่จะอยู่ต่อไป.
พระพระยานรรัตนราชมานิต(ตรึก ธมฺมวิตกฺโก) เจ้าคุณนรฯ, ธมฺมวิตกฺโก ภิกฺขุ
ข้อธรรมบางส่วน..เรื่องบวชไม่สึก และ เรื่องท่านเจ้าคุณนรรัตน์ฯปลงสังขาร
..
#ไม่มีเงินทำบุญแต่อยากได้บุญ
ผู้ถาม : กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง คือลูกไม่มีเงินจะทำบุญ ก็ต้องไปขอพี่บ้าง น้องบ้าง เวลาไปขอเขาทีไรเขาชอบพูดกระแนะกระแหน หาว่าลูกไม่เจียมบอดี้...อยากเรียนถามหลวงพ่อก็คือว่า คนไม่มีเงินจะทำบุญแล้วอยากจะได้บุญหลวงพ่อมีคำแนะนำจะให้ทำอย่างไรบ้างเจ้าคะ?
หลวงพ่อ : ไม่ยาก..บุญที่ไม่ต้องลงทุนก็มี ถ้าต้องการ ๑.รักษาศีล ศีลไม่ต้องใช้เงิน ๒.เจริญภาวนา ไม่ต้องใช้เงิน ๓.การให้ทาน เราต้องใช้เงินใช่ไหม...จะไม่ใช้ก็ได้ เขาเดินถวายทานเป็นแถว ๆ "ปัตตานุโมทนามัย" ดีใจกับเขา คนละ ๙๐ เปอร์เซ็นต์ ตั้ง ๑๐๐ คนเท่าไหร่ละ?
ผู้ถาม : อย่างนี้เราไม่ต้องถวายสตางค์หลวงพ่อก็ได้ซิครับ?
หลวงพ่อ : ฉันไม่รับเงินมานานแล้วนะ รับแต่แบงค์อย่างเดียว
ผู้ถาม : อย่างนั้นคนจนก็ไม่ต้องตกใจนะ อาศัยปัตตานุโมทนามัย
หลวงพ่อ : ถ้ามีบ้างก็ทำเท่าที่ทำได้ ถ้าไม่มีทำก็นั่งโมทนา นึกในใจยินดีในผลที่เขาทำแล้ว เท่านี้แหละ ๙๐ เปอร์เซ็นต์ วัน ๆ นับไม่ไหว อย่างที่นี่หาบไม่ไหว ต้องเอาพ้อมมาใส่ และบุญนี้ไม่สลายตัวด้วย
ผู้ถาม : แหม...คนที่ยกมือ ไม่ต้องลงทุนเลยนะ
หลวงพ่อ : ลงทุนเหมิอนกัน ลงทุนแค่ยกมือ ถ้าเขาไม่ยกมือก็ได้ ยินดีด้วยจิตนอบน้อม อย่างฉันนี่ยกทั้งวันปวดแขน ก็เลยไม่ต้องยก ก็มีผลสมบูรณ์แบบนะ
หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
_______________
จากหนังสือ "หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม" ฉบับพิเศษ เล่ม ๙ หน้า ๕๔ - ๕๕
คัดลอกโดย คณะบุญสุประวีณ์
เมื่อเรามีธรรมะเป็นทางประพฤติแล้ว จงอย่าเกรงกลัวต่อทุกข์
ใดๆเลย
เพราะธรรมย่อมจะตามรักษาผู้ประพฤติธรรม
(สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ)
สมเด็จพระสังฆราช
"..จะตัดบาปตัดกรรม ไม่มีวิธีอื่น เราต้องทำจิตให้สงบ ถ้าจิตเราไม่สงบแล้ว มันก็ไปก่อกรรม ก่อภัย ก่อเวร พอจิตเราสงบแล้ว มันก็ไม่มีกรรม ความชั่วทั้งหลายไม่มี มีแต่ความสุข ความสบาย เราต้องการความสุข ความสบาย จะไปหากับทรัพย์สมบัติไม่มีหรอก มีแต่ที่ใจเราสงบ พอใจเราสงบแล้ว มันได้รับความสุข ความสบาย.."
#เทศนาธรรมคำสอน
หลวงปู่ฝั้น อาจาโร
วัดป่าอุดมสมพร อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร
(พ.ศ.๒๔๔๒-๒๕๒๐)
Powered by phpBB © phpBB Group.
phpBB Mobile / SEO by Artodia.